xs
xsm
sm
md
lg

ศาลออกหมายจับ"เป๊าะ" เผ่นไปนอก2เดือนแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลจังหวัดชลบุรี ออกมาหมายจับ"กำนันเป๊าะ"หลังไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา หลังจากขอผัดผ่อนมา 2 ครั้ง อ้างเจ็บหนัก ด้าน"จงรัก"ผบช.ภาค2 ขนเจ้าหน้าที่ครึ่งร้อยบุกรังที่แสนสุข แต่คว้าน้ำเหลว ภรรยาแจงหายตัวไปนานกว่า 7 วัน ขณะที่มีกระแสลือสะพัด"เป๊าะ"เผ่นไปต่างประเทศร่วม 2 เดือนแล้ว

วานนี้( 7 เม.ย.)นางรุ่งรัตน์ วิจิตรจงกล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชลบุรี พร้อมนายอนุรัตน์ ฤกษ์วิชานันท์ องค์คณะผู้พิพากษา ได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษา คดีการจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะของเมืองพัทยาจำนวน 140 ไร่ มูลค่า 93 ล้านบาท โดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 2295/2540 คดีหมายเลขแดงที่ 843/2546 อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย คุณปลื้ม เป็นจำเลยที่ 1 นายศิวดล สุคนธสิทธิ์ จำเลยที่ 2 นายวินัย สมทรัพย์ จำเลยที่ 3 นายวิริยะ บุญกูล จำเลยที่ 4 และนายประเสริฐ ภู่พงษ์ จำเลยที่ 5

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนตามศาลขั้นต้นให้ นายสมชาย จำคุก 5 ปี 4 เดือน ในข้อหาทำการทุจริตการจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะของเมืองพัทยา ซึ่งวานนี้(7 เม.ย.) เป็นวันนัดฟังคำพิพากษา หลังเลื่อนอ่านคำพิพากษามาแล้ว 2 ครั้ง คือ วันที่ 23 มี.ค. และ โดยพบว่า โจทก์ จำเลย ที่ 3 จำเลยที่ 4 ทนายจำเลยที่ 1 ทนายจำเลยที่ 3 ทนายจำเลยที่ 4 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่มา

ผู้สื่อข่างรายงานว่า ก่อนการอ่านคำพิพากษา ทนายจำเลยที่ 1 ได้มีการยื่นคำร้องของศาลพิจารณาใหม่ เนื่องจากมีหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี ว่ามีหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าว เนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2535 นายอนุพงษ์ อุดมรัตนกูลชัย เป็นนายกเมืองพัทยา ในขณะนั้นนายวิทยา คุณานุกรกุล ปลัดเมืองพัทยา นายวิริยะ บุญกูล เป็นหัวหน้างานนิติกรรม ระดับ 6 ได้ รับแต่งตั้งจาก นายวิทยา คุณานุกรกุล ให้เป็นกรรมการจัดการซื้อที่ดิน ใช้เป็นที่ทิ้งขยะเมืองพัทยาโดยใช้วิธีพิเศษ มีนายประเสริฐ ภู่พงษ์ รับราชการประจำสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง ในตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดชลบุรี (สาขา) ระดับ 7 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจรับที่ดินทิ้งขยะเมืองพัทยาจำนวน 140 ไร่

ในส่วนของนายวิทยา ในฐานะผู้ที่เข้ามาจัดซื้อที่ดินดังกล่าว ยังไม่ได้มีฟ้องร้องและดำเนินคดี ซึ่งส่วนนี้ถือว่าพยานสำคัญส่วนหนึ่งของคดี จึงได้อ้างบัญชีพยานเพิ่มเติมให้ขอศาลฎีกา พิจารณาคดีใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการรอคำตอบในการพิจารณาของศาลฎีกา เมื่อศาลอ่านคำสั่งศาลฎีกาให้ทนายจำเลยที่ 1 ฟังแล้ว ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เหตุผลที่ขอสืบพยานเพิ่มเติมตามคำร้อง ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ จึงยกคำร้องดังกล่าว

นอกจากนี้ ทนายยังได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เนื่องจากจำเลยที่ 1 ป่วย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลได้กำชับในนัดที่แล้ว หากจำเลยคนใดไม่มาศาล ถือว่ามีเจตนาหลบหนี การที่จำเลยที่ 1 (นายสมชาย คุณปลื้ม) ยื่นคำร้องอ้างเหตุว่าป่วยอีก ถือว่าจำเลยที่ 1 มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา มีเจตนาหลบหนี ไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 เลื่อนคดี ยกคำร้อง พร้อมออกหมายจับจำเลยที่ 1 ปรับนายประกันตามสัญญา ให้นายประกันชำระค่าปรับภายใน 15 วัน เลื่อนไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 10 พ.ค. เวลา 9.00 น.

สำหรับคดีนี้ ที่ผ่านมาทางศาลอนุญาตให้นายสมชาย คุณปลื้ม จำเลยที่ 1 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยตีราคาประกัน ทั้งในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ 1,000,000 บาท โดยจำเลยที่ 1 ได้ใช้ที่ดินเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลได้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปในวันที่ 10 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยพล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า หลังจากที่ศาลได้ออกหมายจับ นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ตามหมายจับเลขที่ 114/49 คดีแดง เลขที่ 843/46 คดีดำ เลขที่ 2295 /40 เนื่องจากมีเจตนาหลบหนีการรับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 50 นายไปตรวจค้นที่บ้านแสนสุข เลขที่ 3 ซอย 8 ถนนบางแสนล่าง ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อจับกุมตัวนายสมชาย แต่ไม่พบแต่อย่างใด มีเพียงนางสติล คุณปลื้ม ภรรยานายสมชาย ออกมาต้อนรับ โดยใช้เวลาตรวจค้นและสอบสวน โดยใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง

พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า การมาตรวจค้นในครั้งนี้ เพื่อจับกุมนายสมชาย เนื่องจากการพิจารณาศาลฎีกาในครั้งนี้ผ่านมา แพทย์ที่ทำการรักษาตัว ได้ยืนยันว่านายสมชาย นอนป่วยอยู่ที่บ้านหลังนี้ จึงได้เดินทางมาดู เพื่อนำตัวไปส่งศาล แต่เมื่อตรวจค้นแล้วไปพบ โดยได้รับแจ้งว่า ได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปแล้ว 7 วัน โดยไม่ทราบว่าไปไหน

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะต้องส่งสำเนาหมายจับไปยังจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องกำชับเป็นพิเศษ นอกจากนั้นต้องประสานไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อดูเส้นทางการเข้าออก และหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวกันต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวลือว่า นายสมชายได้ เดินทางออกนอกไปประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.พร้อมคนใกล้ชิด โดยเส้นทางที่เดินทางออกนอกประเทศ คือ ผ่านชายแดนไทย-กัมพุชา ด้านจ.ตราด เข้าไปที่เกาะกง และจากนั้นเดินทางต่อไปที่ประเทศอังกฤษ

อนึ่ง คดีดังกล่าวศาลขั้นต้นได้ พิพากษาตัดสินจำเลยที่ 1 มีความผิด ฐานติดสินบนแก่เจ้าพนักงาน สนับสนุนให้เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งทุจริต ตัดสินจำคุก 5 ปี 4 เดือน หลังจากนั้นจำเลยได้ ยื่นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ก็ได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น จากนั้นจำเลยก็ได้ยื่นฎีกาต่อ และเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ศาลจังหวัดชลบุรี นัดอ่านคำพิพากษา และมีคำสั่งเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ไปเป็นวันที่ 23 มี.ค.เนื่องจากจำเลยขอเลื่อน เนื่องจากจำเลยป่วยไม่สามารถมาฟังการอ่านคำพิพากษาได้ และวันที่ 23 มี.ค.จำเลยที่ 1 และ 3 ขอเลื่อนการอ่านอีกครั้ง เนื่องจากจำเลยป่วย ซึ่งในครั้งนี้ศาลได้กำชับว่าในครั้งต่อไปคือ วันที่ 7 เม.ย.จำเลยทั้งหมดจะต้องมาฟังการอ่านคำพิพากษาให้ได้ ไม่เช่นจะถือว่ามีเจตนาหลบหนี้ และวันที่ 29 มี.ค.ทนายจำเลยที่ 1 ได้ ยื่นคำร้องว่าจำเลยที่ 1 ขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ขอสืบพยานเพิ่มเติมในชั้นฎีกา
กำลังโหลดความคิดเห็น