xs
xsm
sm
md
lg

DELTAไม่สนยอดพลิกแผนเน้นมาร์จิ้นมุ่งชิ้นส่วนยานยนต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – DELTA แจงปีนี้เน้นการผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูงเพื่อดันกำไรโต หลังจากก่อนหน้ามุ่งผลิตและขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้แต่ละปีเท่านั้น มั่นใจยอดขายเกิน 2,300 ล้านบาท ยอมรับเงินบาทแข็งค่าไม่กระทบต่องบการเงิน แต่ส่วนต่างจากอัตราการแลกเปลี่ยนอาจลดลง หากบาทยังแข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ

นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(DELTA) เปิดเผยว่า ปีนี้ DELTA จะเน้นลดต้นทุนการผลิตทั้งด้านการดำเนินงานและการผลิต พร้อมกันหันมาผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูงเพื่อดันผลกำไรของบริษัทให้เติบโต ซึ่งมาร์จิ้นจะอยู่ที่ระดับ 20-25% และต้องทำให้ได้สูงกว่านี้
“ที่ผ่านมาเราตั้งเป้าการว่าผลงานโดยเน้นยอดขายของเราแต่ละปีต้องเติบโตต่อเนื่อง แต่หลังจากนี้เราจะเน้นการทำกำไร เพื่อดันให้ผลการดำเนินงานดีและสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของเราได้ ” นายอนุสรณ์กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของ บริษัท เดลต้า เอนเนอร์ยี่ ซิสเต็ม (เยอรมัน) จำกัด ที่บริษัทได้ซื้อมาจากกลุ่ม ASCOM นั้น เริ่มทำกำไรให้กับบริษัทแม่แล้ว โดยเห็นผลกำไรเมื่อปลายปี 48 ด้วยตัวเลขประมาณ 100 ล้านบาท หลังจากที่ DELTA เร่งปรับโครงสร้างและบริหารงานแบบใหม่ พร้อมปลดพนักงานรุ่นเก่าออกหมด เหลือไว้เพียงระดับบนและออกแบบพัฒนาสินค้า ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญกับงานส่วนนี้มาก เพราะต้องออกผลิตภัณฑ์และออกสินค้าตัวใหม่เรื่อย ๆ
ดังนั้น จากนี้ไป บริษัทที่ซื้อมาและ DELTA ต้องแบกรับภาระขาดทุนจากบริษัทย่อยดังกล่าวจะไม่มีแล้ว อันเป็นผลจากการที่ผู้บริหารของ DELTA เร่งปรับโครงสร้างการดำเนินงานตลอดจนการผลิตใหม่ทั้งหมด และเริ่มเห็นผลเมื่อปลายปี 48
“ASCOM ไม่ได้เป็นตัวถ่วงของเราแล้ว เพราะทุกอย่างดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก หลังจากที่เราลองผิดลองถูกมาระยะหนึ่งและต้องแบกรับผลขาดทุนมา ” นายอนุสรณ์กล่าว
นายอนุสรณ์กล่าวถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นตัวแปรอย่างหนึ่งสำหรับบริษัทที่ผลิตสินค้าเพื่อส่งออก แต่ DELTA ก็ไม่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ เนื่องจากการซื้อขายของบริษัทจะซื้อขายแบบ FOB ซึ่งเป็นการซื้อขายด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่แล้ว แต่ก็ยังยอมรับว่าผลจากอัตราแลกเปลี่ยนที่บาทแข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะต้องดูค่าเงินกัน เพราะหากบาทแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ต้องดูว่าปี 50 จะอยู่ที่เท่าไหร่เมื่อถึงตอนที่ต้องจ่ายเงินปันผล
“เราประเมินค่าบาทไว้ต่ำกว่านี้ ไม่คิดว่าค่าเงินบาทจะแข็งขึ้นมาได้ขนาดนี้ หลังจากนี้ไปเราก็ต้องดูค่าเงินบาทด้วย แม้จะไม่กระทบต่อการดำเนินงาน แต่เราก็ต้องห่วงเรื่องส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยนที่ก่อนนี้เราคิดว่าไม่น่าจะขึ้นมาขนาดนี้ ” นายอนุสรณ์
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดทุนจากค่าเงิน บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากDELTA ได้ทำเฮจจิ้งเพื่อป้องกันความเสี่ยงในเรื่องอัตราการแลกเปลี่ยน แม้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาในทางบัญชีบริษัทต้องบันทึกบัญชีเป็นเงินดอลลาร์ จึงส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ท้ายที่สุดก็ต้องมาแลกเป็นสกุลเงินบาท ซึ่งจะทำให้มีกำไรในการดำเนินงาน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
สำหรับสินค้าที่ DELTA เน้นมาผลิตหลังจากที่ธุรกิจชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ซบเซาเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้หันไปเน้นการผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เพื่อธุรกิจโทรคมนาคมและยานยนต์ แต่รายได้หลักของ บริษัทยังคงเป็น Switching Power Supply หรือ SPS ขณะที่ลูกค้าของ DELTA และชาร์จเจอร์ ก็ยังพบว่าขายได้สม่ำเสมอ ถือเป็นสินค้าที่ออกมาเพื่อทำเงินให้กับบริษัทได้อีกตัวหนึ่งเพราะปัจจุบันรถยนต์นิยมใช้ระบบอัตโนมัติกันมากกว่าก่อนหน้านี้มาก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถยนต์ต่างหันมาใช้เพื่อความสะดวกมากขึ้น
ขณะที่ธุรกิจโทรคมนาคมถือเป็นธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนนี้มาก และการผลิตชิ้นส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเพาเวอร์ซัพพลายสำหรับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเพาเวอร์ซัพพลายที่มีเทคโนโลยี่ในระดับสูงอื่นๆ จึงจัดเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในความสนใจของบริษัทฯ ดังนั้น การผลิต DES ก็เป็นอีกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น
สำหรับ ผลการดำเนินงานของ DELTA งวดสิ้นปี 48 พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,284.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 47 ที่มีกำไรสุทธิ 1,228.10 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิเพิ่ม86% เนื่องจากผลของการที่บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มจาก 15.6%ในปี 47 เป็น 20% อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นดังกล่าวเกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม DES และเพาเวอร์ซัพพลายสำหรับระบบคอมพิวเตอร์เครือข่าย(Networking Power Supply) โดยปีนี้บริษัทคาดจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 2,300 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น