เลขาฯ เผย"ป๋าเปรม"เจ็บปวดแต่ไม่เคยบ่นหรือตำหนิใคร ย้ำเป็นการนำพระราชดำริไปเสนอให้ผู้บริหารทุกระดับนำไปปฏิบัติ จวกสมัครมีสิทธิ์อะไรมาด่าป๋า รองปลัดกลาโหมจี้ให้ขอโทษ พร้อมให้ช่อง 5 ถอดรายการด้วย ด้านผอ.ช่อง 5 ยันไม่ถอดรายการ ยอมรับไม่มีใครกล้ายุ่งกับสมัคร ขณะที่คณาจารย์ราชภัฏสวนดุสิต รุดขอโทษ ส่วนกรมประชาฯอ้างส่งหนังสือเตือนแล้ว
หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายดุสิต ศิริวรรณ ผู้ดำเนินรายการ"เช้าวันนี้ที่เมืองไทย"ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา และรายการข้อเท็จจริงวันนี้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 105 เมกะเฮิร์ตซ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ กรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้ไปบรรยายในงานสัมมนาทางวิชาการที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เรื่องแนวทางพระราชดำริสู่การบริหารจัดการภาครัฐ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพล.อ.เปรม ได้กล่าวถึงแนวพระราชดำริที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการภาครัฐ 14 ข้อ ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปว่า คุณสมบัติของผู้บริหารที่ดีไม่เพียงจะต้องเป็นคนเก่งและฉลาดเท่านั้น แต่จะต้องมีจริงธรรมด้วย และกรณี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายสมัคร ได้วิจารณ์ว่า "การที่องคมนตรีทั้งสองท่านมาแสดงออกเช่นนี้ ถือว่ากระทบนายกรัฐมนตรี ทำไมต้องไปเอากับเขาด้วย บ้านเมืองกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ทำแบบนี้ทำไม เพราะทำให้ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมอยากถามว่า แบบนี้เป็นการเลือกข้างใช่มั๊ย เพราะถ้าท่านไม่ทำอะไร อยู่เฉยๆก็ได้"
เรื่องนี้ได้ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ใช้วาจาจาบจ้วงองคมนตรี พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านสื่อเข้ามาตรวจสอบดำเนินการ รวมทั้งให้สถานีโทรทัศน์ ช่อง5 ถอดรายการดังกล่าวด้วย
**เผย"ป๋าเปรม"เจ็บปวดแต่ไม่โวยวาย
พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในฐานะเลขานุการส่วนตัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ได้ดูเทปรายการของนายสมัครแล้ว และท่านก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธหรือไม่พอใจอะไร
"ป๋า ท่านเป็นผู้ใหญ่ นิ่งสุขุมมาก ไม่เคยด่าใครไม่เคยแสดงความโกรธใคร ไม่เคยพูดอะไรโวยวาย แต่ผมรู้ดีว่าป๋าท่านเจ็บปวด ที่ท่านทำหน้าที่ในการอัญเชิญกระแสพระราดำรัสของในหลวง มากระตุ้นเตือนประชาชน อยู่เสมอๆอย่างนี้ แต่กลับถูกตำหนิ ท่านเปรย ตั้งคำถามแค่ว่า ทำไมเท่านั้น ท่านนิ่ง"
พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าวด้วยว่า พล.อ.เปรม ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่เคยจะด่าหรือตำหนิใคร แต่กลับมีคนมาด่าท่านอย่างนี้ ถือว่าไม่เหมาะสม ใช้ไม่ได้ เขาต้องการจะเพิ่มค่าตัวเองมากกว่า จะปกป้องใครก็ปกป้องไป แต่ไม่ควรจะมาด่าป๋า และอยากให้มีการตรวจสอบด้วยว่า รายการนี้มีที่มาที่ไปยังไง และอยากถามว่าช่อง 5 ปล่อยให้ นายสมัคร ทำอย่างนี้ได้อย่างไร สิ่งที่ท่านไปปาฐากถาก็เป็นคำเชิญ ตั้งแต่เดือนตุลาคม แล้ว และเป็นหัวข้อที่ทางผู้เชิญกำหนดมา แล้วปกติท่านก็คอยรวบรวมกระแสพระราชดำรัสต่างๆ แล้วนำไปใช้ในการปาฐากถา เพื่อเตือนสติผู้ฟังเสมอๆ
"ครั้งนี้มันมาพอดีกับสถานการณ์ แต่ป๋าไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นผู้นำระดับไหน แต่พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ใช้ได้กับผู้นำในทุกระดับ แล้วป๋า ท่านก็ไม่ได้เจาะจงหรือเอ่ยชื่อใครออกมาเลย เพราะท่านไม่เคยคิดยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย"พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าว และว่า มันมีสิทธิ์อะไรมาด่าป๋าท่าน เพราะไม่เกี่ยวกับมันเลย ต้องให้ท่านนายกรัฐมนตรี พูดก่อนว่ายังไง ถ้าจะด่าต้องให้นายกฯด่า ก็รอดูอยู่นี่
พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พล.อ.เปรม ท่านวางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และไม่เข้ากับฝ่ายไหนเลย ให้ตัวแทนรับหนังสือ รับฎีกา ท่านก็ไม่อยู่บ้าน ไม่อยากเกี่ยวข้อง เพราะท่านรู้ตัวดีว่าในฐานะประธานองคมนตรีนี้ จะต้องวางตัวอย่างไร แล้วการอัญเชิญพระราชดำรัสฯ ก็เป็นสิ่งที่เหมาะที่ควรที่จะต้องนำไปเผยแพร่ ทุกครั้งที่พลเอกเปรม ท่านไปบรรยายหรือปาฐกถา ที่ไหนก็ตาม เพราะป๋าท่านไม่ด่าใครแน่ ในฐานะที่ทำงานกับท่านมาตลอด ก็อยู่เฉยไม่ได้เหมือนกัน ใครจะด่าก็ด่าไม่เป็นไร แต่ตนไม่ต้องการให้ใครมาด่า ป๋าท่าน
**รองปลัดกห.หนุนถอดรายการสมัคร
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดฯกลาโหม ในฐานะนายทหารที่รัก และเคารพพล.อ.เปรม กล่าวว่า การดำเนินรายการของ 2 พิธีกรที่ทำหน้าที่ในวันนั้น เป็นการดำเนินรายการที่วิจารณ์ล่วงเกินพล.อ.เปรม เป็นอย่างมาก เพราะท่านเป็นปูชนีย์บุคคลทางทหาร ท่านไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ถือว่าการดำเนินรายการของบุคคลทั้ง 2ไม่ถูกต้อง
"ที่สำคัญการวิจารณ์ เป็นรายการที่ออกอากาศทาง ททบ.5 ที่ถือเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะ ททบ.5 เป็นสถานีโทรทัศน์ของกองทัพบก แม้จะเป็นรายการสดก็ตาม ดังนั้น ทางกองทัพบกควรจะถอดรายการนี้ เชื่อว่าทหารทุกคนไม่สนับสนุนรายการนี้ แม้จะรู้ว่ารายการนี้มีใบสั่งจากใครก็ตาม" พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว และว่า ทุกคนรู้ว่าเป็นรายการของนายสมัคร จึงไม่มีใครกล้า จะเห็นที่ผ่านมาผู้ดำเนินรายการทั้ง 2 คน จะชนแหลก
รองปลัดฯกลาโหม ยังกล่าวตำหนินายสมัคร และนายดุสิต ด้วยว่า ต้องการออกมาดิสเคดิตใครก็ตามที่เข้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล แม้ว่าตนจะเป็นทหารเรือ และไม่ใช่ลูกป๋า แต่ความรู้สึกในความเป็นทหาร ตนคิดว่าต้องออกมากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะท่านเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง ทำประโยชน์ให้กับกองทัพ ถือเป็นปูชนียบุคคลที่ควรเคารพนับถือ และท่าน พล.อ.เปรม ก็ควรจะได้รับการปกป้องจากพวกเราที่เป็นทหาร ดังนั้นอยากให้ ผอ.ททบ.5 พิจารณาการถอดรายการของนายสมัคร ถ้าเป็นรายการของคนอื่น หรือสถานีอื่นเชื่อว่าโดนถอดไปแล้ว
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยากเรียกร้องลูกป๋า ทหาร จะต้องออกมากอบกู้อะไรสักอย่าง และจะต้องทำตั้งแต่วันแรกแบบทันทีทันใด แม้ตนจะไม่ใช่ลูกป๋า อย่างแท้จริงแต่ก็ให้ความเคารพนับถือท่าน ในฐานะผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับกองทัพ
**นายทหารนอกราชการจี้สมัครขอโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน มีโทรสารมาที่ห้องผู้สื่อข่าวสายทหาร และ ตามสำนักพิมพ์หลายแห่ง ระบุว่า เป็นแถลงการณ์ ของ สมาคมนายทหารนอกราชการ มีเนื้อความว่า ททบ.5 ในรายการ"เช้าวันนี้ที่เมืองไทย" ได้นำกรณีที่ ฯพณฯพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ กล่าวถึงกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบริหารราชการแผ่นดิน 14 แนวทาง โดยนายสมัคร สุนทรเวช ได้นำมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงตามที่ทราบกันโดยทัวไปแล้วนั้น สมาคมนายทหารนอกราชการมีความเห็นว่า
"1.นายสมัคร สุนทรเวช ต้องออกมาขอโทษต่อ ฯพณฯ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ ในคำกล่าวที่ไร้สติของนายสมัครฯ โดยเร็วที่สุด 2.สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ต้องถอดถอนรายการ "เช้าวันนี้ ที่เมืองไทย"ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และ ถ้าไม่ปฏิบัติทั้ง 2 ประการในระยะเวลาอันใกล้นี้ เราจะดำเนินการกับ นายสมัคร และ สถานีวิทยุกองทัพบกช่อง5 ตามวิถีทางของเราโดยเร็ว
**ผอ.ช่อง 5 ยอมรับไม่กล้ายุ่งกับสมัคร
พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 5 (ผอ.ททบ.5) กล่าวว่า ตนได้แจ้งให้ควบคุมรายการ เตือนไปยัง รายการของ นายสมัครแล้วว่า ให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น เนื่องจากเป็นรายการออกอากาศสด อีกทั้งมีหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ ให้ตรวจสอบมาแล้วด้วย โดยให้ทางฝ่ายรายการเขาเตือน ตนไม่กล้าเตือนนายสมัคร เพราะก็กลัวถูกด่าเหมือนกัน ใครจะกล้า
"คงไม่ถึงขั้นการให้ถอนรายการออก เนื่องจากเรามีสัญญา 6 เดือน ถ้าไปสั่งถอดรายการ เราก็อาจถูกฟ้องร้องได้ ททบ.5 เป็นช่องของทหารเราก็ต้องเป็นแค่ตัวกลาง ทำอะไรไม่ได้ แล้วเป็นรายการสด ก็แค่เตือนให้ระวังการพูดความเห็นมากขึ้นเท่านั้น เพราะ เป็นเรื่องยากที่จะคุมเรื่องการออกอากาศสด เพราะคุณสมัคร ก็พูดออกไปแล้ว แล้วใครจะกล้าไปด่าไปเตือนคุณสมัคร เป็นผู้ใหญ่แล้ว"พล.ท.วุฒิชัย กล่าว
**อ้างกรมประชาฯส่งหนังสือเตือนแล้ว
นายกณพ เกตุชาติ เลขานุการ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีประชาชนร้องเรียนมาว่ารายการดังกล่าว ทั้งเนื้อหาไม่ และการใช้วาจาไม่เหมาะสม นายสุรนันทน์ จึงสั่งให้กรมประชาสัมพันธ์ทำการตรวจสอบโดยด่วน ซึ่งหลังจากการตรวจสอบแล้ว กรมประชาสัมพันธ์ได้ออกหนังสือเตือนไปยังสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย ซึ่งดูแลคลื่นเอฟเอ็ม 105 และส่งไปยังผู้อำนวยการสถานีวิทยุกองทัพบก ช่อง 5 แล้วว่า ขอให้กวดขันการออกอากาศ และการดำเนินรายการ เช้าวันนี้ที่เมืองไทย ให้เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ พาดพิงบุคคลที่ 3 ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งนายเผชิญ ขำโต รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ส่งหนังสือ สวท.และทางช่อง 5 เรียบร้อยแล้ว
"ส่วนจะมีการใช้มาตรฐานเดียวกับรายการของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ถูกถอนออกไปหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องของการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม ที่กระทบต่อความมั่นคงนั้น เรื่องนี้เป็นนโยบายของแต่ละสถานีที่จะดำเนินการตักเตือน ระงับการออกอากาศ หรือถอนรายการ ในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ ได้ทำตามกกฎหมายแล้ว คือได้ส่งหนังสือเตือน และจะได้มีการประชุมร่วมกับสถานีนั้นๆต่อไป ส่วนเรื่องของการระงับเป็นเรื่องของแต่ละสถานีจะดำเนินการ"นายกณพ กล่าว
**คณาจารย์ราชภัฏฯขอโทษ"ป๋าเปรม"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่บ้านสี่เสา เทเวศน์ นายเสรี วงษ์มณฑา ผอ.หลักสูตรดุษฎีบัณฑิตการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พร้อมด้วย นายสุเทพ เชาวลิต ผอ.หลักสูตรการจัดการภาครัฐมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต นายอภิชาติ หาลำเจียก ตัวแทนนักศึกษาปริญญาเอก ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณลสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศน์ เพื่อยื่นหนังสือแสดงความเสียใจ และขอโทษ ที่เชิญพล.อ.เปรมไปร่วมสัมมนาเชิงวิชาการแล้วทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และทางมหาวิทยาลัยจะชี้แจงให้สาธารณชนทราบ โดยใช้เข้าพบประมาณ 20 นาที
จากนั้น คณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ชุดดังกล่าวร่วมกันแถลงข่าวที่รัฐสภา โดยนายเสรี กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ไม่เคยวางแผนวัน เวลา ที่จะให้พล.อ.เปรม มาพูดในช่วงเวลานี้ เพราะได้ทำหนังสือเชิญไป ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.48 โดยหัวข้อที่กำหนด นักศึกษาปริญญาเอกเป็นผู้กำหนด เพราะต้องการฟังกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนเมื่อวันที่ 30 ม.ค.49 ทางมหาวิทยาลัยได้หนังสือตอบรับจาก พล.อ.เปรม ว่าจะมาร่วมได้ในวันที่ 8 ก.พ.49 ซึ่งการเข้าพบ พล.อ.เปรม ก็เพื่อต้องการทบทวนความจำ และยืนยันถึงขบวนการที่เกิดขึ้น ซึ่งพล.อ.เปรม ก็ไม่มีสีหน้าวิตกกังวล หรือเสียใจ และ ดีใจที่คณาจารย์เข้าพบ และพูดคุยเพื่อสร้างความกระจ่างให้เกิดขึ้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ทำหนังสือชี้แจงกับ นายสมัคร ถึงขั้นตอนการจัดสัมมนาว่าเป็นอย่างไร ไม่มีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แต่ไม่ได้มีการต่อวาต่อขานนายสมัครใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่รับฟังการปาฐกถาของ พล.อ.เปรม มีส่วนไหนที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า สรุปไม่ได้เพราะทุกสิ่งที่พล.อ.เปรม พูดล้วนเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ ถ้าใครเป็นผู้บริหารภาครัฐนำสิ่งเหล่านี้ไปปฎิบัติ และทบทวนข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี เมื่อถามว่าคิดว่า นายสมัคร มีเจตนาอย่างไร จึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.เปรม นายเสรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา และการตีความของคน ว่าจะตีความเข้าฝ่ายใด หรือฝ่ายหนึ่ง
นายอภิชาติ กล่าวว่า ตนจะทำหนังสือหารือไปยังสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ขอให้ระงับรายการของนายสมัคร ชั่วคราวไปก่อน เพราะมันมีผลต่อความรู้สึกของประชาชน ทำให้คนไทยแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่าย
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเช้าวานนี้ (10 ก.พ.)ทางเลขาฯ พล.อ.เปรม ได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์มาที่ ผศ.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต หลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของนายสมัคร ว่า ทางสถาบันราชภัฏฯ มีการดำเนินการอะไรต่อหรือไม่ ซึ่งทางสถาบันราชภัฏฯ จึงชี้แจงกับสื่อมวลชน พร้อมกับขอเข้าพบพล.อ.เปรม
**จี้สมัครขอขมา 2 องคมนตรี
น.พ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การกระทำของนายสมัคร ถือเป็นการรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง เพราะ พล.อ.เปรม และนายพลากร เป็นถึงประธานองคมนตรีและองคมนตรี ดังนั้นการกระทำอะไรจะต้องมีการไตร่ตรองมาก่อนอยู่แล้ว ประกอบกับสิ่งที่ พล.อ.เปรม พูดในเรื่องแนวทางพระราชดำริ 14 เรื่อง ก็เป็นไปเพื่อความปรารถนาดีกับบ้านเมือง และอยากให้นายกฯปรับปรุงในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
"การจัดรายการของนายสมัคร เป็นการแก้ตัวแทนนายกฯไปทุกเรื่อง ถึงแม้จะเป็นสิทธิของนายสมัครที่จะสามารถสนับสนุนนายกฯได้ แต่ก็ไม่มีสิทธิที่จะมาใช้วาจาจาบจ้วงกับองคมนตรีเช่นนี้ ถ้าท่านนายกฯ มีจิตสำนึกที่ดีจะต้องนำแนวคิดน้ำไปปรับปรุงประเทศให้ดีขึ้นเพราะท่านเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ เพราะฉะนั้นกรที่ไปตีเจตนารมย์ของพล.อ.เปรมผิดแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และที่สำคัญนายสมัคร จะต้องออกมาขอขมาพล.อ.เปรม และนายพลากร โดยด่วนที่สุด" น.พ.เหวง กล่าวและว่า รายการโทรทัศน์ ควรเป็นไปเพื่อสร้างสรรค์แต่รายการอะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งก็ไม่สมควรอยู่ในสถานีต่อไป
**สมัครยังไม่สลด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดรายการของนายสมัคร สุนทรเวชและนายดุสิต ศิริวรรณ เมื่อวานนี้ ทั้งสองคนไม่ได้กล่าวถึงเรื่องที่หนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวกรณี ที่นายสมัครพูดจาไม่เหมาะสม และพยายามเลี่ยงไปพูดข่าวต่างๆแทน แต่ในการจัดรายการวิทยุข้อเท็จจริงวันนี้ที่เผยแพร่ในช่วงบ่ายนั้น นายสมัคร ได้ระบายความในใจในเรื่องนี้ออกมาเป็นนัยๆว่า "ท่านผู้ฟังที่โทรศัพท์เข้ามาแสดงความเห็น และกล่าวถึงพรรคเก่าแก่พรรคหนึ่งในทางเสียหาย เดี๋ยวนี้มีคนมาฟังรายการของผมและนำเทปไปส่งให้ กบว.ว่าใช้ภาษาหยาบคาย ผมขอท่านผู้ฟังว่า หากจะแสดงความเห็นกรุณาอย่าใช้ถ้อยคำแบบนั้นเพราะฝ่ายนั้นพยายามกันทุกรูปแบบ"
นอกจากนี้ นายสมัคร ยังกล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 11 ก.พ.นี้ และการเคลื่อนไหวของคณาจารย์สถาบันต่างที่ออกมาขับไล่นายกรัฐมนตรีให้ลาออก ว่า ประชาชนอย่าออกมา ให้ฝ่ายนั้นแห้งตายไปเอง ครู-อาจารย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วง นี้ควรกลับไปส่องกระจกตัวเองบ้าง มหาวิทยาลัยที่สอนวิชารัฐศาสตร์กลับลุกขึ้นมาเป็นเผด็จการเสียเอง และตอนนี้ลามไปยังนักศึกษาแล้ว มันจะก่อหวอดให้เหมือนเหตุการณ์เดือนตุลา และพฤษภาทมิฬ ขอให้ดูพฤติกรรมของคนพวกนี้ สื่อมวลชนก็เช่นกัน เอาเรื่องแบบนี้ประโคมอยู่ได้ ตนก็เป็นสื่อก็จะทำงานแบบนี้ต่อไป
หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายดุสิต ศิริวรรณ ผู้ดำเนินรายการ"เช้าวันนี้ที่เมืองไทย"ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา และรายการข้อเท็จจริงวันนี้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 105 เมกะเฮิร์ตซ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ กรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้ไปบรรยายในงานสัมมนาทางวิชาการที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เรื่องแนวทางพระราชดำริสู่การบริหารจัดการภาครัฐ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพล.อ.เปรม ได้กล่าวถึงแนวพระราชดำริที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการภาครัฐ 14 ข้อ ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปว่า คุณสมบัติของผู้บริหารที่ดีไม่เพียงจะต้องเป็นคนเก่งและฉลาดเท่านั้น แต่จะต้องมีจริงธรรมด้วย และกรณี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายสมัคร ได้วิจารณ์ว่า "การที่องคมนตรีทั้งสองท่านมาแสดงออกเช่นนี้ ถือว่ากระทบนายกรัฐมนตรี ทำไมต้องไปเอากับเขาด้วย บ้านเมืองกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ทำแบบนี้ทำไม เพราะทำให้ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมอยากถามว่า แบบนี้เป็นการเลือกข้างใช่มั๊ย เพราะถ้าท่านไม่ทำอะไร อยู่เฉยๆก็ได้"
เรื่องนี้ได้ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ใช้วาจาจาบจ้วงองคมนตรี พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านสื่อเข้ามาตรวจสอบดำเนินการ รวมทั้งให้สถานีโทรทัศน์ ช่อง5 ถอดรายการดังกล่าวด้วย
**เผย"ป๋าเปรม"เจ็บปวดแต่ไม่โวยวาย
พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในฐานะเลขานุการส่วนตัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ได้ดูเทปรายการของนายสมัครแล้ว และท่านก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธหรือไม่พอใจอะไร
"ป๋า ท่านเป็นผู้ใหญ่ นิ่งสุขุมมาก ไม่เคยด่าใครไม่เคยแสดงความโกรธใคร ไม่เคยพูดอะไรโวยวาย แต่ผมรู้ดีว่าป๋าท่านเจ็บปวด ที่ท่านทำหน้าที่ในการอัญเชิญกระแสพระราดำรัสของในหลวง มากระตุ้นเตือนประชาชน อยู่เสมอๆอย่างนี้ แต่กลับถูกตำหนิ ท่านเปรย ตั้งคำถามแค่ว่า ทำไมเท่านั้น ท่านนิ่ง"
พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าวด้วยว่า พล.อ.เปรม ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่เคยจะด่าหรือตำหนิใคร แต่กลับมีคนมาด่าท่านอย่างนี้ ถือว่าไม่เหมาะสม ใช้ไม่ได้ เขาต้องการจะเพิ่มค่าตัวเองมากกว่า จะปกป้องใครก็ปกป้องไป แต่ไม่ควรจะมาด่าป๋า และอยากให้มีการตรวจสอบด้วยว่า รายการนี้มีที่มาที่ไปยังไง และอยากถามว่าช่อง 5 ปล่อยให้ นายสมัคร ทำอย่างนี้ได้อย่างไร สิ่งที่ท่านไปปาฐากถาก็เป็นคำเชิญ ตั้งแต่เดือนตุลาคม แล้ว และเป็นหัวข้อที่ทางผู้เชิญกำหนดมา แล้วปกติท่านก็คอยรวบรวมกระแสพระราชดำรัสต่างๆ แล้วนำไปใช้ในการปาฐากถา เพื่อเตือนสติผู้ฟังเสมอๆ
"ครั้งนี้มันมาพอดีกับสถานการณ์ แต่ป๋าไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นผู้นำระดับไหน แต่พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ใช้ได้กับผู้นำในทุกระดับ แล้วป๋า ท่านก็ไม่ได้เจาะจงหรือเอ่ยชื่อใครออกมาเลย เพราะท่านไม่เคยคิดยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย"พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าว และว่า มันมีสิทธิ์อะไรมาด่าป๋าท่าน เพราะไม่เกี่ยวกับมันเลย ต้องให้ท่านนายกรัฐมนตรี พูดก่อนว่ายังไง ถ้าจะด่าต้องให้นายกฯด่า ก็รอดูอยู่นี่
พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พล.อ.เปรม ท่านวางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และไม่เข้ากับฝ่ายไหนเลย ให้ตัวแทนรับหนังสือ รับฎีกา ท่านก็ไม่อยู่บ้าน ไม่อยากเกี่ยวข้อง เพราะท่านรู้ตัวดีว่าในฐานะประธานองคมนตรีนี้ จะต้องวางตัวอย่างไร แล้วการอัญเชิญพระราชดำรัสฯ ก็เป็นสิ่งที่เหมาะที่ควรที่จะต้องนำไปเผยแพร่ ทุกครั้งที่พลเอกเปรม ท่านไปบรรยายหรือปาฐกถา ที่ไหนก็ตาม เพราะป๋าท่านไม่ด่าใครแน่ ในฐานะที่ทำงานกับท่านมาตลอด ก็อยู่เฉยไม่ได้เหมือนกัน ใครจะด่าก็ด่าไม่เป็นไร แต่ตนไม่ต้องการให้ใครมาด่า ป๋าท่าน
**รองปลัดกห.หนุนถอดรายการสมัคร
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดฯกลาโหม ในฐานะนายทหารที่รัก และเคารพพล.อ.เปรม กล่าวว่า การดำเนินรายการของ 2 พิธีกรที่ทำหน้าที่ในวันนั้น เป็นการดำเนินรายการที่วิจารณ์ล่วงเกินพล.อ.เปรม เป็นอย่างมาก เพราะท่านเป็นปูชนีย์บุคคลทางทหาร ท่านไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ถือว่าการดำเนินรายการของบุคคลทั้ง 2ไม่ถูกต้อง
"ที่สำคัญการวิจารณ์ เป็นรายการที่ออกอากาศทาง ททบ.5 ที่ถือเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะ ททบ.5 เป็นสถานีโทรทัศน์ของกองทัพบก แม้จะเป็นรายการสดก็ตาม ดังนั้น ทางกองทัพบกควรจะถอดรายการนี้ เชื่อว่าทหารทุกคนไม่สนับสนุนรายการนี้ แม้จะรู้ว่ารายการนี้มีใบสั่งจากใครก็ตาม" พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว และว่า ทุกคนรู้ว่าเป็นรายการของนายสมัคร จึงไม่มีใครกล้า จะเห็นที่ผ่านมาผู้ดำเนินรายการทั้ง 2 คน จะชนแหลก
รองปลัดฯกลาโหม ยังกล่าวตำหนินายสมัคร และนายดุสิต ด้วยว่า ต้องการออกมาดิสเคดิตใครก็ตามที่เข้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล แม้ว่าตนจะเป็นทหารเรือ และไม่ใช่ลูกป๋า แต่ความรู้สึกในความเป็นทหาร ตนคิดว่าต้องออกมากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะท่านเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง ทำประโยชน์ให้กับกองทัพ ถือเป็นปูชนียบุคคลที่ควรเคารพนับถือ และท่าน พล.อ.เปรม ก็ควรจะได้รับการปกป้องจากพวกเราที่เป็นทหาร ดังนั้นอยากให้ ผอ.ททบ.5 พิจารณาการถอดรายการของนายสมัคร ถ้าเป็นรายการของคนอื่น หรือสถานีอื่นเชื่อว่าโดนถอดไปแล้ว
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยากเรียกร้องลูกป๋า ทหาร จะต้องออกมากอบกู้อะไรสักอย่าง และจะต้องทำตั้งแต่วันแรกแบบทันทีทันใด แม้ตนจะไม่ใช่ลูกป๋า อย่างแท้จริงแต่ก็ให้ความเคารพนับถือท่าน ในฐานะผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับกองทัพ
**นายทหารนอกราชการจี้สมัครขอโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน มีโทรสารมาที่ห้องผู้สื่อข่าวสายทหาร และ ตามสำนักพิมพ์หลายแห่ง ระบุว่า เป็นแถลงการณ์ ของ สมาคมนายทหารนอกราชการ มีเนื้อความว่า ททบ.5 ในรายการ"เช้าวันนี้ที่เมืองไทย" ได้นำกรณีที่ ฯพณฯพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ กล่าวถึงกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบริหารราชการแผ่นดิน 14 แนวทาง โดยนายสมัคร สุนทรเวช ได้นำมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงตามที่ทราบกันโดยทัวไปแล้วนั้น สมาคมนายทหารนอกราชการมีความเห็นว่า
"1.นายสมัคร สุนทรเวช ต้องออกมาขอโทษต่อ ฯพณฯ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ ในคำกล่าวที่ไร้สติของนายสมัครฯ โดยเร็วที่สุด 2.สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ต้องถอดถอนรายการ "เช้าวันนี้ ที่เมืองไทย"ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และ ถ้าไม่ปฏิบัติทั้ง 2 ประการในระยะเวลาอันใกล้นี้ เราจะดำเนินการกับ นายสมัคร และ สถานีวิทยุกองทัพบกช่อง5 ตามวิถีทางของเราโดยเร็ว
**ผอ.ช่อง 5 ยอมรับไม่กล้ายุ่งกับสมัคร
พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 5 (ผอ.ททบ.5) กล่าวว่า ตนได้แจ้งให้ควบคุมรายการ เตือนไปยัง รายการของ นายสมัครแล้วว่า ให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น เนื่องจากเป็นรายการออกอากาศสด อีกทั้งมีหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ ให้ตรวจสอบมาแล้วด้วย โดยให้ทางฝ่ายรายการเขาเตือน ตนไม่กล้าเตือนนายสมัคร เพราะก็กลัวถูกด่าเหมือนกัน ใครจะกล้า
"คงไม่ถึงขั้นการให้ถอนรายการออก เนื่องจากเรามีสัญญา 6 เดือน ถ้าไปสั่งถอดรายการ เราก็อาจถูกฟ้องร้องได้ ททบ.5 เป็นช่องของทหารเราก็ต้องเป็นแค่ตัวกลาง ทำอะไรไม่ได้ แล้วเป็นรายการสด ก็แค่เตือนให้ระวังการพูดความเห็นมากขึ้นเท่านั้น เพราะ เป็นเรื่องยากที่จะคุมเรื่องการออกอากาศสด เพราะคุณสมัคร ก็พูดออกไปแล้ว แล้วใครจะกล้าไปด่าไปเตือนคุณสมัคร เป็นผู้ใหญ่แล้ว"พล.ท.วุฒิชัย กล่าว
**อ้างกรมประชาฯส่งหนังสือเตือนแล้ว
นายกณพ เกตุชาติ เลขานุการ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีประชาชนร้องเรียนมาว่ารายการดังกล่าว ทั้งเนื้อหาไม่ และการใช้วาจาไม่เหมาะสม นายสุรนันทน์ จึงสั่งให้กรมประชาสัมพันธ์ทำการตรวจสอบโดยด่วน ซึ่งหลังจากการตรวจสอบแล้ว กรมประชาสัมพันธ์ได้ออกหนังสือเตือนไปยังสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย ซึ่งดูแลคลื่นเอฟเอ็ม 105 และส่งไปยังผู้อำนวยการสถานีวิทยุกองทัพบก ช่อง 5 แล้วว่า ขอให้กวดขันการออกอากาศ และการดำเนินรายการ เช้าวันนี้ที่เมืองไทย ให้เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ พาดพิงบุคคลที่ 3 ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งนายเผชิญ ขำโต รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ส่งหนังสือ สวท.และทางช่อง 5 เรียบร้อยแล้ว
"ส่วนจะมีการใช้มาตรฐานเดียวกับรายการของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ถูกถอนออกไปหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องของการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม ที่กระทบต่อความมั่นคงนั้น เรื่องนี้เป็นนโยบายของแต่ละสถานีที่จะดำเนินการตักเตือน ระงับการออกอากาศ หรือถอนรายการ ในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ ได้ทำตามกกฎหมายแล้ว คือได้ส่งหนังสือเตือน และจะได้มีการประชุมร่วมกับสถานีนั้นๆต่อไป ส่วนเรื่องของการระงับเป็นเรื่องของแต่ละสถานีจะดำเนินการ"นายกณพ กล่าว
**คณาจารย์ราชภัฏฯขอโทษ"ป๋าเปรม"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่บ้านสี่เสา เทเวศน์ นายเสรี วงษ์มณฑา ผอ.หลักสูตรดุษฎีบัณฑิตการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พร้อมด้วย นายสุเทพ เชาวลิต ผอ.หลักสูตรการจัดการภาครัฐมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต นายอภิชาติ หาลำเจียก ตัวแทนนักศึกษาปริญญาเอก ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณลสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศน์ เพื่อยื่นหนังสือแสดงความเสียใจ และขอโทษ ที่เชิญพล.อ.เปรมไปร่วมสัมมนาเชิงวิชาการแล้วทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และทางมหาวิทยาลัยจะชี้แจงให้สาธารณชนทราบ โดยใช้เข้าพบประมาณ 20 นาที
จากนั้น คณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ชุดดังกล่าวร่วมกันแถลงข่าวที่รัฐสภา โดยนายเสรี กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ไม่เคยวางแผนวัน เวลา ที่จะให้พล.อ.เปรม มาพูดในช่วงเวลานี้ เพราะได้ทำหนังสือเชิญไป ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.48 โดยหัวข้อที่กำหนด นักศึกษาปริญญาเอกเป็นผู้กำหนด เพราะต้องการฟังกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนเมื่อวันที่ 30 ม.ค.49 ทางมหาวิทยาลัยได้หนังสือตอบรับจาก พล.อ.เปรม ว่าจะมาร่วมได้ในวันที่ 8 ก.พ.49 ซึ่งการเข้าพบ พล.อ.เปรม ก็เพื่อต้องการทบทวนความจำ และยืนยันถึงขบวนการที่เกิดขึ้น ซึ่งพล.อ.เปรม ก็ไม่มีสีหน้าวิตกกังวล หรือเสียใจ และ ดีใจที่คณาจารย์เข้าพบ และพูดคุยเพื่อสร้างความกระจ่างให้เกิดขึ้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ทำหนังสือชี้แจงกับ นายสมัคร ถึงขั้นตอนการจัดสัมมนาว่าเป็นอย่างไร ไม่มีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แต่ไม่ได้มีการต่อวาต่อขานนายสมัครใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่รับฟังการปาฐกถาของ พล.อ.เปรม มีส่วนไหนที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า สรุปไม่ได้เพราะทุกสิ่งที่พล.อ.เปรม พูดล้วนเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ ถ้าใครเป็นผู้บริหารภาครัฐนำสิ่งเหล่านี้ไปปฎิบัติ และทบทวนข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี เมื่อถามว่าคิดว่า นายสมัคร มีเจตนาอย่างไร จึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.เปรม นายเสรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา และการตีความของคน ว่าจะตีความเข้าฝ่ายใด หรือฝ่ายหนึ่ง
นายอภิชาติ กล่าวว่า ตนจะทำหนังสือหารือไปยังสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ขอให้ระงับรายการของนายสมัคร ชั่วคราวไปก่อน เพราะมันมีผลต่อความรู้สึกของประชาชน ทำให้คนไทยแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่าย
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเช้าวานนี้ (10 ก.พ.)ทางเลขาฯ พล.อ.เปรม ได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์มาที่ ผศ.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต หลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของนายสมัคร ว่า ทางสถาบันราชภัฏฯ มีการดำเนินการอะไรต่อหรือไม่ ซึ่งทางสถาบันราชภัฏฯ จึงชี้แจงกับสื่อมวลชน พร้อมกับขอเข้าพบพล.อ.เปรม
**จี้สมัครขอขมา 2 องคมนตรี
น.พ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การกระทำของนายสมัคร ถือเป็นการรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง เพราะ พล.อ.เปรม และนายพลากร เป็นถึงประธานองคมนตรีและองคมนตรี ดังนั้นการกระทำอะไรจะต้องมีการไตร่ตรองมาก่อนอยู่แล้ว ประกอบกับสิ่งที่ พล.อ.เปรม พูดในเรื่องแนวทางพระราชดำริ 14 เรื่อง ก็เป็นไปเพื่อความปรารถนาดีกับบ้านเมือง และอยากให้นายกฯปรับปรุงในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
"การจัดรายการของนายสมัคร เป็นการแก้ตัวแทนนายกฯไปทุกเรื่อง ถึงแม้จะเป็นสิทธิของนายสมัครที่จะสามารถสนับสนุนนายกฯได้ แต่ก็ไม่มีสิทธิที่จะมาใช้วาจาจาบจ้วงกับองคมนตรีเช่นนี้ ถ้าท่านนายกฯ มีจิตสำนึกที่ดีจะต้องนำแนวคิดน้ำไปปรับปรุงประเทศให้ดีขึ้นเพราะท่านเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ เพราะฉะนั้นกรที่ไปตีเจตนารมย์ของพล.อ.เปรมผิดแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และที่สำคัญนายสมัคร จะต้องออกมาขอขมาพล.อ.เปรม และนายพลากร โดยด่วนที่สุด" น.พ.เหวง กล่าวและว่า รายการโทรทัศน์ ควรเป็นไปเพื่อสร้างสรรค์แต่รายการอะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งก็ไม่สมควรอยู่ในสถานีต่อไป
**สมัครยังไม่สลด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดรายการของนายสมัคร สุนทรเวชและนายดุสิต ศิริวรรณ เมื่อวานนี้ ทั้งสองคนไม่ได้กล่าวถึงเรื่องที่หนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวกรณี ที่นายสมัครพูดจาไม่เหมาะสม และพยายามเลี่ยงไปพูดข่าวต่างๆแทน แต่ในการจัดรายการวิทยุข้อเท็จจริงวันนี้ที่เผยแพร่ในช่วงบ่ายนั้น นายสมัคร ได้ระบายความในใจในเรื่องนี้ออกมาเป็นนัยๆว่า "ท่านผู้ฟังที่โทรศัพท์เข้ามาแสดงความเห็น และกล่าวถึงพรรคเก่าแก่พรรคหนึ่งในทางเสียหาย เดี๋ยวนี้มีคนมาฟังรายการของผมและนำเทปไปส่งให้ กบว.ว่าใช้ภาษาหยาบคาย ผมขอท่านผู้ฟังว่า หากจะแสดงความเห็นกรุณาอย่าใช้ถ้อยคำแบบนั้นเพราะฝ่ายนั้นพยายามกันทุกรูปแบบ"
นอกจากนี้ นายสมัคร ยังกล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 11 ก.พ.นี้ และการเคลื่อนไหวของคณาจารย์สถาบันต่างที่ออกมาขับไล่นายกรัฐมนตรีให้ลาออก ว่า ประชาชนอย่าออกมา ให้ฝ่ายนั้นแห้งตายไปเอง ครู-อาจารย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วง นี้ควรกลับไปส่องกระจกตัวเองบ้าง มหาวิทยาลัยที่สอนวิชารัฐศาสตร์กลับลุกขึ้นมาเป็นเผด็จการเสียเอง และตอนนี้ลามไปยังนักศึกษาแล้ว มันจะก่อหวอดให้เหมือนเหตุการณ์เดือนตุลา และพฤษภาทมิฬ ขอให้ดูพฤติกรรมของคนพวกนี้ สื่อมวลชนก็เช่นกัน เอาเรื่องแบบนี้ประโคมอยู่ได้ ตนก็เป็นสื่อก็จะทำงานแบบนี้ต่อไป