xs
xsm
sm
md
lg

เราจะสามารถแก้ไขความยากจนได้ภายใน 2,500 ปี (1)

เผยแพร่:   โดย: ยอดธง ทับทิวไม้

tavanron@yahoo.com

เช่นเดียวกับปัญหาหนักๆ ร้อยแปดเริ่มตั้งแต่นักเรียนที่มีปัญหาเด็กวัยรุ่นอกแตกที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง และปัญหาการเสพยาเสพติดทุกประเภท และค้าเฮโรอีนของวัยรุ่นวิบัติของเมืองไทยแม้แต่การค้ายาเสพติดทุกชนิด ที่เราเคยจับใครต่อใครไปฆ่าเพื่อการโฆษณาโกหกว่าเรามีความปรารถนา และเป็นอัจฉริยะในการปกครองบ้านเมือง แล้วก็มาถึงปัญหาที่น่าสมเพชเวทนาคือการพยายามลงทุนกันอย่างหนักตั้งแต่การไปเที่ยวเชื้อเชิญชาวต่างชาติที่ได้เคยรู้เห็นความชั่ว และความโง่ต่างๆ นานาชนิดของนักการเมืองมาทั่วโลก เดินทางมาดูความโง่และความบัดซบในการแก้ปัญหาความยากจนของคนไทยที่ต่างจังหวัด เมื่อเร็วๆ นี้

หลังจากที่ได้เอาเศษเงินไปแจกและนำความโง่เขลาอันน่าสลดสังเวชนานาประการเกี่ยวกับปัญหาความยากจนเรียบร้อยแล้ว ก็มอบปัญหาและการแก้ไข ความยากจนที่ปลัดอำเภอส่วนมากรู้กันมาแล้วอย่างดี หรือประสบมาด้วยตั้งแต่ยังเรียนชั้นประถมรับผิดชอบเอาไปใส่ลิ้นชัก เพื่อดูความร่ำรวยของคนจนจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นในอนาคต ซึ่งปลัดอำเภอบางคนที่นั่นยืนยันว่ามันคงจะเกิดขึ้นแน่นอนในประมาณ 2,500 ปีข้างหน้า เพราะตลอดเวลา 2,500 ปีที่ผ่านมา ชนชั้นปกครองของไทยไม่ว่าเก่งอัจฉริยะขนาดไหนก็ตาม ไม่มีปัญญาใดๆ ที่จะแก้ไขได้ หรือถ้ามีสติปัญญาอยู่บ้างก็จะพยายามหอบลูกหอบเมียไปขายชาติกัน หรือแย่งชิงอำนาจกันเรื่อยมา ซึ่งอีก 2,500 ปีข้างหน้า มีคนบางคนยืนยันกับผมว่าน่าจะเป็นได้ เพราะตอนนั้นคนไทยถือว่าหมดอายุพุทธศาสนาไปแล้ว ความเป็นมนุษย์และความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ด้วยกันจนหมดไปแล้ว คนยากคนจนที่ยังพากันยากจนต่อไปก็อาจจะสูญพันธุ์เรียบร้อยไปแล้ว อาจจะไม่ต้องมีใครไปยุ่งอีกก็ได้

หมดเรื่องคุยโตโป้ปดจากที่นั่นก็รีบกลับมาสำแดงอภินิหารต่อที่กรุงเทพฯโดยการประกาศเปรี้ยงปร้างออกมาว่าจะต้องแก้ไขความยากจนของคนไทยทั้งประเทศให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี

โธ่, ไอ้งั่งของเรา!

แล้วก็มีการเดินทางไป 3 จังหวัดภาคใต้เพื่อโกหกตอแหลที่แสบสันว่าจะแก้ปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้มานานถึง 2 ปี และอีก 1 ปีต่อไปข้างหน้าเรื่อยไป แล้วก็รีบกลับกรุงเทพฯ เพื่อปล่อยประชาชนที่นั่นถูกฆ่าอย่างสนุกมือต่อไปอีก ซึ่งในวันนั้นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงข่าวพาดหัวออกมาว่า "แก้โจรไล่ฆ่า ครูเสนอ 4 ข้อ" (ไทยรัฐ 13 กุมภาพันธ์) และอาจเข้ามาแก้ปัญหาในกรุงเทพฯ ซึ่งก็มีความยากจนมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เฉพาะคนยากคนจนจากต่างจังหวัดเข้ามาหากินนับเป็นล้านๆ คนในจำนวนคนกรุงเทพฯ ทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 12 ล้านคนทุกวันนี้

ผมมาจากต่างจังหวัดเพื่อเข้ามาหาทางออกในกรุงเทพฯ มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นคนมีเงินในกรุงเทพฯ ที่ย้ายหนีระเบิดกรุงเทพฯ ออกไป กรุงเทพฯ จึงโหรงเหรงไม่มีผู้คนเท่าไรนัก ถนนหนทางจะว่างเปล่า และเงียบเหงาว้าเหว่ ถนนทุกสายในกรุงเทพฯ ไม่มีรถ คนมีเงินผ่านไปผ่านมาไม่มากนัก ที่พอหาได้ว่ามากที่สุดก็คือรถสามล้อซึ่งพอตกค่ำผู้คนไม่ออกไปไหน นอกจากเข้าร้านอาหารและภัตตาคาร แวะไปจอดแถว "ม้าเก็งเอ๋า" สามล้อก็จะไปจอดนอนรอคนอยู่บริเวณนั้นหรือหลับกันไปเลย สามล้อมีการสั่งให้เลิกในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ต่อจากนั้นแท็กซี่โปโยของฝรั่งเศสก็เข้ามาแทน

กรุงเทพฯ จึงมีลักษณะเป็นเหมือนเมืองร้างที่ไม่มีรสมีชาติตามธรรมดานี่เอง

มาถึงทุกวันนี้ กรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกอย่างในกรุงเทพฯ ดูเหมือนจะเป็นสวรรค์ชั้นฟ้าไป เรามีตึก 20 ชั้นสำหรับให้คนสิ้นคิดกระโดดลงมาตายเล่น เรามีสนามหลวงอันกว้างใหญ่สำหรับทำบุญที่สำคัญตามวันเวลาศักดิ์สิทธิ์ที่เรายึดถือ และในยามเทศกาลคือคนเราก็ใช้สถานที่อันกว้างขวางนี้สำหรับการทำมาหากินในอาชีพ "โสเภณี" อันรุ่งโรจน์ของชาติเพื่อหารายได้ไปเลี้ยงครอบครัวแก้จนไปวันๆ

เมืองไทยทุกวันนี้เต็มไปด้วยปัญหาที่จะต้องแก้ เป็นปัญหาระดับชาติระดับประเทศ ทุกปัญหาจะไม่มีปัญญาแก้หรือแก้ไม่ได้ทั้งสิ้น มีคนยืนยันว่าปัญหาของประเทศไทยที่หนักหนาสาหัสที่จะนำบ้านเมืองไปสู่ความพินาศล่มจมนั้นน่าจะสรุปมาดูกันเล่นๆ ไม่มากนักคือปัญหาเหล่านี้

1. ปัญหานักการเมืองเลว ข้าราชการระดับสูง และชนชั้นปกครองส่วนมากของเราแม้แต่ในศาลทางการเมืองของเราก็ซื้อได้ขายได้ และกินสินบนอย่างไม่มียางอายด้วย

เมื่อพูดถึงความยุติธรรมและความเป็นธรรมทุกคนก็นึกถึงศาลและนึกถึงกฎหมาย แต่คนไทยที่เคยกระทำความผิดไม่ว่าเล็กน้อยหรือใหญ่ จะต้องใช้เงินอย่างเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างเดินไปได้อย่างไม่มีเวรภัยใดๆ หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าความยุติธรรมใดของเมืองไทยจะสามารถซื้อได้ด้วยเงินทั้งสิ้น แม้แต่กรณีซุกหุ้นของนักการเมืองที่เกิดขึ้นมาครั้งหนึ่ง ปรากฏว่ามีใครคนหนึ่งในคณะผู้พิพากษาครั้งนั้นเขมือบเงินค่าจ้างของจำเลยไปเป็นกระสอบ

เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่มีการเคลื่อนไหวกันอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าจะต้องใช้กระสอบกี่ใบสำหรับคอยเงินที่จะเขมือบกันเข้าไปจากรายการนี้?

เราจะต้องระลึกอยู่เสมอว่าการมีชีวิตอยู่ในบ้านเมืองของเราทุกวันนี้ เรากำลังอยู่ในวงล้อมของโจรทุกชนิดทุกเพศทุกวัย โอกาสที่จะรอดหรือไม่รอดขึ้นอยู่กับโชคเคราะห์ของเรา

ความยุติธรรมในเมืองไทยสำหรับคนไทยนั้น เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าจะขึ้นอยู่กับเงินหรือการมีเงินค่าใช้จ่ายอย่างเพียงพอสถานเดียวเท่านั้น

ทุกคนทุกระดับชั้น ต่างก็มีเคราะห์กรรมทั้งสิ้น

ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นและมันมีอยู่ก็เพราะเรามีนักการเมืองที่อยู่ในพรรคต่างๆทั้งในอดีตและในปัจจุบัน ก็เพราะเรามีนักการเมืองหลายระดับที่เป็นเพียงสัตว์ที่ขายได้เท่านั้น เอาเงินยัดใส่มือมันแล้วจะจิกหัวใช้อย่างไรก็ได้ ไม่ว่าผิดหรือถูก

หนังสือพิมพ์บางฉบับเขียนข่าวว่า พ่อค้าการเมืองคอร์รัปชันของชาติต้องการที่จะให้มีการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่มีเรื่องพิพาทกับขบวนการประชาชนพากันออกมาเดินถนนขับไล่ ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นมาจริงๆ นักการเมืองประเภทสรรพสัตว์ที่กำลังแสวงหาที่เกิดทั้งหลายก็จะโชคดี ทุกคนสามารถจะขายตัวได้เป็นล้านๆ บาท และได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางการเมืองสั่งงานหาผลประโยชน์ไปทุกจุดที่จะใช้ประโยชน์แก่ตัวได้

พูดง่ายๆ ก็คือว่านักการเมืองเกือบทุกคนเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื้อได้ง่ายกว่าจิ้งจก ตุ๊กแก กบ เขียดเป็นไหนๆ

ในการเลือกตั้งแต่ละครั้งจะไม่มีนักการเมืองผู้รักชาติคนไหนไม่ไปรีดไปไถใครมา เฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าพรรคหรือพรรคที่ตนเข้าไปสังกัดเป็นไม่มี

เช่นเดียวกัน คนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งส่วนใหญ่ก็จะต้องวิ่งหาพรรคเข้าสังกัดเพื่อเงินค่าจ้างด้วยกันทั้งนั้น อย่างไม่ได้อะไรเลย เหล้าขาวขวดหนึ่งก็ขอให้ได้ก็ยังเอา

เมืองไทยจะฉิบหายวายวอดลงไปก็เพราะนักการเมืองสารเลวพวกนี้ไม่มีอะไรต้องสงสัย

2. ประชาชนคนไทยทั่วราชอาณาจักร ไม่เคยมีความรู้ความสามารถในการที่จะทำมาหากินอะไรพอที่จะช่วยให้เกิดความสามารถที่จะเลี้ยงตัวเอง และสร้างความมั่นคงแก่ครอบครัวและประเทศชาติได้อย่างประชาชนพลเมืองประเทศอื่นๆ เขาทำกันโดยไม่มีปัญหามากนัก

โดยอาชีพและวัฒนธรรมของประชาชนคนไทยตั้งแต่ดั้งเดิมมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักในการทำมาหากิน และสร้างความร่ำรวยให้แก่ตัวเองและครอบครัวได้ เพราะเป็นเกษตรกรและมีอาชีพเพียงอย่างเดียวก็คือการทำไร่ทำนาและปลูกผักปลูกหญ้าทำกินให้ท้องอิ่มไปวันๆ เท่านั้น ไม่มีการบันทึกรายได้หรือค่าใช้จ่ายประจำวัน ไม่มีการออม ไม่มีการสะสมความมั่งคั่งใดๆ ชีวิตเกษตรกรเหล่านี้จะอาศัยฤดูกาลดิน น้ำ ลม ไฟเพื่อทำกินไปวันๆ เท่านั้น จะไม่มีการเอาชาติส่วนไหนไปขายให้ใคร ไม่มีบริษัทฟอกเงินหรือจะเอาชาติไปขายได้อย่างไร?

3. คนไทยส่วนใหญ่ถ้าหากเป็นชาวสยามแล้วจะต้องยากจนและอดอยากจนติดต่อกันมา และถ่ายทอดความยากจนลงไปสู่ลูกหลานและที่จะต้องยากจนติดต่อกันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ จนกระทั่งถึงยุคประชาธิปไตยที่จะพอหาเงินค่าเหล้าค่ายาหยอดคอหอยบ้างก็เพราะการคอร์รัปชัน คดโกงหรือขายบ้านขายเมืองกินแล้วแต่ใครจะมีโอกาส โดยจะต้องมีพ่อตาเป็นคนเคยมีอำนาจวาสนา และช่วยในการคอร์รัปชันให้ลูกสาวลูกเขยมีโอกาสร่ำรวยขึ้นมาให้ได้ ขณะที่ไอ้หมอลูกเขยที่ว่านั้นเป็นมนุษย์ที่มีความเป็นอัจฉริยะในการกะล่อน และโกหกอย่างบูรณาการอีกด้วย

ตอนนี้ เกิดมีความคิดที่จะโกหกครั้งมโหฬารกว่าการโกหกที่ทำมาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยประกาศว่าตนจะแก้ไขปัญหาความยากจนครั้งใหม่ให้หมดภายในเวลา 3 ปี แต่จะไม่ทำเองเพราะการโกหกที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งที่จะทำให้คนด่าแม่ และสาปแช่งต่อไป จึงมอบความฉิบหายนี้ให้แก่ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ รับเอาไปทำ

เพื่อไปรอรับการด่าแม่และการสาปแช่งครั้งสำคัญจากคนไทยอีกต่อไป

ความจริงมันแก้ไม่ได้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ก็รู้อยู่เต็มอก ทุกคนก็สงสัยว่ามันเรื่องอะไรกันที่ท่านผู้นี้จะต้องไปรับใช้มนุษย์ประเภทนี้

พุทธศาสนาสอนว่า "อะเสวะนา จะ พาลานัง... เอตัมมังคะละมุตตะมัง" "การไม่คบคนชั่วเป็นมิตรเท่านั้นจะเป็นมงคล" ขอฝากไว้ให้ท่านด้วย

อย่าไปยุ่งกับมันเลยครับ อีก 2,500 ปีข้างหน้าก็มาช่วยกันแก้อาจจะมีหวังที่จะแก้ได้!! (ยังมีต่อ)
กำลังโหลดความคิดเห็น