.ในช่วงเวลาระหว่างนี้ได้มีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ มีดาวพระเคราะห์ใหญ่ที่สำคัญ ๒ ดวง ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์โคจรเข้ามาใกล้โลก ซึ่งตามหลักวิชาโหราศาสตร์เรียกว่า เป็นการโคจรวิกลคติ (โคจรถอยหลังแทนที่จะโคจรไปข้างหน้า) หรือ พักร (Retrograde) กล่าวคือ ดาวพฤหัสบดีจะพักรอยู่ในราศีตุลย์ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2549 จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม ปีเดียวกัน และดาวเสาร์ซึ่งได้พักรอยู่ในราศีกรกฎมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2548 จนถึงวันที่ 6 เมษายน 2549
ในแต่ละปี ดาวพระเคราะห์ต่างๆ ยกเว้น ดวงอาทิตย์ และดาวจันทร์ซึ่งเป็นดาวพระเคราะห์ขนาดเล็กกว่าดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์จะมีการโคจรวิกลคติเป็นประจำเช่นกัน ถ้าเป็นดาวเล็กซึ่งมีวงโคจรไม่ห่างจากดวงอาทิตย์ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพุธ และดาวศุกร์จะใช้เวลาพักรไม่นานนัก หากเป็นดาวเล็กที่มีวงโคจรห่างจากดวงอาทิตย์มากได้แก่ ดาวมฤตยู ดาวเน็ปจูน และดาวพลูโตจะใช้เวลาพักรนาน
เรื่องการโคจรวิกลคติของดาวพระเคราะห์ดังกล่าว ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ถือว่า จะส่งผลเบียนเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตา โดยจะปรากฎผลให้เห็นเมื่อดาวพระเคราะห์ที่พักรมีเชิงมุมที่ไม่ให้คุณกับดาวพระเคราะห์รวมทั้งลัคนา และจุดที่ตั้งของเรือนหรือภพต่างๆ ในดวงชะตานั้น
ในการตรวจสอบดวงเมืองว่า จะได้รับอิทธิพลจากการโคจรวิกลคติของดาวพระเคราะห์ นอกจากจะใช้ดวงเมืองซึ่งเป็นวันพระราชพิธีตั้งเสาหลักเมือง กรุงเทพมหานคร โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ปฐมบรมราชจักรีวงศ์ ได้ทรงกำหนดพระฤกษ์นี้ด้วยพระองค์เอง คือ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เวลา 06:54 นาฬิกาซึ่งวงการโหราศาสตร์ไทยได้ยอมรับใช้ในการพยากรณ์มาโดยตลอด ผมยังใช้หลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้า ซึ่งโหราศาสตร์สากลใช้ชื่อว่า “Progressed Astrology” โหราศาสตร์ฮินดู เรียกว่า “Varshaphal” และโหราศาสตร์ไทยโบราณเรียกว่า “ทินวรรษ” มาประกอบการพิจารณาด้วย หลักวิชาโหราศาสตร์ดังกล่าวใช้วิธีผูกดวงเมืองฯ หรือ ดวงชะตาบุคคลขึ้นใหม่ในวันครบรอบวันเกิด แล้วคำนวณหาว่าในรอบปีเกิดนั้น มีดาวพระเคราะห์ดวงใดเป็นดาวประจำเมือง หรือ ดาวประจำตัวบุคคลเจ้าของชะตาแล้วจึงพิจารณาพยากรณ์ตามคุณลักษณะของดาวพระเคราะห์นั้น
เมื่อได้ทำการผูกดวงชะตาเมืองฯ ประจำปี พ.ศ.2548 (ซึ่งเริ่มต้นจากวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2548 จนถึงวันที่ 24 เมษายน 2549) ตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ก้าวหน้าแล้ว ปรากฏว่า ดาวเสาร์เป็นดาวประจำปีของดวงเมือง ดังนั้น เมื่อดาวเสาร์ซึ่งพื้นฐานเดิมเป็นบาปเคราะห์ และกำลังโคจรวิกลคติ จึงส่งผลเบียนเป็นทุกข์โทษแก่ดวงเมืองตลอดทั้งปี
ผมได้เคยเขียนบทความกรณีศึกษาตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวเกี่ยวกับอิทธิพลของดาวเสาร์เมื่อโคจรเข้าใกล้โลกไว้หลายครั้ง จึงขอหยิบยกมากล่าวถึงอีกครั้งดังต่อไปนี้
เมื่อปลายปี พ.ศ.2546 ดาวเสาร์ได้เคยโคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุด อีกไม่กี่วันต่อมาคือ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2547 ก็ได้เกิดเหตุปล้นอาวุธปืนจำนวนมากกว่า 200 กระบอกจากค่ายทหารที่จังหวัดนราธิวาส และนับตั้งแต่บัดนั้นมา การก่อการร้ายด้วยการเผา การวางระเบิด การลอบสังหารทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชนพลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งพระสงฆ์ ได้เกิดขึ้นเป็นรายวันยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกอีกครั้งหนึ่ง จึงได้แสดงผลให้ปรากฏที่สำคัญคือ เกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิที่ได้สร้างภัยพิบัติขึ้นใน 6 จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 ติดตามด้วยเหตุการณ์ปฏิบัติการก่อการไม่สงบรายวันในสามจังหวัดภาคใต้
ดาวเสาร์มีความหมายที่เป็นที่รับรู้กันในวงการโหราศาสตร์ทั่วไปว่าเกี่ยวกับนักการเมือง สมาชิกรัฐสภา ผู้สูงอายุ วิศวกรและช่างโยธา ธรณีวิทยา ผู้ใช้แรงงาน คนจน คนดื้อรั้น คนใจร้อน คนวิตกจริต การก่อสร้าง การพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ รัฐสภา การเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน บทบาทของสหภาพแรงงาน ความทุกข์โทมนัส ความยากจน การล้มเหลวในธุรกิจหน้าที่ ความหนาวเย็น ความแห้งแล้ง ฯลฯ
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2547 เวลา 17.53 น. ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุดและอยู่เหนือหัวในเมืองไทยเมื่อเวลาประมาณ 24 นาฬิกา มีความสว่างเต็มที่สามารถเห็นได้ง่ายด้วย มีประกายแพรวพราวระยิบระยับสวยงามมากเนื่องจากดาวเสาร์มีดวงจันทร์เป็นบริวารโคจรเป็นวงแหวนรอบดาวเสาร์มากกว่า 20 วงแหวน การก่อการร้ายในสามจังหวัดภาคใต้ได้เริ่มเกิดขึ้นในวันที่ 4 มกราคม 2547 หลังจากวันที่ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุดเพียง 4 วัน จึงน่าจะพิสูจน์ได้ว่า เกิดจากอิทธิพลของดาวเสาร์ที่เข้ามาใกล้โลกในครั้งนี้เช่นกัน
ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนไหวของคณะบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งได้จัดให้มีการชุมนุมใหญ่ของมวลชนที่ท้องสนามหลวงมาตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเหตุผลนานาประการ ทั้งยังได้ยื่นคำขาดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 5 มีนาคม 2549 ดังนั้น จึงเป็นการยืนยันอิทธิพลของดาวเสาร์ที่กำลังวิกลคติอยู่ในราศีกรกฎอยู่ในขณะนี้
ดังกล่าวแล้วข้างต้นว่า ดาวเสาร์จะพักรอยู่ในราศีกรกฎไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน 2549 และที่น่าสนใจก็คือ ดาวพฤหัสบดีจะพักรอยู่ในราศีตุลย์ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2549 จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม ปีเดียวกัน ดังนั้น ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2549 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน 2549 จะมีดาวใหญ่ 2 ดวง คือ ดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีโคจรวิกลคติพร้อมกัน จึงน่าเชื่อว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับ
พ.ต.ท.ทักษิณ จะเพิ่มความรุนแรงเข้าขั้นวิกฤติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้สังเกตวันที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้กำหนดเส้นตายให้พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกนั้นตรงกับวันที่ 5 มีนาคม 2549 พอดี
ดาวพฤหัสบดีมีความหมายเกี่ยวกับ การศาสนา พระภิกษุสงฆ์นักบวช ขบวนการยุติธรรม ผู้พิพากษาตุลาการ การศึกษาชั้นสูง ที่ปรึกษา อาจารย์ การแพทย์ แพทย์พยาบาล การสาธารณสุข การต่างประเทศ การเงินการคลัง การธนาคารของประเทศ การโคจรวิกลคติของดาวพฤหัสบดีจะส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นในวงการที่เกี่ยวข้องทั้งตัวบุคคลและหรือการบริหารองค์กร
ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ การโคจรวิกลคติของดาวพฤหัสบดีในราศีตุลย์ น่าเชื่อว่า ดวงชะตาของบุคคลที่เกิดในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกรกฎาคมจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ดวงดาวในครั้งนี้ หากลัคนาสถิตอยู่ในราศีตุลย์หรือใกล้เคียง ดาวเสาร์ที่กำลังพักรอยู่ในราศีกรกฎจึงสถิตอยู่ในเรือนที่ 10 หรือภพที่เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน และเจ้าชะตารับผิดชอบมีตำแหน่งที่เป็นประธานหรือผู้นำมวลชน บัลลังก์หรือเก้าอี้ของท่านจะร้อนรุ่มลุกเป็นไฟ ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตปัญหาที่ตนและหรือพรรคพวกบริวารได้สร้างขึ้นเองผสมกับวิกฤติปัญหาของบ้านเมืองรอบตัวรอบบ้านทั้งในด้านเศรษฐกิจสังคม ความมั่นคงและปลอดภัยของชาติในรูปแบบต่างๆ ทั้งเจ้าชะตายังขาดกัลยาณมิตรที่ดี ขาดที่ปรึกษาที่ดี มีแต่มิตรเทียม ที่ปรึกษาที่หน้าไหว้หลังหลอก
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ซึ่งมีแสดงไว้ตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวเป็นเพียงสมมติสัจจะ ซึ่งจำแนกออกเป็น 2 อย่าง อย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นความจริง อีกอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่เป็นความจริง เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป สิ่งที่เคยถูกต้องเป็นความจริงอาจเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่เป็นความจริง เช่นเดียวกัน สิ่งที่เคยไม่ถูกไม่เป็นความจริง อาจเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นความจริงได้ จึงแตกต่างกับความจริงของสรรพสิ่งทั้งปวงรวมทั้งเรื่องกฏแห่งกรรมที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้และแสดงไว้ซึ่งเป็นปรมัตถ์สัจจะที่มิได้มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
ถ้าผมเป็นผู้หนึ่งซึ่งได้รับอิทธิพลจากการโคจรวิกลคติของดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีดังกล่าวข้างต้น ผมจะหาโอกาสปลีกวิเวกสักวันหนึ่งเวลาใดกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ ก่อนปฏิบัติการ ให้อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด แต่งกายด้วยเสื้อผ้าบางเบา ปลีกตัวเข้าอยู่เพียงคนเดียวในสถานที่ซึ่งจะถูกรบกวนโดยบุคคลอื่นและปลอดจากเสียงรบกวนต่างๆ พระท่านเรียกว่า “กายวิเวก” ต่อจากนั้นให้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยซึ่งจะน้อมนำจิตใจสงบ กำหนดลมหายใจเข้าออกให้เกิดเป็นอานาปนสตินำจิตให้เข้าสู่สมาธิ พระท่านเรียกว่า “จิตวิเวก” เมื่อจิตสงบเป็นสมถสมาธิเพื่อเป็นฐานให้เกิดวิปัสสนาสมาธิสามารถเผาผลาญกิเลสคือ ราคะ โทสะ โมหะ ทิฐิ มานะ และความทะเยอทะยานอยากในกามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา ลงได้ส่วนหนึ่ง ช่วยให้ไม่ยึดติดในอุปทานต่างๆ คือ ยึดติดในลาภยศสรรเสริญสมบัติ ยึดติดในความเห็นของตน ยึดติดในตัวตนของตนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ไม่จีรังยั่งยืน ซึ่งจะช่วยคุ้มครองให้จิตบริสุทธิ์ขึ้น เป็นพลังทำให้เกิดปัญญารู้เข้าใจในปัญหาในความทุกข์ที่ตนกำลังประสบอยู่ว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องใด ประเด็นใด ควรจะแก้ไขปัญหาดับความทุกข์นั้นอย่างไรวิธีใด ซึ่งพระท่านเรียกว่า “อุปธิวิเวก” เมื่อสามารถดับความทุกข์ซึ่งเป็นปัญหาค้างคาใจได้เมื่อใด ก็จะเกิด “นิรามิสสุข” ซึ่งเป็นความสุขที่แท้จริง เป็นธรรมปิติที่สามารถผ่อนคลายความเครียดทำให้จิตใจสงบได้อย่างแน่นอน
ผมจึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทดลองปฏิบัติตามหลักธรรมง่ายที่ผมได้กล่าวแล้วข้างต้น ผมเชื่อว่า ท่านจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาความทุกข์ต่างๆ ที่ท่านกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเกิดจากอิทธิพลของการโคจรวิกลคติของดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีตามหลักวิชาโหราศาสตร์ หรือ จากอกุศลคติที่ท่านได้สะสมไว้ด้วยตนเองได้อย่างแน่นอน
ในแต่ละปี ดาวพระเคราะห์ต่างๆ ยกเว้น ดวงอาทิตย์ และดาวจันทร์ซึ่งเป็นดาวพระเคราะห์ขนาดเล็กกว่าดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์จะมีการโคจรวิกลคติเป็นประจำเช่นกัน ถ้าเป็นดาวเล็กซึ่งมีวงโคจรไม่ห่างจากดวงอาทิตย์ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพุธ และดาวศุกร์จะใช้เวลาพักรไม่นานนัก หากเป็นดาวเล็กที่มีวงโคจรห่างจากดวงอาทิตย์มากได้แก่ ดาวมฤตยู ดาวเน็ปจูน และดาวพลูโตจะใช้เวลาพักรนาน
เรื่องการโคจรวิกลคติของดาวพระเคราะห์ดังกล่าว ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ถือว่า จะส่งผลเบียนเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตา โดยจะปรากฎผลให้เห็นเมื่อดาวพระเคราะห์ที่พักรมีเชิงมุมที่ไม่ให้คุณกับดาวพระเคราะห์รวมทั้งลัคนา และจุดที่ตั้งของเรือนหรือภพต่างๆ ในดวงชะตานั้น
ในการตรวจสอบดวงเมืองว่า จะได้รับอิทธิพลจากการโคจรวิกลคติของดาวพระเคราะห์ นอกจากจะใช้ดวงเมืองซึ่งเป็นวันพระราชพิธีตั้งเสาหลักเมือง กรุงเทพมหานคร โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ปฐมบรมราชจักรีวงศ์ ได้ทรงกำหนดพระฤกษ์นี้ด้วยพระองค์เอง คือ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เวลา 06:54 นาฬิกาซึ่งวงการโหราศาสตร์ไทยได้ยอมรับใช้ในการพยากรณ์มาโดยตลอด ผมยังใช้หลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้า ซึ่งโหราศาสตร์สากลใช้ชื่อว่า “Progressed Astrology” โหราศาสตร์ฮินดู เรียกว่า “Varshaphal” และโหราศาสตร์ไทยโบราณเรียกว่า “ทินวรรษ” มาประกอบการพิจารณาด้วย หลักวิชาโหราศาสตร์ดังกล่าวใช้วิธีผูกดวงเมืองฯ หรือ ดวงชะตาบุคคลขึ้นใหม่ในวันครบรอบวันเกิด แล้วคำนวณหาว่าในรอบปีเกิดนั้น มีดาวพระเคราะห์ดวงใดเป็นดาวประจำเมือง หรือ ดาวประจำตัวบุคคลเจ้าของชะตาแล้วจึงพิจารณาพยากรณ์ตามคุณลักษณะของดาวพระเคราะห์นั้น
เมื่อได้ทำการผูกดวงชะตาเมืองฯ ประจำปี พ.ศ.2548 (ซึ่งเริ่มต้นจากวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2548 จนถึงวันที่ 24 เมษายน 2549) ตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ก้าวหน้าแล้ว ปรากฏว่า ดาวเสาร์เป็นดาวประจำปีของดวงเมือง ดังนั้น เมื่อดาวเสาร์ซึ่งพื้นฐานเดิมเป็นบาปเคราะห์ และกำลังโคจรวิกลคติ จึงส่งผลเบียนเป็นทุกข์โทษแก่ดวงเมืองตลอดทั้งปี
ผมได้เคยเขียนบทความกรณีศึกษาตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวเกี่ยวกับอิทธิพลของดาวเสาร์เมื่อโคจรเข้าใกล้โลกไว้หลายครั้ง จึงขอหยิบยกมากล่าวถึงอีกครั้งดังต่อไปนี้
เมื่อปลายปี พ.ศ.2546 ดาวเสาร์ได้เคยโคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุด อีกไม่กี่วันต่อมาคือ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2547 ก็ได้เกิดเหตุปล้นอาวุธปืนจำนวนมากกว่า 200 กระบอกจากค่ายทหารที่จังหวัดนราธิวาส และนับตั้งแต่บัดนั้นมา การก่อการร้ายด้วยการเผา การวางระเบิด การลอบสังหารทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชนพลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งพระสงฆ์ ได้เกิดขึ้นเป็นรายวันยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกอีกครั้งหนึ่ง จึงได้แสดงผลให้ปรากฏที่สำคัญคือ เกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิที่ได้สร้างภัยพิบัติขึ้นใน 6 จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 ติดตามด้วยเหตุการณ์ปฏิบัติการก่อการไม่สงบรายวันในสามจังหวัดภาคใต้
ดาวเสาร์มีความหมายที่เป็นที่รับรู้กันในวงการโหราศาสตร์ทั่วไปว่าเกี่ยวกับนักการเมือง สมาชิกรัฐสภา ผู้สูงอายุ วิศวกรและช่างโยธา ธรณีวิทยา ผู้ใช้แรงงาน คนจน คนดื้อรั้น คนใจร้อน คนวิตกจริต การก่อสร้าง การพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ รัฐสภา การเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน บทบาทของสหภาพแรงงาน ความทุกข์โทมนัส ความยากจน การล้มเหลวในธุรกิจหน้าที่ ความหนาวเย็น ความแห้งแล้ง ฯลฯ
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2547 เวลา 17.53 น. ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุดและอยู่เหนือหัวในเมืองไทยเมื่อเวลาประมาณ 24 นาฬิกา มีความสว่างเต็มที่สามารถเห็นได้ง่ายด้วย มีประกายแพรวพราวระยิบระยับสวยงามมากเนื่องจากดาวเสาร์มีดวงจันทร์เป็นบริวารโคจรเป็นวงแหวนรอบดาวเสาร์มากกว่า 20 วงแหวน การก่อการร้ายในสามจังหวัดภาคใต้ได้เริ่มเกิดขึ้นในวันที่ 4 มกราคม 2547 หลังจากวันที่ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุดเพียง 4 วัน จึงน่าจะพิสูจน์ได้ว่า เกิดจากอิทธิพลของดาวเสาร์ที่เข้ามาใกล้โลกในครั้งนี้เช่นกัน
ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนไหวของคณะบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งได้จัดให้มีการชุมนุมใหญ่ของมวลชนที่ท้องสนามหลวงมาตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเหตุผลนานาประการ ทั้งยังได้ยื่นคำขาดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 5 มีนาคม 2549 ดังนั้น จึงเป็นการยืนยันอิทธิพลของดาวเสาร์ที่กำลังวิกลคติอยู่ในราศีกรกฎอยู่ในขณะนี้
ดังกล่าวแล้วข้างต้นว่า ดาวเสาร์จะพักรอยู่ในราศีกรกฎไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน 2549 และที่น่าสนใจก็คือ ดาวพฤหัสบดีจะพักรอยู่ในราศีตุลย์ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2549 จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม ปีเดียวกัน ดังนั้น ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2549 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 6 เมษายน 2549 จะมีดาวใหญ่ 2 ดวง คือ ดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีโคจรวิกลคติพร้อมกัน จึงน่าเชื่อว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับ
พ.ต.ท.ทักษิณ จะเพิ่มความรุนแรงเข้าขั้นวิกฤติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้สังเกตวันที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้กำหนดเส้นตายให้พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกนั้นตรงกับวันที่ 5 มีนาคม 2549 พอดี
ดาวพฤหัสบดีมีความหมายเกี่ยวกับ การศาสนา พระภิกษุสงฆ์นักบวช ขบวนการยุติธรรม ผู้พิพากษาตุลาการ การศึกษาชั้นสูง ที่ปรึกษา อาจารย์ การแพทย์ แพทย์พยาบาล การสาธารณสุข การต่างประเทศ การเงินการคลัง การธนาคารของประเทศ การโคจรวิกลคติของดาวพฤหัสบดีจะส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นในวงการที่เกี่ยวข้องทั้งตัวบุคคลและหรือการบริหารองค์กร
ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ การโคจรวิกลคติของดาวพฤหัสบดีในราศีตุลย์ น่าเชื่อว่า ดวงชะตาของบุคคลที่เกิดในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกรกฎาคมจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ดวงดาวในครั้งนี้ หากลัคนาสถิตอยู่ในราศีตุลย์หรือใกล้เคียง ดาวเสาร์ที่กำลังพักรอยู่ในราศีกรกฎจึงสถิตอยู่ในเรือนที่ 10 หรือภพที่เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน และเจ้าชะตารับผิดชอบมีตำแหน่งที่เป็นประธานหรือผู้นำมวลชน บัลลังก์หรือเก้าอี้ของท่านจะร้อนรุ่มลุกเป็นไฟ ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตปัญหาที่ตนและหรือพรรคพวกบริวารได้สร้างขึ้นเองผสมกับวิกฤติปัญหาของบ้านเมืองรอบตัวรอบบ้านทั้งในด้านเศรษฐกิจสังคม ความมั่นคงและปลอดภัยของชาติในรูปแบบต่างๆ ทั้งเจ้าชะตายังขาดกัลยาณมิตรที่ดี ขาดที่ปรึกษาที่ดี มีแต่มิตรเทียม ที่ปรึกษาที่หน้าไหว้หลังหลอก
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ซึ่งมีแสดงไว้ตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวเป็นเพียงสมมติสัจจะ ซึ่งจำแนกออกเป็น 2 อย่าง อย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นความจริง อีกอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่เป็นความจริง เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป สิ่งที่เคยถูกต้องเป็นความจริงอาจเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่เป็นความจริง เช่นเดียวกัน สิ่งที่เคยไม่ถูกไม่เป็นความจริง อาจเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นความจริงได้ จึงแตกต่างกับความจริงของสรรพสิ่งทั้งปวงรวมทั้งเรื่องกฏแห่งกรรมที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้และแสดงไว้ซึ่งเป็นปรมัตถ์สัจจะที่มิได้มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
ถ้าผมเป็นผู้หนึ่งซึ่งได้รับอิทธิพลจากการโคจรวิกลคติของดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีดังกล่าวข้างต้น ผมจะหาโอกาสปลีกวิเวกสักวันหนึ่งเวลาใดกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ ก่อนปฏิบัติการ ให้อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด แต่งกายด้วยเสื้อผ้าบางเบา ปลีกตัวเข้าอยู่เพียงคนเดียวในสถานที่ซึ่งจะถูกรบกวนโดยบุคคลอื่นและปลอดจากเสียงรบกวนต่างๆ พระท่านเรียกว่า “กายวิเวก” ต่อจากนั้นให้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยซึ่งจะน้อมนำจิตใจสงบ กำหนดลมหายใจเข้าออกให้เกิดเป็นอานาปนสตินำจิตให้เข้าสู่สมาธิ พระท่านเรียกว่า “จิตวิเวก” เมื่อจิตสงบเป็นสมถสมาธิเพื่อเป็นฐานให้เกิดวิปัสสนาสมาธิสามารถเผาผลาญกิเลสคือ ราคะ โทสะ โมหะ ทิฐิ มานะ และความทะเยอทะยานอยากในกามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา ลงได้ส่วนหนึ่ง ช่วยให้ไม่ยึดติดในอุปทานต่างๆ คือ ยึดติดในลาภยศสรรเสริญสมบัติ ยึดติดในความเห็นของตน ยึดติดในตัวตนของตนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ไม่จีรังยั่งยืน ซึ่งจะช่วยคุ้มครองให้จิตบริสุทธิ์ขึ้น เป็นพลังทำให้เกิดปัญญารู้เข้าใจในปัญหาในความทุกข์ที่ตนกำลังประสบอยู่ว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องใด ประเด็นใด ควรจะแก้ไขปัญหาดับความทุกข์นั้นอย่างไรวิธีใด ซึ่งพระท่านเรียกว่า “อุปธิวิเวก” เมื่อสามารถดับความทุกข์ซึ่งเป็นปัญหาค้างคาใจได้เมื่อใด ก็จะเกิด “นิรามิสสุข” ซึ่งเป็นความสุขที่แท้จริง เป็นธรรมปิติที่สามารถผ่อนคลายความเครียดทำให้จิตใจสงบได้อย่างแน่นอน
ผมจึงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทดลองปฏิบัติตามหลักธรรมง่ายที่ผมได้กล่าวแล้วข้างต้น ผมเชื่อว่า ท่านจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาความทุกข์ต่างๆ ที่ท่านกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเกิดจากอิทธิพลของการโคจรวิกลคติของดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีตามหลักวิชาโหราศาสตร์ หรือ จากอกุศลคติที่ท่านได้สะสมไว้ด้วยตนเองได้อย่างแน่นอน