xs
xsm
sm
md
lg

ผ้าอ้อมเด็กพรีเมี่ยมคึกชูนวัตกรรม ตลาดแข่งดุอัดแพมเพอร์ส-ฮักกี้ร่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรุปยังมีโอกาสโตอีกมาก เหตุเด็กไทยยังใช้ปริมาณต่ำ รายใหม่เข้าตลาดมาก เบียดผู้นำเก่าตกเวที ชี้ตลาดระดับพรีเมี่ยมมาแรงเติบโตมากสุด เอสซีเอไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ ออกอีกแบรนด์ ดรายแพ้นทส์ โดยดรายเพอร์ส จับกลุ่มพรีเมี่ยม อัดงบตลาดรวม 100 กว่าล้าน หวังแจ้งเกิด มั่นใจสิ้นปีนี้ขอขยับแชร์รวมสู่อันดับที่สอง

นางสาววาสนา สินธุวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสซีเอ ไฮยีน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผ้าอ้อมสำเร็จรูป ดรายเพอร์สวีวี่ดรายและดรายแพ้นท์ส เปิดเผยว่า ตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปริมาณการใช้ของเด็กยังต่ำมากเฉลี่ย 2 ชิ้นต่อคนต่อวันเท่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเชีย 4-5 ชิ้นต่อคนต่อวัน หรือในยุโรปประมาณ7-8 ชิ้นต่อคนต่อวัน

โดยเฉพาะตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูประดับพรีเมี่ยมมีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดเมื่อปีที่แล้วโต 20-30% มากกว่าตลาดรวมผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่เติบโตเพียง 18-19% ซึ่งตลาดรวมมีประมาณ 336 ล้านชิ้น แบ่งเป็นตลาดระดับพรีเมี่ยมราคาเฉลี่ย 12 บาทต่อชิ้นจำนวน 52% จากตลาดรวมในแง่ปริมาณ (ส่วนผ้าอ้อมแบบกางเกงหรือแพ้นทในกลุ่มพรีเมี่ยมมีแชร์ 15% ใน 52%) ระดับกลางราคาเฉลี่ย 9-10 บาทต่อชิ้น มีแชร์ประมาณมากกว่า 10% และระดับอีโคโนมี่ราคา 6-7 บาทต่อชิ้นมีแชร์ประมาณ 30%

เหตุผลที่ทำให้ตลาดระดับพรีเมี่ยมเติบโตมากนั้นเนื่องจากว่า มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมของพ่อและแม่ในปัจจุบันพยายามที่จะหาผ้าอ้อมที่มีคุณภาพและมีคุณประโยชน์ นวัตกรรมใหม่ให้กับลูกมากขึ้น ซึ่งตรงนี้จะยิ่งทำให้ตลาดเติบโตมาก และก็แข่งขันรุนแรงด้วย สังเกตุได้ว่า มีหลายแบรนด์ที่เคยเป็นผู้นำในตลาดมาก่อน ขณะนี้ก็ตกอันดับไปอยู่ท้ายๆ เพราะความเคลื่อนไหวของรายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดพร้อมกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างมาก

ทั้งนี้ตัวเลขจากเอซีนีลสันระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดหากวัดเป็นบริษัทไม่แยกเป็นแบรนด์นั้นรอบล่าสุดเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วพบว่าค่ายยูนิชาร์มซึ่มีแบรนด์มามี่โพโคะ อันดับที่หนึ่งมีแชร์มากกว่า 40% อันดับที่สองคือบริษัท ดีเอสจี มีหลายแบรนด์คือ ฟิตตี้ ฟิตตี้เบสิก เบบี้เลิฟ มีแชร์รวม 16% อันดับที่สามคือ บริษัท เอสซีเอ มีแบรนด์ ดรายเพอร์สวีวี่ดราย และดรายแพ้นท์สโดยดรายเพอร์ส มีแชร์รวม 13% ส่วนผู้นำตลาดในอดีตอย่าง แพมเพอร์สกับฮักกี้ ขณะนี้อยู่ในอันดับที่สี่และห้าสลับกันไปมา

นางสาววาสนากล่าวต่อว่า ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่ดีของตลาดระดับพรีเมี่ยมทำให้บริษัทฯได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกแบรนด์ภายใต้ชื่อว่า ดรายแพ้นท์สโดยดรายเพอร์ส ซึ่งเป็นแบรนด์ที่วางตลาดพร้อมกันทั่วตลาดเอเชีย เมื่อปลายปีที่แล้ว พร้อมกับประเทศไทย เป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกงพร้อมใส่ ขอบเอวยางยืด จับกลุ่มเป้าหมายระดับ เอ พ่อแม่คนรุ่นใหใ มีรุ่นมินิแพ็ค รุ่นมาตรฐาน รุ่นจัมโบ้ ราคาตั้งแต่ 110-455 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนและขนาด โดยมีรุ่นทดลองจำหน่ายราคาพิเศษ 42 บาท

บริษัทฯวางงบตลาดในช่วงแรกทั้งสองแบรนด์รวมกว่า 100 ล้านบาท จะเน้นการสื่อโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ การแจกสินค้าทดลองใช้กว่าแสนชิ้น การจัดกิจกรรมต่างๆให้เกิดการทดลองใช้และรู้จักแบรนด์มากขึ้น
สำหรับการออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่อีกแบรนด์ในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นส่วนที่ช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้นและทำให้บริษัทฯฯสามารถมีสินค้าที่ตอบสนองตลาดได้กว้างขึ้นจากเดิมที่มีเพียงกลุ่มอีโคโนมีเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะมีอัตราการเติบโตในปีนี้มากกว่าตลาดรวมที่โตเพียง 18-19% เท่านั้น และตั้งเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นอันดับที่สองในตลาดให้ได้ภายในปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น