ศูนย์ข่าวภูเก็ต -บริษัทที่ปรึกษาระบุ รถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ตเกิดยาก เหตุลงทุนสูง ใช้เงินกว่า 20,000 ล้านบาท ขณะที่จำนวนคนใช้บริการไม่มาก มองแล้วไม่คุ้มค่าการลงทุน
นายไกร ตั้งสง่า ประธานกรรมการ บริษัท พีระมิด ดีเวลล็อปเม้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้ า การศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบา รอบเกาะภูเก็ต และเส้นทางสนามบิน ว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้จัดสรรงบประมาณผู้ว่าฯซีอีโอจำนวน 17 ล้านบาท ให้บริษัท พีระมิด ดีเวลล็อปเม้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท อิโคซิสเต็ม เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด ศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่ง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ศึกษาความเป็นไปได้ ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบเกาะภูเก็ตและเส้นทางสนามบิน โดยได้ศึกษามาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2548 ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 29 พ.ค. 2549
ขณะนี้ผลการศึกษาเดินไปได้ประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว และจะมีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ภูเก็ต 2 ครั้ง คือในต้นเดือนมี.ค.และปลายเดือนเม.ย. ก่อนที่จะนำผลการศึกษาเสนอทางจังหวัดภูเก็ต
นายไกร กล่าวว่า จากผลการศึกษาของบริษัท ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า รถไฟฟ้ารางเบาที่จะเกิดขึ้นที่ภูเก็ต จะเป็นรถไฟฟ้ารางเบาขนาดบรรทุกได้ 8,000 คนต่อวันใน 1 ทิศทาง และเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในพื้นที่ภูเก็ต คือเส้นทางสนามบินภูเก็ต-ตัวเมืองภูเก็ต ระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร(กม.)
ทั้งนี้ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีความเป็นไปได้ในเชิงวิศวกร เพราะสามารถที่จะก่อสร้างทางรถไฟฟ้าตรงเกาะกลางถนน ในเส้นทางถนนสี่เลนสาย 402 ได้ และเป็นพื้นราบทั้งหมดไม่รถต้องขึ้นเขาที่มีความชันมาก รวมทั้งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่มากนัก และในเส้นทางสนามบิน-ตัวเมืองภูเก็ต ยังเป็นเส้นทางหลัก ที่สามารถเชื่อมโยงกับเส้นทางรองได้หลายเส้นทางด้วย
ขณะที่เส้นทางสนามบิน-หาดป่าตอง มีความเป็นไปได้ยากในเชิงวิศวกรรม เนื่องจากเส้นทางเป็นเนินเขาสลับกับพื้นราบ และกระทบสิ่งแวดล้อมมากกว่าด้วย
สำหรับเงินลงทุน ในเส้นทางราบ จะต้องใช้เงินลงทุนกม.ละ 500 ล้านบาท พื้นที่ที่เป็นเนินกม.ละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งงบฯลงทุนดังกล่าวจะร่วมถึงการซื้อหัวรถไฟฟ้า รางรถไฟฟ้า อะไหล่ อู่จอด อู่ซ่อม สถานี ไฟสัญญาณ และการบริหารจัดการ จนสามารถที่จะเปิดให้บริการได้ ซึ่งในเส้นทางสนามบิน-ตัวเมืองภูเก็ตระยะทาง 40 กว่ากม. ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนที่ชัดเจน และแหล่งเงินทุน บริษัทจะศึกษาในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนจุดคุ้มทุน จะต้องมีคนใช้บริการวันละ 5,000-6,000 คน ซึ่งหากจำนวนนักท่องเที่ยวและชาวภูเก็ตที่มีอยู่ในขณะนี้ โอกาสที่รถไฟฟ้ารางเบาจะเกิดในภูเก็ตมีน้อยมาก เพราะจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน