xs
xsm
sm
md
lg

พล.อ.สัณห์ จิตรปฏิมา

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

นายทหารที่ผมสนิทสนมด้วยอีกท่านหนึ่งคือ พล.อ.สัณห์ จิตรปฏิมา หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นักวิชาการกลุ่มหนึ่งมี ดร.ทินพันธุ์ นาคะตะ ดร.แสง สงวนเรือง และดร.ลิขิต ธีระเวคิน ได้พูดคุยกับกลุ่มทหารหนุ่ม ตอนนั้นนักศึกษาหนีเข้าป่าไปมาก นักวิชาการ นักศึกษากับทหารเป็นปฏิปักษ์กัน ดร.ทินพันธุ์ เคยเป็นทหารรุ่น 5 (รุ่นพล.อ.สุจินดา คราประยูร) มียศร้อยเอก สังกัดทหารปืนใหญ่ เวลานั้นพล.อ.สุจินดา ยังเป็นทูตทหารบกอยู่วอชิงตัน ดี.ซี. มีคุณอานันท์ ปันยารชุน เป็นเอกอัครราชทูต

ดร.ทินพันธุ์ เป็นหัวเรือใหญ่หว่านล้อมกลุ่มยังเติร์กให้เชื่อว่าแนวทางขวาจัดเป็นอันตรายต่อประเทศ ในที่สุดคณะทหารหนุ่มก็ทำการปฏิวัติล้มรัฐบาลธานินทร์

ต่อมาเมื่อ พล.อ.เปรม ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.สัณห์ เป็นเสนาธิการทหารบก พล.อ.สัณห์ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.อ.สัณห์ เคยเรียนปริญญาโทที่คณะรัฐประศาสนศาสตร์ จึงคุ้นเคยกับ ดร.ทินพันธุ์ ทั้งสองได้เลือกนักวิชาการจาก NIDA และที่อื่นๆ เข้าไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยมี พล.อ.สัณห์ เป็นประธานคณะที่ปรึกษา

พล.อ.สัณห์ ได้ใช้บ้านพักที่ถนนสุโขทัยเป็นที่พบปะกับคณะที่ปรึกษาทุกวันศุกร์ และได้มีที่ทำงานให้ที่ปรึกษามาใช้ในวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย

พล.อ.สัณห์ ได้ชื่อว่าเป็นนายทหารนักวิชาการ เคยเป็นแม่ทัพภาคที่4 ประสบความสำเร็จในการจัดการพื้นที่ภาคใต้ให้มีความสงบเรียบร้อยมาแล้ว พล.อ.สัณห์ เป็นชาวใต้มีฐานะดี มีครอบครัวที่ดี บุตรชายคนโตจบการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา บุตรสาวจบทันตแพทย์จากมหาวิทยาลัยทัฟ และบุตรชายคนเล็กเป็นนายตำรวจ

ผมได้ทำงานร่วมกับ พล.อ.สัณห์ ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีจนเกิดเหตุการณ์ 1 เมษายน ที่เรียกว่า “กบฏเมษาฮาวาย” ขณะนั้นคณะทหารหนุ่มกับ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ไม่ถูกกัน นายทหารรุ่น 5 และรุ่นก่อนหน้านั้นเห็นว่าพวกทหารรุ่น 7 มีอำนาจมากเกินไป พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร นับถือ พล.อ.สัณห์ จึงเชิญให้เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ แต่พล.อ.เปรมกับพล.อ.อาทิตย์ ออกมาต้าน

ขณะที่คณะปฏิวัติกำลังถูกล้อมอยู่นั้น พล.อ.สัณห์ ได้โทรศัพท์มาถึงผม ขอให้ผมเข้าไปช่วย แต่ผมตัดสินใจไม่เข้าไปที่กองบัญชาการ เพราะถือว่าผมไม่มีส่วนรู้เห็นมาก่อน นอกจากนั้น นักวิชาการที่เข้าไปร่างแถลงการณ์คณะปฏิวัติก็หลบออกมาหมดแล้ว ผมจึงเรียนกับท่านว่าจะอยู่ข้างนอกคอยสดับตรับฟังข่าวให้

ผมทราบว่า ฝ่ายรัฐบาลได้ส่งทหารมากับเครื่องบินซี 130 จึงได้โทรศัพท์เข้าไปบอกให้ พล.อ.สัณห์ ทราบ ขณะนั้นดึกมากแล้ว คณะปฏิวัติถูกโดดเดี่ยวไม่มีคนรู้เลยว่าเครื่องซี 130 มาลงดอนเมืองแล้ว ก่อนพล.อ.สัณห์ จะหนีไป ผมได้ให้ท่านได้พูดโทรศัพท์กับท่านอาจารย์สัญญา เพื่อยืนยันว่า คณะปฏิวัติมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ได้ต้องการล้มล้างสถาบันอย่างที่มีข่าวลือ

เมื่อ พล.อ.สัณห์ หนีไปแล้ว คณะที่ปรึกษาฯ ก็ประชุมกัน ผมเสนอให้พวกเราไปเยี่ยมคุณหญิงภรรยาท่าน แต่ก็มีที่ปรึกษาส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ไป

ต่อมาเมื่อมีการอภัยโทษ และพล.อ.สัณห์ กลับมาแล้ว ผมก็ได้ไปเยี่ยมเยียนท่านอย่างน้อยปีละครั้ง และได้พบกับท่านที่สปอร์ตคลับบ้าง มีระยะหนึ่งที่ผมวิจารณ์บทบาทของ พล.อ.อาทิตย์มากๆ พล.อ.สัณห์ ได้มอบพระเครื่องอายุหลายร้อยปี เป็นพระเนื้อชิ้นให้ผมหนึ่งองค์ ท่านบอกว่า พระองค์นี้ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัว ผมจึงเริ่มห้อยพระตั้งแต่นั้นมา

พล.อ.สัณห์ ได้ใช้เวลาว่างอ่านหนังสือเกี่ยวกับการต่างประเทศและการทหาร ได้เขียนบทความลงในหนังสืออาทิตย์รายสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง และพิมพ์รวมเล่มได้ พล.อ.สัณห์ เล่นกอล์ฟทุกอาทิตย์กับคุณหญิงสองคน

พล.อ.สัณห์ เป็นคนที่มีชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆ ไม่เข้าสังคมมาก เรียกได้ว่าเป็น family man ท่านจะคุยถึงบุตรชาย บุตรสาวที่เวลานั้นกำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศเสมอ

พล.อ.สัณห์ เป็นคนพูดน้อย และไม่เคยกล่าวร้ายใคร แม้จะถูกตามล่าตอนหนีไปพม่า แต่ก็ไม่เคยปริปากว่าผู้สั่งการ สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมได้ไปหาท่านทุกปีใหม่ จนท่านเสียชีวิต

พล.อ.สัณห์ เป็นนายทหารอีกคนหนึ่งที่ทำให้ผมมีทัศนคติกับทหารดีขึ้น นายทหารหนุ่มๆ ที่ท่านเลือกมาให้ช่วยงานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คือ พ.ท.วินัย สมพงษ์ ท่านบอกว่า ทหารคนนี้ทั้งเรียนเก่ง และเป็นหัวหน้านักเรียนตลอดระยะเวลา 5 ปี และจบปริญญาทางรัฐศาสตร์ด้วย อีกคนหนึ่งคือ พ.ต.ดร.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ซึ่งกำลังจะแต่งงานตอนเกิดเหตุการณ์ 1 เมษายน พอดี นายทหารทั้งสองคนนี้จัดเป็นหัวกะทิของกองทัพไทย

พล.อ.สัณห์ อยู่ในยุคสุดท้ายก่อนที่ทหารจะหมดบทบาททางการเมืองไทย ท่านเป็นทหารที่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ และการต่างประเทศดีมาก และหาความรู้จากนักวิชาการตลอดเวลา จึงจัดว่าเป็นนายทหารหัวก้าวหน้าคนหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น