สมาคมโหรนานาชาติ ชี้"ทักษิณ"ดวงตกมรณะโลกาบวกกาลี ต้องเปลี่ยนแปลงและสัญจรจากไป ด้วยความช่วยเหลือผู้มีอำนาจออกนอกประเทศ ยันเมษาเป็นกาลี ไม่มีเลือกตั้ง ยกเว้นมีเลือกตั้งก.ค.ดวงดีขึ้น แต่ศัตรูเก่าจะกัดไม่ปล่อยแน่นอน ส่วน ดวง"มาร์ค"หลังเม.ย.บารมีการเมืองเด่นขึ้น นายทุนพาเหรดเข้าพรรค แต่หากเป็นนายกฯ ก็ไม่ครบเทอม
นายอภิสรณ์ เงินเจริญกุล กรรมการบริหารสมาคมโหรนานาชาติ และอาจารย์โหราศาสตร์เลข 7 ตัว ทักษามหาภูติ กล่าวพยากรณ์ดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า อายุ 57 ปีตกที่เลข 2(ดาวจันทร์)และดาวจันทร์ปีนี้เป็นโลกาวินาศ ดังนั้น ปีนี้ตัวเองทำอะไรดวงไม่ดีหมด และเรื่องกัมมะคืออาชีพ –การงาน อยู่ไม่ได้ต้องจากไปในเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนมี.ค. เพราะเป็นเดือน 2 ของโหราศาสตร์ นอกจากนี้ การงานที่เคยเป็นขุมทรัพย์ต้องมีการเปลี่ยนแปลงและสัญจรจากไป รวมทั้ง มีโอกาสที่จะจาก และแตกแยกกับบริวาร เพราะในดวงตกมรณะ และเป็นโลกาบวกกาลีอีกด้วย
นายอภิสรณ์ กล่าวว่า เลข 7 ในดวงเป็นบริวารจร จะมีปัญหากับศัตรูกับคนธรรมดาและคนที่มีตำแหน่ง ขณะที่ดวงเดิม ของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโลกาบวกโลกา และกาลีทำให้ตัวเองต้องมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย และเกิดความเสียหาย แต่เลข 2 ในดวงเป็นมนตรี และ เคหัง คือมีหลักแหล่งบั้นหลายเตรียมไว้รอแล้วหากต้องไป
ทั้งนี้ สถานการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เดือนมี.ค.จะเริ่มหนักขึ้น เพราะ 3 ตั้งบนกำลังเสาร์ ต้องเอาเงินจำนวนมากออกมาสนับสนุนเพื่อใช้ในการวิ่งเต้น และเดือนเม.ย. ซึ่งกำหนดเป็นวันเลือกตั้งนั้น ไม่น่าจะมีการเลือกตั้งตามกำหนดไว้ เพราะเดือนเม.ย.เป็นกาลีในดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยเช่นกัน
โดยสรุปดวงเสียงาน(การเมือง)เพราะกัมมะเป็นกาลี ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง โยกย้าย เสียหายเพราะถูกเพื่อนฝูง พี่น้อง หลอกให้หลงเดินทางผิดและตกต่ำผิดปกติ นอกจากนี้ ผลอุบาทว์และนาวัง คือเสียหายแล้วต้องเดินทางไกลออกนอกประเทศ ซึ่งจะไปได้รอดเป็นผู้ใหญ่เป็นหญิง และเพศชายที่อายุน้อยกว่า ซึ่งมีอำนาจยิ่งใหญ่ช่วยเหลือแบบลับๆ และช่วยให้รอดได้ด้วย
กรรมการบริหารสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวว่า ดวงชะตาของพ.ต.ท.ทักษิณ จะเริ่มดีขึ้น แต่ตามกฏหมายการเลือกตั้งดึงเวลาให้ไปถึงเดือนกรกฎาคม นั้นคงเป็นไปไม่ได้ และในดวงของนายกฯช่วงเดือนนี้เป็นต้นไป จะสบายขึ้นแต่ต้องอาศัยภรรยาและคงจะอยู่เมืองไทยได้ยากเพราะอายุ 58 ปีของพ.ต.ท.ทักษิณ ตัวเองตั้งบนเคหังและมีวริวารเป็นศัตรูเกาะตัวเองทำให้ต้องได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องเดิมในอดีตที่ตัวเองก่อไว้และศัตรูก็จะปองร้าย กัดไม่ยอมปล่อยด้วย ประกอบกับบริวารเป็นเลข 7 ดังนั้นกรกฎาคมแล้วดวงก็ยังไม่รอดที่จะอยู่ประเทศไทยได้และต้องเดินทางไกลออกไปนอกประเทศอย่างถูกสาปแช่ง
**มาร์คบารมีการเมืองเริ่มผงาด
นายอภิสรณ์ ยังกล่าวทำนายดวงชะตาของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อายุย่าง 42 ปี ดวงเริ่มจะฟื้นและผงาดมีบารมีทางการเมืองมากขึ้น เริ่มมีชื่อเสียงปรากฏต่อสังคม และชาวโลก รวมถึงจะมีลูกน้องและบริวารขยายมากขึ้น โดยแต่ละคนที่เข้ามามีฐานะกำลังการเงินมาก ทำให้บ้านหรือพรรคใหญ่โตขึ้น มีลูกน้องเข้ามาสมทบอีกมาก อย่างไรก็ตาม การทำงานหน้าที่ทางการเมืองขณะนี้มีศัตรูทางการเมืองปัดแข้ง ปัดขา เปลี่ยนหน้ากันเข้ามามีอุปสรรคมากก็ตาม แต่นายอภิสิทธิ์ ก็สามารถเอาชนะและนำพรรคให้ยิ่งใหญ่ด้วยมันสมองของเขาได้
กรรมการบริหารสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ก็มีเพื่อนร่วมพรรค หุ้นส่วนที่สมัครสมานสามัคคีช่วยประคองพรรคให้มีพลังและเกียรติยิ่งใหญ่ว่าเขาจะเริ่มมีความเข้มแข็งทางบารมีการเมือง และแสดงให้เห็นว่าสามารถรับภาระของประเทศได้ โดยจะเริ่มปรากฏชัดในเดือนเม.ย.เป็นต้นไป มากขึ้นตามลำดับ ซึ่งในดวงชะตาของ นายอภิสิทธิ์ ปีนี้ถึงจะเห็นว่ามีความรุ่งเรืองและบารมีมากขึ้น แต่ก็ไม่เด่นถึงขั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
นายอภิสรณ์ กล่าวว่า หากวันใดที่นายอภิสิทธิ์ได้ขึ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศก็คงเป็นได้ไม่ครบเทอม แม้ว่าดวงเป็นเกษตรแต่ตนุเกาะกาลี ทำให้ทำอะไรก็เสียหายไม่ราบรื่นได้ตลอดรอดฝั่ง จะมีคนคอยขัดขวางตลอดซึ่งแม้จะได้เป็นผู้นำสูงแล้วก็จะมีคนทำให้เสียหน้าที่-การงาน-ลาภ ดังนั้น โอกาสเกิดความพลิกผันไม่ตลอดหรือมีแนวโน้มตกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ หากอยู่ในตำแหน่งก็ไม่ครบเทอมแน่นอนเพราะความขัดแย้งกันภายในพรรค
นายอภิสรณ์ เงินเจริญกุล กรรมการบริหารสมาคมโหรนานาชาติ และอาจารย์โหราศาสตร์เลข 7 ตัว ทักษามหาภูติ กล่าวพยากรณ์ดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า อายุ 57 ปีตกที่เลข 2(ดาวจันทร์)และดาวจันทร์ปีนี้เป็นโลกาวินาศ ดังนั้น ปีนี้ตัวเองทำอะไรดวงไม่ดีหมด และเรื่องกัมมะคืออาชีพ –การงาน อยู่ไม่ได้ต้องจากไปในเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนมี.ค. เพราะเป็นเดือน 2 ของโหราศาสตร์ นอกจากนี้ การงานที่เคยเป็นขุมทรัพย์ต้องมีการเปลี่ยนแปลงและสัญจรจากไป รวมทั้ง มีโอกาสที่จะจาก และแตกแยกกับบริวาร เพราะในดวงตกมรณะ และเป็นโลกาบวกกาลีอีกด้วย
นายอภิสรณ์ กล่าวว่า เลข 7 ในดวงเป็นบริวารจร จะมีปัญหากับศัตรูกับคนธรรมดาและคนที่มีตำแหน่ง ขณะที่ดวงเดิม ของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโลกาบวกโลกา และกาลีทำให้ตัวเองต้องมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย และเกิดความเสียหาย แต่เลข 2 ในดวงเป็นมนตรี และ เคหัง คือมีหลักแหล่งบั้นหลายเตรียมไว้รอแล้วหากต้องไป
ทั้งนี้ สถานการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เดือนมี.ค.จะเริ่มหนักขึ้น เพราะ 3 ตั้งบนกำลังเสาร์ ต้องเอาเงินจำนวนมากออกมาสนับสนุนเพื่อใช้ในการวิ่งเต้น และเดือนเม.ย. ซึ่งกำหนดเป็นวันเลือกตั้งนั้น ไม่น่าจะมีการเลือกตั้งตามกำหนดไว้ เพราะเดือนเม.ย.เป็นกาลีในดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยเช่นกัน
โดยสรุปดวงเสียงาน(การเมือง)เพราะกัมมะเป็นกาลี ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง โยกย้าย เสียหายเพราะถูกเพื่อนฝูง พี่น้อง หลอกให้หลงเดินทางผิดและตกต่ำผิดปกติ นอกจากนี้ ผลอุบาทว์และนาวัง คือเสียหายแล้วต้องเดินทางไกลออกนอกประเทศ ซึ่งจะไปได้รอดเป็นผู้ใหญ่เป็นหญิง และเพศชายที่อายุน้อยกว่า ซึ่งมีอำนาจยิ่งใหญ่ช่วยเหลือแบบลับๆ และช่วยให้รอดได้ด้วย
กรรมการบริหารสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวว่า ดวงชะตาของพ.ต.ท.ทักษิณ จะเริ่มดีขึ้น แต่ตามกฏหมายการเลือกตั้งดึงเวลาให้ไปถึงเดือนกรกฎาคม นั้นคงเป็นไปไม่ได้ และในดวงของนายกฯช่วงเดือนนี้เป็นต้นไป จะสบายขึ้นแต่ต้องอาศัยภรรยาและคงจะอยู่เมืองไทยได้ยากเพราะอายุ 58 ปีของพ.ต.ท.ทักษิณ ตัวเองตั้งบนเคหังและมีวริวารเป็นศัตรูเกาะตัวเองทำให้ต้องได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องเดิมในอดีตที่ตัวเองก่อไว้และศัตรูก็จะปองร้าย กัดไม่ยอมปล่อยด้วย ประกอบกับบริวารเป็นเลข 7 ดังนั้นกรกฎาคมแล้วดวงก็ยังไม่รอดที่จะอยู่ประเทศไทยได้และต้องเดินทางไกลออกไปนอกประเทศอย่างถูกสาปแช่ง
**มาร์คบารมีการเมืองเริ่มผงาด
นายอภิสรณ์ ยังกล่าวทำนายดวงชะตาของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อายุย่าง 42 ปี ดวงเริ่มจะฟื้นและผงาดมีบารมีทางการเมืองมากขึ้น เริ่มมีชื่อเสียงปรากฏต่อสังคม และชาวโลก รวมถึงจะมีลูกน้องและบริวารขยายมากขึ้น โดยแต่ละคนที่เข้ามามีฐานะกำลังการเงินมาก ทำให้บ้านหรือพรรคใหญ่โตขึ้น มีลูกน้องเข้ามาสมทบอีกมาก อย่างไรก็ตาม การทำงานหน้าที่ทางการเมืองขณะนี้มีศัตรูทางการเมืองปัดแข้ง ปัดขา เปลี่ยนหน้ากันเข้ามามีอุปสรรคมากก็ตาม แต่นายอภิสิทธิ์ ก็สามารถเอาชนะและนำพรรคให้ยิ่งใหญ่ด้วยมันสมองของเขาได้
กรรมการบริหารสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ก็มีเพื่อนร่วมพรรค หุ้นส่วนที่สมัครสมานสามัคคีช่วยประคองพรรคให้มีพลังและเกียรติยิ่งใหญ่ว่าเขาจะเริ่มมีความเข้มแข็งทางบารมีการเมือง และแสดงให้เห็นว่าสามารถรับภาระของประเทศได้ โดยจะเริ่มปรากฏชัดในเดือนเม.ย.เป็นต้นไป มากขึ้นตามลำดับ ซึ่งในดวงชะตาของ นายอภิสิทธิ์ ปีนี้ถึงจะเห็นว่ามีความรุ่งเรืองและบารมีมากขึ้น แต่ก็ไม่เด่นถึงขั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
นายอภิสรณ์ กล่าวว่า หากวันใดที่นายอภิสิทธิ์ได้ขึ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศก็คงเป็นได้ไม่ครบเทอม แม้ว่าดวงเป็นเกษตรแต่ตนุเกาะกาลี ทำให้ทำอะไรก็เสียหายไม่ราบรื่นได้ตลอดรอดฝั่ง จะมีคนคอยขัดขวางตลอดซึ่งแม้จะได้เป็นผู้นำสูงแล้วก็จะมีคนทำให้เสียหน้าที่-การงาน-ลาภ ดังนั้น โอกาสเกิดความพลิกผันไม่ตลอดหรือมีแนวโน้มตกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ หากอยู่ในตำแหน่งก็ไม่ครบเทอมแน่นอนเพราะความขัดแย้งกันภายในพรรค