xs
xsm
sm
md
lg

สยามร่วมมิตรผวายอดขายร่วงอัด100ล.ปลุกตลาดไตรมาสสอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สยามร่วมมิตรกัดฟันอัดฉีดงบตลาด 100 ล้านบาท เดินเกมตอกย้ำแบรนด์กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ – ช่วงชิงกำลังซื้อจากคู่แข่ง หลังสมรภูมิสแน็กมูลค่า 1 หมื่นล้านส่อเค้าทรงตัว  สิ้นปีรายได้โต 10% หรือกวาด 1,100 ล้านบาท ตั้งเป้า 2-3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำตลาดสแน็กโค่นฟริโตเลย์

นายสุรเดช นภาพฤกษชาติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท สยามร่วมมิตร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว อาทิ ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ รวยเพื่อน สแน็คแจ๊ค คอร์นพัฟฟ์ และอาร์เซนอล มินิคุกกี้ เปิดเผยว่า จากการที่มีปัจจัยทางด้านการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่แผนการทำตลาด รวมทั้งงบตลาดบริษัทฯไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือลดงบลงแต่อย่างใด โดยปีนี้ใช้งบราว 100 ล้านบาท เนื่องจากหากลดงบการตลาด อาจทำให้ยอดขายลดลงได้ เพราะในตลาดขนมขบเคี้ยวผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อเนื่องจากการตอกย้ำแบรนด์บ่อยๆ เพื่อให้ชื่ออยู่ในใจ ประกอบกับมีรสชาติที่ถูกปาก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้ประกอบการสแน็กที่เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ต้นปี อาจต้องเว้นวรรคการโฆษณาและส่งเสริมการขาย เพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์การเมืองอีกครั้ง โดยในไตรมาส 2 เป็นต้นไปบริษัทฯเตรียมเปิดตัวแคมเปญและกิจกรรมการตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ต้นปีไม่ได้ทำอะไรมากนัก ส่วนสภาพตลาดสแน็กยังคงทรงตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการรายใดที่ทำตลาดได้ จะสามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งได้

“ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อสินค้าบ้างเล็กน้อย แต่สิ่งที่น่ากังวลมากสุด คือเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย เพราะจะเป็นตัวที่ฉุดจีดีพีของประเทศไม่ให้เติบโตตามเป้าหมาย ตลอดจนส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ขณะที่ปัญหาการเมืองในขณะนี้ถือว่าเริ่มคลี่คลายในระดับหนึ่งแล้ว”

อย่างไรก็ตาม จนถึงสิ้นปีนี้บริษัทฯยังไม่มีปรับราคาขายสินค้าหรือลดปริมาณสินค้า แม้ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ก็ตาม อาทิ ค่าขนส่ง บรรจุภัณฑ์ โดยจะคงขายราคาเดิมในทุกขนาด คือราคา 5, 10 และ 20 บาท ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะขยับราคาขึ้น เพราะผู้บริโภคคุ้นเคยกับราคาดังกล่าว ดังนั้น บริษัทจึงต้องหาวิธีลดต้นทุนสินค้าแทนเพื่อไม่ผลักภาระให้ผู้บริโภค เช่น ประหยัดไฟฟ้าและพลังงานด้านอื่นๆ

สำหรับผลประกอบการในสิ้นปีนี้ มีรายได้รวมเติบโต 10% คิดเป็น 1,100ล้านบาท จากเดิมปีก่อนอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายว่าภายใน 2-3 ปีจะมีส่วนแบ่งการตลาดสแน็กเป็นอันดับ 1 จากปัจจุบันที่มี 10% และติดอันดับ 1 ใน 3 ของตลาดรวม 10,000 ล้านบาท โดยมีฟริโตเลย์เป็นผู้นำในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทฯของต่างชาติและมีเงินทุนจำนวนมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น