น้ำตาลวังขนายรุกทำตลาดในรอบ 30 ปี ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาทเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 ชุด สร้างแบรนด์และรองรับการเปิดตัวของตลาดการค้าเสรีในอนาคต ปีนี้เล็งเปิดตัวน้ำตาลที่เน้นเรื่องสุขภาพ 3 รายการ พร้อมเทงบ 150 ล้านบาทปรับปรุงโรงงานที่โคราช ปีหน้ามีโปรเจคก์ใหญ่เตรียมย้ายโรงงานจากกาญจนบุรีไปมหาสารคาม ภายใต้งบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ส่วนเรื่องน้ำตาลปรับขึ้นราคา 3 บาทคาดว่าเดือนเม.ย.ภาวะตื่นตระหนกจะหายไป
นายบุญญฤทธิ์ ณ วังขนาย ผู้จัดการทั่วไปบริษัทวังขนาย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลวังขนาย เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯปีนี้จะมีการทำตลาดและประชาสัมพันธ์มากขึ้นในรอบหลายปี โดยการทุ่มงบการตลาดกว่า 40 ล้านบาทเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง ได้แก่ แตนเบียนและเต็มปอด ภายใต้แนวคิดการผลิตน้ำตาลที่ไม่เหมือนใคร หรือ Not All Sugar Are The Same เพื่อสร้างจุดยืนและสร้างภาพลักษณ์แบรนด์วังขนาย รวมถึงรองรับการเปิดตลาดเสรีในอนาคต โดยภาพยนตร์โฆษณาจะเริ่มออกอากาศปลายเดือนมีนาคมนี้ผ่านทางโทรทัศน์ของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและรายการทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ เช่น บ้านอุ้มช่อง 7 ฯลฯ
ทั้งนี้เพื่อสานต่อหลังจากที่เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วบริษัทฯได้เปิดตัวน้ำตาลธรรมชาติไปแล้วพบว่าได้รับการตอบรับดีจากประชาชนที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และได้มีการปรับปรุงกระบวนการปลูกอ้อย รวมถึงการงดใช้ปุ๋ยเคมีและเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งตรงนี้บริษัทฯได้ลงทุนไปกว่า 80 ล้านบาท เป็นต้น
ปัจจุบันกลุ่มวังขนายมีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง อาทิ น้ำตาลทรายขาว ,น้ำตาลธรรมชาติ, น้ำตาลทรายแดง ,น้ำตาลคาราเมล โดยมีกำลังการหีบอ้อยอยู่ที่ 1 แสนตันต่อวัน ในปีนี้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3 รายการที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก อาทิ น้ำตาลเพื่อสุขภาพ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น กำลังทดลองตลาดอยู่ โดยส่วนผสมจะมีน้ำตาลซูโครสและแลคโตส ซึ่งมีประโยชน์ในเรื่องระบบขับถ่าย และน้ำตาลอีก 2 ตัวที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 เป็นน้ำตาลที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงหรือกินแล้วไม่อ้วน
“ปีนี้ลงทุนกว่า 150 ล้านบาทปรับปรุงที่โรงงานนครราชสีมา และปีหน้ามีโครงการใหญ่ คือ การย้ายโรงงานที่กาญจนบุรีไปที่มหาสารคาม ภายใต้งบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯมีโรงงาน 4 แห่ง ได้แก่ ที่กาญจนบุรี, สุพรรณบุรี, ลพบุรี และนครราชสีมา ส่วนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯมีลงทุนสร้างโรงงานขนาดกลางที่ลาวไปแล้ว ส่วนที่จีนกำลังศึกษาตลาดอยู่”
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า บริษัทฯเตรียมต่อยอดธุรกิจไปสู่ธุรกิจอี่นที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาล อาทิ บริษัทฯมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานเอธานอล 2 แห่ง แบ่งเป็น โรงงานแรกใช้งบลงทุน 800 ล้านบาทและโรงงานที่สองใช้งบลงทุน1,200 ล้านบาท โดยจะเปิดดำเนินการได้เดือนเมษายนปีหน้า
สำหรับยอดรายได้ของกลุ่มวังขนายปีที่แล้วมีรายได้กว่า 7 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 70% และในประเทศ 30% ปัจจุบันวังขนายเป็นผู้นำตลาดน้ำตาลทรายขาว ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 90% และเป็นผู้นำในตลาดพรีเมี่ยม ด้วยแชร์ 55% ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์มีแชร์ 30%
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องปัญหาน้ำตาลที่ขาดแคลนในประเทศนั้นเกิดจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกแพงขึ้น ,การลักลอบส่งออกน้ำตาลไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามชายแดน ,การกักตุนสินค้าในช่วงที่มีข่าวว่าน้ำตาลจะขึ้นราคา อีกทั้งโรงงานผู้ผลิตสินค้าส่งออกซึ่งเดิมเคยใช้น้ำตาลโควต้าค.หันไปมาใช้น้ำตาล โควตา ก. แทนเพราะเห็นว่าราคาถูกกว่าจึงทำให้น้ำตาล โควต้า ก.หายไปประมาณ 3 แสนตัน ขณะนี้ได้มีการเพิ่มโควต้า ก. จาก 1.8 ล้านตัน เป็น2 ล้านตัน ตรงนี้เชื่อว่าภาวะการณ์ตื่นตระหนกของผู้บริโภคจะดีขึ้นในเดือนเมษายนนี้
นายบุญญฤทธิ์ ณ วังขนาย ผู้จัดการทั่วไปบริษัทวังขนาย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลวังขนาย เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯปีนี้จะมีการทำตลาดและประชาสัมพันธ์มากขึ้นในรอบหลายปี โดยการทุ่มงบการตลาดกว่า 40 ล้านบาทเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง ได้แก่ แตนเบียนและเต็มปอด ภายใต้แนวคิดการผลิตน้ำตาลที่ไม่เหมือนใคร หรือ Not All Sugar Are The Same เพื่อสร้างจุดยืนและสร้างภาพลักษณ์แบรนด์วังขนาย รวมถึงรองรับการเปิดตลาดเสรีในอนาคต โดยภาพยนตร์โฆษณาจะเริ่มออกอากาศปลายเดือนมีนาคมนี้ผ่านทางโทรทัศน์ของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและรายการทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ เช่น บ้านอุ้มช่อง 7 ฯลฯ
ทั้งนี้เพื่อสานต่อหลังจากที่เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วบริษัทฯได้เปิดตัวน้ำตาลธรรมชาติไปแล้วพบว่าได้รับการตอบรับดีจากประชาชนที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และได้มีการปรับปรุงกระบวนการปลูกอ้อย รวมถึงการงดใช้ปุ๋ยเคมีและเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งตรงนี้บริษัทฯได้ลงทุนไปกว่า 80 ล้านบาท เป็นต้น
ปัจจุบันกลุ่มวังขนายมีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง อาทิ น้ำตาลทรายขาว ,น้ำตาลธรรมชาติ, น้ำตาลทรายแดง ,น้ำตาลคาราเมล โดยมีกำลังการหีบอ้อยอยู่ที่ 1 แสนตันต่อวัน ในปีนี้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3 รายการที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก อาทิ น้ำตาลเพื่อสุขภาพ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น กำลังทดลองตลาดอยู่ โดยส่วนผสมจะมีน้ำตาลซูโครสและแลคโตส ซึ่งมีประโยชน์ในเรื่องระบบขับถ่าย และน้ำตาลอีก 2 ตัวที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 เป็นน้ำตาลที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงหรือกินแล้วไม่อ้วน
“ปีนี้ลงทุนกว่า 150 ล้านบาทปรับปรุงที่โรงงานนครราชสีมา และปีหน้ามีโครงการใหญ่ คือ การย้ายโรงงานที่กาญจนบุรีไปที่มหาสารคาม ภายใต้งบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯมีโรงงาน 4 แห่ง ได้แก่ ที่กาญจนบุรี, สุพรรณบุรี, ลพบุรี และนครราชสีมา ส่วนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯมีลงทุนสร้างโรงงานขนาดกลางที่ลาวไปแล้ว ส่วนที่จีนกำลังศึกษาตลาดอยู่”
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า บริษัทฯเตรียมต่อยอดธุรกิจไปสู่ธุรกิจอี่นที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาล อาทิ บริษัทฯมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานเอธานอล 2 แห่ง แบ่งเป็น โรงงานแรกใช้งบลงทุน 800 ล้านบาทและโรงงานที่สองใช้งบลงทุน1,200 ล้านบาท โดยจะเปิดดำเนินการได้เดือนเมษายนปีหน้า
สำหรับยอดรายได้ของกลุ่มวังขนายปีที่แล้วมีรายได้กว่า 7 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 70% และในประเทศ 30% ปัจจุบันวังขนายเป็นผู้นำตลาดน้ำตาลทรายขาว ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 90% และเป็นผู้นำในตลาดพรีเมี่ยม ด้วยแชร์ 55% ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์มีแชร์ 30%
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องปัญหาน้ำตาลที่ขาดแคลนในประเทศนั้นเกิดจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกแพงขึ้น ,การลักลอบส่งออกน้ำตาลไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามชายแดน ,การกักตุนสินค้าในช่วงที่มีข่าวว่าน้ำตาลจะขึ้นราคา อีกทั้งโรงงานผู้ผลิตสินค้าส่งออกซึ่งเดิมเคยใช้น้ำตาลโควต้าค.หันไปมาใช้น้ำตาล โควตา ก. แทนเพราะเห็นว่าราคาถูกกว่าจึงทำให้น้ำตาล โควต้า ก.หายไปประมาณ 3 แสนตัน ขณะนี้ได้มีการเพิ่มโควต้า ก. จาก 1.8 ล้านตัน เป็น2 ล้านตัน ตรงนี้เชื่อว่าภาวะการณ์ตื่นตระหนกของผู้บริโภคจะดีขึ้นในเดือนเมษายนนี้