ผู้จัดการรายวัน-บอร์ดอคส.มีมติเอกฉันท์เลิกจ้าง “นภศูล” เป็นผอ.อคส. เซ่นคัดเลือกเซอร์เวเยอร์ฉาว ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก 11 คนให้อคส.พิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่ พร้อมส่งดีเอสไอสอบผิดอาญาหรือไม่ ขณะที่เจ้าตัวเผยการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์เป็นเจตนาดี และไม่ผิด เหตุไม่ได้เซ็นสัญญากับใคร
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) เปิดเผยว่า บอร์ดได้พิจารณาผลสรุปการสอบสวนทางวินัยกรณีการคัดเลือกบริษัทผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวยอร์) ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2548/49 ของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยที่มีนายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกสัญญาจ้างนายนภศูล อังคทะวานิช เป็นผู้อำนวยการอคส. มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะกระทำผิดตามสัญญาจ้าง โดยเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือก (ทีโออาร์) บริษัทเซอร์เวเยอร์ โดยไม่ได้แจ้งให้บอร์ดให้รับทราบ
ส่วนเจ้าหน้าที่อคส.อีก 11 คนที่ถูกสอบสวนทางวินัย ได้มอบหมายให้นางสาวณัฐฐิรา ลิ่ววรุณพันธ์ รองผู้อำนวยการอคส. ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการอคส. เป็นผู้พิจารณาโทษตามระเบียบข้อบังคับของอคส. นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อคส.ส่งผลสรุปของผู้ถูกสอบสวนทางวินัยทั้ง 12 คน ไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้พิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดเข้าข่ายทางคดีอาญาหรือไม่ ซึ่งจะสามารถขยายผลสอบสวนเชิงลึกไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย
“มติที่ออกมา ยังไม่ได้ชี้ว่า ผอ.อคส.ทุจริต หรือมีความผิดทางอาญา เพียงแค่ทำผิดสัญญาจ้าง และให้ยกเลิกสัญญาจ้างเท่านั้น ส่วนจะมีความผิดทางอาญาเข้าข่ายความผิดตามระเบียบเสนอราคาต่อรัฐ หรืออาญาอื่นๆ หรือไม่ อยู่ที่ดีเอสไอจะพิจารณา ซึ่งอคส.จะส่งเรื่องให้ดีเอสไอในสัปดาห์หน้า หลังจากแจ้งผลให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในการประชุมครม.วันที่ 25 เม.ย.นี้” นายปานปรีย์กล่าว
สำหรับการสรรหาผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ จะเริ่มได้ทันทีหลังจากแจ้งผลให้ครม.รับทราบ ทั้งนี้ การว่าจ้างนายนภศูลเป็นผู้อำนวยอคส. ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.2546 มีสัญญาว่าจ้าง 4 ปี หมดสัญญาในวันที่ 24 พ.ย.2550
นางสาวณัฐฐิรากล่าวว่า จะเริ่มพิจารณาความผิดทางวินัยของเจ้าหน้าที่ทั้ง 11 รายได้ในเร็วๆ นี้ โดยโทษทางวินัยตามระเบียบข้อบังคับของอคส. มี 5 ระดับ คือ ขั้นร้ายแรงไล่ออก รองลงมาให้ออก ลดเงินเดือน ตัดเงินเดือน และภาคทัณฑ์
ขณะที่นายนภศูลกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทุกคน กระทำโดยมีเจตนาที่ดี และเป็นการกระทำไปตามวิธีปฏิบัติที่เคยจัดทำกันมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมีการอุทธรณ์ หรือเรียกร้องความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ทำผิดอะไร โดยเฉพาะด้านอาญา ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับเซอร์เวเยอร์รายใด และทำให้รัฐเกิดความเสียหาย แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการประกาศว่าเซอร์เวเยอร์รายใดบ้างที่ได้รับคัดเลือก
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) เปิดเผยว่า บอร์ดได้พิจารณาผลสรุปการสอบสวนทางวินัยกรณีการคัดเลือกบริษัทผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวยอร์) ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2548/49 ของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยที่มีนายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกสัญญาจ้างนายนภศูล อังคทะวานิช เป็นผู้อำนวยการอคส. มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะกระทำผิดตามสัญญาจ้าง โดยเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือก (ทีโออาร์) บริษัทเซอร์เวเยอร์ โดยไม่ได้แจ้งให้บอร์ดให้รับทราบ
ส่วนเจ้าหน้าที่อคส.อีก 11 คนที่ถูกสอบสวนทางวินัย ได้มอบหมายให้นางสาวณัฐฐิรา ลิ่ววรุณพันธ์ รองผู้อำนวยการอคส. ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการอคส. เป็นผู้พิจารณาโทษตามระเบียบข้อบังคับของอคส. นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อคส.ส่งผลสรุปของผู้ถูกสอบสวนทางวินัยทั้ง 12 คน ไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้พิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดเข้าข่ายทางคดีอาญาหรือไม่ ซึ่งจะสามารถขยายผลสอบสวนเชิงลึกไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย
“มติที่ออกมา ยังไม่ได้ชี้ว่า ผอ.อคส.ทุจริต หรือมีความผิดทางอาญา เพียงแค่ทำผิดสัญญาจ้าง และให้ยกเลิกสัญญาจ้างเท่านั้น ส่วนจะมีความผิดทางอาญาเข้าข่ายความผิดตามระเบียบเสนอราคาต่อรัฐ หรืออาญาอื่นๆ หรือไม่ อยู่ที่ดีเอสไอจะพิจารณา ซึ่งอคส.จะส่งเรื่องให้ดีเอสไอในสัปดาห์หน้า หลังจากแจ้งผลให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในการประชุมครม.วันที่ 25 เม.ย.นี้” นายปานปรีย์กล่าว
สำหรับการสรรหาผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ จะเริ่มได้ทันทีหลังจากแจ้งผลให้ครม.รับทราบ ทั้งนี้ การว่าจ้างนายนภศูลเป็นผู้อำนวยอคส. ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.2546 มีสัญญาว่าจ้าง 4 ปี หมดสัญญาในวันที่ 24 พ.ย.2550
นางสาวณัฐฐิรากล่าวว่า จะเริ่มพิจารณาความผิดทางวินัยของเจ้าหน้าที่ทั้ง 11 รายได้ในเร็วๆ นี้ โดยโทษทางวินัยตามระเบียบข้อบังคับของอคส. มี 5 ระดับ คือ ขั้นร้ายแรงไล่ออก รองลงมาให้ออก ลดเงินเดือน ตัดเงินเดือน และภาคทัณฑ์
ขณะที่นายนภศูลกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทุกคน กระทำโดยมีเจตนาที่ดี และเป็นการกระทำไปตามวิธีปฏิบัติที่เคยจัดทำกันมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมีการอุทธรณ์ หรือเรียกร้องความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ทำผิดอะไร โดยเฉพาะด้านอาญา ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับเซอร์เวเยอร์รายใด และทำให้รัฐเกิดความเสียหาย แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการประกาศว่าเซอร์เวเยอร์รายใดบ้างที่ได้รับคัดเลือก