xs
xsm
sm
md
lg

อภิไทโพธิอุบาทว์มาเตือนแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ยอดรัก ตะวันรอน

ในตลาดการข่าวของพวกปากหอยปากปู วันๆ ไม่ค่อยจะทำอะไรกันหรือไม่มี อะไรจะทำก็นั่งซุบซิบนินทากันในเรื่องต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการบ้านการเมืองหรือไม่ก็เรื่องชู้สาวในวงการเมืองระดับสูงซึ่งเป็นเรื่องสนุกสนานมันปาก เฉพาะเรื่องที่คนใหญ่คนโตหรือคุณหญิงคุณนายที่มีเต็มบ้านเต็มเมืองอยู่ในขณะนี้ มักจะเป็นคนมักมากในกามหรือชอบเปลี่ยนคู่สมสู่กันเล่นๆ บางรายก็ทำทุเรศขึ้นมา ต้องหอบลูกเร่ร่อนไปไหนต่อไหนและหาเรื่องปกปิดซ่อนเร้นกันไม่มีใครรู้ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นในเมืองไทยเราทุกวันที่ผ่านมา เป็นเรื่องอัปรีย์เสียเป็นส่วนมาก

แต่เราก็สามารถอยู่กันได้อย่างมีความสุข เพราะคนไทยเราเป็นชาติที่ไม่ยอมรับความทุกข์ ถึงแม้ว่าคนไทยและเมืองไทยจะเต็มไปด้วยความทุกข์ แต่เราก็สามารถจะรับได้ทั่วกันเพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างคนมีความทุกข์

ไม่มีใครอนาทรร้อนใจ ใครที่ร่ำรวยก็อยู่กับความร่ำรวยกันไปอย่างอึกทึกครึกโครม ในขณะที่คนสิ้นไร้ไม้ตอกก็อยู่กับความสิ้นไร้ไม้ตอกของตัวเองไป ใครอยากจะสูบฝิ่นกินกัญชาหรือยาบ้าอีกก็ทำกันไป ไม่มีใครฆ่าใคร เมื่อถึงเวลามันมือมันเขี้ยวขึ้นมา ผู้มีอำนาจวาสนาก็ลากปืนไปเก็บคนเหล่านั้นมายิงทิ้งสักพักเพื่อประกาศหลอกลวงว่าตัวเองเป็นพระเจ้าและจะทำยังไงกับใครก็ได้

ยิ่งตอนนี้ เราพัฒนาบ้านเมืองขึ้นมาปกครองในระบอบประชาธิปไตยยุคระบบที่มี “หลักการ” หรือที่บางคนเรียกว่า “หลักกู” เราได้พัฒนาชีวิตและทำมาหากินขึ้นมาอีกมากมายหลายเรื่อง เฉพาะอย่างยิ่งการคอร์รัปชันหรือการปล้นบ้านปล้นเมือง และการปล้นประชาชนทุกอย่างทุกด้าน แม้แต่การขายบ้านขายเมืองเพื่อตัวเองจะหอบเงินไปอยู่เมืองนอกหรือไม่ก็พยายามเปลี่ยนการปกครองของประเทศโดยตัวเอง และพรรคพวกขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีก็มี

คนที่มีโอกาสหลายคนที่มีความหวังจะขายแผ่นดินให้เรียบร้อยนี้ ทุกคนกำลังพยายามหาวิธีการกันอยู่

วิธีการดำเนินธุรกิจในการขายชาติปล้นบ้านปล้นเมืองเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวนี้ได้ลงมือทำกันไปแล้วในที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น ในวัดพระแก้วหรือโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างที่จะช่วยให้มองเห็นความสำเร็จรออยู่ข้างหน้าได้ ที่ทำง่ายที่สุดก็คือการใช้หมอดูเป็นเครื่องมือ หมอดูที่ว่ามีชื่อเสียงจะเข้ามาประจบสอพลอกันเป็นจำนวนมาก พร้อมด้วยการกระทำอื่นๆ ที่จะทำลายคู่แข่งศัตรูและแก้อาถรรพ์ที่ขัดขวางความสำเร็จต่างๆ หรือไม่หาทางทำลายอิฐและหินเก่าที่เชื่อว่าคู่แข่งที่มีคนเคารพนับถือมากกว่าตัวเองคือพระพรหม หรือไม่ก็ระดมสัตว์ชั้นต่ำที่เป็นลูกน้องบริวารมือฉมังของตนเองออกวางระเบิดบ้านพักและสำนักงานของใครก็ได้ที่คิดว่าเป็นอุปสรรคและศัตรู ตั้งแต่ระเบิด อุจจาระจนกระทั่งถึงระเบิดสงคราม หลังจากถลุงเงินของชาติว่าจ้างขบวนรถอีแต๋น และนักฆ่าจากกรมป่าไม้จำนวนเป็นพันๆ คนเตรียมพร้อมที่จะทำลาย

เมืองไทยตอนนี้กำลังสนุกสนานครึกครื้นด้วยนโยบายปล้นชาติและขายชาติของนักการเมืองไทยทุกวันนี้

ระเบียบ กฎเกณฑ์ คุณธรรม และวัฒนธรรมประเพณีใดๆ จะไม่มีใครนึกถึงกัน

เรื่องแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ไม่มีใครเคยคิดเคยคาดว่าเรื่องเก่าๆ เหล่านี้มันจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองที่โบราณเรียกว่าเป็นลางร้าย ซึ่งไม่มีใครว่าจะเกิดมันก็เกิด สิ่งไม่มีใครคิดว่ามันไม่ควรจะเป็นมันก็เป็น แต่สำหรับคนโบราณของไทยที่พากันสร้างบ้านแปงเมืองมาให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยทุกวันนี้ เราว่ามันคืออุบาทว์ประเภทหนึ่งหรือลางร้ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้คนและประเทศชาติ ถ้าหากเรายอมให้ความชั่วร้ายขยายตัวออกไป

ทั้งหมดมันเป็นลางร้ายและเป็นอุบาทว์ประเภทหนึ่งเรียกว่า อภิไทโพธิอุบาทว์

อภิไทโพธิอุบาทว์เหล่านี้มีทั้งหมดด้วยกัน 8 ประเภทซึ่งมีชื่อดังต่อไปนี้

1. อุบาทว์พระอินทร์
2. อุบาทว์พระเพลิง
3. อุบาทว์พระยม
4. อุบาทว์พระนารายณ์
5. อุบาทว์พระวรุณ
6. อุบาทว์พระพาย
7. อุบาทว์พระโสมราช
8. อุบาทว์พระไพสพ


อุบาทว์ที่ว่านี้เป็นอุบาทว์ที่จะบอกว่าถ้าเกิดอุบาทว์อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นในบ้านเมือง และผู้ได้พบได้เห็นหรืออาจจะเป็นลางบางอย่างที่จะบอกว่าอะไรบ้างที่จะเกิดแก่ผู้คนและบ้านเมืองและจะมีความยุ่งยากขึ้นในบ้านเมือง

อุบาทว์ทั้ง 8 ประการนี้ท่านบอกว่ามันจะแสดงอาการถึงความเลวร้ายที่จะเกิดในบ้านเมืองด้วยการสำแดงว่า

“อุบาทว์พระอินทร์จะบันดาลให้เป็นไปต่างๆ นั่นคือฟ้าจะผ่ากลางบ้านและรุ้งผ่านบ้านก็ดี จวักหักคาหม้อข้าวหม้อแกงก็ดี วัวควายหนีคอกออกไปอยู่ที่อื่น และสัตว์ตัวเมียขึ้นตัวผู้ก็ดี นักปราชญ์ราชบัณฑิตผิดใจกัน พระยาตกช้างม้ายวดยาน ม้า คานหามก็ดี ผีเรือนและแม่เรือนอยู่ติดเรือนก็ดี ผึ้งแตนต่อยจับเรือนก็ดี เป็นอุบาทว์พระอินทร์ทั้งสิ้น”

คำบอกกล่าวนี้ (ส่วนหนึ่ง) ถือว่าเป็นคำบอกกล่าวโบราณที่ไม่มีใครสามารถรู้ว่ามันมีมาแต่เมื่อไร แต่ที่นอนที่สุดก็คือว่าความเลวร้ายที่เกิดขึ้นแก่บ้านเมืองนั้น ท่านถือว่ามันมีลางร้ายที่บอกล่วงหน้าว่าความร้ายต่างๆ มันจะเกิดขึ้นในเมืองไทยในอนาคตใครจะเชื่อก็ได้หรือไม่เชื่อก็ได้เพราะเรื่องราวเหล่านี้เป็นคำบอกกล่าวที่มาเป็นวัฒนธรรมประเพณีความเชื่อสำหรับคนไทยเราที่ยึดถือกันมานานปรัมปราแล้ว จนกระทั่งเมื่อราวๆปลายกรุงศรีอยุธยาก็มีการเขียนบอกกล่าวเป็นการเตือนคนไทยมาทุกยุคทุกสมัยไว้ว่า

“กรุงศรีอยุธยานั้นสมบูรณ์เพิ่มพูนด้วยเกียรติขจรจบ
คราที่นั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมัน
ด้วยผู้มีอำนาจขาดราชธรรม์ จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ อุปัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
พระคงคาจะแดงเป็นเลือดนก อกแผ่นดินจะบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นก็จะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี พระกาฬกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกให้ อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม”


คนไทยสมัยโบราณ เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้รับผิดชอบบ้านเมืองหรือผู้ที่ถูกถือว่าเป็นผู้มากปัญญา จะต้องคอยศึกษาและระมัดระวังลางร้ายหรืออุบาทว์เหล่านี้เสนอต่อผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเพื่อให้ระวังเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นและหาทางป้องกันกันสุดชีวิต เฉพาะผู้นำของบ้านเมืองหรือผีที่เกี่ยวข้องกับกิจการบ้านเมือง เพราะคนสมัยนั้นไม่มีเครื่องมือสำหรับทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อผู้คนในแผ่นดินเฉพาะอย่างยิ่งในราชสำนักต่างๆ จะต้องมีกรมที่จะติดตามเรื่องราวเหล่านี้อยู่จำนวนหนึ่งที่เรียกว่า กรมโหร

จะมีนักโหราศาสตร์ที่เชี่ยวชาญประจำกันทุกราชสำนักหลายพันปีมาแล้ว

สำหรับประเทศไทยเรา ก่อนสมัยรัชกาลที่ 7 ก็มีสมาคมโหรอยู่กรมหนึ่งเพื่อใช้ในการนี้ซึ่งสืบทอดเป็นประเพณีมาตั้งแต่โบราณหลายพันปีมาแล้วเหมือนกัน

อย่างกรณีที่หัวเสาขนาดเขื่องที่ทำเนียบรัฐบาลที่หักลงมาคืนวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมาซึ่งเช้าวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันแรม 15 ค่ำหรือวันที่ 29 นั้น ถ้าหากเป็นยุคเก่าหรือสมัยโบราณท่านจะต้องถือว่าเป็นอุบาทว์ประการหนึ่งในอุบาทว์ 8 ประการ เป็นการบอกเตือนล่วงหน้าถึงความยุ่งยาก เป็นภาระของเจ้ากรรมนายเวรที่จะต้องกวาดบ้านทำลายผู้ที่ก่อกรรมจะต้องชดใช้ หรือเป็นกลุ่มบุคคลที่ได้ก่ออนันตริยกรรมแก่ประเทศชาติประชาชนอย่างสาหัสทีเดียว

ไม่ว่าจะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง โกงหรือไม่โกง มีพรรคอื่นเข้ามาร่วมหรือไม่มีให้คำนึงว่าจะต้องฉิบหายเพียงลูกเดียว

และไม่ต้องวิตกว่าจะมีใครขึ้นมาสร้างเวรสร้างกรรมอะไรอีก

ทุกอย่างจะเริ่มต้นกันใหม่ด้วยความถูกต้องและกลุ่มคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ในสมัยโบราณนั้น โหรจากกรมโหรหรือบุคคลที่มีความสำคัญจะต้องแก้ไขด้วยพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งตามหลักวิชาแก้โพธิบาทว์ที่เกิดขึ้นนั้นทันที ที่น่าจะต้องคิดและน่าสนใจมากก็คือคณะรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ จะต้องพิจารณาดูการกระทำและบทบาทของตัวเองว่ามีอะไรบ้างจะให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้บ้านเมืองของเราย่อยยับลงไปกว่านี้อีก

เฉพาะเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นไม่มีวันจบ นั่นคือเหตุการณ์การก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งไม่มีวันที่รัฐบาลนี้จะแก้ไขอะไรได้แม้ว่าจะเอาทหารอเมริกันหรือทหารสิงคโปร์เข้ามาประจำการ หรือยก 3 จังหวัดให้แก่สิงคโปร์ไปก็ตาม ยกเว้นไว้แต่ว่าคณะรัฐบาลชุดนี้ ถ้ายังกระทำผิดอยู่ต่อไปจะถูกทำลายลงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง

เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเริ่มต้นสองปีมาแล้วนั้นนับวันแต่จะสุกงอมและเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะตลอดเวลาสองสามปีผ่านมานั้น รัฐบาลชุดนี้หรือนายกรัฐมนตรีไทยทำงานด้วยลิ้น คุยอ้ายโน่นโกหกอ้ายนี่เป็นวันๆ แต่การตายของผู้คนที่สุจริตแม้แต่พระเดินบิณฑบาตก็ถูกตัดหัวต่อหน้าประชาชน ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่จะโกหกประชาชนทั้งโลกว่าทุกอย่าง “ดีขึ้น” แล้วก็ฆ่ากันต่อไปในวันรุ่งขึ้น!!

นั่นคืออุบาทว์ประการหนึ่งในอุบาทว์ทั้ง 8 ที่กล่าวมาแล้ว

ปัญหาสำคัญที่คนในภาคใต้ประสบอยู่นั้นเต็มไปด้วยความสยดสยองจากการก่อการร้ายที่ไม่มีใครรู้ว่าใครจะตายเมื่อไร หรือจะประสบความยุ่งยากประการใดต่อไป เพราะทุกคนจะมีปัญหาอย่างเดียวกันก็คือปัญหาการทำมาหากิน ไม่ว่าจะต้องตายหรือมีชีวิตอยู่ด้วยความสยดสยองทุกคนก็ไม่มีทางเลือก จึงจะต้องอยู่เพื่อทำมาหากินกันต่อไป

เฉพาะอย่างยิ่งสวนยางพาราใน 3 จังหวัดภาคใต้นั้น จะเอามาทำประโยชน์และมีราคาขึ้นมาได้อยู่ที่ต้องไปกรีดเปลือกยางทุกต้นเพื่อให้น้ำยางมันซึมออกมา แล้วก็มีอุปกรณ์รับน้ำยางซึ่งกว่าจะได้น้ำยางสักถังครึ่งถัง จะต้องใช้เวลารอคอยเป็นครึ่งคืนค่อนคืน และต้องเดินกรีดไปเป็นพันๆ ต้น ไม่ใช่เอามาใช้ได้ง่ายๆ

ทำให้คนจนที่นั่นยิ่งจนหนักลงไปอีก และไม่รู้ว่าวันไหนจะหาประโยชน์จากอาชีพการทำสวนยางได้

ความยุ่งยากหรือความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศไทยขณะนี้จะไม่มีทางจบลงเป็นอันขาด สิ่งที่มันจะต้องเกิดขึ้นต่อไปนั้นไม่มีสาเหตุอะไรมากไปกว่าการปกครองที่ล้มเหลว ผู้นำประเทศไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน ประชาชนที่รวมตัวกันขับไล่รัฐบาลที่กำลังรวมตัวกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีคนยืนยันว่ามีตั้งแต่เด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไปถึงอายุ 82 ปีที่เข้ามาร่วมในการขับไล่ตั้งแต่ชาวไร่ชาวนาจนกระทั่งบรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตทั่วประเทศ นิสิต นักศึกษาในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้เข้ามารวมตัวกันโดยมีมติเป็นเอกฉันท์ถือว่ารัฐบาลปัจจุบันคือศัตรูของชาติ ประจักษ์พยานที่สำคัญก็คือว่าในการรวมตัวครั้งนี้ ประชาชนที่เข้ามาร่วมได้ส่งเงินบริจาคมาช่วยการชุมนุมครั้งนี้เป็นการกุศลตลอดมาอย่างไม่ลดละ เงินที่นำมาใช้จ่ายในการชุมนุมครั้งนี้ เกือบจะ 20 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นการรวมตัวทางการเมืองของประชาชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และประวัติศาสตร์การต่อต้านรัฐบาลของโลกโดยวิธีสันติ

อภิไทโพธิอุบาทว์ครั้งนี้อาจจะเป็นโอกาสได้สอนให้คนไทยรู้จักเวรกรรมนานาประการที่ต่างคนต่างก็พยายามช่วยกันทำให้มันเกิด ทั้งๆ ที่มันไม่ควรเกิดด้วยการที่เราไม่ยอมให้ใครขายชาติขายแผ่นดิน และกินเลือดกินเนื้อประชาชนเหมือนพวกนักการเมืองอุบาทว์ทุกวันนี้

แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ถ้าใครอยากจะดูอุบาทว์อื่นๆ ทั้ง 8 ให้ครบ ก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้นต่อไป เพราะว่าเมืองไทยของเรานักการเมืองอุบาทว์และคนอุบาทว์ยังมีอีกมากที่จะมาช่วยกันสร้างความอุบาทว์แก่บ้านเมืองได้ไม่เคยขาดมือ
กำลังโหลดความคิดเห็น