เชียงราย - ชมรมปลาบึกบ้านหาดไคร้จับเข่าคุยกับรักษาการ ส.ว.เชียงรายสั่งสมาชิกที่แหกกฎ 2 รายยุติล่าปลาบึกโดยไม่มีเงื่อนไขทันที พร้อมแถลงข่าวแสดงเจตนารมณ์ 10 พ.ค.นี้
ตามที่ชาวบ้านหาดไคร้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้มีมติงดล่าปลาบึกในแม่น้ำโขง เพื่อต้องการอนุรักษ์ปลาบึกหลังจากมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับมีผู้ฝ่าฝืนมติออกไปล่าปลาบึกนั้น ล่าสุดที่วัดหาดไคร้ ต.เวียง อ.เชียงของ นายพุ่ม บุญหนัก ประธานชมรมปลาบึกบ้านหาดไคร้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย และนางเตือนใจ ดีเทศน์ รักษาการ ส.ว.เชียงราย และรักษาการประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วุฒิสภา ได้ประชุมกับสมาชิกชมรมปลาบึก ประมาณ 50 คนเพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว
นายพุ่ม บุญหนัก กล่าวว่า อยากให้สมาชิกทุกคนยึดมั่นในสัญญาที่จะเลิกล่าปลาบึกเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติและถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ซึ่งกรณีที่นายพิสิษฐ์ วรรณธรรม อายุ 40 ปีและพวกรวม 2 ราย ชาวประมงหาดไคร้ ได้นำเรือหาปลาออกวางอวน หรือ "มอง" ล่าปลาบึก ในแม่น้ำโขงนั้นถือว่าทำไม่ถูกต้องและหากยังพบว่าไม่หยุดการล่าปลาบึก ประมงจังหวัด จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
“ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2549 นี้จะเดินทางไปแถลงข่าวที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทยและจะนำอวน หรือ มอง ไปแสดงด้วย และเชื่อว่าจะไม่มีการฝ่าฝืนล่าปลาบึกอีก” นายพุ่ม กล่าว
นายพุ่ม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับค่าตอบแทนในการประกอบอาชีพใหม่ภายหลังส่งมอบอวนที่ใช้จับปลาบึก หรือที่เรียกกันว่า “มอง” 68 ปาก ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้ค่าชดเชยปากละ 20,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 1,360,000 บาทเพื่อจะนำมาเป็นทุนในการประกอบอาชีพอื่นทดแทน โดยขณะนี้สหภาพอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสากล (IUCN) และมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทย ได้รับปากจะหาเงินส่วนหนึ่งมาซื้ออวนดังกล่าวแล้ว โดยเงินก้อนแรก รายละ 10,000 บาทจะได้ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และงวดที่สองอีก 10,000 บาท จะได้ในเดือนตุลาคม ซึ่งชาวประมงจะนำเงินที่ได้ไปทำทุนประกอบอาชีพอย่างอื่น เช่นทำการเกษตร และเป็นนักอนุรักษ์ต่อไป
ตามที่ชาวบ้านหาดไคร้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้มีมติงดล่าปลาบึกในแม่น้ำโขง เพื่อต้องการอนุรักษ์ปลาบึกหลังจากมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับมีผู้ฝ่าฝืนมติออกไปล่าปลาบึกนั้น ล่าสุดที่วัดหาดไคร้ ต.เวียง อ.เชียงของ นายพุ่ม บุญหนัก ประธานชมรมปลาบึกบ้านหาดไคร้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย และนางเตือนใจ ดีเทศน์ รักษาการ ส.ว.เชียงราย และรักษาการประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วุฒิสภา ได้ประชุมกับสมาชิกชมรมปลาบึก ประมาณ 50 คนเพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว
นายพุ่ม บุญหนัก กล่าวว่า อยากให้สมาชิกทุกคนยึดมั่นในสัญญาที่จะเลิกล่าปลาบึกเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติและถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ซึ่งกรณีที่นายพิสิษฐ์ วรรณธรรม อายุ 40 ปีและพวกรวม 2 ราย ชาวประมงหาดไคร้ ได้นำเรือหาปลาออกวางอวน หรือ "มอง" ล่าปลาบึก ในแม่น้ำโขงนั้นถือว่าทำไม่ถูกต้องและหากยังพบว่าไม่หยุดการล่าปลาบึก ประมงจังหวัด จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
“ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2549 นี้จะเดินทางไปแถลงข่าวที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทยและจะนำอวน หรือ มอง ไปแสดงด้วย และเชื่อว่าจะไม่มีการฝ่าฝืนล่าปลาบึกอีก” นายพุ่ม กล่าว
นายพุ่ม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับค่าตอบแทนในการประกอบอาชีพใหม่ภายหลังส่งมอบอวนที่ใช้จับปลาบึก หรือที่เรียกกันว่า “มอง” 68 ปาก ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้ค่าชดเชยปากละ 20,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 1,360,000 บาทเพื่อจะนำมาเป็นทุนในการประกอบอาชีพอื่นทดแทน โดยขณะนี้สหภาพอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสากล (IUCN) และมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทย ได้รับปากจะหาเงินส่วนหนึ่งมาซื้ออวนดังกล่าวแล้ว โดยเงินก้อนแรก รายละ 10,000 บาทจะได้ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และงวดที่สองอีก 10,000 บาท จะได้ในเดือนตุลาคม ซึ่งชาวประมงจะนำเงินที่ได้ไปทำทุนประกอบอาชีพอย่างอื่น เช่นทำการเกษตร และเป็นนักอนุรักษ์ต่อไป