xs
xsm
sm
md
lg

สภาที่ปรึกษาห่วงรัฐบาลถังแตก แนะทบทวน"เมกะโปรเจกต์น้ำ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาที่ปรึกษาฯ แนะทบทวนเมกะโปรเจ็กต์น้ำ 2 แสนล้านห่วงรัฐฟุ่มเฟือย ขาดดุลบัญชีฯ ผลาญภาษีปชช.เสนอเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการ แก้ระบบน้ำเน้นเป็นจุด ดีกว่าจ้างต่างชาติ พร้อมจี้ทุ่มงบแก้ปัญหาสังคม อย่าเน้นเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานหาเสียงคนในเมือง

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.)เปิดเผยว่า สภาที่ปรึกษาฯเตรียมเสนอแนวทางให้รัฐบาลทบทวนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ และลดวงเงินลงทุนบางโครงการลง เนื่องจากจะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น และทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนด้านทรัพยากรน้ำมูลค่า 200,000 ล้านบาท ของกระทรวงเกษตรฯ , กระทรวงรัพยากรธรรมชาติฯ และหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องจ้างต่างประเทศเข้ามาสร้างจุดเชื่อมโยงขนาดใหญ่ เพราะปริมาณน้ำในประเทศไทยมีมากอยู่แล้ว เพียงแต่ภาครัฐเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการให้เป็นระบบเท่านั้น

ทั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลในช่วงรักษาการสามารถทบทวนการใช้เงินลงทุนใหม่อย่างรอบคอบ ก่อนที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น ศึกษาแนวทางการบริหารใหม่ โดยบางโครงการไม่จำเป็นต้องดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนเพราะคนไทยมีความสามารถมากกว่า โดยเฉพาะ เรื่องบริหารจัดการน้ำ ซึ่งไม่ควรทำเป็นโครงการใหญ่ แต่ควรพัฒนาแหล่งน้ำตามจุดต่างๆแต่ละพื้นที่เพื่อให้เกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม และ ประชาชนไม่เดือดร้อน รวมทั้งสามารถนำเงินไปพัฒนาด้านอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อไป

"ปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลต่อการใช้จ่ายของประเทศ ดังนั้นอยากให้รัฐบาลรอบคอบการใช้เงินลงทุนให้มาก ซึ่งเรื่องน้ำหากทำโครงการขนาดใหญ่ถือว่าผิดวิธีแน่นอน ดังนั้นน่าจะแก้เป็นจุดๆ และที่สำคัญหากจ้างต่างประเทศ เช่น อิสราเอล คงไม่ถูกต้อง เพราะอิสราเอลเป็นประเทศทะเลทราย จึงต้องใช้ระบบท่อในการกระจายน้ำไปสู่แหล่งเพาะปลูก แต่ไทยมีปริมาณน้ำ มีคลองมากมายอยู่แล้ว จึงควรพัฒนาวิธีการบริหารจัดการจะดีกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องพึ่งพาจากต่างชาติก็มีบ้างโดยเฉพาะเทคโนโลยี และ ความรู้ เป็นต้น"

รองประธานสภาที่ปรึกษาฯ(สป.)เห็นว่ารัฐควรให้ความสำคัญการลงทุนที่จำเป็นก่อน เช่น โครงสร้างพื้นฐานและ ระบบขนส่งมวลชนตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศไม่ใช่เน้นเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมถึงไกล่เกลี่ยการใช้จ่ายเงินในโครงการลงทุนที่ไม่จำเป็น มาพัฒนาการศึกษาของเด็กและเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบันภาครัฐทุ่มงบประมาณในด้านนี้ไม่มากนัก

นายวรพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้คณะทำงานของ สป.จำนวน 12 คณะ ต่างดำเนินการศึกษาปัญหาต่างๆของประเทศเพื่อเสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณา เช่น โครงสร้างพื้นฐาน,ทรัพยากรน้ำ, ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต, ปัญหาการเมือง, สังคม และ เศรษฐกิจมหาภาค เช่น แนวทางเสนอแนะแก้ปัญหาราคาน้ำมัน การหาพลังงานทดแทน เพราะว่าราคานำมันตลาดโลกคงไม่ปรับตัวลงอย่างง่ายๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีกำลังผลิตสูงอย่าง อิหร่านกับสหประชาชาติ และ ปัญหาในประเทศไนจีเรีย เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะที่ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างรุนแรงตลอดปีในช่วงปี 48 และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นรัฐบาลจึงมี แผนจัดการ 25 ลุ่มน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำได้อย่างถาวร และจะเร่งส่งเสริม ระบบน้ำบาดาลเพื่อให้มีน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคเข้าถึงทุกครัวเรือน โดยใช้งบประมาณ 2 แสนล้านบาท นอกจากนี้จะเร่งปรับปรุงทั้งระบบประปาผิวดิน และระบบน้ำบาดาล เพื่อให้ทุกครัวเรือนมีน้ำกินน้ำใช้ตามโครงการน้ำกินน้ำใช้ทั่วไทย ให้ได้ภายในปี 51
กำลังโหลดความคิดเห็น