เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองเกิดขึ้นในประเทศไทยคือการปฏิวัติของคณะทหารเพื่อทำการล้มล้างรัฐบาลพลเรือนของนายปรีดีพนมยงค์ หัวหน้าคณะกู้ชาติไทยให้รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของอเมริกัน และพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้นายปรีดี พนมยงค์ หัวหน้าคณะเสรีไทย อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และนายกรัฐมนตรีไทย ต้องหนีออกจากประเทศไทยไปตลอดชีวิต โดยไม่ยอมกลับมาอีกเมื่อลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งท่านผู้นี้ได้บอกกล่าวกับผู้ใกล้ชิดว่าอย่าได้นำกระดูกของท่านกลับมาเมืองไทยอีกเป็นอันขาด
การเมืองของไทยเริ่มเสื่อมลงเป็นลำดับและเสื่อมถึงที่สุดมาถึงปี 2500 ที่บรรดาเดรัจฉานทางการเมืองขึ้นมากินบ้านกินเมืองกันสนุกสนานเอิกเกริก
ถ้าเทียบกับคุณงามความดีที่นายปรีดี ได้ทำให้แก่ประเทศไทยอย่างมหาศาลนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่มาพูดถึงสิ่งที่ท่านผู้นี้ได้รับ ไม่มีอะไรนอกจากน่าอนาถใจในความเป็นมนุษย์ของคนไทยเราที่ไม่มีคุณธรรมใดๆ ที่จะรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว
แต่ในทางโหราศาสตร์ ไม่มีอะไรที่จะต้องสงสัย ประกาศิตของดวงดาวนั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ดาวที่สำคัญที่สุดที่บอกกล่าวว่าจะมีความชั่วร้ายเกิดขึ้นในบ้านเมืองนั้น โหรโบราณท่านยกให้เป็นหน้าที่ของดาวเสาร์ (7) และการโคจร นอกจากการโทษการโคจรของดาวเสาร์ที่ควงกันอยู่ตลอดเวลากับราหู (8) ในดวงชะตาเมืองจนปี 2500 องค์กรความชั่วช้ารุ่นนั้นก็จบบทบาทลง
เปลี่ยนเป็นคนชั่วรุ่นใหม่ที่สืบต่อกันมาในรูปของนักวิชาการสมัยใหม่ที่พากันนำมาเอาวิชาการตลาดและภาษาอังกฤษเข้ามาใช้อย่างเอิกเกริกเพื่อให้การหลอกลวงมีความศักดิ์สิทธิ์จนได้รับความชื่นชมโดยทั่วถึงกันนั่นคือ เนปจูน
ดาวเสาร์จะโคจรไปตามรอบวงโคจรแต่ละครั้งราศีละ 2 ปีครึ่ง กว่าที่จะครบทั้ง 12 ราศีก็จะกลับมาที่เดิมอีกรอบหนึ่งก็ประมาณ 29 ปีหรือ 30 ปี
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 เป็นอีกรอบหนึ่งของดาวเสาร์ที่โคจรลงมาสู่ราศีกรกฎเป็นภพที่ 4 ของดวงชะตาเมืองของไทยที่เข้ามาล้มล้างชนชั้นปกครอง ไม่ว่าผิดหรือไม่ผิด แต่การเข้ามาเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาด้วยกิเลส ความโลภ และความชั่วช้า ที่ดาวเสาร์มีหน้าที่ที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายมรดกของกิเลสและความชั่วที่มีอยู่ในธรรมชาติของภพที่ 4 ของดวงเมืองที่มันได้สะสมพอกพูนกันมาอีกครั้งหนึ่งเพราะอิทธิพลของราหูในราศีเมษที่เรียกกันว่า ดวงแตกหรือดวงเมืองแตกเพราะอิทธิพลของดาวเสาร์และราหูโคจรเข้ามาสถิตในภพที่เป็นจรราศีของดวงโลกคือราศีเมษ กรกฎ และมังกรซึ่งมีราหู เสาร์ และเนปจูน รวมทั้งจุดคราสในราศีตุลที่รอคอยร่วมมือกัน สร้างความวินาศฉิบหายให้แก่โลกและเมืองไทยอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนหรือธรรมชาติ
ไม่ใช่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉยๆ หรือเกิดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่มันเกิดด้วยการเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วของดาวบาปเคราะห์ที่ชั่วร้ายทุกดวงที่แยกพรรครวมพรรคกันเป็นบ้าอยู่ในขณะนี้
บรรพบุรุษไทยแต่โบราณกาลได้เผชิญและพิสูจน์กันมาแล้ว พวกเราสมัยใหม่ทุกวันนี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่ที่จะต้องถามกันก็คือว่าเคยศึกษาเรียนรู้เรื่องเหล่านี้กันมาสักแค่ไหน
ในภพหนึ่งของดวงชะตาทั้ง 12 ภพ แต่ละภพนั้น ไม่ได้ว่างเปล่า มันมีธาตุและความดีความชั่วสะสมอยู่อย่างมากมายที่จะบอกให้รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในตัวบุคคลและบ้านเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ท่านเรียกว่า อภิไทโพธิบาทว์ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านประจำเมืองจะบอกให้ทราบเพื่อหาทางแก้ไขเสีย อย่างในเมืองเวลานี้มีเสนียดจัญไรหรืออุบาทว์ประการหนึ่งท่านเรียกว่า อุบาทว์พระอินทร์ ที่ผีบ้านผีเมืองบอกให้รู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายอย่างเช่น “อนึ่งโสตท้าวไทยยินดี อยู่ในป่าพนาลี ละพระมณเฑียรเวียงวัง” นั่นประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือการเห่าและกัดกันของขุนนางและข้าราชบริพารคือ “หนึ่งมุขมนตรีชัง ชิงกันดีหวัง วิวาทวุ่นวาย หนึ่งปราชญ์และญาติทั้งหลาย ผิดกันมั่นหมาย คิดแค้นเคืองคา” ซึ่งจะเห็นได้จากนักการเมืองถ่อยของเราต่างก็พยายามเอาสีข้างของตัวเองเข้าสีทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างไม่ยอมลดราวาศอก ทุกฝ่ายต่างก็พยายามฉีกหน้ากากอวดโฉมให้ผู้คนเห็นว่ามีความเก่งกาจในการเป็นโจร และอีกหลายอย่างหลายนิมิตที่เป็นอภิไทโพธิบาทว์ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ดาวเสาร์ราหูโคจรเข้าสถิตในภพจรราศี ซึ่งเป็นเจ้าธาตุดิน น้ำ ลมไฟ ธาตุใดธาตุหนึ่งใน 4 ราศีคือ ราษีเมษ ราศีกรกฎ ราศีตุล ราศีมังกร ธาตุดินในระยะใดระยะนั้นปัญหาต่างๆ จะได้รับการชำระสะสาง และจะเกิดเข้ากวาดล้างอย่างย่อยยับ ไม่ว่าต้นไม้ใบหญ้ากรวดหินดินทรายหรือผู้คนที่ได้พากันก่อกรรมทำชั่วมาไม่น้อยกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เป็นภาระหน้าที่ของดาวเสาร์จะเข้ามาทำงานในภพนี้ทั้งสิ้น
ดาวเสาร์ในโหราศาสตร์ทางเศรษฐกิจและการเมืองหมายถึง (1) กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างขนาดใหญ่ ส่วนมากจะเป็นอาคารที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และกิจการที่ทันสมัย (2) กฎหมายแรงงานและปัญหาเกี่ยวกับผู้ใช้แรงงาน (3) ความแตกต่างและความไม่ลงรอยกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะขายตัวไปเรียบร้อยหรือยังไม่เรียบร้อยก็ตาม (4) การตายและการโค่นล้มผู้มีอำนาจทางการเมือง (5) อันตรายที่จะเป็นผลต่อชื่อเสียงของประเทศชาติ (6)คำสั่งห้ามและข้อจำกัดต่างๆ (7) การควบคุมนานาประการ (8) การปันส่วน (9) อำนาจและการใช้อำนาจในภาวะฉุกเฉิน (10) ข้าวยากหมากแพง (11) แผ่นดินไหว (12) การสิ้นเปลืองเงินของประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นแต่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ (13) ความพยายามที่ไม่ประสบผลสำเร็จของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเงิน (14) การสำรวจทางธรณีวิทยา
ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศหมายถึง
(1) การเก็บภาษีอย่างรุนแรงที่ทำให้การส่งออกของประเทศลดลง (2) ความยุ่งยากในการแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศ (3) ปัญหาผู้ใช้แรงงาน และการนัดหยุดงานที่เกิดจากความไม่พอใจของผู้ใช้แรงงานซึ่งจะเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายสูง และลักษณะของข้าวยากหมากแพง น้ำท่วม แผ่นดินไหว มีปัญหากับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน (3) การโอนกิจการเอกชนมาเป็นของรัฐหรือการได้มาซึ่งทรัพย์สินของประชาชนไม่ (4) เหมืองแร่ของเอกชนและการทำลายธุรกิจของคนประเภทนี้ (5) การทำสงคราม (6) ความลำบากในการขนส่ง (7) การขาดแคลนสินค้า
เฉพาะภพที่ 4 ที่ดาวเสาร์จะต้องรับผิดชอบนั่นหมายถึง (1) ที่ดิน (2) บ้านเรือนของประชาชน (3) อาคาร (4) โรงแรมที่มีห้องกว้างๆ (5) อากาศ (6) กิจการเกี่ยวกับเมืองแร่และการทำเหมืองแร่ (7) พืชพันธุ์ที่เกิดจากดิน (8)พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่หมดอำนาจและคณะผู้ปกครองในปัจจุบัน (“โหราศาสตร์เศรษฐกิจการเมือง” สำนักพิมพ์เคล็ดไทย)
ความหมายทั้งหมดนี้อาจจะไม่ถูกต้องตรงเผงเหมือนจับวางก็ตาม แต่จะไม่ผิดทั้งหมดแต่จะอยู่ในกรอบเหล่านี้
นั่นคือเรื่องราวที่ดาวเสาร์จะโคจรลงสู่ราศีกรกฎเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ซึ่งเราจะได้ดูบทบาทของดาวเสาร์กันต่อไป
ใครจะค้านว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะบ้านเมืองของเราอาจจะมีโสเภณี มีการคอร์รัปชัน พร้อมทั้งเจ้าพ่ออิทธิพลมากมายในชาติก็จริง แต่เราก็มีนักการเมือง และชนชั้นปกครองที่ล้วนอวตารลงมาเกิดเพื่อบ้านเมืองทั้งสิ้น
แต่ในทางโหราศาสตร์นี่แหละบอกว่ามันเป็นไปได้ ในแต่ละรอบที่ดาวเสาร์ลงมาอยู่ในราศีกรกฎนั้น มันจะมีเรื่องร้ายแรงที่สร้างความยุ่งยากฉิบหายให้แก่บ้านเมืองผู้คนอย่างคาดไม่ถึงเป็นลำดับมา เพราะเมื่อปี 2519 ดาวเสาร์ดวงเดียวกันนี้ก็โคจรลงมาสถิตที่ราศีกรกฎอีกครั้งหนึ่งในอีก 30 ปีต่อมา
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ก็ได้มีเหตุการณ์อันไม่คาดฝันเกิดขึ้นที่ทำให้มีการฆ่ากันอย่างมากมายทั้งคนผิดและไม่ผิดขนาดเด็กนักเรียนหญิงที่เป็นนักดนตรีของโรงเรียนแห่งหนึ่งถูกลากไปแทงเล่นที่ใต้ต้นมะขามสนามหลวงที่รู้จักกันในนาม 6 ตุลาคม 2519 ที่ทำให้คนไทยต้องลงมือฆ่ากันระหว่างคนรักชาติกับคอมมิวนิสต์ที่ไม่รักชาติ การลงมาของดาวเสาร์ครั้งนี้เราใช้เวลานานหลายปีสำหรับการล้างผลาญ การฆ่าและการทำลายกันตามคำสั่งของต่างประเทศซึ่งเราพากันโง่เขลาทั่วประเทศในเป้าหมายอันเดียวกันคือให้คนไทยฆ่ากันไม่เลือกหน้าเพียงแค่เอ่ยปากป้ายสีใครสักคนหนึ่งว่าเป็นคอมมิวนิสต์ก็สนุกสนานกันแล้ว
และเช่นเดียวกับดาวเสาร์ในราศีกรกฎปี 2490 ที่ทำให้เราต้องเสียคนสำคัญของชาติไปคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสำคัญจริงๆ ก็คือ นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดูเหมือนไม่ได้กลับประเทศไทยแม้แต่กระดูก เมื่อถึงรอบใหม่ที่ดาวเสาร์เข้ามาสถิตในราศีกรกฎถึงก็มีบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่ต้องจากประเทศไทยไปโดยที่ไม่มีโอกาสนำกระดูกกลับมาอีกคนหนึ่งจากการก่อการร้ายในบ้านเมืองของดาวเสาร์ยุคนั้นคือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
นั่นคือดาวเสาร์ในราศีกรกฎปี 2547
สำหรับนักศึกษาโหราศาสตร์ที่สนใจบทบาทของดาวเสาร์ซึ่งเพื่อไม่ให้เสียเวลามากนักก็น่าจะจับเอาเหตุการณ์ระยะนี้มาศึกษา เฉพาะอย่างยิ่งจากปี 2519 เป็นต้นมา จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงนานาประการเป็นลำดับมาจนกระทั่งความสกปรกในภพต่างๆ ที่ดาวเสาร์โคจรผ่านตั้งแต่กรกฎเป็นต้นมา จนกระทั่งกวาดล้างไปได้หมดสิ้นทั้งบุคคล วิธีการและกลุ่มความชั่วร้ายนานาชนิด และมาเริ่มต้นกันใหม่ในระบอบประชาธิปไตยปล้นสะดมประเทศชาติประชาชนยุคแสบมหาแสบนี้
และก็น่าจะหวังได้ว่า เสาร์ตัวนี้แหละจะเข้ามากวาดล้างความเลวร้ายต่างๆ ในราศีกรกฎตามความหมายที่กล่าวมาแล้วทุกลักษณะ
ไม่ว่าจะต้องมีใครดวงแตกหรือดวงไม่แตกก็ตาม
มันบดขยี้กันมาแล้วถึงสองครั้งสองหน ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าดาวเสาร์มันจะเลิกงานเก่าของมันอย่างไร?
และนักโหราศาสตร์ที่ผ่านการศึกษาเล่าเรียนมาอย่างถูกต้อง จะต้องไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นในดวงชะตาคนหรือจะเป็นดวงเมือง มันจะไม่เกิดเพราะดาวเสาร์ตัวเดียวแน่นอน เราจะดูบทบาทของราหูเจ้าบทบาทมหาวินาศอีกดวงหนึ่ง
เฉพาะอย่างยิ่งราหูที่โคจรอยู่ในราศีทวารอย่างราหูในราศีเมษปีนี้
เฉพาะอย่างยิ่งราศีเมษ ลัคนาของดวงเมือง
คงจะไม่จืดเกินไปกระมัง?
การเมืองของไทยเริ่มเสื่อมลงเป็นลำดับและเสื่อมถึงที่สุดมาถึงปี 2500 ที่บรรดาเดรัจฉานทางการเมืองขึ้นมากินบ้านกินเมืองกันสนุกสนานเอิกเกริก
ถ้าเทียบกับคุณงามความดีที่นายปรีดี ได้ทำให้แก่ประเทศไทยอย่างมหาศาลนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่มาพูดถึงสิ่งที่ท่านผู้นี้ได้รับ ไม่มีอะไรนอกจากน่าอนาถใจในความเป็นมนุษย์ของคนไทยเราที่ไม่มีคุณธรรมใดๆ ที่จะรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว
แต่ในทางโหราศาสตร์ ไม่มีอะไรที่จะต้องสงสัย ประกาศิตของดวงดาวนั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ดาวที่สำคัญที่สุดที่บอกกล่าวว่าจะมีความชั่วร้ายเกิดขึ้นในบ้านเมืองนั้น โหรโบราณท่านยกให้เป็นหน้าที่ของดาวเสาร์ (7) และการโคจร นอกจากการโทษการโคจรของดาวเสาร์ที่ควงกันอยู่ตลอดเวลากับราหู (8) ในดวงชะตาเมืองจนปี 2500 องค์กรความชั่วช้ารุ่นนั้นก็จบบทบาทลง
เปลี่ยนเป็นคนชั่วรุ่นใหม่ที่สืบต่อกันมาในรูปของนักวิชาการสมัยใหม่ที่พากันนำมาเอาวิชาการตลาดและภาษาอังกฤษเข้ามาใช้อย่างเอิกเกริกเพื่อให้การหลอกลวงมีความศักดิ์สิทธิ์จนได้รับความชื่นชมโดยทั่วถึงกันนั่นคือ เนปจูน
ดาวเสาร์จะโคจรไปตามรอบวงโคจรแต่ละครั้งราศีละ 2 ปีครึ่ง กว่าที่จะครบทั้ง 12 ราศีก็จะกลับมาที่เดิมอีกรอบหนึ่งก็ประมาณ 29 ปีหรือ 30 ปี
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 เป็นอีกรอบหนึ่งของดาวเสาร์ที่โคจรลงมาสู่ราศีกรกฎเป็นภพที่ 4 ของดวงชะตาเมืองของไทยที่เข้ามาล้มล้างชนชั้นปกครอง ไม่ว่าผิดหรือไม่ผิด แต่การเข้ามาเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาด้วยกิเลส ความโลภ และความชั่วช้า ที่ดาวเสาร์มีหน้าที่ที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายมรดกของกิเลสและความชั่วที่มีอยู่ในธรรมชาติของภพที่ 4 ของดวงเมืองที่มันได้สะสมพอกพูนกันมาอีกครั้งหนึ่งเพราะอิทธิพลของราหูในราศีเมษที่เรียกกันว่า ดวงแตกหรือดวงเมืองแตกเพราะอิทธิพลของดาวเสาร์และราหูโคจรเข้ามาสถิตในภพที่เป็นจรราศีของดวงโลกคือราศีเมษ กรกฎ และมังกรซึ่งมีราหู เสาร์ และเนปจูน รวมทั้งจุดคราสในราศีตุลที่รอคอยร่วมมือกัน สร้างความวินาศฉิบหายให้แก่โลกและเมืองไทยอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนหรือธรรมชาติ
ไม่ใช่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉยๆ หรือเกิดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่มันเกิดด้วยการเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วของดาวบาปเคราะห์ที่ชั่วร้ายทุกดวงที่แยกพรรครวมพรรคกันเป็นบ้าอยู่ในขณะนี้
บรรพบุรุษไทยแต่โบราณกาลได้เผชิญและพิสูจน์กันมาแล้ว พวกเราสมัยใหม่ทุกวันนี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่ที่จะต้องถามกันก็คือว่าเคยศึกษาเรียนรู้เรื่องเหล่านี้กันมาสักแค่ไหน
ในภพหนึ่งของดวงชะตาทั้ง 12 ภพ แต่ละภพนั้น ไม่ได้ว่างเปล่า มันมีธาตุและความดีความชั่วสะสมอยู่อย่างมากมายที่จะบอกให้รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในตัวบุคคลและบ้านเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ท่านเรียกว่า อภิไทโพธิบาทว์ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านประจำเมืองจะบอกให้ทราบเพื่อหาทางแก้ไขเสีย อย่างในเมืองเวลานี้มีเสนียดจัญไรหรืออุบาทว์ประการหนึ่งท่านเรียกว่า อุบาทว์พระอินทร์ ที่ผีบ้านผีเมืองบอกให้รู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายอย่างเช่น “อนึ่งโสตท้าวไทยยินดี อยู่ในป่าพนาลี ละพระมณเฑียรเวียงวัง” นั่นประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือการเห่าและกัดกันของขุนนางและข้าราชบริพารคือ “หนึ่งมุขมนตรีชัง ชิงกันดีหวัง วิวาทวุ่นวาย หนึ่งปราชญ์และญาติทั้งหลาย ผิดกันมั่นหมาย คิดแค้นเคืองคา” ซึ่งจะเห็นได้จากนักการเมืองถ่อยของเราต่างก็พยายามเอาสีข้างของตัวเองเข้าสีทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างไม่ยอมลดราวาศอก ทุกฝ่ายต่างก็พยายามฉีกหน้ากากอวดโฉมให้ผู้คนเห็นว่ามีความเก่งกาจในการเป็นโจร และอีกหลายอย่างหลายนิมิตที่เป็นอภิไทโพธิบาทว์ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ดาวเสาร์ราหูโคจรเข้าสถิตในภพจรราศี ซึ่งเป็นเจ้าธาตุดิน น้ำ ลมไฟ ธาตุใดธาตุหนึ่งใน 4 ราศีคือ ราษีเมษ ราศีกรกฎ ราศีตุล ราศีมังกร ธาตุดินในระยะใดระยะนั้นปัญหาต่างๆ จะได้รับการชำระสะสาง และจะเกิดเข้ากวาดล้างอย่างย่อยยับ ไม่ว่าต้นไม้ใบหญ้ากรวดหินดินทรายหรือผู้คนที่ได้พากันก่อกรรมทำชั่วมาไม่น้อยกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เป็นภาระหน้าที่ของดาวเสาร์จะเข้ามาทำงานในภพนี้ทั้งสิ้น
ดาวเสาร์ในโหราศาสตร์ทางเศรษฐกิจและการเมืองหมายถึง (1) กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างขนาดใหญ่ ส่วนมากจะเป็นอาคารที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และกิจการที่ทันสมัย (2) กฎหมายแรงงานและปัญหาเกี่ยวกับผู้ใช้แรงงาน (3) ความแตกต่างและความไม่ลงรอยกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะขายตัวไปเรียบร้อยหรือยังไม่เรียบร้อยก็ตาม (4) การตายและการโค่นล้มผู้มีอำนาจทางการเมือง (5) อันตรายที่จะเป็นผลต่อชื่อเสียงของประเทศชาติ (6)คำสั่งห้ามและข้อจำกัดต่างๆ (7) การควบคุมนานาประการ (8) การปันส่วน (9) อำนาจและการใช้อำนาจในภาวะฉุกเฉิน (10) ข้าวยากหมากแพง (11) แผ่นดินไหว (12) การสิ้นเปลืองเงินของประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นแต่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ (13) ความพยายามที่ไม่ประสบผลสำเร็จของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเงิน (14) การสำรวจทางธรณีวิทยา
ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศหมายถึง
(1) การเก็บภาษีอย่างรุนแรงที่ทำให้การส่งออกของประเทศลดลง (2) ความยุ่งยากในการแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศ (3) ปัญหาผู้ใช้แรงงาน และการนัดหยุดงานที่เกิดจากความไม่พอใจของผู้ใช้แรงงานซึ่งจะเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายสูง และลักษณะของข้าวยากหมากแพง น้ำท่วม แผ่นดินไหว มีปัญหากับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน (3) การโอนกิจการเอกชนมาเป็นของรัฐหรือการได้มาซึ่งทรัพย์สินของประชาชนไม่ (4) เหมืองแร่ของเอกชนและการทำลายธุรกิจของคนประเภทนี้ (5) การทำสงคราม (6) ความลำบากในการขนส่ง (7) การขาดแคลนสินค้า
เฉพาะภพที่ 4 ที่ดาวเสาร์จะต้องรับผิดชอบนั่นหมายถึง (1) ที่ดิน (2) บ้านเรือนของประชาชน (3) อาคาร (4) โรงแรมที่มีห้องกว้างๆ (5) อากาศ (6) กิจการเกี่ยวกับเมืองแร่และการทำเหมืองแร่ (7) พืชพันธุ์ที่เกิดจากดิน (8)พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่หมดอำนาจและคณะผู้ปกครองในปัจจุบัน (“โหราศาสตร์เศรษฐกิจการเมือง” สำนักพิมพ์เคล็ดไทย)
ความหมายทั้งหมดนี้อาจจะไม่ถูกต้องตรงเผงเหมือนจับวางก็ตาม แต่จะไม่ผิดทั้งหมดแต่จะอยู่ในกรอบเหล่านี้
นั่นคือเรื่องราวที่ดาวเสาร์จะโคจรลงสู่ราศีกรกฎเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ซึ่งเราจะได้ดูบทบาทของดาวเสาร์กันต่อไป
ใครจะค้านว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะบ้านเมืองของเราอาจจะมีโสเภณี มีการคอร์รัปชัน พร้อมทั้งเจ้าพ่ออิทธิพลมากมายในชาติก็จริง แต่เราก็มีนักการเมือง และชนชั้นปกครองที่ล้วนอวตารลงมาเกิดเพื่อบ้านเมืองทั้งสิ้น
แต่ในทางโหราศาสตร์นี่แหละบอกว่ามันเป็นไปได้ ในแต่ละรอบที่ดาวเสาร์ลงมาอยู่ในราศีกรกฎนั้น มันจะมีเรื่องร้ายแรงที่สร้างความยุ่งยากฉิบหายให้แก่บ้านเมืองผู้คนอย่างคาดไม่ถึงเป็นลำดับมา เพราะเมื่อปี 2519 ดาวเสาร์ดวงเดียวกันนี้ก็โคจรลงมาสถิตที่ราศีกรกฎอีกครั้งหนึ่งในอีก 30 ปีต่อมา
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ก็ได้มีเหตุการณ์อันไม่คาดฝันเกิดขึ้นที่ทำให้มีการฆ่ากันอย่างมากมายทั้งคนผิดและไม่ผิดขนาดเด็กนักเรียนหญิงที่เป็นนักดนตรีของโรงเรียนแห่งหนึ่งถูกลากไปแทงเล่นที่ใต้ต้นมะขามสนามหลวงที่รู้จักกันในนาม 6 ตุลาคม 2519 ที่ทำให้คนไทยต้องลงมือฆ่ากันระหว่างคนรักชาติกับคอมมิวนิสต์ที่ไม่รักชาติ การลงมาของดาวเสาร์ครั้งนี้เราใช้เวลานานหลายปีสำหรับการล้างผลาญ การฆ่าและการทำลายกันตามคำสั่งของต่างประเทศซึ่งเราพากันโง่เขลาทั่วประเทศในเป้าหมายอันเดียวกันคือให้คนไทยฆ่ากันไม่เลือกหน้าเพียงแค่เอ่ยปากป้ายสีใครสักคนหนึ่งว่าเป็นคอมมิวนิสต์ก็สนุกสนานกันแล้ว
และเช่นเดียวกับดาวเสาร์ในราศีกรกฎปี 2490 ที่ทำให้เราต้องเสียคนสำคัญของชาติไปคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสำคัญจริงๆ ก็คือ นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดูเหมือนไม่ได้กลับประเทศไทยแม้แต่กระดูก เมื่อถึงรอบใหม่ที่ดาวเสาร์เข้ามาสถิตในราศีกรกฎถึงก็มีบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่ต้องจากประเทศไทยไปโดยที่ไม่มีโอกาสนำกระดูกกลับมาอีกคนหนึ่งจากการก่อการร้ายในบ้านเมืองของดาวเสาร์ยุคนั้นคือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
นั่นคือดาวเสาร์ในราศีกรกฎปี 2547
สำหรับนักศึกษาโหราศาสตร์ที่สนใจบทบาทของดาวเสาร์ซึ่งเพื่อไม่ให้เสียเวลามากนักก็น่าจะจับเอาเหตุการณ์ระยะนี้มาศึกษา เฉพาะอย่างยิ่งจากปี 2519 เป็นต้นมา จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงนานาประการเป็นลำดับมาจนกระทั่งความสกปรกในภพต่างๆ ที่ดาวเสาร์โคจรผ่านตั้งแต่กรกฎเป็นต้นมา จนกระทั่งกวาดล้างไปได้หมดสิ้นทั้งบุคคล วิธีการและกลุ่มความชั่วร้ายนานาชนิด และมาเริ่มต้นกันใหม่ในระบอบประชาธิปไตยปล้นสะดมประเทศชาติประชาชนยุคแสบมหาแสบนี้
และก็น่าจะหวังได้ว่า เสาร์ตัวนี้แหละจะเข้ามากวาดล้างความเลวร้ายต่างๆ ในราศีกรกฎตามความหมายที่กล่าวมาแล้วทุกลักษณะ
ไม่ว่าจะต้องมีใครดวงแตกหรือดวงไม่แตกก็ตาม
มันบดขยี้กันมาแล้วถึงสองครั้งสองหน ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าดาวเสาร์มันจะเลิกงานเก่าของมันอย่างไร?
และนักโหราศาสตร์ที่ผ่านการศึกษาเล่าเรียนมาอย่างถูกต้อง จะต้องไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นในดวงชะตาคนหรือจะเป็นดวงเมือง มันจะไม่เกิดเพราะดาวเสาร์ตัวเดียวแน่นอน เราจะดูบทบาทของราหูเจ้าบทบาทมหาวินาศอีกดวงหนึ่ง
เฉพาะอย่างยิ่งราหูที่โคจรอยู่ในราศีทวารอย่างราหูในราศีเมษปีนี้
เฉพาะอย่างยิ่งราศีเมษ ลัคนาของดวงเมือง
คงจะไม่จืดเกินไปกระมัง?