ไบโอเธิร์มเดินเกมเชิงรุกรับตลาดเครื่องสำอางแข่งเดือด เล็งเปิดตัวสินค้าใหม่ทุกเดือนและโฟกัส 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ เอจจิ้งและไวท์เทนนิ่ง ควบคู่กับเน้นทำตลาดเครื่องสำอางชายมากขึ้น หวังดันยอดสมาชิกปีนี้เพิ่ม 20%จากฐานเกือบ 4 หมื่นราย และยอดรายได้สิ้นปีโต 5%
นางสาวปรียรัติ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม บริษัท ลอรีอัล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการตลาดปีนี้ของไบโอเธิร์มจะทำในเชิงรุกมากขึ้น โดยจะมุ่งเน้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกเดือนหรือเดือนละ 1-2 รายการ โดยเฉพาะใน2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเอจจิ้ง (ริ้วรอย)และกลุ่มไวท์เทนนิ่ง (ผิวขาว) เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคในตลาดไทยและเอเชีย ซึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านบริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มเอจจิ้งไปแล้ว ได้แก่ ไบโอเธิร์ม ลิฟท์หรือผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอยและเพิ่มกระชับผิว
“การแข่งขันของตลาดเครื่องสำอางยังมีความรุนแรงอยู่ทั้งในกลุ่มเอจจิ้งและไวท์เทนนิ่ง โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน กลุ่มไวท์เทนนิ่งจะมาแรงมาก ดังนั้นเราจะมีโปรดักส์ใหม่รองรับตลาดนี้ เช่น ครีมทารอบดวงตาและแมสเซจ เจล (สปา แอด โฮม)” ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม กล่าว
ประกอบกับปีนี้จะเน้นทำตลาดไบโอเธิร์ม ออมม์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายมากขึ้น เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่มาแรง และผู้ชายก็ดูแลตัวเองมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเมโทรเซ็กซวล ปัจจุบันไบโอเธิร์ม ออมม์มีผลิตภัณฑ์หลายตัว เช่น เอจ ฟิตเนส ออมม์(ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย) ฯลฯ
สำหรับโพซิชั่นนิ่งแบรนด์ไบโอเธิร์มจะอยู่ในระดับเดียวกันกับคลีนิกข์และออริจิ้น โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์มแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย เอจ ฟิตเนส (Age Fitness) ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย มีกลุ่มเป้าหมายที่อายุ 25-30 ปี ,กลุ่มไลน์ พิวหรือกลุ่มลบเลือนริ้วรอย เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-40 ปี และกลุ่มไบโอเธิร์ม ลิฟท์ ผลิตภัณฑ์ลบเลือนริ้วรอยและกระชับผิวหน้า เจาะกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป
ช่องทางการจำหน่ายของไบโอเธิร์มมีทั้งหมด 20 เคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการตกแต่งเคาน์เตอร์ไบโอเธิร์มใหม่ 3 แห่งได้แก่ ที่ดิ เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัล ชิดลม และสยามพารากอน ให้เป็นรูปแบบบิวตี้ คอนเนอร์ ที่มีห้องนวดหน้าและการให้บริการแต่งหน้าแก่สมาชิกและลูกค้า
ไบโอเธิร์มมีฐานสมาชิกหรือไบโอเธิร์ม คลับเกือบ 4 หมื่นราย แบ่งเป็น ผู้หญิง 3หมื่นรายและผู้ชาย 5 พันราย ปีนี้ตั้งเป้าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ขณะที่ยอดรายได้คาดการณ์จะโตเท่ากับตลาดรวมเครื่องสำอางที่ 5% โดยสัดส่วนยอดขายแบ่งเป็นสกินแคร์ 70% เมคอัพ 20% และผลิตภัณฑ์ผู้ชาย 10%
ทั้งนี้ตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบันผู้นำตลาด คือ ชิเซโด้ รองมา 2. เอสเต้ ลอเดอร์ 3.ลังโคม 4. คลีนิกข์ 5. ดีออร์ 6.ลาแมร์ 7. แมกซ์ 8. เอสเค ทู 9. คลาแรงส์ และ 10. ไบโอเธิร์ม ปีนี้บริษัทฯวางเป้าจะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นและติดอันดับ 1-9 ให้ได้จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้นและทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ในด้านต่างๆ เช่น การทำเวิร์คชอปและทำซีอาร์เอ็ม
นางสาวปรียรัติ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม บริษัท ลอรีอัล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการตลาดปีนี้ของไบโอเธิร์มจะทำในเชิงรุกมากขึ้น โดยจะมุ่งเน้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกเดือนหรือเดือนละ 1-2 รายการ โดยเฉพาะใน2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเอจจิ้ง (ริ้วรอย)และกลุ่มไวท์เทนนิ่ง (ผิวขาว) เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคในตลาดไทยและเอเชีย ซึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านบริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มเอจจิ้งไปแล้ว ได้แก่ ไบโอเธิร์ม ลิฟท์หรือผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอยและเพิ่มกระชับผิว
“การแข่งขันของตลาดเครื่องสำอางยังมีความรุนแรงอยู่ทั้งในกลุ่มเอจจิ้งและไวท์เทนนิ่ง โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน กลุ่มไวท์เทนนิ่งจะมาแรงมาก ดังนั้นเราจะมีโปรดักส์ใหม่รองรับตลาดนี้ เช่น ครีมทารอบดวงตาและแมสเซจ เจล (สปา แอด โฮม)” ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม กล่าว
ประกอบกับปีนี้จะเน้นทำตลาดไบโอเธิร์ม ออมม์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายมากขึ้น เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่มาแรง และผู้ชายก็ดูแลตัวเองมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเมโทรเซ็กซวล ปัจจุบันไบโอเธิร์ม ออมม์มีผลิตภัณฑ์หลายตัว เช่น เอจ ฟิตเนส ออมม์(ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย) ฯลฯ
สำหรับโพซิชั่นนิ่งแบรนด์ไบโอเธิร์มจะอยู่ในระดับเดียวกันกับคลีนิกข์และออริจิ้น โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์มแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย เอจ ฟิตเนส (Age Fitness) ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย มีกลุ่มเป้าหมายที่อายุ 25-30 ปี ,กลุ่มไลน์ พิวหรือกลุ่มลบเลือนริ้วรอย เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-40 ปี และกลุ่มไบโอเธิร์ม ลิฟท์ ผลิตภัณฑ์ลบเลือนริ้วรอยและกระชับผิวหน้า เจาะกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป
ช่องทางการจำหน่ายของไบโอเธิร์มมีทั้งหมด 20 เคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการตกแต่งเคาน์เตอร์ไบโอเธิร์มใหม่ 3 แห่งได้แก่ ที่ดิ เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัล ชิดลม และสยามพารากอน ให้เป็นรูปแบบบิวตี้ คอนเนอร์ ที่มีห้องนวดหน้าและการให้บริการแต่งหน้าแก่สมาชิกและลูกค้า
ไบโอเธิร์มมีฐานสมาชิกหรือไบโอเธิร์ม คลับเกือบ 4 หมื่นราย แบ่งเป็น ผู้หญิง 3หมื่นรายและผู้ชาย 5 พันราย ปีนี้ตั้งเป้าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ขณะที่ยอดรายได้คาดการณ์จะโตเท่ากับตลาดรวมเครื่องสำอางที่ 5% โดยสัดส่วนยอดขายแบ่งเป็นสกินแคร์ 70% เมคอัพ 20% และผลิตภัณฑ์ผู้ชาย 10%
ทั้งนี้ตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบันผู้นำตลาด คือ ชิเซโด้ รองมา 2. เอสเต้ ลอเดอร์ 3.ลังโคม 4. คลีนิกข์ 5. ดีออร์ 6.ลาแมร์ 7. แมกซ์ 8. เอสเค ทู 9. คลาแรงส์ และ 10. ไบโอเธิร์ม ปีนี้บริษัทฯวางเป้าจะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นและติดอันดับ 1-9 ให้ได้จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้นและทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ในด้านต่างๆ เช่น การทำเวิร์คชอปและทำซีอาร์เอ็ม