คาโอฯ ส่งลูกฮึดสู้ศึกซันซิล-รีจอยส์ ยกเครื่องรีแบรนด์"แฟซ่า"ครั้งใหญ่รอบ 3 ปี หวังดันอิมเมจแชมพูพรีเมียมหนีตลาดแมสแข่งดุ ปั้นโลโก้ -แพกเกจ-สูตรใหม่"เนเจอร์พลัส" โยกเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงรุ่นใหม่แทนกลุ่มครอบครัว ระเบิด 2สูตรใหม่หัวหอก ชูเนเจอร์บราวน์เจาะกลุ่มทำสีผม
แหล่งข่าวจากบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแชมพูและครีมนวดผมแฟซ่า เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า บริษัทได้รีแบรนด์แชมพู-ครีมนวดผม"แฟซ่า"ครั้งใหญ่ในรอบ 3ปี โดยได้มีการปรับทั้งสูตร โลโก้และบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ภาพลักษณ์แฟซ่ามีความเป็นพรีเมียมมากยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับดังกล่าวเพื่อรองรับกับการแข่งขันตลาดแชมพูมูลค่า 7,000ล้านบาทที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแชมพูเซกเมนต์บิวตี้สัดส่วน 64% หรือคิดเป็น 4,500 ล้านบาท โดยแบรนด์ที่อยู่ในระดับเดียวกับแฟซ่าเจาะตลาดแมส อย่างซันซิลและรีจอยส์มีการเคลื่อนไหวการตลาดและทุ่มงบการตลาดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้การรีแบรนด์ใหม่แฟซ่า ยังได้วางกลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ เน้นเจาะกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่มีความทันสมัย แตกต่างจากเดิมที่เน้นสื่อสารเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวเป็นหลัก โดยช่วงที่ผ่านมาแฟซ่าเน้นใช้พรีเซ็นเตอร์ อย่างครอบครัวแซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี และครอบครัวศิลปินนักร้องอั่ม-อัมรินทร์ นิติพลและภรรยาในการสื่อสาร อย่างไรก็ตามเพื่อให้แชมพูแฟซ่าสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ จึงได้ปรับปรุงสูตรภายใต้แนวทาง"เนจอร์พลัส"หรืออาหารเส้นผมที่ได้จากธรรมชาติซึ่งมีทั้งหมด 7 สูตร จากเดิมที่มีทั้งหมดกว่า 10 สูตร
ทั้งนี้นำร่องด้วยการเปิดตัวสูตรใหม่ 2 สูตร ได้แก่ เนเจอร์ พลัส บราวน์ สูตรสำหรับผู้หญิงที่ทำสีผมและมีผมสีน้ำตาลเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-25 ปี สูตรที่สอง เนเจอร์ พลัส เพอร์เฟค แคร์ สำหรับผู้หญิงผมยาวดำและต้องการบำรุงเส้นผมเจาะกลุ่มอายุ 20-27 ปี สำหรับกลยุทธ์ของแฟซ่าจะเน้นสื่อสารว่าการมีสุขภาพเส้นผมที่ดี ต้องมาจากภายในสู่ภายนอก หรืออินไซด์ทูเอาท์ไซด์ ด้วยแชมพูที่เสมือนเป็นอาหารของเส้นผมนวัตกรรมจากเนเจอร์ พลัส ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะกับสภาพผมของคนเอเชียโดยเฉพาะ
จากนี้บริษัทจะทยอยเปิดตัวอีก 5 สูตร ที่เพิ่มคุณสมบัติในแต่ละสูตร รวมทั้งยังได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาด 360 องศา ประเดิมด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ การแจกสินค้าตัวอย่าง เพื่อแนะนำสูตรใหม่ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง โดยแฟซ่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นความพยายามครั้งใหม่ของแฟซ่า โดยการเปิดตัวสูตรใหม่ 2 สูตร ได้แก่ เนเจอร์ พลัส บราวน์ เพื่อรองรับเจเทรนด์หรือผู้หญิงที่นิยมทำสีผมเป็นส่วนหนึ่งโดยตลาดผลิตภัณฑ์สีผมมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสีน้ำตาลถือว่าเป็นตลาดใหญ่มากสำหรับเมืองไทย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้หรือเมื่อปี 2545 "เทรเซีย" เป็นแชมพูแรกที่นำร่องเปิดตัวแชมพูสำหรับผู้ที่ทำสีโดยเฉพาะลงสู่ตลาด แต่ไม่ได้รับการตอบรับมากนัก
ส่วนอีกหนึ่งสูตรเนเจอร์ พลัส เพอร์เฟคแคร์ เจาะกลุ่มผู้หญิงผมยาวก็นับว่าเป็นตลาดใหญ่ และเป็นสูตรที่ค่ายแชมพู-ครีมนวดจะต้องมี เมื่อเทียบกับคู่แข่งซันซิลมีสูตร" เอ็กซ์ตร้า ลอง" ส่วนรีจอยส์ มีสูตรลอง แฮร์
สำหรับคาโอ คอมเมอร์เชียล มีแชมพูด้วยกัน 2 แบรนด์ คือ แฟซ่า ซึ่งถือว่าเป็นหัวหอกหลักในการทำตลาด และคาโอ เอสเซนเชียล โดยในปี 2548 คอร์ปอเรตแชร์ในตลาดแชมพูมีราว 8.5% ลดลงจากปี 2547 ซึ่งมี 11% และปี 2546 ราว 15% ซึ่งเป็นปีที่คาโอ ปรับโฉมใหม่ ส่วนค่ายคู่แข่งยูนิลีเวอร์ มี คอร์ปอเรต แชร์ 57.4% แบ่งเป็นสินค้าคู่แข่งของแฟซ่าซึ่งก็คือซันซิล 28% ฯลฯพีแอนด์จี คอร์ปอเรต แชร์ 26.8% แบ่งเป็นรีจอยส์สินค้าคู่แข่ง 8.5%
แหล่งข่าวจากบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแชมพูและครีมนวดผมแฟซ่า เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า บริษัทได้รีแบรนด์แชมพู-ครีมนวดผม"แฟซ่า"ครั้งใหญ่ในรอบ 3ปี โดยได้มีการปรับทั้งสูตร โลโก้และบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ภาพลักษณ์แฟซ่ามีความเป็นพรีเมียมมากยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับดังกล่าวเพื่อรองรับกับการแข่งขันตลาดแชมพูมูลค่า 7,000ล้านบาทที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแชมพูเซกเมนต์บิวตี้สัดส่วน 64% หรือคิดเป็น 4,500 ล้านบาท โดยแบรนด์ที่อยู่ในระดับเดียวกับแฟซ่าเจาะตลาดแมส อย่างซันซิลและรีจอยส์มีการเคลื่อนไหวการตลาดและทุ่มงบการตลาดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้การรีแบรนด์ใหม่แฟซ่า ยังได้วางกลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ เน้นเจาะกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่มีความทันสมัย แตกต่างจากเดิมที่เน้นสื่อสารเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวเป็นหลัก โดยช่วงที่ผ่านมาแฟซ่าเน้นใช้พรีเซ็นเตอร์ อย่างครอบครัวแซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี และครอบครัวศิลปินนักร้องอั่ม-อัมรินทร์ นิติพลและภรรยาในการสื่อสาร อย่างไรก็ตามเพื่อให้แชมพูแฟซ่าสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ จึงได้ปรับปรุงสูตรภายใต้แนวทาง"เนจอร์พลัส"หรืออาหารเส้นผมที่ได้จากธรรมชาติซึ่งมีทั้งหมด 7 สูตร จากเดิมที่มีทั้งหมดกว่า 10 สูตร
ทั้งนี้นำร่องด้วยการเปิดตัวสูตรใหม่ 2 สูตร ได้แก่ เนเจอร์ พลัส บราวน์ สูตรสำหรับผู้หญิงที่ทำสีผมและมีผมสีน้ำตาลเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-25 ปี สูตรที่สอง เนเจอร์ พลัส เพอร์เฟค แคร์ สำหรับผู้หญิงผมยาวดำและต้องการบำรุงเส้นผมเจาะกลุ่มอายุ 20-27 ปี สำหรับกลยุทธ์ของแฟซ่าจะเน้นสื่อสารว่าการมีสุขภาพเส้นผมที่ดี ต้องมาจากภายในสู่ภายนอก หรืออินไซด์ทูเอาท์ไซด์ ด้วยแชมพูที่เสมือนเป็นอาหารของเส้นผมนวัตกรรมจากเนเจอร์ พลัส ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะกับสภาพผมของคนเอเชียโดยเฉพาะ
จากนี้บริษัทจะทยอยเปิดตัวอีก 5 สูตร ที่เพิ่มคุณสมบัติในแต่ละสูตร รวมทั้งยังได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาด 360 องศา ประเดิมด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ การแจกสินค้าตัวอย่าง เพื่อแนะนำสูตรใหม่ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง โดยแฟซ่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นความพยายามครั้งใหม่ของแฟซ่า โดยการเปิดตัวสูตรใหม่ 2 สูตร ได้แก่ เนเจอร์ พลัส บราวน์ เพื่อรองรับเจเทรนด์หรือผู้หญิงที่นิยมทำสีผมเป็นส่วนหนึ่งโดยตลาดผลิตภัณฑ์สีผมมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสีน้ำตาลถือว่าเป็นตลาดใหญ่มากสำหรับเมืองไทย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้หรือเมื่อปี 2545 "เทรเซีย" เป็นแชมพูแรกที่นำร่องเปิดตัวแชมพูสำหรับผู้ที่ทำสีโดยเฉพาะลงสู่ตลาด แต่ไม่ได้รับการตอบรับมากนัก
ส่วนอีกหนึ่งสูตรเนเจอร์ พลัส เพอร์เฟคแคร์ เจาะกลุ่มผู้หญิงผมยาวก็นับว่าเป็นตลาดใหญ่ และเป็นสูตรที่ค่ายแชมพู-ครีมนวดจะต้องมี เมื่อเทียบกับคู่แข่งซันซิลมีสูตร" เอ็กซ์ตร้า ลอง" ส่วนรีจอยส์ มีสูตรลอง แฮร์
สำหรับคาโอ คอมเมอร์เชียล มีแชมพูด้วยกัน 2 แบรนด์ คือ แฟซ่า ซึ่งถือว่าเป็นหัวหอกหลักในการทำตลาด และคาโอ เอสเซนเชียล โดยในปี 2548 คอร์ปอเรตแชร์ในตลาดแชมพูมีราว 8.5% ลดลงจากปี 2547 ซึ่งมี 11% และปี 2546 ราว 15% ซึ่งเป็นปีที่คาโอ ปรับโฉมใหม่ ส่วนค่ายคู่แข่งยูนิลีเวอร์ มี คอร์ปอเรต แชร์ 57.4% แบ่งเป็นสินค้าคู่แข่งของแฟซ่าซึ่งก็คือซันซิล 28% ฯลฯพีแอนด์จี คอร์ปอเรต แชร์ 26.8% แบ่งเป็นรีจอยส์สินค้าคู่แข่ง 8.5%