"ไกรศักดิ์-อดีตฑูตไทย"รุมอัด “ทักษิณ”ล็อบบี้ฑูตอังกฤษขอพบแบลร์ เป็นพวกสับสนในตัวเองว่าเป็นหรือไม่เป็นนายกฯ จวกทำให้ฑูตอึดอัดสับสนว่า “ทักษิณหรือชิดชัย”เป็นผู้นำกันแน่ พร้อมสอนมวยทำอะไรต้องนึกถึงหน้าตาประเทศ
วานนี้ (12 เม.ย.) นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการ ส.ว.นครราชสีมา และประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา กล่าวกรณีที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่าสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กำลังพิจารณาคำขอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการจะพบปะกับนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ ของอังกฤษ ในระหว่างที่จะเดินทางไปพักผ่อนที่อังกฤษ ว่า หากเป็นเช่นนี้จริงถือเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาตลอดไม่เคยมีความจริงแม้แต่เรื่องเดียว เป็นการแสดงให้รู้ว่าตัวเขาเองยังไม่เข้าใจว่าภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเว้นวรรค อำนาจในการบริหารประเทศของเขาได้หมดสิ้นลงแล้ว ดังนั้นการเรียกฑูตเข้าเรียกไปเพื่อล็อบบี้ขอเข้าพบผู้นำประเทศจึงเป็นเรื่องที่น่าเกลียด และหากเป็นการล็อบบี้เรื่องโครงการเมกกะโปรเจคต์ตามที่มีกระแสข่าวออกมานั้นยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
“คิดว่าฑูตที่ถูกเรียกเข้าพบต้องปฏิเสธว่าไม่ให้คุณทักษิณเข้าพบผู้นำเขาได้ ซึ่งอันดับแรกฑูตก็ต้องบอกว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทักษิณพูด แต่ต่อมาเขาก็จะปฎิเสธอย่างสิ้นเชิง คุณทักษิณต้อทำความเข้าใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นนายกฯแล้ว จึงไม่สามารถตัดสินใจอะไรที่เป็็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณประเทศได้ โดยเฉพาะในช่วงของการเลือกตั้งที่ยังไม่เสร็จสิ้นเช่นนี้ตัวเขาเองต้องไม่ควรทำอะไรเลย และผมว่างานนี้คุณทักษิณคงต้องกลับไปพิจารณาตัวเองก่อนที่จะแสดที่อะไรออกมา”
ด้าน นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่าในเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าตัวเองถอยแล้ว ดังนั้น การกระทำเช่นนี้มันหมายความว่าอะไรที่มาทำตัวเป็นผู้นำประเทศเช่นนี้ ทั้งๆที่ได้ประกาศเว้นวรรคไปแล้ว รวมทั้งยังได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นรักษาการนายกฯแล้ว เพราะหากตัวเองวางมือจากการเมืองก็ไม่ควรที่จะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับนโยบายประเทศทั้งสิ้น
"การกระทำแบบนี้ยิ่งจะสร้างความอึดอัดให้กับฑูตประเทศต่างๆและสร้างความสับสนว่าเขาควรจะคุยกับใครกันแน่ โดยเฉพาะฑูตไทยที่ประจำอังกฤษก็จะยิ่งงงว่าเขาควรจะต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในบทบาทอะไร ในฐานะมาพักผ่อนหรือเจรจาเรื่องการเมือง ทางที่ดี พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะมองถึงเรื่องความเหมาะสมว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหน ซึ่งเรื่องนี้แต่ละคนจะต้องวิจารณญาณในการคิดเองเองว่าเหมาะสมหรือไม่"
วานนี้ (12 เม.ย.) นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการ ส.ว.นครราชสีมา และประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา กล่าวกรณีที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่าสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กำลังพิจารณาคำขอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการจะพบปะกับนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ ของอังกฤษ ในระหว่างที่จะเดินทางไปพักผ่อนที่อังกฤษ ว่า หากเป็นเช่นนี้จริงถือเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาตลอดไม่เคยมีความจริงแม้แต่เรื่องเดียว เป็นการแสดงให้รู้ว่าตัวเขาเองยังไม่เข้าใจว่าภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเว้นวรรค อำนาจในการบริหารประเทศของเขาได้หมดสิ้นลงแล้ว ดังนั้นการเรียกฑูตเข้าเรียกไปเพื่อล็อบบี้ขอเข้าพบผู้นำประเทศจึงเป็นเรื่องที่น่าเกลียด และหากเป็นการล็อบบี้เรื่องโครงการเมกกะโปรเจคต์ตามที่มีกระแสข่าวออกมานั้นยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
“คิดว่าฑูตที่ถูกเรียกเข้าพบต้องปฏิเสธว่าไม่ให้คุณทักษิณเข้าพบผู้นำเขาได้ ซึ่งอันดับแรกฑูตก็ต้องบอกว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทักษิณพูด แต่ต่อมาเขาก็จะปฎิเสธอย่างสิ้นเชิง คุณทักษิณต้อทำความเข้าใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นนายกฯแล้ว จึงไม่สามารถตัดสินใจอะไรที่เป็็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณประเทศได้ โดยเฉพาะในช่วงของการเลือกตั้งที่ยังไม่เสร็จสิ้นเช่นนี้ตัวเขาเองต้องไม่ควรทำอะไรเลย และผมว่างานนี้คุณทักษิณคงต้องกลับไปพิจารณาตัวเองก่อนที่จะแสดที่อะไรออกมา”
ด้าน นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่าในเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าตัวเองถอยแล้ว ดังนั้น การกระทำเช่นนี้มันหมายความว่าอะไรที่มาทำตัวเป็นผู้นำประเทศเช่นนี้ ทั้งๆที่ได้ประกาศเว้นวรรคไปแล้ว รวมทั้งยังได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นรักษาการนายกฯแล้ว เพราะหากตัวเองวางมือจากการเมืองก็ไม่ควรที่จะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับนโยบายประเทศทั้งสิ้น
"การกระทำแบบนี้ยิ่งจะสร้างความอึดอัดให้กับฑูตประเทศต่างๆและสร้างความสับสนว่าเขาควรจะคุยกับใครกันแน่ โดยเฉพาะฑูตไทยที่ประจำอังกฤษก็จะยิ่งงงว่าเขาควรจะต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในบทบาทอะไร ในฐานะมาพักผ่อนหรือเจรจาเรื่องการเมือง ทางที่ดี พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะมองถึงเรื่องความเหมาะสมว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหน ซึ่งเรื่องนี้แต่ละคนจะต้องวิจารณญาณในการคิดเองเองว่าเหมาะสมหรือไม่"