ธุรกิจเวดดิ้งเจอศึกหนัก ประสบปัญหากำลังซื้อหดลง-ต้นทุนสูงขึ้น กัดฟันตรึงราคาเดิมได้อีกถึงปลายปี พร้อมขยับราคาแน่อีก 10 -15% เวดดิ้ง บิซิเนสฯ ชี้ กำลังซื้อต่อคนสูงขึ้น – การแต่งงานลดลง ธุรกิจจะอยู่ได้ต้องมีความแตกต่างที่ชัดเจน ล่าสุดเตรียมกระโดดเข้าร่วมงาน เวดดิ้ง แฟร์ ตั้งเป้ายอดขาย 200 คู่รัก คาดสิ้นปีตลาดโตเพียง 15-20 % หรือไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
นางสาวพิชชา ประกายเลิศลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สตูดิโอ ที.วาย.แมริเอจ ในเครือ บริษัท เวดดิ้ง บิซิเนส คอนซัลแทนท์ ผู้ดำเนินธุรกิจสตูดิโอรายใหญ่ เปิดเผยว่า ตลาดเวดดิ้งในปีนี้อยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นหลักลูกค้าจึงเริ่มมีความระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น ทำให้ปีนี้ราคาเป็นปัจจัยหลักในการแข่งขันของธุรกิจนี้ โดยเฉพาะตลาดระดับล่าง ส่วนตลาดระดับบนนั้น ยังคงไม่ได้ผลกระทบแต่อย่างไร คาดว่าปีนี้ตลาดน่าจะเติบโตประมาณ 10-15% หรือมีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันธุรกิจ เวดดิ้ง สตูดิโอ หรือสตูดิโอถ่ายรูป ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของกลุ่มธุรกิจเวดดิ้ง กลับมียอดขายที่ดี เนื่องจากความต้องการในการถ่ายรูปแต่งงานนั้นยังมีอยู่ อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่อคู่รักมีอัตราสูงขึ้น และจากการเข้าร่วมงานเทรด แฟร์ ต่างๆ ทั้งนี้คาดว่าตลาดเวด ดิ้งสตูดิโอเองนั้นจะเติบโตประมาณ 10% หรือไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านบาทในปีนี้
โดยในส่วนของบริษัทฯเองนั้น ได้เตรียมเข้าร่วมงาน เวดดิ้ง แฟร์ 2006 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25-28 พ.ค. 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อีกทางหนึ่งด้วย โดยตั้งเป้ายอดขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 200 คู่รัก เฉลี่ยค่าใช้จ่าย 20,000 บาทต่อคู่รัก ซึ่งราคาดังกล่าวยังคงเป็นราคาเดียวกับปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ เช่น แพ็กเก็จ 9,999 บาท สำหรับถ่ายรูป รวมค่าแต่งหน้า ทำผม เพียงวันละ 5 คู่รักเท่านั้น และแพ็กเกจราคาประหยัด 99,999 บาท คาดว่าจะได้รับความนิยม เช่นเดียวกับการเข้าร่วมงานในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้มั่นใจว่าจะช่วยให้บริษัทฯเติบโตขึ้นอีก 10% จากปัจจุบันที่บริษัทฯมีร้านสตูดิโอในเครือ 20 ร้าน รองรับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มแต่จะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นหลัก
ด้านนางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานเวดดิ้ง แฟร์ ในปีนี้ว่า งานเวดดิ้ง แฟร์ ปีนี้จะมีอยู่ภายใต้ธีม A Wedding Romatiqe…You and Me Eternally โดยมีผู้เข้าร่วมออกบู้ทกว่า 120 บริษัท ภายใต้คอนเซปท์ครบวงจร One Stop Service พร้อมกิจกรรมมากมาย อาทิ บริการออกแบบดีไซน์ชุดวิวาห์โดยยังก์ดีไซน์เนอร์จากสถาบันชนาพัฒน์, การประกวดออกแบบชุดวิวาห์ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา พร้อมเงินสด 35,000 บาท, ชุดวิวาห์ทอล์คออฟเดอะทาวน์ : เจ้าสาวเรืองแสง เป็นต้น คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 15,000 คู่รัก และมีค่าใช้จ่ายต่อคู่รักเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา ที่มีค่าใช้จ่ายต่อคู่รักเฉลี่ย 1 แสนบาท และมีผู้เข้าชมงานเพียง 10 ,000 คู่รัก
“สถานการณ์ตลาดเวดดิ้งในขณะนี้มองว่า มีการแข่งขันกันสูง อีกทั้งลูกค้าจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เพราะลูกค้าที่กำลังจะแต่งงานส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน ดังนั้นปัจจัยทางการเงินจึงไม่ใช่ปัญหา บวกกับลูกค้ามีความต้องการมากขึ้น พิถีพิถันมากขึ้น ทำให้ลักษณะการเติบโตของค่าใช้จ่ายต่อคู่รักสูงขึ้น ผู้ประกอบการจะต้องสร้างความแตกต่างจึงอยู่ได้ ส่วนผลกระทบจากเศรษฐกิจนั้น ตลาดยังไม่ได้รับผลกระทบเพราะออเดอร์ต่างๆมีการสั่งหรือจองล่วงหน้ามาเป็นปี แต่เชื่อว่าช่วงปลายปีจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน คาดว่าจะต้องมีการปรับราคาค่าใช้จ่ายต่อคู่รักสูงขึ้นอีกประมาณ 15-20%”
นางสาวพิชชา ประกายเลิศลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สตูดิโอ ที.วาย.แมริเอจ ในเครือ บริษัท เวดดิ้ง บิซิเนส คอนซัลแทนท์ ผู้ดำเนินธุรกิจสตูดิโอรายใหญ่ เปิดเผยว่า ตลาดเวดดิ้งในปีนี้อยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นหลักลูกค้าจึงเริ่มมีความระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น ทำให้ปีนี้ราคาเป็นปัจจัยหลักในการแข่งขันของธุรกิจนี้ โดยเฉพาะตลาดระดับล่าง ส่วนตลาดระดับบนนั้น ยังคงไม่ได้ผลกระทบแต่อย่างไร คาดว่าปีนี้ตลาดน่าจะเติบโตประมาณ 10-15% หรือมีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันธุรกิจ เวดดิ้ง สตูดิโอ หรือสตูดิโอถ่ายรูป ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของกลุ่มธุรกิจเวดดิ้ง กลับมียอดขายที่ดี เนื่องจากความต้องการในการถ่ายรูปแต่งงานนั้นยังมีอยู่ อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่อคู่รักมีอัตราสูงขึ้น และจากการเข้าร่วมงานเทรด แฟร์ ต่างๆ ทั้งนี้คาดว่าตลาดเวด ดิ้งสตูดิโอเองนั้นจะเติบโตประมาณ 10% หรือไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านบาทในปีนี้
โดยในส่วนของบริษัทฯเองนั้น ได้เตรียมเข้าร่วมงาน เวดดิ้ง แฟร์ 2006 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25-28 พ.ค. 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อีกทางหนึ่งด้วย โดยตั้งเป้ายอดขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 200 คู่รัก เฉลี่ยค่าใช้จ่าย 20,000 บาทต่อคู่รัก ซึ่งราคาดังกล่าวยังคงเป็นราคาเดียวกับปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ เช่น แพ็กเก็จ 9,999 บาท สำหรับถ่ายรูป รวมค่าแต่งหน้า ทำผม เพียงวันละ 5 คู่รักเท่านั้น และแพ็กเกจราคาประหยัด 99,999 บาท คาดว่าจะได้รับความนิยม เช่นเดียวกับการเข้าร่วมงานในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้มั่นใจว่าจะช่วยให้บริษัทฯเติบโตขึ้นอีก 10% จากปัจจุบันที่บริษัทฯมีร้านสตูดิโอในเครือ 20 ร้าน รองรับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มแต่จะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นหลัก
ด้านนางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานเวดดิ้ง แฟร์ ในปีนี้ว่า งานเวดดิ้ง แฟร์ ปีนี้จะมีอยู่ภายใต้ธีม A Wedding Romatiqe…You and Me Eternally โดยมีผู้เข้าร่วมออกบู้ทกว่า 120 บริษัท ภายใต้คอนเซปท์ครบวงจร One Stop Service พร้อมกิจกรรมมากมาย อาทิ บริการออกแบบดีไซน์ชุดวิวาห์โดยยังก์ดีไซน์เนอร์จากสถาบันชนาพัฒน์, การประกวดออกแบบชุดวิวาห์ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา พร้อมเงินสด 35,000 บาท, ชุดวิวาห์ทอล์คออฟเดอะทาวน์ : เจ้าสาวเรืองแสง เป็นต้น คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 15,000 คู่รัก และมีค่าใช้จ่ายต่อคู่รักเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา ที่มีค่าใช้จ่ายต่อคู่รักเฉลี่ย 1 แสนบาท และมีผู้เข้าชมงานเพียง 10 ,000 คู่รัก
“สถานการณ์ตลาดเวดดิ้งในขณะนี้มองว่า มีการแข่งขันกันสูง อีกทั้งลูกค้าจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เพราะลูกค้าที่กำลังจะแต่งงานส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน ดังนั้นปัจจัยทางการเงินจึงไม่ใช่ปัญหา บวกกับลูกค้ามีความต้องการมากขึ้น พิถีพิถันมากขึ้น ทำให้ลักษณะการเติบโตของค่าใช้จ่ายต่อคู่รักสูงขึ้น ผู้ประกอบการจะต้องสร้างความแตกต่างจึงอยู่ได้ ส่วนผลกระทบจากเศรษฐกิจนั้น ตลาดยังไม่ได้รับผลกระทบเพราะออเดอร์ต่างๆมีการสั่งหรือจองล่วงหน้ามาเป็นปี แต่เชื่อว่าช่วงปลายปีจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน คาดว่าจะต้องมีการปรับราคาค่าใช้จ่ายต่อคู่รักสูงขึ้นอีกประมาณ 15-20%”