ศาลพิพากษาจำคุกเมีย “ยุทธ ตู้เย็น – ยงยุทธ ติยะไพรัช” สูงสุด 5 ปี ปรับ 1 แสน แถมสั่งเว้นวรรคการเมือง 10 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานแจ้งความเท็จทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ล่าสุด “สลักจิต” ยื่นหลักทรัพย์ 5 แสนประกันตัว พร้อมประกาศสู้เต็มที่ – ยื่นอุทธรณ์ต่อ รับ “ไม่รู้จะเป็นอย่างนี้” เปิดเบื้องหลังคดีดังที่อดีตผู้ว่าฯ/ประธาน กกต.เมืองพ่อขุนฯ ต้องสังเวยเก้าอี้เพราะคดีนี้มาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วานนี้ (17 มี.ค.) นายชวลิต ศรีสอา , นางราตรี เพียรพิทักษ์วรนุช ผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดเชียงราย ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 11พิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2818/2547 นางรัตนา จงสุทธนามณี อายุ 42 ปี นายองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงราย ได้ฟ้องนางสลักจิต ติยะไพรัช อายุ 47 ปี ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานความผิดแจ้งความอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าพนักงานตามมาตรา 137 ประมวลกฎหมายอาญา และกระทำการอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 114 ขอให้ลงโทษตามกฎหมายและเพิกถอนสิทธิทางการเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี โดยศาลรับเมื่อวันที่ 1-9 ก.พ.49
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดเชียงราย ได้พิพากษาสั่งจำคุกนางสลักจิต ติยะไพรัช สูงสุด 5 ปี ปรับ 100,000 บาท และตัดสิทธิห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือเว้นวรรคทางการเมือง เป็นระยะเวลา 10 ปี แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด / ให้การเป็นประโยชน์โทษจำคุกลดเหลือ 3 ปี 9 เดือน ไม่รอลงอาญา , โทษปรับลดเหลือ 75,000 บาท แต่คงคำพิพากษาให้เว้นวรรคทางการเมือง 10 ปี
หลังรับฟังคำพิพากษานางรัตนา และนายวันชัย จงสุทธนามณี สามี ได้เดินทางลงจากศาลจังหวัดเชียงราย โดยนางรัตนา กล่าวว่า ที่ศาลตัดสินมีความเป็นธรรมแล้ว
ส่วนนางสลักจิต ติยะไพรัช ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นตำแหน่ง และพันธบัตรรัฐบาล คิดเป็นมูลค่า 500,000 บาท ขอประกันตัวทันทีหลังรับทราบคำสั่งศาล โดยมีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง
นางสลักจิตได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ หลังได้รับการประกันตัว ว่า ไม่รู้ว่าผลการตัดสินจะเป็นอย่างนี้ แต่ก็จะสู้โดยการยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ขณะที่นายประสาธน์ รินนายรักษ์ ทนายความ และ นางบุษรินทร์ ติยะไพรัช ส.ว.เชียงราย ทนายความของ นางสลักจิต กล่าวว่า คดีนี้ศาลพิพากษาตามโทษสูงสุด ทำให้นางสลักจิต รับโทษหนัก จึงต้องขออุทธรณ์แน่นอน
ด้านนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ไชยเสน ประธาน กกต.เชียงราย กล่าวถึงกรณี นางสลักจิต ต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี ว่า หากนางสลักจิต อุทธรณ์ ก็ยังถือว่า อาจจะมีสิทธิลงสมัครทางการเมืองได้ แต่ขณะนี้ได้หารือไปยัง กกต.กลาง เพื่อดูระเบียบที่ชัดเจนก่อน
สำหรับคดีนางสลักจิต ติยะไพรัช ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (เมื่อปี 47 เป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี) นี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2547 ที่นางสลักจิต ร้องทุกข์ต่อ กกต.เชียงราย ซึ่งมีนายสำเริง ปุณโยปกรณ์ เป็นประธาน กกต.เชียงราย อยู่ในขณะนั้น ว่า นายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย สามี นางรัตนา จงสุทธนามณี ผู้สมัคร นายก อบจ.เชียงราย ได้แจกของเล่นเด็ก และชิงช้า ให้กับชาวบ้าน เป็นการผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง แต่ต่อมา กตต.เชียงราย สืบสวนแล้วไม่พบความผิด จึงไม่รับคำร้องนางสลักจิต
จนนางรัตนา จงสุทธนามณี ชนะการเลือกตั้ง เป็น นายก อบจ.เชียงราย ส่วนนางสลักจิต ได้คะแนนมาเป็นที่ 2 และนางรัตนา ได้ร้องต่อศาล จ.เชียงราย ว่า นางสลักจิต แจ้งความเท็จตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง กระทั่ง นางสลักจิต ติยะไพรัช ถูกพิพากษาให้ผิดจริง ในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นายสำเริง ปุณโยปกรณ์ อดีตประธานกกต.จังหวัดเชียงราย ที่เคยพิจารณายกคำร้องของนางสลักจิต นั้น เมื่อปี 48 ก็ถูกกล่าวหาว่ารุกที่ป่าดงป่าเมี้ยง อ.แม่จัน จ.เชียงราย กระทั่งต้องลาออกจากการเป็นประธาน กกต.เชียงราย เมื่อ 23 ก.ย.48 เพื่อสู้คดี และประกาศว่าจะลงสมัคร ส.ว.ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 19 เม.ย.49 ด้วย
ส่วนนางสลักจิตเอง ก็วางแผนที่จะลงสมัครชิงตำแหน่ง ส.ว.เชียงรายด้วยเช่นกัน แต่ถูกศาลพิพากษาในคดีที่ถูกนางรัตนาฟ้องเสียก่อน ซึ่งอาจจะทำให้แผนการลงชิงเก้าอี้ ส.ว.เชียงราย ต้องเกิดปัญหาขึ้นได้เช่นกัน
อนึ่ง กลุ่มนางรัตนา จงสุทธนามณี และกลุ่มนายยงยุทธ ติยะไพรัช ถือเป็นกลุ่มการเมืองในเชียงราย ที่ขับเคี่ยวกันมานาน ในทุก ๆ สนามเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง ส.ส. , อบจ. , เทศบาล ฯลฯ โดยนางรัตนา เป็นอดีต ส.ส.เชียงราย พรรคชาติพัฒนา ในสมัยที่นายยงยุทธ เป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต่อมานายยงยุทธ ได้ย้ายเข้าสังกัดพรรคไทยรักไทยลงสนามเลือกตั้ง และได้ขับเคี่ยวกันอย่างหนัก จนนางรัตนา สอบตกในการเลือกตั้ง ส.ส. จนต้องหันมาลงสนามท้องถิ่น สมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.เชียงราย แทนโดยกลุ่มนายยงยุทธ ส่งนางสลักจิต ลงแข่งแต่ก็พ่ายแพ้ให้แก่นางรัตนา
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วานนี้ (17 มี.ค.) นายชวลิต ศรีสอา , นางราตรี เพียรพิทักษ์วรนุช ผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดเชียงราย ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 11พิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2818/2547 นางรัตนา จงสุทธนามณี อายุ 42 ปี นายองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงราย ได้ฟ้องนางสลักจิต ติยะไพรัช อายุ 47 ปี ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานความผิดแจ้งความอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าพนักงานตามมาตรา 137 ประมวลกฎหมายอาญา และกระทำการอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 114 ขอให้ลงโทษตามกฎหมายและเพิกถอนสิทธิทางการเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี โดยศาลรับเมื่อวันที่ 1-9 ก.พ.49
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดเชียงราย ได้พิพากษาสั่งจำคุกนางสลักจิต ติยะไพรัช สูงสุด 5 ปี ปรับ 100,000 บาท และตัดสิทธิห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือเว้นวรรคทางการเมือง เป็นระยะเวลา 10 ปี แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด / ให้การเป็นประโยชน์โทษจำคุกลดเหลือ 3 ปี 9 เดือน ไม่รอลงอาญา , โทษปรับลดเหลือ 75,000 บาท แต่คงคำพิพากษาให้เว้นวรรคทางการเมือง 10 ปี
หลังรับฟังคำพิพากษานางรัตนา และนายวันชัย จงสุทธนามณี สามี ได้เดินทางลงจากศาลจังหวัดเชียงราย โดยนางรัตนา กล่าวว่า ที่ศาลตัดสินมีความเป็นธรรมแล้ว
ส่วนนางสลักจิต ติยะไพรัช ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นตำแหน่ง และพันธบัตรรัฐบาล คิดเป็นมูลค่า 500,000 บาท ขอประกันตัวทันทีหลังรับทราบคำสั่งศาล โดยมีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง
นางสลักจิตได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ หลังได้รับการประกันตัว ว่า ไม่รู้ว่าผลการตัดสินจะเป็นอย่างนี้ แต่ก็จะสู้โดยการยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ขณะที่นายประสาธน์ รินนายรักษ์ ทนายความ และ นางบุษรินทร์ ติยะไพรัช ส.ว.เชียงราย ทนายความของ นางสลักจิต กล่าวว่า คดีนี้ศาลพิพากษาตามโทษสูงสุด ทำให้นางสลักจิต รับโทษหนัก จึงต้องขออุทธรณ์แน่นอน
ด้านนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ไชยเสน ประธาน กกต.เชียงราย กล่าวถึงกรณี นางสลักจิต ต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี ว่า หากนางสลักจิต อุทธรณ์ ก็ยังถือว่า อาจจะมีสิทธิลงสมัครทางการเมืองได้ แต่ขณะนี้ได้หารือไปยัง กกต.กลาง เพื่อดูระเบียบที่ชัดเจนก่อน
สำหรับคดีนางสลักจิต ติยะไพรัช ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช รักษาการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (เมื่อปี 47 เป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี) นี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2547 ที่นางสลักจิต ร้องทุกข์ต่อ กกต.เชียงราย ซึ่งมีนายสำเริง ปุณโยปกรณ์ เป็นประธาน กกต.เชียงราย อยู่ในขณะนั้น ว่า นายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย สามี นางรัตนา จงสุทธนามณี ผู้สมัคร นายก อบจ.เชียงราย ได้แจกของเล่นเด็ก และชิงช้า ให้กับชาวบ้าน เป็นการผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง แต่ต่อมา กตต.เชียงราย สืบสวนแล้วไม่พบความผิด จึงไม่รับคำร้องนางสลักจิต
จนนางรัตนา จงสุทธนามณี ชนะการเลือกตั้ง เป็น นายก อบจ.เชียงราย ส่วนนางสลักจิต ได้คะแนนมาเป็นที่ 2 และนางรัตนา ได้ร้องต่อศาล จ.เชียงราย ว่า นางสลักจิต แจ้งความเท็จตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง กระทั่ง นางสลักจิต ติยะไพรัช ถูกพิพากษาให้ผิดจริง ในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นายสำเริง ปุณโยปกรณ์ อดีตประธานกกต.จังหวัดเชียงราย ที่เคยพิจารณายกคำร้องของนางสลักจิต นั้น เมื่อปี 48 ก็ถูกกล่าวหาว่ารุกที่ป่าดงป่าเมี้ยง อ.แม่จัน จ.เชียงราย กระทั่งต้องลาออกจากการเป็นประธาน กกต.เชียงราย เมื่อ 23 ก.ย.48 เพื่อสู้คดี และประกาศว่าจะลงสมัคร ส.ว.ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 19 เม.ย.49 ด้วย
ส่วนนางสลักจิตเอง ก็วางแผนที่จะลงสมัครชิงตำแหน่ง ส.ว.เชียงรายด้วยเช่นกัน แต่ถูกศาลพิพากษาในคดีที่ถูกนางรัตนาฟ้องเสียก่อน ซึ่งอาจจะทำให้แผนการลงชิงเก้าอี้ ส.ว.เชียงราย ต้องเกิดปัญหาขึ้นได้เช่นกัน
อนึ่ง กลุ่มนางรัตนา จงสุทธนามณี และกลุ่มนายยงยุทธ ติยะไพรัช ถือเป็นกลุ่มการเมืองในเชียงราย ที่ขับเคี่ยวกันมานาน ในทุก ๆ สนามเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง ส.ส. , อบจ. , เทศบาล ฯลฯ โดยนางรัตนา เป็นอดีต ส.ส.เชียงราย พรรคชาติพัฒนา ในสมัยที่นายยงยุทธ เป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต่อมานายยงยุทธ ได้ย้ายเข้าสังกัดพรรคไทยรักไทยลงสนามเลือกตั้ง และได้ขับเคี่ยวกันอย่างหนัก จนนางรัตนา สอบตกในการเลือกตั้ง ส.ส. จนต้องหันมาลงสนามท้องถิ่น สมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.เชียงราย แทนโดยกลุ่มนายยงยุทธ ส่งนางสลักจิต ลงแข่งแต่ก็พ่ายแพ้ให้แก่นางรัตนา