xs
xsm
sm
md
lg

คนรากหญ้าไม่โง่

เผยแพร่:   โดย: วรศักดิ์ มหัทธโนบล

จนถึงขณะนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณทักษิณ ชินวัตร นั้นมีคนนิยมอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่เป็นนักธุรกิจและคนในระดับรากหญ้า ความนิยมนี้หมายมุ่งมาที่ตัวของ คุณทักษิณ โดยเฉพาะ คือเป็นความนิยมในเชิงปัจเจกมากกว่าที่จะเป็นตัวของพรรคwmpiydwmp

การที่ความนิยมออกมาเป็นเช่นนี้ในด้านหนึ่งเป็นเพราะบทบาทของ คุณทักษิณ จาก 5 ปีที่ผ่านมาโดยแท้ อันเป็นบทบาทที่กลบเกลื่อนบทบาทของพรรค (ซึ่งหมายถึงคนอื่นๆ ในพรรค) จนหมดสิ้น และทำให้เชื่อกันว่า หากหมดคุณทักษิณไปเสียสักคน ไทยรักไทยก็ไม่ต่างอะไรกับพรรคการเมื่อที่ “บ่มิไก๊”

แต่ในบรรดาผู้คนที่นิยมคุณทักษิณอยู่นี้ ผมขอกล่าวถึงเฉพาะคนในระดับรากหญ้าก่อน (ส่วนคนที่เป็นนักธุรกิจนั้นค่อยว่ากันในโอกาสต่อไป) ที่ขอกล่าวถึงก่อนก็เพราะว่า มีคนจำนวนไม่น้อย (โดยเฉพาะคนที่ต่อต้านคุณทักษิณอยู่ในขณะนี้) คิดว่าคนรากหญ้าเหล่านี้ถูกซื้อตัว หรือไม่ก็หลงใหลกับอามิสที่ คุณทักษิณหยิบยื่นให้ในลักษณะต่างๆ

สำหรับผมแล้วไม่คิดไปไกลขนาดนั้น ในทางตรงข้ามผมกลับคิดว่า การที่คนระดับรากหญ้านิยม คุณทักษิณ กลับมีมิติบางอย่างที่ลึกซึ้งอยู่ไม่น้อย จะลึกซึ้งอย่างไรนั้น ผมขอว่าเป็นฉากๆ ดังนี้...

ในเรื่องแรกสุด เราต้องยอมรับกันก่อนว่า คนระดับรากหญ้า (ทั้งในเมืองและชนบท) ต่างก็คือผลผลิตของแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐไทยที่ดำเนินมาหลายสิบปีแล้ว คนรากหญ้าที่เราเห็นหน้าค่าตาอยู่ในทุกวันนี้ถือเป็นกลุ่มคนที่ “รอด” มาจากแผนพัฒนาดังกล่าวมาได้ เพราะมีคนรากหญ้าอีกจำนวนไม่น้อยที่ถูกแผนดังกล่าวบดขยี้จนย่อยยับจนไม่รู้ว่าทุกวันนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไร

การที่คนรากหญ้าถูกแผนพัฒนาบดขยี้นั้น สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะในเวลานั้น (เมื่อหลายสิบปีก่อน) มีคนรากหญ้าจำนวนมากที่ไม่รู้เท่าทันแผนพัฒนาดังกล่าว จนทำให้คนที่รู้เท่าทันหยิบมือเดียวใช้ความรู้ของตนมาเป็นวิชามารในการบดขยี้

ผมยังจำเรื่องๆ หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อนได้เป็นอย่างดี เป็นเรื่องของชาวไร่คนหนึ่งที่ทำอาชีพของตนมายาวนานตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็มีพ่อค้าจากในเมืองมาไล่ที่ชาวไร่คนนี้ไปเสียเฉยๆ โดยอ้างว่าที่ที่แกทำมาหากินอยู่นั้นเป็นที่ของตน เมื่อเป็นความกันขึ้นมา พ่อค้าคนนั้นจึงได้เชิญตัวข้าราชการที่เกี่ยวข้องมายืนยัน และข้าราชการคนนั้นก็มายืนยันพร้อมหลักฐานเอกสารที่ดินที่ชี้ว่าเป็นของพ่อค้าจริงๆ ผมจำรายละเอียดไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงว่ามีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างพ่อค้ากับข้าราชการในการสร้างเอกสารกันขึ้นมาจนดูสมจริง

เรื่องที่เล่าข้างต้นนี้ผมฟังมาจากเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นทนายความให้แก่ชาวไร่คนนั้น โดยเพื่อนบอกว่าคดีนี้ชาวไร่แพ้อย่างสิ้นเชิง เพราะในช่วงก่อนเกิดเหตุนั้น ชาวไร่คนนี้ได้ไปทำอะไรหลายต่อหลายอย่างด้วยความไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนทำให้พ่อค้าคนนั้นสามารถสร้างเอกสารขึ้นมายึดเอาที่ดินของแกไปอย่างหน้าตาเฉยโดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไร นอกจากเงินใต้โต๊ะที่จ่ายให้แก่ข้าราชการบางคน จะว่าได้มาฟรีๆ ก็ไม่ผิดนัก

ผมไม่สนใจหรอกว่า ทุกวันนี้พ่อค้ากับข้าราชการคนนั้นยังอยู่สุขสบายดีหรือไม่อย่างไร ผมรู้แต่เพียงว่า ชีวิตของชาวไร่คนนั้นได้พังพินาศไปอย่างสิ้นเชิงภายใต้การบดขยี้ของคนกลุ่มหนึ่งที่ได้เปรียบจากนโยบายของรัฐ และได้หายสาปสูญไปจากสังคมไทยเหมือนกับคนรากหญ้าอีกไม่น้อยที่เจอชะตากรรมเดียวกัน

หลายสิบปีที่ผ่านมานี้ ชะตากรรมของคนรากหญ้าเปลี่ยนไปอยู่บ้าง และสามารถแยกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ

กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่ยังคงถูกเอารัดเอาเปรียบจากนโยบายหรือแผนพัฒนาของรัฐอยู่เหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือ คนรากหญ้ากลุ่มนี้เริ่มเรียนรู้ที่จะตอบโต้กับความไม่เป็นธรรมขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากกรณีของสมัชชาคนจน หรือกลุ่มที่ต่อต้านโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ

อีกกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มคนรากหญ้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐโดยตรง เรียกว่ายังพอรักษาเนื้อรักษาตัวเอาไว้ได้อยู่บ้าง แต่ที่เหมือนๆ กันกับกลุ่มแรกก็คือ ยังคงเป็นคนรากหญ้าที่ด้อยโอกาสในหลายต่อหลายเรื่อง

เนื่องจากคนรากหญ้ากลุ่มหลังนี้ได้รับผลกระทบน้อย ชีวิตที่พอทรงตัวอยู่ได้จึงยังพอมีเวลาที่จะเข้ามาคลุกคลีตีโมงกับเรื่องของการเมืองบ้างในบางเวลา โดยเฉพาะเมื่อถึงฤดูกาลเลือกตั้ง

หลายสิบปีที่ผ่านมานี้ แม้คนรากหญ้าทั้งสองกลุ่มจะได้เรียนรู้อะไรมากมายก็จริง แต่ก็เป็นการเรียนรู้ที่แทบจะไม่ได้ก่อเกิดทางเลือกให้แก่ตนได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ ฉะนั้น ไม่ว่านักการเมืองหรือนักเลือกตั้งคนไหนหรือพรรคไหนเอาอะไรมาให้ คนรากหญ้าเหล่านี้ก็คว้าเอามาก่อน

คนขับแท็กซี่ที่เป็นคนอีสานเล่าให้ผมฟังว่า พอถึงฤดูเลือกตั้งที พวกเขาก็ได้ล้มวัวล้มควายมากินมาแกล้มเหล้ากันทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะเหล้านั้นก็เป็นพวกแม่โขงอะไรเทือกนั้น และที่ว่ากินฉลองกันนี้ไม่ใช่มื้อสองมื้อน่ะครับ แต่มีมาเรื่อยๆ จนหลังจากที่ผลการเลือกตั้งได้ประกาศไปแล้ว ทั้งนี้ยังไม่นับเงินอีกจำนวนหนึ่งสำหรับลงคะแนนอีกต่างหาก (ดูกรณียี้ห้อยร้อยยี่สิบเป็นตัวอย่าง)

สำหรับใครก็ตามที่เป็นคนชั้นกลางมาแต่เกิดอย่าเพิ่งไปคิดว่า กะอีแค่ลัมวัวลัมควายก็สามารถซื้อคนรากหญ้าได้ง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ ทั้งนี้ก็เพราะว่าการล้มวัวล้มควายสำหรับคนชนบทนั้นก็ไม่ต่างกับที่คนในเมืองได้กินโต๊ะจีนนั่นแหละครับ

พูดง่ายๆ ก็คือ แม้จะดูไม่มีค่าสำหรับเราก็จริง แต่มันมีค่าสำหรับคนชนบทเอามากๆ

ที่สำคัญก็คือว่า การรับมาเช่นนั้น นอกจากรับมาเพราะคนรากหญ้ามีทางเลือกน้อยแล้ว ในอีกด้านหนึ่งคนรากหญ้ายังรับมาบนพื้นฐานของมโนธรรมสำนึกบางด้านอีกด้วย กล่าวคือ เมื่อรับมาแล้วก็สำนึกโดยตลอดว่าจะต้องไปลงคะแนนให้กับนักเลือกตั้งคนที่จ่ายเงินมา หาไม่แล้วก็จะรู้สึกผิดรู้สึกบาป ผมคิดว่ามโนธรรมสำนึกเช่นนี้มีนัยที่ลึกซึ้งอยู่ไม่น้อย กล่าวคือ หากคนชั้นกลางคนใดก็ตามที่คิดว่าการขายเสียงต่างหากที่น่าจะผิดบาป คนชั้นกลางคนนั้นก็ต้องยอมรับด้วยว่า ที่ตนได้เปรียบจากนโยบายของรัฐจนมีฐานะดีในทุกวันนี้ก็เป็นเรื่องที่ผิดบาปเช่นกัน เพราะฐานะที่ว่านั้นแยกไม่ออกจากการเป็นส่วนหนึ่งของการแย่งชิงเอาทรัพยากรของคนรากหญ้ามานั่นเอง

ชีวิตของคนรากหญ้าคงเป็นเช่นที่ผมว่ามาโดยไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก หากไม่ใช่เพราะวันหนึ่งมีคนชื่อ ทักษิณ ปรากฏเงาร่างขึ้นมา และเรื่องก็เป็นดังที่เรารู้ๆ กัน นั่นคือ คุณทักษิณ เที่ยวได้แจกอะไรต่ออะไรแก่คนรากหญ้าไปทั่ว ก็ขนาดฤดูหาเสียงเลือกตั้งคนรากหญ้ายังรับอะไรมาได้ เหตุไฉนจะรับสิ่งที่คุณทักษิณแจกให้ไม่ได้ ก็ในเมื่อเห็นอยู่ชัดๆ ว่ามันมากมายยิ่งกว่าล้มวัวล้มควายหรือเงินร้อยยี่สิบเสียอีก

ด้วยเหตุที่ว่า ผมจึงไม่แปลกใจที่คนรากหญ้าจะเชียร์คุณทักษิณ และเชียร์โดยไม่สนใจว่า สิ่งที่คุณทักษิณแจกให้จะก่อปัญหาในอนาคตอย่างไร และโดยไม่ไยไพว่า เบื้องหลังการแจกนั้น คุณทักษิณ จะปล่อยให้เกิดการโกงกินแบบโคตรานุวัตรอย่างไร ก็ชีวิตไม่มีทางเลือกอะไรมากมายนี่ครับ

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเห็นว่าคนรากหญ้าไม่โง่ และที่เห็นเชียร์คุณทักษิณอยู่นี้ ลองให้คุณทักษิณหมดอำนาจหรือฉิบหายย่อยยับไปด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งขึ้นมาเถิด คนรากหญ้าก็จะไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่าเสียดายหรืออาลัยอาวรณ์ อันเป็นมโนธรรมสำนึกปกติอยู่แล้ว

แต่ที่จะให้ถึงขนาดเอาชีวิตเข้าแลกนั้น คนรากหญ้าไม่ทุ่มเทขนาดนั้นหรอกครับ เพราะหลังจากนั้นอีกไม่นานก็จะมีนักแจกคนใหม่มาแทนที่ ถึงจะแจกน้อยกว่าก็ไม่เป็นไร เพราะชีวิตจะไปเลือกอะไรได้มากกว่านี้ ดังนั้น เวลาที่คนรากหญ้าเชียร์คุณทักษิณ ผมจึงมองอย่างเข้าใจ

จะมีก็แต่คุณทักษิณเท่านั้นที่พยายามไปพูดปลุกใจให้คนรากหญ้า “ของขึ้น” ให้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น