"แม้ว" ถือฤกษ์ 09.19 น.ย่องเข้าทำเนียบฯ ช่วงที่กลุ่มพันธมิตรเดินขบวนไปที่กระทรวงการคลัง สั่งปลดผ้าขาวล้อมทำเนียบฯออก ท่ามกลางฝูงอีกาบินว่อนร้องขับไล่ระงม พร้อมเผ่นไปตั้งหลักที่ทำการพรรคทันทีที่ทราบข่าวกลุ่มพันธมิตรยกขบวนกลับมา ด้าน"หญิงอ้อ" นิมนต์พระเกจิ จากศรีสะเกษ มาทำพิธีเปิดศาลพระภูมิใหม่หน้าที่ทำการพรรค ก่อนหอบหิ้วกันไปเยี่ยม"บรรหาร"และ"สมคิด"ที่รพ.รามาฯ แต่ยังไม่วายกร่างใส่ผู้อำนวยการ จวกไม่รู้จักดูแลลูกน้องปล่อยให้ไปร่วมกับม็อบ ลูกหาบ ทรท.ลุยฟ้อง "สนธิ" ฉุนแทนนายเรื่องถูกกล่าวหาว่างมงายไสยศาสตร์
เมื่อเวลา 09.09 น.วานนี้ (23มี.ค.)พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า และเดินทางเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก ในเวลา 09.19 น.ทันที โดยที่ไม่มีสัญญาณล่วงหน้าให้สื่อมวลชนรับทราบ โดยขบวนของนายกรัฐมนตรีเข้าทำเนียบรัฐบาลในเส้นทางสะพานซังฮี้-ถนนราชวิถี-ถนนพระราม 5-ถนนพิษณุโลก ข้ามสะพานชมัยมรุเชฐ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกรั้วเหล็กออกเพื่อเปิดทางให้ขบวนของนายกรัฐมนตรีเข้าทำเนียบฯ ได้อย่างง่ายดาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะถึงทำเนียบรัฐบาลเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เร่งปลดผ้าสีขาวที่กลุ่มพลังสีขาว ที่เขียนข้อความให้กำลังใจ พ.ต.ท .ทักษิณ ออกหมด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ติดตั้งป้ายเคาน์ดาวน์ นับถอยหลังการเลือกตั้งที่ติดตั้งอยู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า และเต้นท์ไปรษณีย์บัตรสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยด้วย
ทั้งนี้"เปลว สีเงิน"คอลัมนิสต์ชื่อดังเจ้าของคอลัมน์คนปลายซอยใน นสพ.ไทยโพสต์ ได้เขียนบทความสะกิดเตือนถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาลในช่วงนี้ ซึ่ง"เปลว สีเงิน" มองว่ามันแปลกมากที่มีการนำผ้าขาวมาห่มรอบทำเนียบฯ กางเต้นท์สีขาวที่ เปรียบเหมือนเมรุ ตั้งอยู่กลางสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
การเข้าทำเนียบรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ นับเป็นวันแรกหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชนยกขบวนมากดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออก ตั้งแต่วันที่เช้าวันที่ 14 มี.ค. และวันนี้แกนนำพันธมิตรได้ยกขบวนไปประท้วงที่กระทรวงการคลัง และกรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ขอให้สื่อมวลชนอย่าเข้ามาทำข่าวนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ เพราะเกรงว่าพันธมิตรจะบุกมาทำเนียบฯ หากทราบข่าวนี้
**"ทักษิณ"เย้ยเส้นตายแค่เส้นดินสอขีด
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้เวลาอยู่ที่ทำเนียบประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดเป็นเศษ ห้ามผู้สื่อข่าวขึ้นไปทำข่าวยังบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้าอย่างเด็ดขาด โดยที่ช่างภาพทำการบันทึกภาพได้แค่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ได้เท่านั้น
จากนั้นเวลา 10.45 น. นายกฯได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปที่ทำการพรรคไทยรักไทย เพื่อร่วมประชุมกับแกนนำพรรค หารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง โดยเมื่อมาถึงได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว จะเข้าทำงานทำเนียบฯอีกเมื่อใด โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อยากเข้าเมื่อไร ก็เข้า ไม่อยากเข้าก็ไม่เข้า ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้าทำเนียบฯ จะส่งผลต่อการทำงานหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะเป็นห่วงอะไร เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ เมื่อถามต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมขีดเส้นให้ลาออกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย จะเป็นห่วงอะไร เมื่อขีดเส้นตาย ก็เอาดินสอขีด ก็ไม่รุนแรงอะไร
ส่วนช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้จะยังอยู่ใน กทม.หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็ต้องทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ 24 มี.ค.จะยังคงปราศรัยที่ จ.อุดรธานี ตามกำหนดการเดิม
**รีบเผ่นจากทำเนียบฯกลัวถูกปิดล้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้มีประชาชนประมาณ 20 คน ได้มาดักรอที่ด้านนอกทำเนียบฯ บริเวณหน้าสำนักงาน ก.พ.ถนนพิษณุโลก พร้อมตะโกน"ทักษิณ ออกไป" "ทักษิณ เก็ตเอาต์"ตลอดเวลา และเมื่อขบวนรถของพ.ต.ท.ทักษิณ จะออกจากทำเนียบฯ ประชาชนกลุ่มนี้ก็มาดักตะโกนไล่ "ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ขายชาติ ทักษิณ หน้าด้าน หน้าหมา"พร้อมทั้งวิ่งมาที่ขบวนรถ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้น จนตำรวจติดตามของนายกรัฐมนตรี ที่อยู่บนรถได้หันมามองกลุ่มประชาชนที่ตะโกนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะออกจากทำเนียบฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบฯ ได้ใช้วิทยุสื่อสารรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เดินทางไปชุมนุมหน้ากระทรวงการคลัง และจะกลับมายังทำเนียบรัฐบาล อยู่ตลอดเวลา ทำให้ขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ขณะนั้นอยู่บนถนนพระราม 6 คลาดจากขบวนนายกรัฐมนตรีที่เคลื่อนผ่านไปยังแยกยมราช เพื่อขึ้นทางด่วนยมราชเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีอีกาจำนวนมากมาบินวนที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และส่งเสียงร้องเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาในทำเนียบฯ นั้นจะร้องถี่มาก จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจเป็นลางร้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ
**"หญิงอ้อ"นำทีมบวงสรวงเปิดศาลพระภูมิใหม่
สำหรับความเคลื่อนไหว ณ ที่ทำการพรรคไทยรักไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่จะมีพิธีบวงสรวงเพื่อเปิดศาลพระภูมิใหม่ของพรรคเพื่อเป็นการแก้เคล็ดนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเดิมได้มีการคาดหมายกันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จะมาเป็นประธานในการทำพิธีบวงสรวง โดยมีแกนนำพรรคมารอร่วมพิธีคับคั่ง อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายเนวิน ชิดชอบ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายไชยยศ สะสมทรัพย์ นายกันตธีร์ ศุภมงคล นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นต้น แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่หมายกำหนดการล่วงหน้า คุณหญิงพจมาน จึงรับหน้าที่ประธานแทน ซึ่งพิธีได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา เวลา 10.29 น.
สำหรับพิธีครั้งนี้ได้นิมนต์ หลวงปู่เกลี้ยง เตชะธัมโม อายุ 99 ปี จากวัดบ้านโนนแกต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มาทำพิธีให้ มีเครื่องเซ่นไหว้ประกอบด้วย ขนมหวาน 10 อย่าง เช่น ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ฝอยทอง ทองหยิบ ข้าวต้มมัด ขนมถ้วยฟู ทองเอก ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว น้ำตาลก้อน ผลไม้ 8 ชนิด ประกอบด้วย กล้วย มะละกอ แอปเปิล ส้ม ฝรั่ง สัปปะรด สาลี่ มะพร้าว นอกจากนี้ยังมีการถวายพวงมาลัยดอกมะลิ ช่อดอกไม้ 10 ช่อ ปิดท้ายด้วยคุณหญิงพจมาน เป็นผู้ผูกผ้าสามสี ที่เสาศาลพระภูมิ
ทั้งนี้ ระหว่างทำพิธี นายเนวินได้กล่าวหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่า"คุณหญิง ทำพิธีในฐานะเจ้าของตึก ส่วนแกนนำพรรคที่มาร่วมในฐานะผู้ใช้อาคาร พวกคุณมาใช้ตึกนี้ก็ควรเข้าพิธีด้วย ไม่งั้นระวังโดนของนะ คอยดูวันนี้พวกม็อบก็จะเอาประเด็นนี้ไปพูดแน่ ผมเป็นยาสามัญประจำม็อบ เพราะถูกพูดถึงตลอด ไม่เคยซา คนอื่นยังมีซาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการทำบุญ เพราะทำให้คนหัวเราะ หายเครียดได้"
ด้านนายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครส.ส.ศรีสะเกษ พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นผู้นิมนต์หลวงปู่เกลี้ยงมาทำพิธี กล่าวว่า หลวงปู่เกลี้ยง มีความเชี่ยวชาญในการตั้งศาลพระภูมิ ดูเจ้าที่ เจ้าทางและสื่อสารกับทางพรหม และทางภูมิ เพื่อสิริมงคลให้กับพรรคไทยรักไทย เพราะก่อนหน้านี้พรรคไม่มีศาลพระภูมิใดๆ ตั้งอยู่ ส่วนฤกษ์ยามนั้นไม่ได้กำหนดตายตัว เพียงแต่ให้ทำก่อนเวลา 12.00 น.
**เยี่ยม"เติ้ง-สมคิด"ที่ รพ.รามา
ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการ รมว.อุตสาหกรรม และ นายกันตธีร์ ศุภมงคล รักษาการ รมว.ต่างประเทศ เดินทางออกจากที่ทำการพรรค ไปเยี่ยมอาการป่วยของ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่เข้าพักรักษาอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร และความดันโลหิตต่ำ ที่ห้องซีซียู อาคาร 1 โรงพยาบาลรามาธิบดี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ที่เข้าทำบอลลูนขยายเส้นเลือดหัวใจหลังพบมีอาการเส้นเลือดตีบตัน ซึ่งพักรักษาอยู่ห้องอยู่ใกล้ๆกัน ที่ห้องซีซียู อาคาร 1 โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งใช้เวลาในการเข้าเยี่ยมประมาณ 20นาที
พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า นายบรรหาร แข็งแรงดีแล้ว หน้าหายซีดแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้คงกลับบ้านได้แล้ว ส่วนนายสมคิด คิดว่านอนพักรักษาตัวไม่เกิน 2 วัน ก็กลับบ้านได้แล้ว เพราะทำบอลลูนเส้นเดียว
"คุณบรรหาร ก็ให้กำลังใจ ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกันดี ท่านก็ให้กำลังใจ และไม่มีการคุยเรื่องการเมือง คุยเรื่องสุขภาพ ผมก็ให้กำลังใจท่าน ให้พักผ่อน จะได้แข็งแรง และท่านก็ให้กำลังผมเช่นกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความกร่างโดยต่อว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาฯ ที่มาให้การต้อนรับว่า ไม่รูจักดูแลลูกน้องให้ดี ปล่อยให้ไปเดินขบวนสนับสนุนม็อบ ระวังปีหน้าจะไม่จัดงบประมาณให้โรงพยาบาลนี้
จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปยังอาคารธนิยะ ย่านสีลม เพื่อตัดผม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังบ้านพิษณุโลก ซึ่งระหว่างนั้น พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.เพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ได้เดินทางมายังบ้านพิษณุโลก แต่ทันทีเมื่อเห็นผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวอยู่ จึงได้เลี้ยวรถออกจากทางเข้าบ้านพิษณุโลกทันที จากนั้นคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และ นายพานทองแท้ ชินวัตร ภริยาและบุตรชายนายกฯ ได้เดินทางมาสมทบ ที่บ้านพิษณุโลก เช่นเดียวกัน จากนั้นเวลา 16.55น. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปไดร์กอล์ฟ ที่ อาร์ซีเอ ไดร์วิ่งกอล์ฟ
**"แม้ว"แหยงไม่กล้าลงพื้นที่ภาคใต้
สำหรับหมายงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันนี้ (24 มี.ค.)จะไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.อุดรธานี ส่วนบรรดาแกนพรรคจะแยกย้ายลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ หาเสียง โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะลงพื้นที่ย่านสยามเซ็นเตอร์ เวลา 17.00 น. ส่วนวันที่ 25 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมากรุงเทพฯปฏิบัติภารกิจส่วนตัว วันที่ 26 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยใหญ่เปิดใจ และชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆที่ วงเวียนใหญ่ ตั้งแต่ 17.00-21.00 น.
ส่วนวันที่ 27 วันที่ 29 และ วันที่ 30 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ลงพื้นที่กรุงเทพฯในช่วงเย็น และวันที่ 31 มี.ค. ช่วงเย็น (ยังไม่กำหนดเวลา)พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยใหญ่ถึงทิศทางของพรรคในอนาคตเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี และ วันที่ 1 เม.ย.วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ ลงพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีการจัดโปรแกรมลงหาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศว่า จะลงปราศรัยชี้แจงทุกพื้นที่ ที่พรรคฝ่ายค้านไปปราศรัยโจมตี
**ทรท.ลุยฟ้องสนธิฉุนกล่าวหาแม้วงมงาย
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย และการเมือง ซึ่งมีนายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีม กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มได้ปราศรัยใส่ร้ายป้ายสีพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ประเทศและชาวพุทธโดยรวมเสียหายต่อชาวโลก โดยเฉพาะการผูกโยงทำให้คนต่างชาติมองว่า นายกฯของไทย ลุ่มหลง คลั่งไคล้ในเรื่องไสยศาสตร์ โดยมีการโยงว่า นายกฯไปหาหมอเขมรเพื่อแก้เคล็ด ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ภาคอีสาน และยังกล่าวหารัฐบาลอยู่เบื้องหลังการทำลายศาลท้าวมหาพรหม ที่หน้าโรงแรมไฮแอท เอราวัณ ถือเป็นการใส่ร้ายที่น่ารังเกียจและน่าละลาย ทั้งๆที่ความจริงแล้วนายกรัฐมนตรีเป็นคนเชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์ และก็ยังเชื่อในสังคมไทย ไม่ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งนายกฯ เป็นผู้ที่ศึกษาศาสนาพุทธอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยรักไทย จะได้ดูรายละเอียดก่อนดำเนินคดีทางกฎหมาย
ทั้งนี้ พรรคไทยรักไทยได้มีการรวบรวมคำปราศรัยของนายสนธิ ที่ได้พูดใส่ร้ายป้ายสี ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทยได้รับความเสียหาย ซึ่งจะได้มีการยื่นฟ้องอีกประมาณ 20-30 คดี เช่น การใส่ร้ายป้ายสีการทำเรื่องไสยศาสตร์โดยนายพีระพันธ์ พาลุสุข ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปแจ้งความ ให้ดำเนินคดีกับ นายสนธิ ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กองปราบปรามฯแล้ว
เมื่อเวลา 09.09 น.วานนี้ (23มี.ค.)พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า และเดินทางเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก ในเวลา 09.19 น.ทันที โดยที่ไม่มีสัญญาณล่วงหน้าให้สื่อมวลชนรับทราบ โดยขบวนของนายกรัฐมนตรีเข้าทำเนียบรัฐบาลในเส้นทางสะพานซังฮี้-ถนนราชวิถี-ถนนพระราม 5-ถนนพิษณุโลก ข้ามสะพานชมัยมรุเชฐ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกรั้วเหล็กออกเพื่อเปิดทางให้ขบวนของนายกรัฐมนตรีเข้าทำเนียบฯ ได้อย่างง่ายดาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะถึงทำเนียบรัฐบาลเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เร่งปลดผ้าสีขาวที่กลุ่มพลังสีขาว ที่เขียนข้อความให้กำลังใจ พ.ต.ท .ทักษิณ ออกหมด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ติดตั้งป้ายเคาน์ดาวน์ นับถอยหลังการเลือกตั้งที่ติดตั้งอยู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า และเต้นท์ไปรษณีย์บัตรสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยด้วย
ทั้งนี้"เปลว สีเงิน"คอลัมนิสต์ชื่อดังเจ้าของคอลัมน์คนปลายซอยใน นสพ.ไทยโพสต์ ได้เขียนบทความสะกิดเตือนถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาลในช่วงนี้ ซึ่ง"เปลว สีเงิน" มองว่ามันแปลกมากที่มีการนำผ้าขาวมาห่มรอบทำเนียบฯ กางเต้นท์สีขาวที่ เปรียบเหมือนเมรุ ตั้งอยู่กลางสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
การเข้าทำเนียบรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ นับเป็นวันแรกหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชนยกขบวนมากดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออก ตั้งแต่วันที่เช้าวันที่ 14 มี.ค. และวันนี้แกนนำพันธมิตรได้ยกขบวนไปประท้วงที่กระทรวงการคลัง และกรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ขอให้สื่อมวลชนอย่าเข้ามาทำข่าวนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ เพราะเกรงว่าพันธมิตรจะบุกมาทำเนียบฯ หากทราบข่าวนี้
**"ทักษิณ"เย้ยเส้นตายแค่เส้นดินสอขีด
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้เวลาอยู่ที่ทำเนียบประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดเป็นเศษ ห้ามผู้สื่อข่าวขึ้นไปทำข่าวยังบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้าอย่างเด็ดขาด โดยที่ช่างภาพทำการบันทึกภาพได้แค่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ได้เท่านั้น
จากนั้นเวลา 10.45 น. นายกฯได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปที่ทำการพรรคไทยรักไทย เพื่อร่วมประชุมกับแกนนำพรรค หารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง โดยเมื่อมาถึงได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว จะเข้าทำงานทำเนียบฯอีกเมื่อใด โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อยากเข้าเมื่อไร ก็เข้า ไม่อยากเข้าก็ไม่เข้า ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้าทำเนียบฯ จะส่งผลต่อการทำงานหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะเป็นห่วงอะไร เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ เมื่อถามต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมขีดเส้นให้ลาออกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย จะเป็นห่วงอะไร เมื่อขีดเส้นตาย ก็เอาดินสอขีด ก็ไม่รุนแรงอะไร
ส่วนช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้จะยังอยู่ใน กทม.หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็ต้องทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ 24 มี.ค.จะยังคงปราศรัยที่ จ.อุดรธานี ตามกำหนดการเดิม
**รีบเผ่นจากทำเนียบฯกลัวถูกปิดล้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้มีประชาชนประมาณ 20 คน ได้มาดักรอที่ด้านนอกทำเนียบฯ บริเวณหน้าสำนักงาน ก.พ.ถนนพิษณุโลก พร้อมตะโกน"ทักษิณ ออกไป" "ทักษิณ เก็ตเอาต์"ตลอดเวลา และเมื่อขบวนรถของพ.ต.ท.ทักษิณ จะออกจากทำเนียบฯ ประชาชนกลุ่มนี้ก็มาดักตะโกนไล่ "ทักษิณ ออกไป ทักษิณ ขายชาติ ทักษิณ หน้าด้าน หน้าหมา"พร้อมทั้งวิ่งมาที่ขบวนรถ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้น จนตำรวจติดตามของนายกรัฐมนตรี ที่อยู่บนรถได้หันมามองกลุ่มประชาชนที่ตะโกนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะออกจากทำเนียบฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบฯ ได้ใช้วิทยุสื่อสารรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เดินทางไปชุมนุมหน้ากระทรวงการคลัง และจะกลับมายังทำเนียบรัฐบาล อยู่ตลอดเวลา ทำให้ขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ขณะนั้นอยู่บนถนนพระราม 6 คลาดจากขบวนนายกรัฐมนตรีที่เคลื่อนผ่านไปยังแยกยมราช เพื่อขึ้นทางด่วนยมราชเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีอีกาจำนวนมากมาบินวนที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และส่งเสียงร้องเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาในทำเนียบฯ นั้นจะร้องถี่มาก จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจเป็นลางร้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ
**"หญิงอ้อ"นำทีมบวงสรวงเปิดศาลพระภูมิใหม่
สำหรับความเคลื่อนไหว ณ ที่ทำการพรรคไทยรักไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่จะมีพิธีบวงสรวงเพื่อเปิดศาลพระภูมิใหม่ของพรรคเพื่อเป็นการแก้เคล็ดนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเดิมได้มีการคาดหมายกันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จะมาเป็นประธานในการทำพิธีบวงสรวง โดยมีแกนนำพรรคมารอร่วมพิธีคับคั่ง อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายเนวิน ชิดชอบ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายไชยยศ สะสมทรัพย์ นายกันตธีร์ ศุภมงคล นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นต้น แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่หมายกำหนดการล่วงหน้า คุณหญิงพจมาน จึงรับหน้าที่ประธานแทน ซึ่งพิธีได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา เวลา 10.29 น.
สำหรับพิธีครั้งนี้ได้นิมนต์ หลวงปู่เกลี้ยง เตชะธัมโม อายุ 99 ปี จากวัดบ้านโนนแกต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มาทำพิธีให้ มีเครื่องเซ่นไหว้ประกอบด้วย ขนมหวาน 10 อย่าง เช่น ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ฝอยทอง ทองหยิบ ข้าวต้มมัด ขนมถ้วยฟู ทองเอก ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว น้ำตาลก้อน ผลไม้ 8 ชนิด ประกอบด้วย กล้วย มะละกอ แอปเปิล ส้ม ฝรั่ง สัปปะรด สาลี่ มะพร้าว นอกจากนี้ยังมีการถวายพวงมาลัยดอกมะลิ ช่อดอกไม้ 10 ช่อ ปิดท้ายด้วยคุณหญิงพจมาน เป็นผู้ผูกผ้าสามสี ที่เสาศาลพระภูมิ
ทั้งนี้ ระหว่างทำพิธี นายเนวินได้กล่าวหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่า"คุณหญิง ทำพิธีในฐานะเจ้าของตึก ส่วนแกนนำพรรคที่มาร่วมในฐานะผู้ใช้อาคาร พวกคุณมาใช้ตึกนี้ก็ควรเข้าพิธีด้วย ไม่งั้นระวังโดนของนะ คอยดูวันนี้พวกม็อบก็จะเอาประเด็นนี้ไปพูดแน่ ผมเป็นยาสามัญประจำม็อบ เพราะถูกพูดถึงตลอด ไม่เคยซา คนอื่นยังมีซาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการทำบุญ เพราะทำให้คนหัวเราะ หายเครียดได้"
ด้านนายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครส.ส.ศรีสะเกษ พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นผู้นิมนต์หลวงปู่เกลี้ยงมาทำพิธี กล่าวว่า หลวงปู่เกลี้ยง มีความเชี่ยวชาญในการตั้งศาลพระภูมิ ดูเจ้าที่ เจ้าทางและสื่อสารกับทางพรหม และทางภูมิ เพื่อสิริมงคลให้กับพรรคไทยรักไทย เพราะก่อนหน้านี้พรรคไม่มีศาลพระภูมิใดๆ ตั้งอยู่ ส่วนฤกษ์ยามนั้นไม่ได้กำหนดตายตัว เพียงแต่ให้ทำก่อนเวลา 12.00 น.
**เยี่ยม"เติ้ง-สมคิด"ที่ รพ.รามา
ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการ รมว.อุตสาหกรรม และ นายกันตธีร์ ศุภมงคล รักษาการ รมว.ต่างประเทศ เดินทางออกจากที่ทำการพรรค ไปเยี่ยมอาการป่วยของ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่เข้าพักรักษาอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร และความดันโลหิตต่ำ ที่ห้องซีซียู อาคาร 1 โรงพยาบาลรามาธิบดี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ที่เข้าทำบอลลูนขยายเส้นเลือดหัวใจหลังพบมีอาการเส้นเลือดตีบตัน ซึ่งพักรักษาอยู่ห้องอยู่ใกล้ๆกัน ที่ห้องซีซียู อาคาร 1 โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งใช้เวลาในการเข้าเยี่ยมประมาณ 20นาที
พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า นายบรรหาร แข็งแรงดีแล้ว หน้าหายซีดแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้คงกลับบ้านได้แล้ว ส่วนนายสมคิด คิดว่านอนพักรักษาตัวไม่เกิน 2 วัน ก็กลับบ้านได้แล้ว เพราะทำบอลลูนเส้นเดียว
"คุณบรรหาร ก็ให้กำลังใจ ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกันดี ท่านก็ให้กำลังใจ และไม่มีการคุยเรื่องการเมือง คุยเรื่องสุขภาพ ผมก็ให้กำลังใจท่าน ให้พักผ่อน จะได้แข็งแรง และท่านก็ให้กำลังผมเช่นกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความกร่างโดยต่อว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาฯ ที่มาให้การต้อนรับว่า ไม่รูจักดูแลลูกน้องให้ดี ปล่อยให้ไปเดินขบวนสนับสนุนม็อบ ระวังปีหน้าจะไม่จัดงบประมาณให้โรงพยาบาลนี้
จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปยังอาคารธนิยะ ย่านสีลม เพื่อตัดผม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังบ้านพิษณุโลก ซึ่งระหว่างนั้น พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.เพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ได้เดินทางมายังบ้านพิษณุโลก แต่ทันทีเมื่อเห็นผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวอยู่ จึงได้เลี้ยวรถออกจากทางเข้าบ้านพิษณุโลกทันที จากนั้นคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และ นายพานทองแท้ ชินวัตร ภริยาและบุตรชายนายกฯ ได้เดินทางมาสมทบ ที่บ้านพิษณุโลก เช่นเดียวกัน จากนั้นเวลา 16.55น. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปไดร์กอล์ฟ ที่ อาร์ซีเอ ไดร์วิ่งกอล์ฟ
**"แม้ว"แหยงไม่กล้าลงพื้นที่ภาคใต้
สำหรับหมายงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันนี้ (24 มี.ค.)จะไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.อุดรธานี ส่วนบรรดาแกนพรรคจะแยกย้ายลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ หาเสียง โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะลงพื้นที่ย่านสยามเซ็นเตอร์ เวลา 17.00 น. ส่วนวันที่ 25 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมากรุงเทพฯปฏิบัติภารกิจส่วนตัว วันที่ 26 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยใหญ่เปิดใจ และชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆที่ วงเวียนใหญ่ ตั้งแต่ 17.00-21.00 น.
ส่วนวันที่ 27 วันที่ 29 และ วันที่ 30 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ลงพื้นที่กรุงเทพฯในช่วงเย็น และวันที่ 31 มี.ค. ช่วงเย็น (ยังไม่กำหนดเวลา)พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยใหญ่ถึงทิศทางของพรรคในอนาคตเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี และ วันที่ 1 เม.ย.วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ ลงพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีการจัดโปรแกรมลงหาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศว่า จะลงปราศรัยชี้แจงทุกพื้นที่ ที่พรรคฝ่ายค้านไปปราศรัยโจมตี
**ทรท.ลุยฟ้องสนธิฉุนกล่าวหาแม้วงมงาย
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย และการเมือง ซึ่งมีนายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีม กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มได้ปราศรัยใส่ร้ายป้ายสีพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ประเทศและชาวพุทธโดยรวมเสียหายต่อชาวโลก โดยเฉพาะการผูกโยงทำให้คนต่างชาติมองว่า นายกฯของไทย ลุ่มหลง คลั่งไคล้ในเรื่องไสยศาสตร์ โดยมีการโยงว่า นายกฯไปหาหมอเขมรเพื่อแก้เคล็ด ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ภาคอีสาน และยังกล่าวหารัฐบาลอยู่เบื้องหลังการทำลายศาลท้าวมหาพรหม ที่หน้าโรงแรมไฮแอท เอราวัณ ถือเป็นการใส่ร้ายที่น่ารังเกียจและน่าละลาย ทั้งๆที่ความจริงแล้วนายกรัฐมนตรีเป็นคนเชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์ และก็ยังเชื่อในสังคมไทย ไม่ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งนายกฯ เป็นผู้ที่ศึกษาศาสนาพุทธอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยรักไทย จะได้ดูรายละเอียดก่อนดำเนินคดีทางกฎหมาย
ทั้งนี้ พรรคไทยรักไทยได้มีการรวบรวมคำปราศรัยของนายสนธิ ที่ได้พูดใส่ร้ายป้ายสี ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทยได้รับความเสียหาย ซึ่งจะได้มีการยื่นฟ้องอีกประมาณ 20-30 คดี เช่น การใส่ร้ายป้ายสีการทำเรื่องไสยศาสตร์โดยนายพีระพันธ์ พาลุสุข ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปแจ้งความ ให้ดำเนินคดีกับ นายสนธิ ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กองปราบปรามฯแล้ว