สำหรับนายกฯทักษิณแล้ว ชั่วโมงนี้คงจะไม่มีทางเลือกในการถอยใดจะดีไปกว่าการเลือกที่จะยุบสภาอีก แม้จะเคยประกาศอย่างชัดเจนเอาไว้แล้วว่า "ไม่ลาออก-ไม่ยุบสภา เอาไว้ชาติหน้าตอนสายๆ" เมื่อเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะยังคงหลงมัวเมาอยู่ในภาพอันจอมปลอมของ 19 ล้านเสียงโดยไม่ลืมตาดูความเป็นจริงอันโหดร้าย
ที่น่าตกใจก็คือ กลวิธีการแก้เกมโดยใช้หนามยอกเอาหนามบ่งของบรรดามือกุนซือการเมืองของพรรคไทยรักไทยที่อาจเคยได้ผลในการบรรเทาอุณหภูมิทางการเมืองไปได้บ้างกับการใช้มุกน้ำเน่าเก่าๆ แต่กลับไม่ได้ผลอีก ต่อไป ซ้ำร้ายยังย้อนกลับมาทำลายวิกฤตศรัทธาของฝั่งรัฐบาลเอง ไม่ว่าจะเป็น การทำลายความน่าเชื่อถือของคนที่ขุดคุ้ยท่าน การพยายามอ้างไปถึงเรื่องการเสียประโยชน์ของคนกลุ่มน้อย การเอาเงินฟาดหัวนักวิชาการ อธิการบดีเพื่อซื้อเวลาและสร้างภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการแก้เกมเปิดสองสภาขึ้นถกปัญหาอันไม่ต่างจากการพล่ามข้างเดียวเหมือนกับรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชน การอ้างกฎหมายในการหลบเลี่ยงภาษี การอ้างกติกาประชาธิปไตย อ้างมติของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยกรณีซุกหุ้นภาคสอง ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องคาใจของคนไทยทั้งประเทศ
วิบากกรรมที่ท่านได้แทรกแซงระบบทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา, วุฒิสภา รวมไปถึงองค์กรอิสระทั้งหลายจนเป็นง่อยไปหมดเหล่านี้ กลับกลายเป็นการปิดทางระบายออกของน้ำหลายสายบังคับให้ธารน้ำเล็กๆที่อาจจะไหลไปทิศเดียวกันแต่อาจจะไม่ได้ไหลบรรจบกัน จำต้องไหลรวมกันจนกลายเป็นแม่น้ำใหญ่ไหลเชี่ยวที่สร้างกระแสพัดพาเศษหินเศษอิฐกลับไปสู่ตัวเอง อย่างที่ไม่มีทางหลบเลี่ยงได้อีกต่อไป ไม่ต่างกับทางเลือกของประชาชนในขณะนี้ในการจัดการกับความไม่ชอบธรรมจากการบริหารประเทศของทักษิณที่มีอยู่เพียงทางเดียว คือการพึ่งตนเองโดยเข้าร่วมการชุมนุมขับไล่ในวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 ที่กำลังจะมาถึง
คนที่ชอบตัวเลขอย่างนายกฯทักษิณ คงจะคิดไม่ถึงว่าความเกลียดชังรังเกียจท่านของคนทั่วประเทศจะสะท้อนออกมาจากโพลหลากสำนักได้ใกล้เคียงกันถึงขนาดนี้ คะแนนนิยมของทักษิณและพรรคไทยรักไทยตกต่ำถึงขีดสุดนับแต่ครั้งก่อตั้งพรรคขึ้นมา อันย่อมสะท้อนให้เห็นว่าลำพังเพียงกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตย นักศึกษา และคณาจารย์จากสถาบันต่างๆ และ แนวร่วมที่กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทุกหัวระแหงของประเทศไทยกันรายวัน ก็ทำให้การแก้เกมทางการเมืองของกุนซือพรรคไทยรักไทยเปิดตำรารับมือกันแทบไม่ทันอยู่แล้ว
เมื่อบวกกับการเปิดตัวกลับลำเผชิญหน้าอย่างเป็นทางการร่วมกับพันธมิตรประชาธิปไตยของ พลตรีจำลอง ศรีเมือง บุรุษผู้อุ้มชูฟูมฟักและชักนำนายกฯ ทักษิณเข้าสู่วงการเมือง จะว่าไปก็เปรียบเสมือนโอบีวัน เคโนบี ที่เป็นคนสร้างอนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ขึ้นมาและประกาศศึกกันหลังจากที่ อนาคิน ศิษย์ผู้มีพรสวรรค์เลอเลิศแต่ใฝ่พลังด้านมืดจนเปลี่ยนเป็นลอร์ด ดาร์ธ เวเดอร์ ผู้ชั่วร้ายในเรื่องสตาร์วอร์ส ฉันใดฉันนั้น ภาพที่ออกมาตรงนี้จึงเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าเวลาของนายกฯทักษิณได้หมดลงแล้วอย่างชัดเจนที่สุด
แม้จะมีการตรวจเช็กกำลังทั้ง ผบ.เหล่าทัพต่างๆตลอดจนกลุ่มการเมืองถึงความจงรักภักดีกันกี่ครั้งก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้ จุดนี้พวกที่มีสัญชาตญาณ ในการเอาตัวรอดสูงโดยเฉพาะสัตว์พันธุ์การเมืองย่อมรู้ดีว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์อันไม่คาดฝันขึ้น การแทงข้างหลัง การหักหลังกันในหมู่โจร หรือสละเรือเพื่อความอยู่รอดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติวิสัย
ประเมินจากสถาณการณ์แล้วอย่างไรเสีย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คราวนี้ ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอนและตัวท่านเองก็ย่อมที่จะรู้ดีที่สุด อยู่ที่ว่าจะหลุดแบบไหน โดนประชาชนไล่ออก ลาออกเอง หรือว่ายุบสภา!
การโดนไล่ออก ดูเหมือนจะเป็นชัยชนะของประชาชนที่เด็ดขาดที่สุดอันจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงประสิทธิภาพของกระบวนการการแก้ไขกติกาประชาธิปไตยต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่เอื้อให้ทุนทางการเมืองผูกขาด
แต่สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว การจะยอมโดนประชาชนไล่ออกนั้นท่านคงจะไม่ยอมใช้กลยุทธ์ในบันทึกกลยุทธ์สุดท้ายของซุนวูซึ่งคือการหนีอยู่แล้วหากไม่ถึงภาวะจำเป็นจริงๆ เพราะนั่นหมายถึงการล่มสลายของกลุ่มทุนการเมืองชินวัตร-ดามาพงศ์ อย่างถาวรจากประเทศไทย ซึ่งอาจมีความร้ายแรงถึงขั้นตรวจสอบและยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยพึงมิชอบทั้งหมด รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่ดีลการขายสัมปทานประเทศโดยกลุ่มชินคอร์ปให้สิงคโปร์จะเป็นโมฆะทั้งหมดอันเป็นการเอาประเทศไทยคืนให้ประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง ขณะที่ตัวท่านและวงศ์วานถ้าไม่โดนกระทืบตายคาประเทศไทย ก็ต้องลี้ภัยหัวซุกหัวซุนไปเป็นดิแอมเพิล ริช แฟมิลี อยู่ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ประมาทพลังประชาชนจนเกินไปท่านน่าจะคิดได้ถึงตรรกข้อนี้
ส่วนการลาออกนั้น แม้จะเป็นมารยาททางการเมืองที่สง่างามที่สุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะพึงทำ แต่ย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่คนอย่างท่านจะยอมเลือกอีกเช่นกัน ข้อแรก ท่านยังหาตัวแทนที่ไว้ใจไม่ได้เพราะโดยธรรมชาติแล้วท่านเป็นคนที่ไม่เคยไว้ใจใคร ข้อสอง จะเป็นการเปิดช่องให้มีการต่อรองอำนาจกันในพรรคไทยรักไทยถึงขั้นพรรคแตกได้ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า แท้ที่จริงความแตกแยกในพรรคไทยรักไทยนั้นมีมากขนาดไหน ข้อสาม การแก้รัฐธรรมนูญโดยพลังแห่งประชาชนนั้นแม้จะไม่ถึงขนาดแทรกแซงไม่ได้เลยแต่ก็จะควบคุมได้ยากขึ้น ส่งผลให้การใช้ทุนเข้าครอบงำการเมืองและการบริหารจัดการ ส.ส.ไม่ให้แตกแถวเป็นไปอย่างลำบากยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดนอกจากจะโดนตรวจสอบทรัพย์สินอันได้มาโดยมิชอบแล้วท่านจะกลายเป็นเป้าทางการเมืองที่ใครๆ ต่างพากันโยนขี้มาให้
อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับว่าเชื้อพันธุ์อสูรอาจจะยังคงหลงเหลืออยู่และสามารถเลี้ยงด้วยเงินให้เติบโตขึ้นมาใหม่ได้หากตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ไม่ถอดใจไปเสียก่อน ถึงแม้ว่าการเลือกที่จะลาออกนั้นจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งฝั่งทักษิณและประชาชนแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปนักสำหรับทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
ทางถอยที่ดีที่สุดสำหรับนายกฯทักษิณ แต่เป็นทางออกที่น่ากลัวที่สุดสำหรับประชาชนชาวไทยคือการประกาศยุบสภาอย่างปัจจุบันทันด่วน เพราะนั่นคือการชิงล้มกระดานก่อนที่จะโดนรุกฆาตโดยแท้ สภาวะการถูกกดดันจากประชาชนจะกลายเป็นหมันโดยทันที การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะค้างเติ่งอยู่กลางอากาศไปพร้อมๆ กับ ส.ส.ในสังกัดที่จะหมดสิทธิในการขยับตัว แถมยังคงรักษาสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีไปอย่างลอยตัวอีก 2 เดือน ซึ่งก็มากพอที่จะออกฤทธิ์ได้ในระดับหนึ่ง
ที่น่ากลัวคือการใช้ทุนทางการเมืองก้อนใหญ่ซื้อประเทศไทยกลับมาอีกรอบ แม้จะไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนเดิม แต่ก็ต้องยอมรับกันว่ายังมีประชาชน ระดับรากหญ้าจำนวนมากพร้อมจะขายอนาคตของประเทศไทยกันได้ในราคา 500 บาท ผนวกกับการอัดฉีดนโยบายประชานิยมเข้าเส้นพวกที่ยังคงหลงภาพ บูชาคนรวยคนมีอำนาจอยู่ก็อีกไม่น้อยตามประสาชาวบ้านสิ้นคิด ดังนั้นแม้จะเว้นช่วงไปพักหนึ่งแต่ทักษิณก็ยังสามารถกลับเข้ามาได้อีกครั้งโดยไม่ยากจนเกินไปนัก ถึงจะต้องลงทุนควักกระเป๋าเองเยอะหน่อยในครั้งนี้แต่ก็ยังสามารถถอนทุนคืนภายหลังได้
หากปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น การรวมตัวของประชาชนอีกครั้ง เหมือนกับการสนธิกำลังกันในครั้งนี้อาจจะสายเกินไป เมื่อนั้นประเทศไทยก็จะเปรียบเสมือนควายโดนลากเข้าโรงเชือด ถลกเนื้อหนัง กระดูกขาย เข้าสู่ยุคทุนนิยมสุดขั้ว ยุคแห่งการแปรรูปทุกอย่าง ยุคของการล่มสลายของเศรษฐกิจ รากหญ้าและประเทศไทยโดยสิ้นเชิง ยุคที่ระบบการเมืองและองค์กรอิสระต่างๆ จะเป็นมากกว่าแค่เป็นง่อยชั่วคราว แต่อาการจะหนักขึ้นถึงระดับเป็นอัมพาตอย่างถาวร ยุคที่สังคมไทยมีแต่กฎหมายแต่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยุคที่คนไทยเราจะเป็นทาสของตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ วาณิชธนกิจชื่อไทยแต่ไร้สัญชาติอย่างเต็มตัว
สรุปแล้วอย่าให้ทักษิณ ยุบสภา โดยเด็ดขาด!!!
ที่น่าตกใจก็คือ กลวิธีการแก้เกมโดยใช้หนามยอกเอาหนามบ่งของบรรดามือกุนซือการเมืองของพรรคไทยรักไทยที่อาจเคยได้ผลในการบรรเทาอุณหภูมิทางการเมืองไปได้บ้างกับการใช้มุกน้ำเน่าเก่าๆ แต่กลับไม่ได้ผลอีก ต่อไป ซ้ำร้ายยังย้อนกลับมาทำลายวิกฤตศรัทธาของฝั่งรัฐบาลเอง ไม่ว่าจะเป็น การทำลายความน่าเชื่อถือของคนที่ขุดคุ้ยท่าน การพยายามอ้างไปถึงเรื่องการเสียประโยชน์ของคนกลุ่มน้อย การเอาเงินฟาดหัวนักวิชาการ อธิการบดีเพื่อซื้อเวลาและสร้างภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการแก้เกมเปิดสองสภาขึ้นถกปัญหาอันไม่ต่างจากการพล่ามข้างเดียวเหมือนกับรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชน การอ้างกฎหมายในการหลบเลี่ยงภาษี การอ้างกติกาประชาธิปไตย อ้างมติของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยกรณีซุกหุ้นภาคสอง ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องคาใจของคนไทยทั้งประเทศ
วิบากกรรมที่ท่านได้แทรกแซงระบบทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา, วุฒิสภา รวมไปถึงองค์กรอิสระทั้งหลายจนเป็นง่อยไปหมดเหล่านี้ กลับกลายเป็นการปิดทางระบายออกของน้ำหลายสายบังคับให้ธารน้ำเล็กๆที่อาจจะไหลไปทิศเดียวกันแต่อาจจะไม่ได้ไหลบรรจบกัน จำต้องไหลรวมกันจนกลายเป็นแม่น้ำใหญ่ไหลเชี่ยวที่สร้างกระแสพัดพาเศษหินเศษอิฐกลับไปสู่ตัวเอง อย่างที่ไม่มีทางหลบเลี่ยงได้อีกต่อไป ไม่ต่างกับทางเลือกของประชาชนในขณะนี้ในการจัดการกับความไม่ชอบธรรมจากการบริหารประเทศของทักษิณที่มีอยู่เพียงทางเดียว คือการพึ่งตนเองโดยเข้าร่วมการชุมนุมขับไล่ในวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 ที่กำลังจะมาถึง
คนที่ชอบตัวเลขอย่างนายกฯทักษิณ คงจะคิดไม่ถึงว่าความเกลียดชังรังเกียจท่านของคนทั่วประเทศจะสะท้อนออกมาจากโพลหลากสำนักได้ใกล้เคียงกันถึงขนาดนี้ คะแนนนิยมของทักษิณและพรรคไทยรักไทยตกต่ำถึงขีดสุดนับแต่ครั้งก่อตั้งพรรคขึ้นมา อันย่อมสะท้อนให้เห็นว่าลำพังเพียงกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตย นักศึกษา และคณาจารย์จากสถาบันต่างๆ และ แนวร่วมที่กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทุกหัวระแหงของประเทศไทยกันรายวัน ก็ทำให้การแก้เกมทางการเมืองของกุนซือพรรคไทยรักไทยเปิดตำรารับมือกันแทบไม่ทันอยู่แล้ว
เมื่อบวกกับการเปิดตัวกลับลำเผชิญหน้าอย่างเป็นทางการร่วมกับพันธมิตรประชาธิปไตยของ พลตรีจำลอง ศรีเมือง บุรุษผู้อุ้มชูฟูมฟักและชักนำนายกฯ ทักษิณเข้าสู่วงการเมือง จะว่าไปก็เปรียบเสมือนโอบีวัน เคโนบี ที่เป็นคนสร้างอนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ขึ้นมาและประกาศศึกกันหลังจากที่ อนาคิน ศิษย์ผู้มีพรสวรรค์เลอเลิศแต่ใฝ่พลังด้านมืดจนเปลี่ยนเป็นลอร์ด ดาร์ธ เวเดอร์ ผู้ชั่วร้ายในเรื่องสตาร์วอร์ส ฉันใดฉันนั้น ภาพที่ออกมาตรงนี้จึงเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าเวลาของนายกฯทักษิณได้หมดลงแล้วอย่างชัดเจนที่สุด
แม้จะมีการตรวจเช็กกำลังทั้ง ผบ.เหล่าทัพต่างๆตลอดจนกลุ่มการเมืองถึงความจงรักภักดีกันกี่ครั้งก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้ จุดนี้พวกที่มีสัญชาตญาณ ในการเอาตัวรอดสูงโดยเฉพาะสัตว์พันธุ์การเมืองย่อมรู้ดีว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์อันไม่คาดฝันขึ้น การแทงข้างหลัง การหักหลังกันในหมู่โจร หรือสละเรือเพื่อความอยู่รอดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติวิสัย
ประเมินจากสถาณการณ์แล้วอย่างไรเสีย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คราวนี้ ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอนและตัวท่านเองก็ย่อมที่จะรู้ดีที่สุด อยู่ที่ว่าจะหลุดแบบไหน โดนประชาชนไล่ออก ลาออกเอง หรือว่ายุบสภา!
การโดนไล่ออก ดูเหมือนจะเป็นชัยชนะของประชาชนที่เด็ดขาดที่สุดอันจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงประสิทธิภาพของกระบวนการการแก้ไขกติกาประชาธิปไตยต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่เอื้อให้ทุนทางการเมืองผูกขาด
แต่สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว การจะยอมโดนประชาชนไล่ออกนั้นท่านคงจะไม่ยอมใช้กลยุทธ์ในบันทึกกลยุทธ์สุดท้ายของซุนวูซึ่งคือการหนีอยู่แล้วหากไม่ถึงภาวะจำเป็นจริงๆ เพราะนั่นหมายถึงการล่มสลายของกลุ่มทุนการเมืองชินวัตร-ดามาพงศ์ อย่างถาวรจากประเทศไทย ซึ่งอาจมีความร้ายแรงถึงขั้นตรวจสอบและยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยพึงมิชอบทั้งหมด รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่ดีลการขายสัมปทานประเทศโดยกลุ่มชินคอร์ปให้สิงคโปร์จะเป็นโมฆะทั้งหมดอันเป็นการเอาประเทศไทยคืนให้ประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง ขณะที่ตัวท่านและวงศ์วานถ้าไม่โดนกระทืบตายคาประเทศไทย ก็ต้องลี้ภัยหัวซุกหัวซุนไปเป็นดิแอมเพิล ริช แฟมิลี อยู่ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ประมาทพลังประชาชนจนเกินไปท่านน่าจะคิดได้ถึงตรรกข้อนี้
ส่วนการลาออกนั้น แม้จะเป็นมารยาททางการเมืองที่สง่างามที่สุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะพึงทำ แต่ย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่คนอย่างท่านจะยอมเลือกอีกเช่นกัน ข้อแรก ท่านยังหาตัวแทนที่ไว้ใจไม่ได้เพราะโดยธรรมชาติแล้วท่านเป็นคนที่ไม่เคยไว้ใจใคร ข้อสอง จะเป็นการเปิดช่องให้มีการต่อรองอำนาจกันในพรรคไทยรักไทยถึงขั้นพรรคแตกได้ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า แท้ที่จริงความแตกแยกในพรรคไทยรักไทยนั้นมีมากขนาดไหน ข้อสาม การแก้รัฐธรรมนูญโดยพลังแห่งประชาชนนั้นแม้จะไม่ถึงขนาดแทรกแซงไม่ได้เลยแต่ก็จะควบคุมได้ยากขึ้น ส่งผลให้การใช้ทุนเข้าครอบงำการเมืองและการบริหารจัดการ ส.ส.ไม่ให้แตกแถวเป็นไปอย่างลำบากยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดนอกจากจะโดนตรวจสอบทรัพย์สินอันได้มาโดยมิชอบแล้วท่านจะกลายเป็นเป้าทางการเมืองที่ใครๆ ต่างพากันโยนขี้มาให้
อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับว่าเชื้อพันธุ์อสูรอาจจะยังคงหลงเหลืออยู่และสามารถเลี้ยงด้วยเงินให้เติบโตขึ้นมาใหม่ได้หากตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ไม่ถอดใจไปเสียก่อน ถึงแม้ว่าการเลือกที่จะลาออกนั้นจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งฝั่งทักษิณและประชาชนแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปนักสำหรับทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
ทางถอยที่ดีที่สุดสำหรับนายกฯทักษิณ แต่เป็นทางออกที่น่ากลัวที่สุดสำหรับประชาชนชาวไทยคือการประกาศยุบสภาอย่างปัจจุบันทันด่วน เพราะนั่นคือการชิงล้มกระดานก่อนที่จะโดนรุกฆาตโดยแท้ สภาวะการถูกกดดันจากประชาชนจะกลายเป็นหมันโดยทันที การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะค้างเติ่งอยู่กลางอากาศไปพร้อมๆ กับ ส.ส.ในสังกัดที่จะหมดสิทธิในการขยับตัว แถมยังคงรักษาสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีไปอย่างลอยตัวอีก 2 เดือน ซึ่งก็มากพอที่จะออกฤทธิ์ได้ในระดับหนึ่ง
ที่น่ากลัวคือการใช้ทุนทางการเมืองก้อนใหญ่ซื้อประเทศไทยกลับมาอีกรอบ แม้จะไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนเดิม แต่ก็ต้องยอมรับกันว่ายังมีประชาชน ระดับรากหญ้าจำนวนมากพร้อมจะขายอนาคตของประเทศไทยกันได้ในราคา 500 บาท ผนวกกับการอัดฉีดนโยบายประชานิยมเข้าเส้นพวกที่ยังคงหลงภาพ บูชาคนรวยคนมีอำนาจอยู่ก็อีกไม่น้อยตามประสาชาวบ้านสิ้นคิด ดังนั้นแม้จะเว้นช่วงไปพักหนึ่งแต่ทักษิณก็ยังสามารถกลับเข้ามาได้อีกครั้งโดยไม่ยากจนเกินไปนัก ถึงจะต้องลงทุนควักกระเป๋าเองเยอะหน่อยในครั้งนี้แต่ก็ยังสามารถถอนทุนคืนภายหลังได้
หากปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น การรวมตัวของประชาชนอีกครั้ง เหมือนกับการสนธิกำลังกันในครั้งนี้อาจจะสายเกินไป เมื่อนั้นประเทศไทยก็จะเปรียบเสมือนควายโดนลากเข้าโรงเชือด ถลกเนื้อหนัง กระดูกขาย เข้าสู่ยุคทุนนิยมสุดขั้ว ยุคแห่งการแปรรูปทุกอย่าง ยุคของการล่มสลายของเศรษฐกิจ รากหญ้าและประเทศไทยโดยสิ้นเชิง ยุคที่ระบบการเมืองและองค์กรอิสระต่างๆ จะเป็นมากกว่าแค่เป็นง่อยชั่วคราว แต่อาการจะหนักขึ้นถึงระดับเป็นอัมพาตอย่างถาวร ยุคที่สังคมไทยมีแต่กฎหมายแต่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยุคที่คนไทยเราจะเป็นทาสของตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ วาณิชธนกิจชื่อไทยแต่ไร้สัญชาติอย่างเต็มตัว
สรุปแล้วอย่าให้ทักษิณ ยุบสภา โดยเด็ดขาด!!!