xs
xsm
sm
md
lg

รัฐทุ่มงบ 15 ล้านคุมสื่อฉีกมติ ครม.ซื้ออาวุธ-ฮ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ครม.จ้องจัดระเบียบสื่อทุกประเภท ทุ่มงบฉุกเฉิน 15 ล้านบาท โดยใช้กระทรวงวัฒนธรรมตามบี้ออกกฎควบคุม อ้างเพื่อจัดระดับความเหมาะสม ขณะเดียวกัน ครม.เอาใจกองทัพ ยอมฉีก มติ ครม.ควักกว่า 2 พันล้านบาท ซื้อปืนใหญ่-เฮลิคอปเตอร์ มือสองจากสหรัฐ ทั้งที่ทำผิดสัญญาส่งมอบไม่ครบ

น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่าที่ประชุมได้อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำปี 2549 จำนวน 15 ล้านบาท เพื่อใช้โครงการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อ ( rating) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาปรับแผนพิจารณาปรับแผนการปฎิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2549 ที่ได้รับการทบทวนโครงการ / รายการ ที่มีความสำคัญในลำดับต่ำ หรือพิจารณาใช้จากเงินเหลือจ่ายไปดผู้จัดการรายวัน ำหรับรายละเอียดโครงการจัดทำระดับความเหมาะสมของสื่อทุกประเภทนั้น ระบุว่า 1. เพื่อเป็นการแก้ไข และป้องกันปัญหาการนำเสนอและเผยแพร่สื่อที่ไม่เหมาะไม่สม สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ดีงามในมิติทางวัฒนธรรมที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ 2.เพื่อให้เกิดระบบและกลไกการบริหารจัดการสื่อทุกประเภทอย่างมีประสิทธิภาพ 3. เพื่อนำระบบกลไกการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อทุกประเภทมาใช้ในสังคมไทย

4.เพื่อรณรงค์เผยแพร่องค์ความรู้และพัฒนาเครือข่ายให้มีส่วนร่วมและมีความรู้ความเข้าใจในการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อทุกประเภท ทุกภาคส่วนในสังคม 5. เพื่อให้เกิดมาตรการ และมาตรฐานในการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อ ทุกประเภทให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับวุฒิภาวะ และวิจารณญาณของผู้บริโภคสื่อ เป็นกฎระเบียบบังคับใช้ในสังคมต่อไป และ 6. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการผลิตสื่อทั้งในและต่างประเทศได้ผลิตสื่อที่สร้างสรรค์ สังคม สอดคล้องกับวุฒิภาวะ และวิจารณญาณของผู้บริโภคสื่อตามระเบียบกฎเกณฑ์ในสังคม

ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรมคาดว่า ผลที่ได้รับของโครงการนี้คือ จะมีกฎหมายว่า ด้วยการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อทุกประเภทที่ใช้ในสังคมไทย รวมทั้งปัญหาสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการเผยแพร่สื่อที่ไม่เหมาะสมลดน้อยลง

ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์ เพื่อการปฎิรูปสื่อ ตั้งข้อสังเกตการจัดทำโครงการจัดทำระดับความเหมาะสมของสื่อของทุกประเภทของรัฐบาลในช่วงนี้ว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ของรัฐบาล ต้องมองข้ามช๊อตไปถึงหลังการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย. เนื่องจากรัฐบาลรู้ว่าจะต้องเจอกับศึกหนักที่จะต้องต่อสู้ทางความคิดของสื่อมวลชนที่ไม่สามารถสกัดกั้น หรือคุมสื่อได้ แต่ทั้งนี้เพื่อให้ดูดี จึงมีโครงการผ่านกระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นไปในเรื่องของศีลธรรม จริยธรรมฉายภาพของสื่อให้มองไปสู่การมอมเมา บริโภค และความรุนแรง แต่เนื้อแท้ คือการควบคุมการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง

“ปรากฎการณ์ การชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ที่ผ่านมี มีกระแสงิ้วกู้ชาติ ดาราเข้าร่วม หรือต่อไปในอนาคตจะมีการนำละครทางการเมืองที่แฝงเข้าไปในทีวี หรือสื่อต่างๆ เพิ่มมากขึ้น กระแสการตื่นตัวทางการเมืองเหล่านี้ เปิดพื้นที่เหล่านี้สู่สังคมมากขึ้น จะเป็นอันตรายต่อรัฐ ถือเป็นการเปลี่ยนมิติ ของดารา นักแสดง ที่ถือเป็นผู้นำ เริ่มออกมาแสดงตัวกันมากขึ้น วันนี้ต้องถือว่าศิลปบันเทิงมีมิติใหม่ เมื่อภาคศิลปะขยับตัวเผยแพร่ รัฐจะเผชิญกับการสั่นคลอน เพราะสื่อวัฒนธรรมมันเข้าถึงจิตใจผู้คน และเป็นสื่อที่รัฐบาลกลัวมากที่สุด

เอาใจทหารทุ่มกว่า 2 พันล้านซื้อ ฮ.-ปืนใหญ่

นายดนุพร ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีอนุมัติให้กองทัพบกลงนามตอบรับในสัญญาการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี จำนวน 6 เครื่อง ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมทั้งให้ยกเว้นการดำเนินการค้าแบบแลกเปลี่ยน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,053 ล้านบาท

ส่วนเหตุที่ ครม.อนุมัติยกเว้นการค้าแบบแลกเปลี่ยน เนื่องจากเป็นการจัดหาในลักษณะช่วยเหลือทางทหารที่ไม่ได้ดำเนินการในลักษณะการค้ากำไร ซึ่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 6 เครื่อง เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ซึ่งสหรัฐฯ ซ่อมแซมและสามารถยืดอายุการใช้งานของเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวได้อย่างน้อย 15 ปี ซึ่งเป็นวงเงินประมาณ 1,013 ล้านบาทเศษ ถ้ารวมการขนส่งอีกประมาณ 40 ล้าน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,053 ล้านบาทเศษ

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การอนุมัติงบดังกล่าว ไม่ได้เป็นไปตาม ที่ ครม.เคยมีมติ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2548 ที่ให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร ์โจมตีจำนวน 7 เครื่อง ระยะดำเนินการ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2548-2550 โดยกองทัพบกขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ ซึ่งสำนักงบประมาณพิจารณาแล้วเห็นชอบให้กองทัพบกดำเนินการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบบ 1 จำนวน 7 เครื่อง โดยจัดซื้อวิธี FMS (Foreign Military Sale) จากประเทศสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ทางกองทัพบกได้รายงานให้ ครม.ว่าเหตุที่ต้องซื้อเครื่องบินไม่ตรงกับมติ ครม.นั้น เป็นเพราะ ทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ส่งสัญญาการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ โจมตี รหัส TH-B-IAJ ให้กองทัพบกพิจารณาลงนามตอบรับ โดยสัญญาดังกล่าวระบุ จำนวนเฮลิคอปเตอร์โจมตีไว้เพียง 6 เครื่องซึ่งทางสหรัฐอเมริกาได้ชี้แจงว่า รัฐสภาสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติเฮลิคอปเตอร์โจมตีดังกล่าวให้กับกองทัพบก จำนวน 6 เครื่อง และจะอนุมัติเฮลิคอปเตอร์โจมตีเพิ่มเติมให้กับกองทัพบกอีกจำนวน 2 เครื่อง

สำหรับซ่อมปรับปรุงเพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจ 2 เครื่อง และเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ 1เครื่อง ภายหลังจากการลงนามแก้ไขข้อตกลงที่ 505 (505 Agreement หรือ Third Party Transfer Agreement) ซึ่งอยุ่ในระหว่างการพิจารณา ดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาและกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยเมื่อได้รับอนุมัติแล้วจะมีการแก้ไขสัญญาให้กับกองทัพบกต่อไป

นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาปืนใหญ่อัตราจร 6 กระบอก ในวงเงิน 1,305 ล้านบาทเศษ พร้อมการฝึก คู่มือทางเทคนิค ชิ้นส่วนซ่อม ควบคู่กับการซ่อมบำรุง ซึ่งใช้งบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2548-2550 โดยให้เหตุผลของการจัดซื้อว่าเพื่อความสอดคล้องกับแผนการพัฒนากองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นหน่วยทหารราบยานเกราะที่กองทัพบกกำหนดให้เป็นหน่วยเป้าหมาย ในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ รวมทั้งสอดคล้องกับหลักนิยมการรบสมัยใหม่ที่ต้องการความคล่องแคล้วในการเคลื่อนย้าย และมีอำนาจการยิงไกล มีความแม่นยำ มีอำนาจการทำลายสูง และเพื่อเพิ่มความลึกให้กับสนามรบ และสร้างความได้เปรียบให้กับหน่วยดำเนินกลยุทธ์ที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่การรบในระยะใกล้ อีกทั้งโครงการดังกล่าวบรรจุไว้ในแผนความต้องการจัดหาและซ่อมแซมอาวุธยุทธโธปกรณ์ เป็นภาพรวมของกระทรวงกลาโหม

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมครม. ยังได้ พิจารณาเรื่องที่กระทรวงกลาโหม ได้เสนอให้ขอครม.อนุมัติให้กองทัพบกเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหาเครื่องบินแบบใช้งานทั่วไป จำนวน 2 เครื่อง วงเงิน 1 ร้อยล้านบาท ให้ระบะเวลาดำเนิการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2548-2550 เพื่อสนับสนุนการเดินทางทางอากาศให้กับผู้บังคับบัญชาชั้นสูงและบุคคลสำคัญในระดับรัฐบาลในการเดินทางไปตรวจราชการที่สำคัญ โดยเฉพาะภารกิจการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนใต้ และภารกิจในการปฏิบัติการ และการส่งกลับผู้เจ็บป่วยจากการปฏิบัติหน้าที่มารักษาพยาบาลในพื้นที่ส่วนหลัง แต่ที่ประชุมครม.ไม่เห็นชอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น