xs
xsm
sm
md
lg

จี้กกต.สอบบัตรเลือกตั้งปลอม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ปชป. เฉ่งรัฐบาลไร้จุดยืนเกี่ยวกับหลักวิชาการ โพลไหนเป็นประโยชน์กับตัวเองก็บอกว่าดีทำตามหลักวิชาการ แต่โพลสำนักไหนเป็นผลลบต่อรัฐบาลกลับบอกว่าไม่น่าเชื่อถือ บอก “ทักษิณ” เลิกอ้าง 19 ล้านเสียงได้แล้ว หลัง “ชัยอนันต์” แฉ มี รมต.ไทยรักไทย สั่งให้พิมพ์บัตรเลือกตั้งปลอม เตรียมทำหนังสือจี้ กกต.สอบด่วน ด้าน “กรณ์” ฉุนเด็ก ทรท.เล่นไม่เลิก เตรียมยกตระกูล “จาติกวณิช” ฟ้อง ฐานเอาข้อมูลเท็จมาดีสเครดิต ท้ากรมสรรพากรสอบเต็มที่

นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าผลสำรวจเอแบคโพล ของมหาวิทยาลัยอัญสัมชัน และโพลของมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ระบุว่าประชาชนต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าจุดยืนรัฐบาลที่วิเคราะห์ข้อมูลทางวิชาการ มีจุดยืนที่เห็นแก่ตัว เพราะเวลาโพลที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล รัฐบาลจะสนับสนุน พร้อมบอกว่าทำถูกต้องตามหลักวิชาการ แต่ถ้าหากโพลสำนักใดได้สำรวจมีลักษณะ มีผลกระทบต่อรัฐบาล รัฐบาลหรือพรรคไทยรักไทยก็จะออกมาบอกว่าโพลนั้นบกพร่อง ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการทันที และจะดิสเครดิตผลสำรวจนั้น

นายสาธิต กล่าวว่า ตนเห็นว่าวันนี้ รัฐบาลและพรรคไทยรักไทยควรเลิกอ้าง 19 ล้านเสียงได้แล้ว เพราะวันนี้ทุกคนรู้ดีว่า 19 ล้านเสียงที่พรรคไทยรักไทยได้มานั้น ได้มาด้วยวีธีใด ไม่ว่าจะได้มาด้วยการซื้อเสียง ใช้อำนาจรัฐ และสุดท้ายเหมือนกับที่ นายชัยอนันต์ สมุทวณิชย์ ออกมาบอกว่ามีรัฐมนตรีในรัฐบาลสั่งให้พิมพ์บัตรเลือกตั้งปลอม ซึ่งต้องถามกลับไปว่าคนในพรรคไทยรักไทยคิดที่จะกลับไปตรวจสอบ สิ่งที่นายอชัยอนันต์บอกหรือไม่ ขอให้นายกรัฐมนตรี ทำในเรื่องที่ถูกต้อง รักษากฎเกณฑ์ในบ้านเมือง และขอให้ทำในสิ่งที่คนในสังคมเห็นว่านายกรัฐมนตรี รักประเทศชาติบ้าง

“รัฐบาลควรเคารพฟังเสียงของประชาชนบ้าง และอย่าอ้าง 19 ล้านเสียง แล้วไปทำผิดจริยธรรม หรือทำผิดทำนองครองธรรม และนายกรัฐมนตรี อย่าคิดว่า คนที่เลือกท่านเข้ามาเป็นขี้ข้าหรือพนักงานบริษัทที่จะพูดจาหรือทำอะไรก็ได้ ถ้าทำแบบนี้ความนิยมก็จะลดลง ส่วนที่มีกระแสโจมตีว่าคะแนนนิยมของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นขบวนการชี้นำให้ประชาชนหลงเชื่อ และพยายามเอาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไปเปรียบเทียบ ทั้งๆ ทียังไม่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีคุณสมบัติซื่อสัตย์ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอน” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยประเมินหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดกระแสความนิยมในหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถึงไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีลดลง นายสาธิต กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคยังไม่เคยมีการประเมิน แต่พร้อมนอมรับความคิดเห็นของประชาชนต่อความนิยมในพรรค และหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเริ่มสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประชาชน และขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเร่งปรับปรุงในสิ่งที่เป็นจุดบอดของพรรค และพร้อมที่จะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน

ปชป.จี้กกต.สอบบัตรเลือกตั้งปลอม

ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัลเสถียร รองโฆษกพระประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายชัยอนันต์ สมุทวณิช ผู้บัญชาการโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย กล่าวในการสัมมนา “มุมมองของนักวิชาการต่อสภาพการเมืองในปัจจุบัน” เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีบัตรปลอมจำนวนมากอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีกระแสข่าวจากพรรคไทยรักไทยว่ามีรัฐมนตรีสั่งให้ทำบัตรปลอม ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในระบอบประชาธิปไตย เพราะคนที่พูดเป็นบุคคล ที่น่าเชื่อถือในสังคม และการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมา ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่ามีการโกงการเลือกตั้งกันมาก และในการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในวันที่ 19 เมษายนนี้ พรรคประชาธิปัตย์เกรงว่าจะมีการทุจริตการเลือกตั้ง ส.ว.กันทั้วประเทศอีก

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต.คิดจะนำเครื่องลงคะแนนมาใช้ในการเลือกตั้ง แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปนานแล้วเรื่องก็ยังเงียบหาย ขณะเดียวกัน กกต.ก็กลับนำเอาตรงยางมาปั๊มแทนการกากบาต จึงเกิดข้อสังสัยจากสังคมว่าจะมีการโกงการเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือถึง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สอบสวนกรณี การพิมพ์บัตรเลือกตั้งปลอม โดยสำนักงานฉลากกินแบ่งรัฐบาล และให้มีการตรวจสอบการโกงการเลือกตั้งด้วย

เฉ่ง 2 ส.ส.ทรท.เอาข้อมูลเท็จมาเล่นงาน

นายกรณ์ จาติกวณิช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะทำงานตรวจสอบการขายหุ้นชินคอร์ป แถลงถึงกรณีที่นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชยกุล ส.ส.อุดรธานี และนายสุชาติ ศรีสังข์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคไทยรักไทยยื่นหนังสือถึง อธิบดีกรมสรรพากร ขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีของ นายไกรศรี จาติกวณิช บิดาของตนและนายเกษม จาติกวณิช ซึ่งเป็นลุงของตนและผู้ถือหุ้นอีก 2 คน ในการขายหุ้น บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) เจเอฟ ธนาคม จำกัด กว่า 6 ล้านหุ้นเมื่อปี 2543 ว่า ทางพรรคไทยรักไทยได้พยายามใส่ร้ายผู้ใหญ่ในครอบครัวตนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้ยังกล่าวหาว่าบิดาและลุงของตนได้ขายหุ้น โดยไม่ได้ยื่นแบบเสียภาษี

จากที่เคยกล่าวหาบิดาตนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นความพยายามเล่นการเมือง โดยมาโยงกับการทำงานของตน โดยเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาทำให้ผู้ใหญ่ของตน ต้องเดือดร้อน ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ากรณีการเสียภาษีเป็นเรื่องส่วนบุคคล ถือเป็นข้อมูลลับ จึงแปลกใจว่า 2 ส.ส.นำข้อมูลดังกล่าวมาได้อย่างไร และได้ข้อมูลมาไม่ครบถ้วน แต่กลับมาโยงเพื่อทำให้เกิดความเสียหาย

“เรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงเลย เพราะ ณ วันที่ขายหุ้นในปี43 คุณพ่อผม ไม่มีหุ้นที่จะเสียภาษีเพราะไม่มีหุ้นที่จะขาย ถึงแม้จะเคยเป็นผู้ถือหุ้นดังกล่าวก็ตาม แต่ได้โอนหุ้นให้กับลูกๆ เป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ซึ่งในส่วนของผมและพี่น้อง ก็มีเอกสารการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่า พรรคไทยรักไทยทำอะไรอยู่ รู้หรือไม่ว่าผิด หรือว่าทำการเมืองโดยไม่ทำการบ้าน หรือแกล้งโง่ อย่างไรก็ตามก็ขอให้กรมสรรพากรรับเรื่องและขอให้สอบสวนเรื่องนี้ อย่างเต็มที่ ทางเราไม่ติดใจอะไร”นายกรณ์ กล่าว

ฟ้อง 2 ส.ส.พร้อมทรท.กล่าวหามั่ว

รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งที่ผ่านมาตนและครอบครัวให้อภัย แต่ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าพรรคไทยรักไทยยังทำงานการเมือง แบบไม่สร้างสรรค์ และกระทบต่อตระกูลของตนโดยตรง ทางบิดาและลุงของตน จึงได้ปรึกษากับฝ่ายกฎหมายโดยอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลอยู่เพื่อรักษาสิทธิ์ โดยดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมายต่อไป และกำลังพิจารณาจะดำเนินการ ตามกฎหมายกับ 2 ส.ส.หรือต่อพรรคไทยรักไทย แต่เห็นว่า2ส.ส.ดำเนินการเรื่องนี้ ในนามพรรคไทยรักไทย และมีผู้ใหญ่ของพรรคอยู่เบื้องหลัง เพราะไม่มีการตำหนิ ติเตียนจากคนในพรรค จึงเชื่อว่าโดยปริยายพรรคต้องรับรู้และเห็นชอบด้วย

นายกรณ์ ยังได้เรียกร้องว่า การแถลงข่าวครั้งนี้หวังว่าจะได้รับการเสนอข่าว ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องเช่นเดียวกับที่มีการเสนอข่าวกรณีที่พรรคไทยรักไทย กล่าวหาครอบครัวของตนที่ออกทุกช่องและหลายเวลาในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวไม่ติดใจอะไรพร้อมอโหสิกรรมให้ และหวังว่าส.ส.ในพรรคไทยรักไทยคงจะมีจิตสำนึกทำงานการเมืองตามที่ประชาชนต้องการอย่างสร้างสรรค์

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเล่นการเมืองของพรรคไทยรักไทยจะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบการขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวนายกฯหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า อาจจะกระทบในแง่ที่กรมสรรพากรอาจจะเสียเวลาในการตรวจสอบเรื่องนี้ แทนที่จะรีบพิจารณาในเรื่องที่คณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นเรื่องไปในกรณีเกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ป ทั้งนี้ยืนยันว่าตนและคณะทำงานยังเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น