xs
xsm
sm
md
lg

ทนายสมชายได้รางวัลเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มสิทธิมนุษยชนของเอเชีย ประกาศวานนี้(20) มอบรางวัลให้แก่นายสมชาย นีละไพจิตรให้แก่นายสมชาย "ด้วยความยอมรับนับถือ ความพยายามอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยของเขา ในการนำความยุติธรรม มาสู่บรรดาเหยื่อแห่งการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย อันเป็นความพยายามซึ่งเขาได้สังเวยชีวิตให้ในที่สุด" ทนายความมุสลิมคนสำคัญ ซึ่งนายกฯทักษิณยอมรับว่า ถูกเจ้าหน้าที่รัฐสังหารแล้ว

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของชาวเอเชีย (เอเอชอาร์ซี) ประกาศมอบรางวัล "ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน" ประกาศมอบรางวัลของเอเอชอาร์ซีกล่าวว่า "นายสมชายเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก และเป็นผู้พิทักษ์เสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ บ่อยครั้งที่เขาเป็นตัวแทนลูกความซึ่งถูกกล่าวหาว่าคุกคามความมั่นคงแห่งรัฐ เขาเผชิญหน้ากับเส้นสายอำนาจรัฐอันทรงอำนาจโดยปราศจากความกลัวเกรง เขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง อีกทั้งไม่ระย่อลดทอนความพยายามของเขา ที่จะให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐบาล ต้องมีความรับผิดชอบและต้องอธิบายการกระทำต่างๆ ของพวกเขา"

เอเอชอาร์ซีบอกว่า ในเวลาที่เขาลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547 นั้น นายสมชายกำลังเป็นทนายแก้ต่างให้กับเหยื่อผู้ถูกทรมานกลุ่มหนึ่ง ซึ่งถูกขยายเวลากักขังโดยมิได้มีการตั้งข้อหา เขายังกล่าวหาอย่างเปิดเผยว่าตำรวจทรมานคนเหล่านี้ รวมทั้งกำลังรวบรวมลายเซ็นประชาชน 50,000 คน เพื่อยื่นต่อรัฐสภาให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในภาคใต้ของประเทศ

ประกาศให้รางวัลพูดถึงเรื่องศาลอาญาในกรุงเทพฯพิพากษาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2549 โดยชี้ว่านายสมชายได้ถูกลักพาตัว อีกทั้งลงโทษจำคุกตำรวจที่เป็นจำเลยรายหนึ่งในความผิดฐานใช้กำลังบังคับผู้อื่น

"ภายใต้แรงบีบคั้นอย่างหนักหน่วง นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยกล่าวว่า นายสมชายได้ถูกฆ่าแล้ว และว่าภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ การสอบสวนสาวลึกต่อไปจะทำให้สามารถตั้งข้อหาฆาตกรรมต่อผู้กระทำผิดได้ ทว่านับแต่นั้นก็แทบไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้เลยว่าได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ กระนั้นก็ตาม เนื่องจากคดีนี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้กลายเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงของรัฐบาลที่จะต้องอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น" เอเอชอาร์ซีบอก

"แม้กระทั่งในความตาย นายสมชายก็ยังคงเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียกร้องความรับผิดชอบ และความยุติธรรม" ประกาศให้รางวัลระบุ

"นายสมชายได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันสำคัญใหญ่หลวง สำหรับขบวนการคัดค้านการหายตัวไปโดยถูกบังคับ ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้น หากยังตลอดทั่วทั้งเอเชียด้วย เอเอชอาร์ซีเชื่ออย่างจริงใจว่า ทั้งชื่อของนายสมชายและทั้งสิ่งที่ชื่อนี้เป็นตัวแทน ในเวลาต่อไปจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายในระดับโลก เอเอชอาร์ซีหวังว่าการมอบรางวัลนี้จะเป็นก้าวเล็กๆ ในทิศทางดังกล่าว"

เอเอชอาร์ซีซึ่งมีที่ทำการอยู่ในฮ่องกง ก่อตั้งขึ้นในปี 2527 นายสมชายเป็นผู้ได้รับรางวัล "ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน" นี้เป็นคนที่สอง โดยคนแรกที่ได้เป็นทนายความชาวศรีลังกา ซึ่งได้รางวัลเมื่อปี 2546

"เพื่อเป็นการแสดงความเคารพในโอกาสนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของชาวเอเชีย เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศไทยกระทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าของตน และให้คำตอบต่อคำถามซึ่งตนเองยังมิได้ตอบในที่สุด นั้นคือ "นายสมชายอยู่ที่ไหน" เอเอชอาร์ซีบอก

"ผู้กระทำความผิดในการลักพาตัวและการฆาตกรรมนี้ ทั้งหมดจักต้องถูกระบุตัวออกมา ถูกดำเนินคดี และถูกลงโทษ มิใช่เพื่อเห็นแก่นายสมชาย ครอบครัวและเพื่อนมิตรของเขาเท่านั้น แต่ยังแผ่กว้างไกลกว่านั้น ไปถึงบรรดาผู้ซึ่งการได้รับความยุติธรรมยังคงเป็นความฝันอันห่างไกลอีกด้วย"

เรียกร้องทักษิณเปลี่ยน'นโยบายใต้'

อนึ่ง หนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล เฮรัลด์ ทรีบูน ฉบับวานนี้ ได้ลงบทความของนายสแตนลีย์ เอ. ไวส์ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มผู้บริหารธุรกิจเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งสำนักงานในกรุงวอชิงตัน ชี้ถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายไวส์เสนอว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีโอกาสที่จะเขียนสคริปต์เรื่องนี้เสียใหม่ หากยอมรับว่าปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้ เป็นการปะทุขึ้นล่าสุดของการต่อสู้ซึ่งดำเนินมาเป็นร้อยปีแล้ว ความพยายามของกรุงเทพฯที่จะบังคับผสมกลมกลืนชาวมุสลิมมลายู รังแต่จะทำให้เกิดพวกใช้กำลังแบ่งแยกดินแดนเพิ่มขึ้น

บทความนี้ยังเสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องยอมรับว่าการใช้วิธีรุนแรงมาตอบโต้การโจมตีของพวกแบ่งแยกดินแดน กลับช่วยให้การก่อความไม่สงบฟื้นชีพขึ้นมา ตลอดจนยอมรับว่ายุทธศาสตร์ "ตำรวจเลว-ตำรวจเลว" ของเขานั่นเอง ที่ให้เกิดความหายนะในเวลานี้

นายไวส์บอกว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณกำลังแสดงบทบาทส่วนหนึ่งของนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งสร้างชื่อด้วยการปราบปรามพวกแบ่งแยกดินแดนชาวเชชเนีย จนทำให้การนองเลือดลุกลามถึงหน้าประตูวังเครมลิน

เขาเสนอว่า คนที่ พ.ต.ท.ทักษิณควรใช้เป็นแบบอย่างมากกว่า คือ ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน แห่งอินโดนีเซีย ผู้ได้เครดิตว่ายุติการกบฏที่ดำเนินมาหลายสิบปีในดินแดนอาเจะห์ โดยการลดกำลังทหาร และให้อำนาจปกครองตนเอง อำนาจการจัดการทรัพยากรมากขึ้นแก่ชาวอาเจะห์ ขณะที่ฝ่ายกบฎก็ยอมเลิกเรียกร้องเอกราช และยุบกองกำลังอาวุธของตน
กำลังโหลดความคิดเห็น