ยอดรัก ตะวันรอน
ชั ดเจนและแน่นอนที่สุดที่ทุกคนเห็นได้ว่าการเมืองนั้นมันคืออะไร?
การสมัครรับเลือกตั้งของเราที่เปิดรับสมัครวันที่ 2 มีนาคม 2549 ที่ผ่านไปหยกๆ บอกให้ทุกคนมองเห็นว่าในวาระสุดท้ายมันจะจบลงด้วยความอเนจอนาถ เพราะว่ามันจะไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติประชาชนแม้แต่น้อย นอกจากเป็นการสร้างเส้นทางไปสู่นรกมหานรกที่โหดร้ายสำหรับนักการเมืองไทยพวกหนึ่งและชาติไทยเท่านั้น เพราะการเมืองต่อไปนี้เป็นการเมืองของคนขายชาติเพียงสถานเดียวเท่านั้น
ผมหมายความว่าในวงการเมืองหรือสถาบันการเมืองเป็นการเมืองที่สกปรกเกินไปหรือการเมืองไทยในเวลานี้ มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากชุมโจร ซึ่งภารกิจของมันก็คือการปล้นบ้านปล้นเมือง การปล้นสะดมประชาชนและทรัพย์สินของประชาชน
นักการเมืองจะเข้าไปเป็นนักการเมือง หรือเล่นการเมืองโดยวัตถุประสงค์นี้ทั้งสิ้น
และในการเข้าไปทำงานการเมืองหรือการเดินทางเข้าไปสู่วงการเมืองนั้นคือทางเดินที่สกปรกทุกก้าวที่นักการเมืองจะต้องเดินไปตามนั้นโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเมืองจึงมีความหมายเพียงสองประการเท่านั้นเอง
ไม่ว่าใครจะแก้ตัวอย่างไรหรือมีเหตุผลประการใดที่จะเอามาแสดง มันจะมีความหมายเพียงเท่านี้เท่านั้น
และการเมืองของไทยก็ดำเนินไปตามกฎเกณฑ์นี้อย่างไม่ขยับเขยื้อนไปเป็นอื่นตั้งแต่มีระบอบประชาธิปไตยขึ้นในประเทศนี้ ถึงไม่มากก็น้อยหรือไม่ถึงกับหนักหนาสาหัสทุกครั้งไปก็หนีกฎเกณฑ์เหล่านี้ไปไม่ได้ เฉพาะอย่างยิ่งการกินบ้านกินเมืองคดโกงอย่างปิดบังซ่อนเหลี่ยมซ่อนคมหรือปล้นขโมยเอาไปกินกันตรงๆ
และผลของมันก็คือ นักการเมืองเหล่านี้แม้ว่าจะร่ำรวยหรืออุดมสมบูรณ์ไปทุกคน ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาวิเศษวิโสไปกว่าคนที่ยากจนอื่นๆ
เช่นเดียวกับรัฐบาลชุดนี้และชุดที่จะขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกชุดหนึ่งซึ่งจะเป็นรัฐบาลที่คอร์รัปชัน และปล้นบ้านปล้นเมืองหนักยิ่งไปกว่าการคอร์รัปชันในปัจจุบันหรือตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีประชาชนส่วนมากที่คิดกันเช่นนั้น เพราะสมบัติของประเทศไทยทุกวันนี้ จะมีทรัพย์สินที่มีค่าเหลือเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
การเลือกตั้งครั้งนี้แม้จะมีนักเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองไม่น้อยปฏิเสธที่จะลงสมัครรับเลือกไปแล้วเกือบทุกพรรคหลีกเลี่ยงเข้าไปสนับสนุนการขายชาติครั้งสุดท้ายนี้ การขายชาติก็ยังจะต้องมีอีกต่อไป เฉพาะอย่างยิ่งแผ่นดินและประเทศชาติที่เรายังพอเหลืออยู่บ้าง
รัฐบาลที่ผ่านมาได้ขายเอกราชอธิปไตยส่วนหนึ่งให้ต่างชาติไปแล้ว เฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศสิงคโปร์ซึ่งได้ซื้อธนาคาร ดาวเทียม และอื่นๆ หมดไปแล้วเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ที่เหลืออยู่ที่ยังไม่กล้าขายกันนั้นยืนยันว่ายังเหลืออยู่เพียงสนามหลวง วัดพระแก้ว และศาลหลักเมืองเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการพูดเล่นหรือพูดจริงก็ตาม แต่หลายคนก็เตือนเอาไว้ว่าอย่าเผลอเป็นอันขาด เพราะนักการเมืองไทยนั้นก็คือโจรมหาโจรเราดีๆ นี้เอง
และการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ ความจริงสภาผู้แทนราษฎรก็มีการยอมรับว่าไม่มีความขัดแย้งอะไรกับรัฐบาล หรือไม่มีความผิดอะไรกับใคร ตามธรรมเนียม และกฎหมายแล้วไม่มีใครมีสิทธิไปยุ่งหรือไม่ควรจะเข้าไปยุง เพราะความผิดทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นความผิดของรัฐบาลปกครองประเทศอยู่เป็นฝ่ายผิดฝ่ายเดียว
และถ้าไม่มีอะไรผิดก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องช่วยกันแก้ไขตามธรรมเนียมประเพณี
ไม่ใช่การยุบสภา
เฉพาะความขัดแย้งจากฝ่ายค้าน หรือแม้แต่จากประชาชนทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องของผู้คนหมูหมาที่ไหนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งและทำให้สิ้นสุดลงไม่ได้ แต่มันเกิดขึ้นจากการคอร์รัปชันของรัฐบาลปัจจุบันนี้เสียเท่านั้น
และทางแก้มันมีอยู่นิดเดียวไม่มากไปกว่าขี้เล็บ นั่นก็คือการยุติการคอร์รัปชันที่ว่านั้นเสีย ทุกอย่างมันก็จะเงียบสงบ
มีประชาชนและนักวิชาการส่วนมากได้พยายามเสนอแนะ และคัดค้านกันมาตลอดทั้งอาทิตย์แล้ว แต่รัฐบาลและพวกมนุษย์ขายชาติพยายามทำตัวเป็นไอ้โง่ ไม่รู้ไม่เข้าใจ เอากันแต่เพียงว่าขอให้ “กู” ได้ขายชาติเท่านั้นเป็นการพอเพียง
การสร้างระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาในชาติหนึ่งชาติใดนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงการปกครองมานานถึง 76 ปี แต่ยิ่งทำให้ประชาธิปไตยของเราเลวลงเพราะปัจจัยสองประการเกิดขึ้นนั่นคือ การเข้าใจปัญหาทางการเมือง และการศึกษาการเมืองของคนไทยไม่มีอะไรดีขึ้นมากกว่า เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ทุกคนยังโง่และไม่ยอมเรียนรู้และไม่ยอมทำความเข้าใจ รัฐบาล
ประชาธิปไตยที่เกิดแล้วเกิดเล่าก็ฉิบหายมาตลอด พวกคนเหล่านี้จะไม่ยอมให้การศึกษาแก่ประชาชนในเรื่องของระบอบประชาธิปไตยใดๆ ทั้งสิ้น นั่นประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งความโง่ของประชาชน และการไร้การศึกษาของประชาชนทำให้นักการเมืองมีโอกาสโกหกหลอกลวง และต้มประชาชนให้ไขว้เขวได้มากขึ้น แม้แต่การต้มให้ประชาชนทั่วประเทศเข้ามาเชียร์นายกรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทยที่สนามหลวงในวันที่ 3 มีนาคมนี้ โดยการว่าจ้างและการให้สินบนในรูปแบบต่างๆ เฉพาะค่าจ้างที่เป็นเงินสดที่ตกลงกันทั่วประเทศว่าจะได้คนละ 500 บาท ซึ่งบางแห่งก็ถูกอมไปเหลือเพียง 100 บาทอย่างที่มีรายงานข่าวตามรายการโทรทัศน์ทั่วไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้เป็นการผิดกฎหมายเลือกตั้งซึ่งจะทำไม่ได้ แต่พรรคไทยรักไทยก็บังอาจทำมันอย่างไม่แคร์เทวดามนุษย์ที่ไหน
เฉพาะอย่างยิ่ง การขายขาติ ขายประเทศ ฝ่ายประชาชนยอมไม่ได้ แว่วว่าผู้ปกครอง ผู้มีอำนาจ ตำรวจ ทหารหรือพวกคนไทยหัวหงอกหัวดำทั่วประเทศจะต้องร่วมกันคัดค้านด้วยกันทั้งนั้นก็พากันนั่งหลับหูหลับตาไม่ยอมปริปาก
เป็นเหตุการณ์ที่น่าอนาถที่สุดรายการหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาติไทย!
แต่รัฐบาลทำไม่ได้ เพราะเป็นระยะที่รัฐบาลกำลังขายชาติอยู่อย่างมันเขี้ยวในทุกรูปแบบ เฉพาะอย่างยิ่งการขายชาติให้สิงคโปร์เป็นหมื่นๆ ล้านบาท
ก็มีการทักท้วงและโวยวายกันขณะนี้ โดยนักการเมืองที่ไม่มีโอกาสได้คอร์รัปชัน หรือเคยคอร์รัปชันมากเกินพอแล้ว แต่ต้องมาหยุดชะงักอยู่เพราะไม่ได้เป็นรัฐบาล
เพราะฉะนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นจะต้องหาทางกลบเกลื่อน และพยายามขายชาติให้รุ่งโรจน์ตามความประสงค์ก็ต้องใช้สภาเป็นเครื่องมือคือทำได้ด้วยการยุบสภา และให้มีการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อให้พวกขายชาติเหล่านั้นขายชาติปล้นชาติกันได้อย่างหวานๆ ต่อไป
แม้ว่าจะผิดมารยาทหรือธรรมเนียมประเพณีและว่าการดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมายจะไม่สะดวกสบายอะไรอยู่ก็ตาม แต่ถ้าใช้เงินซึ่งในวงการเมืองของไทยไม่ว่าจะมีป่าดงพงหนามที่ไหนที่มันอาจจะมีอุปสรรคขัดขวางอยู่ ถ้าใช้เงินซึ่งเป็นเงินหลวงเสียอย่างเดียวเท่านั้นทุกอย่างก็จะสามารถดำเนินไปได้ตามปกติเหมือนเรื่องธรรมดาสามัญ ถ้าเรามัวแต่ก้มหน้าคิดกันอยู่อย่างนั้น บ้านเมืองไม่ฉิบหายมันจะย่อมเป็นไปไม่ได้
ในเมืองไทยเรานั้น ความจริงมีผู้หลักผู้ใหญ่และมนุษย์หัวหงอกหัวดำเป็นจำนวนมากที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นประจำองค์กรที่สำคัญต่างๆ มากมาย มียศมีเกียรติ มีอำนาจ แต่คนเหล่านี้จะใช้อำนาจกับคนไม่มีเงินเท่านั้น แต่สำหรับพวกมีเงินมีอำนาจด้วยกันอย่างรัฐบาลชั่วชาติของเรา ถ้าหากพวกเขาจะทำอะไรก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าความฉิบหายประการใดจะเกิดขึ้น เขาจะพากันนิ่งและหลับหูหลับตา
นั่นก็เป็นจุดอ่อนที่สุดจุดหนึ่งของสังคมไทยแต่ไหนแต่ไรมา
อย่างกรณีการสร้างเกียรติคุณของตนเองให้เป็นเทพเจ้าขึ้นมาจากการปราศรัยที่สนามหลวงแก่ประชาชนในวันที่ 3 มีนาคม 2549 และการบังคับให้คนซื้อไปรษณียบัตร
ส่งตู้ ปณ. 888 เป็นแสนๆ ล้านๆ ใบเพื่อส่งไปให้กำลังใจ หรือการขนคนเข้ามาเชียร์นายกรัฐมนตรีเพื่อฟังการปราศรัยในวันที่ 3 มีนาคมนั้น เป็นระยะเวลาที่จะต้องมีการเลือกตั้งซึ่งมีกฎหมายเขียนไว้ว่า การให้สินบนและสิ่งของใดๆ ให้อามิสสินจ้างหรือเงินทองใดๆ แก่ประชาชนนั้น ทำไม่ได้ มันผิดกฎหมายซึ่งทำไม่ได้
แต่ไม่เพียงแต่ปล่อยให้ทำกัน แถมยังบังคับกันเสียอีกด้วย
เฉพาะอย่างยิ่งค่าจ้างที่รัฐบาลจ่ายให้คนละ 500 บาท
แต่ส่วนมากจะถูกหักโดยหัวคะแนน นายหน้าหรือผู้มีอำนาจในการไล่ต้อนระดมคนหรือหัวคะแนนจะขอหักออกไปเหลือเพียงคนละ 100 บาทหรือไม่เกิน 200 บาท พวกนี้จะต้องมีรายได้จากการหักหรือยักยอกเงินเอาไว้หัวละไม่น้อย 200 บาทหรือ 300 บาท สำหรับการเดินทางและความสะดวกอื่นๆ จะมีการจัดให้อย่างเรียบร้อยทุกประการ
ไม่มีใครโผล่หัวออกมาคัดค้านสักแอะเดียว!
คนมีอำนาจวาสนาในประเทศกลายเป็นเดียรัจฉานทางการเมืองธรรมดาที่สุดไปหมดทั้งชาติ อะไรทำนองนั้น จะไม่มีใครมีน้ำยาอะไรแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย
แต่ก็นับว่ายังเป็นบุญวาสนาของชาติไทยอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะดูว่าช้าไปหน่อย
นั่นคือการกำแหงหรือการแข็งข้อของพรรคฝ่ายค้าน เฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย คุณเสนาะ เทียนทอง คุณสนั่น ขจรประศาสน์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้ใหญ่ของชาติในทางการเมืองที่เหลืออยู่คัดค้านหรือยืนยันที่จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งร่วมกับ
การเลือกตั้งของกลุ่มสัตว์เดียรัจฉานทางการเมืองพวกนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า “กูจะไม่ร่วมมือกับมึง” หรือ “กูจะไม่เป็นเครื่องมือให้มึงเป็นรัฐบาลขึ้นมาปล้นบ้านปล้นเมืองต่อไปเด็ดขาด”
เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีหรือจะไม่มีก็ตาม มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหามากจนไม่สามารถจะแก้ปัญหาอะไรได้ นอกจากรัฐบาลสกปรกแห่งนี้พร้อมด้วยบรรดาเดียรัจฉานทางการเมืองที่เขาเลี้ยงดูเอาไว้อย่างทะนุถนอมทุกคน ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม สิ่งที่ตัวเขาหรือเดียรัจฉานทางการเมืองทั้งหมดเหล่านี้จะพากันฉิบหายไปทั้งชีวิต
โอกาสที่จะลืมตาอ้าปากทางการเมืองขึ้นมานั้น จะไม่มีต่อไปอีกแล้ว
ขอให้เชื่อได้ว่าอีกไม่กี่วันพวกคุณก็จะเห็น ผมรับรอง
ขอโทษเถอะครับ, บังเอิญผมเองกำลังศึกษาโหราศาสตร์อยู่ด้วย ผมก็จะอาศัย ดวงบอกกล่าวแก่คุณกับพรรคพวกว่าโอกาสที่จะฉิบหายอย่างย่อยยับทั้งคุณและครอบครัวโดยอัปมงคลต่างๆ มันจะเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะไปแก้ดวงอย่างใด แจกเงินที่ไหน เดินทางไปหลอกลวงใครไกลแค่ไหน หรือย้ายบ้านตามฮวงจุ้ยใดๆ มันจะแก้อะไรไม่ได้ ยังไงก็ตาม ความฉิบหายนานาประการจะเป็นของคุณ
ไม่สำคัญว่าคุณจะมีลัคนาอยู่ที่ไหนไม่สำคัญสำหรับผม ผมอาศัยดวงดาวเพียงดวงเดียวเท่านั้นคือ ราหู หรือ 8 ซึ่งในดวงนั้นอยู่ในราศีมีน
ราหูตัวนั้นเป็นราหูเดิมในดวงชะตา และมาถึงระยะนี้ราหูที่โคจรเป็นรายปีนี้เกิดโคจรเข้ามาทับราหูจรในราศีมีนพอดีนักโหราศาสตร์เรียกว่าราหูทับราหู
ตำราเก่าแก่ของเราเขียนคำทำนายไว้ว่า
ราหูทับราหู ปะทะกันและกันกล
ห้ามจรัญหน ประเทศจะอันตราย
สินทรัพย์จะรอยริน ธิบดินทร์จะหมองหมาย
โทษตนระมัดกาย และจะเกิดพระเพลงกาฬ
ศัตรูจะแกล้งกล่าว พจน์ล่อและลวงผลาญ
พยาธิใหญ่จะประหาร บมิญาติจะม้วยมรณ์
เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายๆ อย่าง คำทำนายเป็นกวีนิพนธ์ของโหรโบราณ รับรองได้ว่าผิดยากครับ
ชั ดเจนและแน่นอนที่สุดที่ทุกคนเห็นได้ว่าการเมืองนั้นมันคืออะไร?
การสมัครรับเลือกตั้งของเราที่เปิดรับสมัครวันที่ 2 มีนาคม 2549 ที่ผ่านไปหยกๆ บอกให้ทุกคนมองเห็นว่าในวาระสุดท้ายมันจะจบลงด้วยความอเนจอนาถ เพราะว่ามันจะไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติประชาชนแม้แต่น้อย นอกจากเป็นการสร้างเส้นทางไปสู่นรกมหานรกที่โหดร้ายสำหรับนักการเมืองไทยพวกหนึ่งและชาติไทยเท่านั้น เพราะการเมืองต่อไปนี้เป็นการเมืองของคนขายชาติเพียงสถานเดียวเท่านั้น
ผมหมายความว่าในวงการเมืองหรือสถาบันการเมืองเป็นการเมืองที่สกปรกเกินไปหรือการเมืองไทยในเวลานี้ มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากชุมโจร ซึ่งภารกิจของมันก็คือการปล้นบ้านปล้นเมือง การปล้นสะดมประชาชนและทรัพย์สินของประชาชน
นักการเมืองจะเข้าไปเป็นนักการเมือง หรือเล่นการเมืองโดยวัตถุประสงค์นี้ทั้งสิ้น
และในการเข้าไปทำงานการเมืองหรือการเดินทางเข้าไปสู่วงการเมืองนั้นคือทางเดินที่สกปรกทุกก้าวที่นักการเมืองจะต้องเดินไปตามนั้นโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเมืองจึงมีความหมายเพียงสองประการเท่านั้นเอง
ไม่ว่าใครจะแก้ตัวอย่างไรหรือมีเหตุผลประการใดที่จะเอามาแสดง มันจะมีความหมายเพียงเท่านี้เท่านั้น
และการเมืองของไทยก็ดำเนินไปตามกฎเกณฑ์นี้อย่างไม่ขยับเขยื้อนไปเป็นอื่นตั้งแต่มีระบอบประชาธิปไตยขึ้นในประเทศนี้ ถึงไม่มากก็น้อยหรือไม่ถึงกับหนักหนาสาหัสทุกครั้งไปก็หนีกฎเกณฑ์เหล่านี้ไปไม่ได้ เฉพาะอย่างยิ่งการกินบ้านกินเมืองคดโกงอย่างปิดบังซ่อนเหลี่ยมซ่อนคมหรือปล้นขโมยเอาไปกินกันตรงๆ
และผลของมันก็คือ นักการเมืองเหล่านี้แม้ว่าจะร่ำรวยหรืออุดมสมบูรณ์ไปทุกคน ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาวิเศษวิโสไปกว่าคนที่ยากจนอื่นๆ
เช่นเดียวกับรัฐบาลชุดนี้และชุดที่จะขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกชุดหนึ่งซึ่งจะเป็นรัฐบาลที่คอร์รัปชัน และปล้นบ้านปล้นเมืองหนักยิ่งไปกว่าการคอร์รัปชันในปัจจุบันหรือตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีประชาชนส่วนมากที่คิดกันเช่นนั้น เพราะสมบัติของประเทศไทยทุกวันนี้ จะมีทรัพย์สินที่มีค่าเหลือเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
การเลือกตั้งครั้งนี้แม้จะมีนักเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองไม่น้อยปฏิเสธที่จะลงสมัครรับเลือกไปแล้วเกือบทุกพรรคหลีกเลี่ยงเข้าไปสนับสนุนการขายชาติครั้งสุดท้ายนี้ การขายชาติก็ยังจะต้องมีอีกต่อไป เฉพาะอย่างยิ่งแผ่นดินและประเทศชาติที่เรายังพอเหลืออยู่บ้าง
รัฐบาลที่ผ่านมาได้ขายเอกราชอธิปไตยส่วนหนึ่งให้ต่างชาติไปแล้ว เฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศสิงคโปร์ซึ่งได้ซื้อธนาคาร ดาวเทียม และอื่นๆ หมดไปแล้วเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ที่เหลืออยู่ที่ยังไม่กล้าขายกันนั้นยืนยันว่ายังเหลืออยู่เพียงสนามหลวง วัดพระแก้ว และศาลหลักเมืองเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการพูดเล่นหรือพูดจริงก็ตาม แต่หลายคนก็เตือนเอาไว้ว่าอย่าเผลอเป็นอันขาด เพราะนักการเมืองไทยนั้นก็คือโจรมหาโจรเราดีๆ นี้เอง
และการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ ความจริงสภาผู้แทนราษฎรก็มีการยอมรับว่าไม่มีความขัดแย้งอะไรกับรัฐบาล หรือไม่มีความผิดอะไรกับใคร ตามธรรมเนียม และกฎหมายแล้วไม่มีใครมีสิทธิไปยุ่งหรือไม่ควรจะเข้าไปยุง เพราะความผิดทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นความผิดของรัฐบาลปกครองประเทศอยู่เป็นฝ่ายผิดฝ่ายเดียว
และถ้าไม่มีอะไรผิดก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องช่วยกันแก้ไขตามธรรมเนียมประเพณี
ไม่ใช่การยุบสภา
เฉพาะความขัดแย้งจากฝ่ายค้าน หรือแม้แต่จากประชาชนทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องของผู้คนหมูหมาที่ไหนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งและทำให้สิ้นสุดลงไม่ได้ แต่มันเกิดขึ้นจากการคอร์รัปชันของรัฐบาลปัจจุบันนี้เสียเท่านั้น
และทางแก้มันมีอยู่นิดเดียวไม่มากไปกว่าขี้เล็บ นั่นก็คือการยุติการคอร์รัปชันที่ว่านั้นเสีย ทุกอย่างมันก็จะเงียบสงบ
มีประชาชนและนักวิชาการส่วนมากได้พยายามเสนอแนะ และคัดค้านกันมาตลอดทั้งอาทิตย์แล้ว แต่รัฐบาลและพวกมนุษย์ขายชาติพยายามทำตัวเป็นไอ้โง่ ไม่รู้ไม่เข้าใจ เอากันแต่เพียงว่าขอให้ “กู” ได้ขายชาติเท่านั้นเป็นการพอเพียง
การสร้างระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาในชาติหนึ่งชาติใดนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงการปกครองมานานถึง 76 ปี แต่ยิ่งทำให้ประชาธิปไตยของเราเลวลงเพราะปัจจัยสองประการเกิดขึ้นนั่นคือ การเข้าใจปัญหาทางการเมือง และการศึกษาการเมืองของคนไทยไม่มีอะไรดีขึ้นมากกว่า เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ทุกคนยังโง่และไม่ยอมเรียนรู้และไม่ยอมทำความเข้าใจ รัฐบาล
ประชาธิปไตยที่เกิดแล้วเกิดเล่าก็ฉิบหายมาตลอด พวกคนเหล่านี้จะไม่ยอมให้การศึกษาแก่ประชาชนในเรื่องของระบอบประชาธิปไตยใดๆ ทั้งสิ้น นั่นประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งความโง่ของประชาชน และการไร้การศึกษาของประชาชนทำให้นักการเมืองมีโอกาสโกหกหลอกลวง และต้มประชาชนให้ไขว้เขวได้มากขึ้น แม้แต่การต้มให้ประชาชนทั่วประเทศเข้ามาเชียร์นายกรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทยที่สนามหลวงในวันที่ 3 มีนาคมนี้ โดยการว่าจ้างและการให้สินบนในรูปแบบต่างๆ เฉพาะค่าจ้างที่เป็นเงินสดที่ตกลงกันทั่วประเทศว่าจะได้คนละ 500 บาท ซึ่งบางแห่งก็ถูกอมไปเหลือเพียง 100 บาทอย่างที่มีรายงานข่าวตามรายการโทรทัศน์ทั่วไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้เป็นการผิดกฎหมายเลือกตั้งซึ่งจะทำไม่ได้ แต่พรรคไทยรักไทยก็บังอาจทำมันอย่างไม่แคร์เทวดามนุษย์ที่ไหน
เฉพาะอย่างยิ่ง การขายขาติ ขายประเทศ ฝ่ายประชาชนยอมไม่ได้ แว่วว่าผู้ปกครอง ผู้มีอำนาจ ตำรวจ ทหารหรือพวกคนไทยหัวหงอกหัวดำทั่วประเทศจะต้องร่วมกันคัดค้านด้วยกันทั้งนั้นก็พากันนั่งหลับหูหลับตาไม่ยอมปริปาก
เป็นเหตุการณ์ที่น่าอนาถที่สุดรายการหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาติไทย!
แต่รัฐบาลทำไม่ได้ เพราะเป็นระยะที่รัฐบาลกำลังขายชาติอยู่อย่างมันเขี้ยวในทุกรูปแบบ เฉพาะอย่างยิ่งการขายชาติให้สิงคโปร์เป็นหมื่นๆ ล้านบาท
ก็มีการทักท้วงและโวยวายกันขณะนี้ โดยนักการเมืองที่ไม่มีโอกาสได้คอร์รัปชัน หรือเคยคอร์รัปชันมากเกินพอแล้ว แต่ต้องมาหยุดชะงักอยู่เพราะไม่ได้เป็นรัฐบาล
เพราะฉะนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นจะต้องหาทางกลบเกลื่อน และพยายามขายชาติให้รุ่งโรจน์ตามความประสงค์ก็ต้องใช้สภาเป็นเครื่องมือคือทำได้ด้วยการยุบสภา และให้มีการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อให้พวกขายชาติเหล่านั้นขายชาติปล้นชาติกันได้อย่างหวานๆ ต่อไป
แม้ว่าจะผิดมารยาทหรือธรรมเนียมประเพณีและว่าการดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมายจะไม่สะดวกสบายอะไรอยู่ก็ตาม แต่ถ้าใช้เงินซึ่งในวงการเมืองของไทยไม่ว่าจะมีป่าดงพงหนามที่ไหนที่มันอาจจะมีอุปสรรคขัดขวางอยู่ ถ้าใช้เงินซึ่งเป็นเงินหลวงเสียอย่างเดียวเท่านั้นทุกอย่างก็จะสามารถดำเนินไปได้ตามปกติเหมือนเรื่องธรรมดาสามัญ ถ้าเรามัวแต่ก้มหน้าคิดกันอยู่อย่างนั้น บ้านเมืองไม่ฉิบหายมันจะย่อมเป็นไปไม่ได้
ในเมืองไทยเรานั้น ความจริงมีผู้หลักผู้ใหญ่และมนุษย์หัวหงอกหัวดำเป็นจำนวนมากที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นประจำองค์กรที่สำคัญต่างๆ มากมาย มียศมีเกียรติ มีอำนาจ แต่คนเหล่านี้จะใช้อำนาจกับคนไม่มีเงินเท่านั้น แต่สำหรับพวกมีเงินมีอำนาจด้วยกันอย่างรัฐบาลชั่วชาติของเรา ถ้าหากพวกเขาจะทำอะไรก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าความฉิบหายประการใดจะเกิดขึ้น เขาจะพากันนิ่งและหลับหูหลับตา
นั่นก็เป็นจุดอ่อนที่สุดจุดหนึ่งของสังคมไทยแต่ไหนแต่ไรมา
อย่างกรณีการสร้างเกียรติคุณของตนเองให้เป็นเทพเจ้าขึ้นมาจากการปราศรัยที่สนามหลวงแก่ประชาชนในวันที่ 3 มีนาคม 2549 และการบังคับให้คนซื้อไปรษณียบัตร
ส่งตู้ ปณ. 888 เป็นแสนๆ ล้านๆ ใบเพื่อส่งไปให้กำลังใจ หรือการขนคนเข้ามาเชียร์นายกรัฐมนตรีเพื่อฟังการปราศรัยในวันที่ 3 มีนาคมนั้น เป็นระยะเวลาที่จะต้องมีการเลือกตั้งซึ่งมีกฎหมายเขียนไว้ว่า การให้สินบนและสิ่งของใดๆ ให้อามิสสินจ้างหรือเงินทองใดๆ แก่ประชาชนนั้น ทำไม่ได้ มันผิดกฎหมายซึ่งทำไม่ได้
แต่ไม่เพียงแต่ปล่อยให้ทำกัน แถมยังบังคับกันเสียอีกด้วย
เฉพาะอย่างยิ่งค่าจ้างที่รัฐบาลจ่ายให้คนละ 500 บาท
แต่ส่วนมากจะถูกหักโดยหัวคะแนน นายหน้าหรือผู้มีอำนาจในการไล่ต้อนระดมคนหรือหัวคะแนนจะขอหักออกไปเหลือเพียงคนละ 100 บาทหรือไม่เกิน 200 บาท พวกนี้จะต้องมีรายได้จากการหักหรือยักยอกเงินเอาไว้หัวละไม่น้อย 200 บาทหรือ 300 บาท สำหรับการเดินทางและความสะดวกอื่นๆ จะมีการจัดให้อย่างเรียบร้อยทุกประการ
ไม่มีใครโผล่หัวออกมาคัดค้านสักแอะเดียว!
คนมีอำนาจวาสนาในประเทศกลายเป็นเดียรัจฉานทางการเมืองธรรมดาที่สุดไปหมดทั้งชาติ อะไรทำนองนั้น จะไม่มีใครมีน้ำยาอะไรแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย
แต่ก็นับว่ายังเป็นบุญวาสนาของชาติไทยอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะดูว่าช้าไปหน่อย
นั่นคือการกำแหงหรือการแข็งข้อของพรรคฝ่ายค้าน เฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย คุณเสนาะ เทียนทอง คุณสนั่น ขจรประศาสน์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้ใหญ่ของชาติในทางการเมืองที่เหลืออยู่คัดค้านหรือยืนยันที่จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งร่วมกับ
การเลือกตั้งของกลุ่มสัตว์เดียรัจฉานทางการเมืองพวกนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า “กูจะไม่ร่วมมือกับมึง” หรือ “กูจะไม่เป็นเครื่องมือให้มึงเป็นรัฐบาลขึ้นมาปล้นบ้านปล้นเมืองต่อไปเด็ดขาด”
เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีหรือจะไม่มีก็ตาม มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหามากจนไม่สามารถจะแก้ปัญหาอะไรได้ นอกจากรัฐบาลสกปรกแห่งนี้พร้อมด้วยบรรดาเดียรัจฉานทางการเมืองที่เขาเลี้ยงดูเอาไว้อย่างทะนุถนอมทุกคน ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม สิ่งที่ตัวเขาหรือเดียรัจฉานทางการเมืองทั้งหมดเหล่านี้จะพากันฉิบหายไปทั้งชีวิต
โอกาสที่จะลืมตาอ้าปากทางการเมืองขึ้นมานั้น จะไม่มีต่อไปอีกแล้ว
ขอให้เชื่อได้ว่าอีกไม่กี่วันพวกคุณก็จะเห็น ผมรับรอง
ขอโทษเถอะครับ, บังเอิญผมเองกำลังศึกษาโหราศาสตร์อยู่ด้วย ผมก็จะอาศัย ดวงบอกกล่าวแก่คุณกับพรรคพวกว่าโอกาสที่จะฉิบหายอย่างย่อยยับทั้งคุณและครอบครัวโดยอัปมงคลต่างๆ มันจะเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะไปแก้ดวงอย่างใด แจกเงินที่ไหน เดินทางไปหลอกลวงใครไกลแค่ไหน หรือย้ายบ้านตามฮวงจุ้ยใดๆ มันจะแก้อะไรไม่ได้ ยังไงก็ตาม ความฉิบหายนานาประการจะเป็นของคุณ
ไม่สำคัญว่าคุณจะมีลัคนาอยู่ที่ไหนไม่สำคัญสำหรับผม ผมอาศัยดวงดาวเพียงดวงเดียวเท่านั้นคือ ราหู หรือ 8 ซึ่งในดวงนั้นอยู่ในราศีมีน
ราหูตัวนั้นเป็นราหูเดิมในดวงชะตา และมาถึงระยะนี้ราหูที่โคจรเป็นรายปีนี้เกิดโคจรเข้ามาทับราหูจรในราศีมีนพอดีนักโหราศาสตร์เรียกว่าราหูทับราหู
ตำราเก่าแก่ของเราเขียนคำทำนายไว้ว่า
ราหูทับราหู ปะทะกันและกันกล
ห้ามจรัญหน ประเทศจะอันตราย
สินทรัพย์จะรอยริน ธิบดินทร์จะหมองหมาย
โทษตนระมัดกาย และจะเกิดพระเพลงกาฬ
ศัตรูจะแกล้งกล่าว พจน์ล่อและลวงผลาญ
พยาธิใหญ่จะประหาร บมิญาติจะม้วยมรณ์
เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายๆ อย่าง คำทำนายเป็นกวีนิพนธ์ของโหรโบราณ รับรองได้ว่าผิดยากครับ