xs
xsm
sm
md
lg

“โลมายักษ์” ผงาด และ การล้มเลือกตั้ง 2 เม.ย.

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

สำราญ รอดเพชร
samr_rod@hotmail.com

แล้ววันของเจ้าหนู “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ ก็มาถึง

รางวัลชนะเลิศรายการเอสเค เทเลคอม โอเพ่น ที่กรุงโซล ซึ่งปิดฉากลงเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2549 คือรางวัลแห่งความเพียรพยายามรางวัลแรกระดับเอเชียนทัวร์ ของโปรกอล์ฟวัย 23 ปี ที่เพิ่งเทิร์นโปรเมื่อปี 2547

เป็นรายการเดียวกับโปรกอล์ฟสาวลูกครึ่งเกาหลี -อเมริกัน วัย 16 ปี ที่ทั้งสวยทั้งเก่ง นาม “มิเชล วี” ผ่านการตัดตัวลงดวลวงสวิงกับโปรหนุ่มอกสามศอกด้วย นั่นแหละ...

เจ้าหนูโลมายักษ์รับถ้วยรางวัลชนะเลิศและเงินรางวัลอีก 5 ล้านบาท เจ้าตัวบอกว่าขออุทิศแชมป์นี้ให้กับคุณสมศรี มีสวัสดิ์ คุณแม่ผู้ล่วงลับไปแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อน

ทำไม เขียนถึง“พรหม” และ “กอล์ฟ?”

เรียนตามตรงว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่มากไปกว่าอยากจะเขียน ในฐานะผมเป็นคนเล่นกอล์ฟคนหนึ่ง ผมรู้สึกดีใจและชื่นชมที่ “พรหม” สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ

มากไปกว่านั้น...เห็นหน้าเจ้าโลมายักษ์ตัวอ้วนๆ น่ารักๆ ทีไร ผมก็ต้องนึกถึงลูกของพี่ชายเจ้าของไซด์ “โลมายักษ์” แบบเดียวกับพรหม มีสวัสดิ์ ทุกทีไป

“เสี่ย” คือชื่อเล่นของเจ้าหลานชาย ผมเรียกติดปากมาแต่เขาอายุเดือนแรกว่า “เจ้าเสี่ย”

2-3 ปีที่ผ่านมา เจ้าเสี่ยถูกเคี่ยวกรำอยู่พักใหญ่ๆ จากผู้เป็นพ่อซี่งทำธุรกิจเปิดร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟที่สนามไดรฟ์มีชื่อแห่งหนึ่ง ด้วยวาดหวังลึกๆ ว่าจะให้ลูกชายก้าวสู่ความเป็นโปรกอล์ฟดาวโรจน์...

เมื่อ 2 ปีก่อน ผมเคยนัดออกรอบกับเจ้าเสี่ย ..อดไม่ได้ที่จะแอบวาดหวังอยู่เหมือนกันว่า..เจ้าเสี่ยมีโอกาสสูงที่จะไปถึงดวงดาว..

ทั้งลูกตีไกลกว่าโปรกอล์ฟทั่วๆ ไปหลายคน ลูกสั้นบางระยะที่แม่นเป็นจับวาง..

แต่อุปสรรคสำคัญประการหนึ่งของเจ้าหลานชายรายนี้ นอกเหนือจากความขี้เกียจฟิตร่างกายแล้วก็คือ น้ำหนักตัวประมาณ 120 กก.

ผมตามไปให้กำลังใจในการคัดตัวกอล์ฟสมัครเล่นบางรายการ ปรากฏว่าสองวันแรก “เจ้าเสี่ย” ตีระเบิด แต่สองวันหลังวงสวิงเกิดอาการ “เปลี๊ยนไป๋” เพราะหมดแรง..

พี่ชายผมค่อนข้างเป็นคนมั่นใจตัวเอง และมีความมุ่งมั่นสูงถึงสูงมาก พยายามกดดันให้เจ้าเสี่ยฟิตร่างกาย ทะเลาะกันแล้วทะเลาะกันเล่า ตามงอนตามง้อกันแบบพ่อลูกไม่รู้จบ...

หลังจากทุ่มทุนสร้างทั้งแรงเงิน แรงใจ ไปมาก แต่ดูเหมือนทุกอย่างยังหยุดนิ่ง อยู่มาวันหนึ่งเจ้าเสี่ยก็เดินไปบอกผู้เป็นพ่อว่า จะขยันฟิตซ้อม แต่เพื่อความสะดวกพ่อแม่ไม่ต้องคอยพะวงไปส่งไปรับ ขอรถเก๋งใช้สักคันไว้บริการตัวเอง...

เจ้าเสี่ยได้ขับเก๋งตามปรารถนา ขณะที่ผู้เป็นพ่อได้ความหวังเฮือกสุดท้าย คิดว่าลูกชายจะกลับมาคืนฟอร์ม..

อะไร ๆ ทำท่าจะดีขึ้นในช่วงแรก แต่ไม่นานนักเจ้าเสี่ยก็น้ำหนักเพิ่มจาก 120 กก.ไปอีกหลายกิโลขีด...และได้เพื่อนหน้าใหม่ๆ ที่ช่วยนั่งรถเที่ยวอีกหลายคน

บังเอิญว่าช่วงนั้นเจ้าเสี่ยเรียนชั้น ม. 6 ต้องเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เลยฉวยโอกาสเว้นวรรคเลิกซ้อมกอล์ฟไปโดยอัตโนมัติ...

ผู้เป็นพ่อ...รู้สึกระทมตรมตรมตรอม และต้องรู้สึกระทวยหนักเข้าไปอีกเมื่อเจอหน้าผู้น้องชายอย่างผมที่ไปเอาหัวไม้ (กอล์ฟ) รุ่นใหม่ๆ มาใช้โดยไม่จ่ายเงิน แต่วิพากษ์วิจารณ์การสร้างลูกที่เคร่งเครียดแต่ไม่เคร่งครัดให้ฟังเป็นการทดแทน...

ปีนี้ 2549 เจ้าโลมาเสี่ยกำลังจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีที่ 2

สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เดินสายเล่นกอล์ฟ ค้นหาหนทางคัมแบ๊กให้ตัวเอง..จากสนามไพน์เฮิ ร์ทถึงเลควู๊ด และพรหม มีสวัสดิ์ กำลังลุ้นรางวัลในการแข่งขันวันที่สามและสี่...ผมคิดถึงเจ้าเสี่ยขึ้นมาโดยพลัน จึงนัดหมายไปออกรอบประสาอาหลาน...

หลังจากห่างหายและห่างเหินกันหลายเดือน...

เจ้าโลมาเสี่ย ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่วงสวิงไม่ดุดันร้อนแรงเหมือนเมื่อ 2 ปี ก่อน

“เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่งตัวหล่อขึ้น นี่เพราะมีแฟนหรือเปล่าวะ..” ผมถามขณะแวะดื่มน้ำที่ซุ้มพัก เจ้าเสี่ยกึ่งยิ้มกึ่งหัวเราะ “คงใช่มั้ง..”

“ถามจริง ยังคิ ดจะเอาดีทางกอล์ฟอีกหรือเปล่า”

ตอบทันที “ก็...ยังคิดอยู่”

“ตอนนี้หนักเท่าไหร่”

“120 โล เท่าเดิม..”

ฟังคำตอบแล้วผมก็ไม่อยากจะคาดหวังอะไรจากเจ้าเสี่ย ยกเว้นประการเดียวคือ ความที่เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ถ้าเขาคิดจะเอาดีทางกอล์ฟอีกครั้ง หนนี้เขาคงกลับมาด้วยความรักและมุ่งมั่นของตัวเอง ไม่ใช่จากการเคี่ยวเข็นของพ่อแม่เป็นด้านหลัก..

แต่ก็นั่นแหละพอได้ยินคำตอบเรื่องน้ำหนักที่ยังไม่ยอมลด.. ผมรู้สึกเข่าทรุดเหมือนมีของหนัก 120 กก.อยู่บนหลังขึ้นมาทันที....

ว่าแล้วก็เตะก้นไอ้อ้วนเสียหนึ่งป้าบ...!!

0 0 0 0 0 0 0 0

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ท่านผู้อ่านจะรู้สึกยังไงไม่ทราบได้ แต่สำหรับผมเริ่มจะรู้สึกเขินๆ เพราะทราบดีว่าบรรดาคอการบ้านการเมือง ส่วนใหญ่อารมณ์พลุ่งพล่านอยู่ที่เรื่องการเลือกตั้งครั้งใหม่ เรื่องการเค้นหายางอายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง...

แต่ผมดันเว้นวรรคมาเขียนถึงเรื่องเล็กๆ ของอาๆ หลานๆ..ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ต่อว่ากัน..

อันที่จริงสาระหลักของการเมือง การเลือกตั้งนาทีนี้อยู่ที่ว่า หลายสิ่งหลายอย่างมันกำลังดำเนินไปในทิศทางที่คลี่คลายดีขึ้น เหตุเพราะการออกแรงของใครต่อใครในหลายๆ ภาคส่วนของสังคม..

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำตอบสุดท้ายจากสถาบันศาล ผู้น้อมรับกระแสพระราชดำรัส 25 เม.ย. 2549 มาดำเนินการให้เป็นจริงจนกว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะแล้วเสร็จ ด้วยความเป็นประชาธิปไตยจริงๆ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่อัปยศเหมือนการเลือกตั้ง 2 เม.ย. ที่ผ่านมา...

0 เพิกถอนการเลือกตั้ง 2 เม.ย. จัดการเลือกตั้งใหม่ 0 ให้กกต.ลาออก.. 0 ปลดล็อกกฎ 90 วันการสังกัดพรรค โดยอัตโนมัติ..

นี่ดูเหมือนจะเป็นภารกิจ 3 ประการ นอกเหนือจากการยืนยันขั้นต้นให้พ.ต.ท.ทักษิณ “เว้นวรรค” ตามที่ประกาศเป็นอย่างน้อย..

ปรบมือให้สถาบันศาล และเราๆ ท่านๆ ที่ร่วมกันต่อสู้ออกแรงกันมายาวนานหน่อยสิครับ...!!!

อ้อ! ปรบมือให้กับความสำเร็จจากความเพียรพยายามของเจ้า “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ ด้วยคนครับ..!!
กำลังโหลดความคิดเห็น