xs
xsm
sm
md
lg

ดีเซล-เบนซินขึ้น40สต. รถบรรทุกขยับราคา20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ค้าน้ำมันสุดทนแผนตรึงราคาปตท.รวมตัวปรับขึ้นอีก 40 สตางค์ต่อลิตรวันนี้ ทั้งเบนซินและดีเซลทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ เบนซินทะลุ 28 บาทต่อลิตร ขณะที่ปตท.เตรียมขยับตาม ด้านสนพ.ยอมรับอิหร่านตัวแปรสำคัญต่อวิกฤติน้ำมันรอบใหม่ "จักรมณฑ์"รับน้ำมันฉุด GDP อุตสาหกรรมไตรมาสแรกเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ววูบ 1.25 แสนล้านบาท ชี้น้ำมัน -ค่าบาทตัวแปรฉุด GDPไทย ขณะที่สมาคมรถบรรทุกภาคอีสานขึ้นค่าขนส่งสินค้า 20%

วานนี้(18 เม.ย.)ผู้ค้ำน้ำมันรายใหญ่ในประเทศทุกรายยกเว้น บมจ.ปตท.ได้ปรับราคาขายปลีกน้ำมันขึ้นอีกลิตรละ 40 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.นี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันในไทยทุกผลิตภัณฑ์ทำสิถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยราคาในเขต กทม./ปริมณฑล เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ราคา 28.34 บาท/ลิตร เบนซิน 91 ราคา 27.54 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 26.84 บาท/ลิตร และดีเซล 26.69 บาท/ลิตร และแนวโน้มยังคงมีโอกาสปรับขึ้นอีกเพราะค่าการตลาดของผู้ค้ายังคงต่ำ

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.กล่าวว่า ปตท.ยังไม่ปรับราคาขายปลีกขึ้นและจะขอดูทิศทางตลาดโลกวันต่อวัน ส่วนกรณีครม.จะให้ ปตท.ลดราคาน้ำมันให้ ขสมก.,บขส. เป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยตรึงราคาค่าโดยสาร คงจะต้องขอศึกษารายละเอียดว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด

แหล่งข่าวจากปตท.ยอมรับว่า วันนี้ ปตท.อาจจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันให้เท่ากับรายอื่นๆ หากราคาสิงคโปร์ปิดตลาด วันที่ 19 เม.ย.ปรับเพิ่มขึ้นอีก

**อิหร่านตัวแปรไทยเจอวิกฤติน้ำมัน

นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อภาวะราคาน้ำมัน คือ การขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสหรัฐอเมริกา กับอิหร่าน กรณีโครงการผลิตนิวเคลียร์ ซึ่งหากแต่ละฝ่ายยังมีท่าทีแข็งกร้าว ก็ยังคงมีผลให้ราคาน้ำมันแกว่งตัวในระดับสูง เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรมากขึ้น และหากระยะยาวไม่สามารถยุติได้และนำไปสู่ความรุนแรงก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นมาก

"อิหร่านผลิตน้ำมันดิบ 8 ล้านบาร์เรลต่อวัน รองจากซาอุดิอาระเบีย แต่สำคัญกว่านั้นคืออิหร่านควบคุมการเดินเรือในแถบประเทศตะวันออกกลางทั้งคูเวต ดูไบ อาร์บูดาบี ฯลฯ หากเกิดขัดแย้งรุนแรงก็จะมีผลถึงขั้นปิดอ่าวเปอร์เซีย การขนส่งน้ำมันในภูมิภาคนี้จะกระทบอย่างมาก ซึ่งท้ายสุดก็จะส่งผลให้ราคาสูงขึ้นมากและปัจจัยดังกล่าวไทยเองก็คงจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นแผนที่จะรองรับก็จะเร่งการใช้ก๊าซธรรมชาติให้ครอบคลุมทุกภาค ทั้งอุตสาหกรรม การขนส่ง รวมไปถึงการพึ่งพิงพลังงานทดแทน"นายเมตตา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ นายวิเศษ จูภิบาล รักษาการรมว.พลังงาน ได้เตรียมที่จะเรียกโรงกลั่นเข้าหารือเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงระยะยาว แต่ปรากฏว่าได้แจ้งเลื่อนออกไป เนื่องจากจะหารือรอบเดียวกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ในวันที่ 21 เม.ย.นี้

**จับตาน้ำมัน-ค่าบาทฉุด GDP

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาสู่ระดับ 37-38 บาท ต่อเหรียญสหรัฐ จะมีผลกระทบต่อการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงการส่งออกถึง 60 % ของ GDP เมื่อบาทแข็งค่าจะทำให้รายได้ที่กลับมาเป็นเงินบาทลดลง ขณะเดียวกันยังคงมีปัญหาดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นสูงซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะไปกระทบต่อการบริโภคของประชาชนต่อสินค้าภาคอุตสาหกรรม แต่ในส่วนของต้นทุนอุตสาหกรรมแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก

"GDP ปีนี้ที่ระดับ 4.5-5.5 % ก็น่าจะเป็นไปได้แต่ก็ยอมรับว่าน่าคงเหนื่อยหน่อยเพราะยังเรื่องของราคาน้ำมันที่ยังคงสูงต่อเนื่องยังคงน่าจับตามองเพราะหากสูงขึ้นก็จะมีผลกระทบต่อ GDP ได้อีก"

ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)พบว่า ราคาน้ำมันและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังคงเป็นประเด็นท้าทายที่น่าจับตามองในปี 2549 โดยจากการประมาณการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม(GDP ภาคอุตสาหกรรม)เดิมคาดว่าจะโตที่ 6 % จากปี 2548 ที่อยุ่ที่ระดับ 5.5 % ลดลงเหลือ 5.9 % อย่างไรก็ตามหากการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในครึ่งปีหลังไม่ฟื้นตัว ก็จะทำให้การเติบโตมีโอกาสลดลงจากระดับดังกล่าว

**น้ำมันฉุดอุตฯเติบโตลด 1.25 แสนล้าน

สำหรับราคาน้ำมันที่ปรับที่ปรับเพิ่มขึ้น 10 % จะมีผลกระทบต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.1%หรือคิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งจากการพิจารณาราคาน้ำมันในไตรมาสแรกของปีนี้ เทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา พบว่าราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นสูงถึง 50 % หรือสูงขึ้นมา 5 เท่า ก็จะทำให้มีผลกระทบต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นมูลค่าลดลงไปแล้วถึง 125,000 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุก 1 % จะกระทบให้การเติบโตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.12 %

นางอรรชกา บริมเบิล ผู้อำนวยการ สศอ.กล่าวยอมรับว่า น้ำมัน ค่าเงินบาท และดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจะกระทบกับต้นทุนภาคอุตสาหกรรมรวมให้สูงขึ้น โดยในไตรมาสแรกปีนี้คาดว่า GDP ภาคอุตสาหกรรมจะเติบโต 6.1 % ซึ่งเป็นผลจากคำสั่งซื้อในปลายปีที่ผ่านมาที่เติบโตเพิ่มขึ้น และคาดว่าการเติบโตในไตรมาส 2 ปีนี้จะลดลงเหลือ 5.1 %

**ส.รถบรรทุกอีสานขึ้นค่าขนส่ง 20 %

นายปราโมทย์ กงทอง นายกสมาคมรถบรรทุกสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้าภาคอีสานได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องทนแบกรับภาระขาดทุนมานานหลายเดือนแล้ว ดังนั้น ทางสมาคมฯ จึงมีมติร่วมกันกำหนดข้อเรียกร้องให้ผู้ว่าจ้างปรับอัตราค่าขนส่งสินค้าขึ้นอีก 20 %

โดยอัตราค่าขนส่งที่ปรับขึ้นนั้นแบ่งเป็น ค่าขนส่งสินค้าเหมาเที่ยวปรับเพิ่มขึ้น 20 % ของอัตราเดิม,ค่าขนส่งสินค้าบรรทุกตามน้ำหนัก ระยะทางการขนส่งเกิน 200 กม.ขึ้นไป ปรับขึ้นกิโลเมตร (กม.)ละ 1-1.50 บาท/ตัน จากเดิมอัตรา กม.ละ 1.20-1.50 บาท/ตัน และระยะทางการขนส่งไม่เกิน 200 กม.ปรับขึ้น 1.50-1.70 บาท/ตัน โดยมีให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ขอให้ภาครัฐหยุดนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันเป็นการชั่วคราว ซึ่งปัจจุบันเก็บอยู่ที่ประมาณ 25.0 บาท/ลิตร เพื่อให้น้ำมันดีเซลมีราคาต่ำลง จนกว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีการปรับลดราคาลง

**เรือด่วน-เรือข้ามฟากขอปรับค่าโดยสาร

นายถวัลรัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า วานนี้ ผู้ประกอบการเรือโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา เรือด่วนคลองแสนแสบ และเรือข้ามฟากทุกประเภทได้ยื่นข้อเสนอขอปรับค่าโดยสารอีก 1 บาท จากผลกระทบราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระไหว รวมถึงข้อเสนอขอให้รัฐบาลมาชดเชยภาระค่าโดยสารในส่วนของต้นทุนน้ำมัน หากรัฐบาลต้องการตรึงค่าโดยสารไว้ต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการเรือโดยสารทั้งหมดจะเข้าพบและหารือกับตน เวลา 10.00 น.วันที่ 20 เม.ย.นี้

พลเอกชัยนันท์ เจริญศิริ รักษาการ รมช.คมนาคม กล่าวว่า จากนโยบายของ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รักษาการ รมว.คมนาคม ที่เปิดทางให้มีการพิจารณาปรับค่าโดยสารรถร่วมฯ ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)ได้ ซึ่งในหลักการจะมีการพิจารณาเรื่องค่าโดยสารอีกครั้งเมื่อราคาน้ำมันปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับเกิน 27 บาท ต่อลิตร หรือมีระยะห่างประมาณ 3 บาทต่อลิตร จากการอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุด และจะให้ขึ้นได้ไม่เกิน 3 สต.ต่อกม.ไม่ใช่ 9 สต.ต่อกม.ตามที่ผู้ประกอบการเสนอมา แต่ทั้งนี้การพิจารณาทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ซึ่งอธิบดีกรมการขนส่งทางบกจะเป็นผู้เสนอและตามเหตุผลภาวะในขณะนั้น

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการและรักษาการผู้จัดการใหญ่ บขส.กล่าวว่า หากคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางอนุมัติให้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารได้ จะมีผลถึงรถของ บขส.ด้วยเพราะถือเป็นข้อกฎหมาย แต่บขส.ก็สามารถพิจารณาได้ว่าจะปรับขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะต้องดูผลกระทบกับประชาชนด้วย

ทั้งนี้ กรณีที่รัฐบาลจะเจรจากับปตท.เพื่อปรับลดราคาน้ำมันที่ขายให้กับผู้ประกอบการขนส่งจะช่วยทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลงแน่นอน ซึ่งปัจจุบันรถของ บขส.มีประมาณ 900 กว่าคัน ใช้น้ำมันประมาณ 50 ล้านลิตรต่อปี โดยได้ส่วนลดจากปตท.จากสถานีต้นทางประมาณ 50 สต.ต่อลิตร ปลายทางได้ส่วนลดประมาณ 20 สต.ต่อลิตร อยู่แล้ว

**น้ำมันโลกพุ่งเหนือระดับ $72

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อคืนนี้(18เม.ย.) โดยในตลาดลอนดอน ราคาทะลุเหนือระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ของนิวยอร์ก ราคาก็วิ่งเกือบถึงหลัก 71 ดอลลาร์

ระหว่างการซื้อขายในตอนเช้าของลอนดอน วานนี้ (ตรงกับเวลาเย็นในเมืองไทย)สัญญาล่วงหน้าของน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ มีช่วงหนึ่งไต่ไปถึง 72.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของน้ำมันดิบจากทะเลเหนือชนิดนี้

ส่วนสัญญาล่วงหน้าของน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด (หรือบางทีเรียกว่า ไลต์ครูด,เวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต) ของตลาดไนเม็กซ์ ในนิวยอร์ก ซึ่งซื้อขายกันด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อนตลาดจริงๆ เปิด ก็มีช่วงหนึ่งวิ่งไปถึง 70.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ 70.85 ดอลลาร์ ซึ่งทำไว้ในวันที่ 30 สิงหาคมปีที่แล้ว ตอนที่พายุเฮอริเคน แคทรีนา สำแดงอิทธิฤทธิ์ถล่มแหล่งขุดเจาะและกลั่นน้ำมันสำคัญแถบชายฝั่งเม็กซิโกของสหรัฐฯ

ถึงแม้หลังจากทะยานขึ้นทำสถิติแล้ว ราคาน้ำมันดิบสำคัญทั้ง 2 ชนิดก็ได้ถอยลงมาบ้าง แต่นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ยังมีโอกาสมากที่มันจะขึ้นไปทดสอบทำสถิติใหม่กันอีกหลายรอบ

เนื่องเพราะสาเหตุสำคัญซึ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งแรงวานนี้ มาจากการที่ตลาดเล่นกับข่าวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน ในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของฝ่ายหลัง โดยที่มีการกระพือข่าวในแง่ความเป็นไปได้ที่อาจลามปามกลายเป็นความขัดแย้งทางการทหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น