“มิสลิลลี่” รับกระแสวาเลนไทน์ พร้อมปรับราคาขาย 20% เหตุต้นทุนขึ้น ปีนี้มาแปลกนำเข้า ดอกกุหลาบสีดำจับกลุ่มผู้หญิงซื้อให้ผู้ชาย ขายดอกละ 600 บาท ส่วนแพคเกจช่อหลัก 99 ดอก ขาย 35,000 บาทต่อช่อ
นายเรวัต จินดาพล ผู้ก่อตั้ง บริษัท มิสลิลลี่ จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตทางด้านยอดขายประมาณ 10% ในช่วงวาเลนไทน์ปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น อีกทั้งแผนการรุกของบริษัทฯและการมีสินค้าดอกไม้ใหม่ๆเข้ามาเสริมด้วย โดยปีที่แล้วมีออร์เดอร์ประมาณ 3,000 ออร์เดอร์และทำรายได้กว่า 5-6 ล้านบาท เฉพาะช่วงวาเลนไทน์
โดยปีนี้ได้มีการปรับราคาจำหน่ายขึ้นเฉลี่ย 20% เพราะต้นทุนการจัดซื้อดอกไม้สูงขึ้น อีกทั้งได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดหีบห่อและช่อดอกไม้ใหม่ด้วยวัสดุชั้นดีขึ้นจากปีที่แล้ว จึงทำให้ต้องปรับราคาขายเล็กน้อย ซึ่งดอกกุหลาบที่จำหน่ายจะมีทั้งปลูกในไทยและนำเข้าจากต่างประเทศในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
สำหรับรูปแบบหลักๆของดอกกุหลาบในปีนี้ที่จำหน่ายประกอบด้วย 1.ดอกกุหลาบที่จัดเป็นช่อหลักจำนวน 99 ดอกต่อ 1 ช่อ ราคา 35,000 บาทต่อช่อ เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีราคา 31,999 บาทต่อช่อ โดยจัดเตรียมไว้จำหน่ายประมาณ 20 ชุด 2.ดอกกุหลาบก้านยาว 125 เซนติเมตร ราคาดอกละ 1,600 บาท เตรียมไว้ประมาณ 1,000 ดอก เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีราคา 1,200 บาท 3.ดอกกุหลาบก้านยาว 90 เซ็นติเมตร ราคา 400 บาทต่อดอก เพิ่มจากปีที่แล้วที่ขายดอกละ 300 บาท
4.ดอกกุหลาบสีดำนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นสายพันธ์ฮอลแลนด์ นำเข้ามาประมาณ 300 ดอก เป็นครั้งแรก จำหน่ายดอกละ 600 บาท โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงซื้อเพื่อส่งให้ผู้ชาย และถือเป็นไฮไลท์ในปีนี้ด้วย
โดยบริษัทฯจะมีช่องทางจำหน่ายเพียง 2 ช่องทางเท่านั้นในปีนี้คือ คอล์เซ็นเตอร์ เบอร์ 0-2970-8000 และเว็บไซต์ ww.misslily.com โดยที่ปีนี้ไม่มีวางจำหน่ายตามหน้าร้านในห้างสรรพสินค้าแต่อย่างใด โดยเงื่อนไขการรับออร์เดอร์และจัดส่งนั้น จะต้องสั่งซื้ออย่างต่ำ 4 ดอก หรือ 1,600 บาทขึ้นไปต่อออร์เดอร์
สำหรับแผนการรุกตลาดปีนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะสร้างเครือข่ายขยายไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในเอเซีย เพื่อเป็นแขนขาในการรับออร์เดอร์ให้กับบริษัทฯ จากเดิมที่มีเครือข่ายในไทยประมาณ 100 กว่าราย และมีในสิงคโปร์บ้างแล้ว อีกทั้งได้ลงทุนปรับปรุงระบบไอทีต่างๆ โดยยอดขายของบริษัทฯทั้งปีเมื่อที่แล้วมีประมาณ 36 ล้านบาท
นายเรวัต จินดาพล ผู้ก่อตั้ง บริษัท มิสลิลลี่ จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตทางด้านยอดขายประมาณ 10% ในช่วงวาเลนไทน์ปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น อีกทั้งแผนการรุกของบริษัทฯและการมีสินค้าดอกไม้ใหม่ๆเข้ามาเสริมด้วย โดยปีที่แล้วมีออร์เดอร์ประมาณ 3,000 ออร์เดอร์และทำรายได้กว่า 5-6 ล้านบาท เฉพาะช่วงวาเลนไทน์
โดยปีนี้ได้มีการปรับราคาจำหน่ายขึ้นเฉลี่ย 20% เพราะต้นทุนการจัดซื้อดอกไม้สูงขึ้น อีกทั้งได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดหีบห่อและช่อดอกไม้ใหม่ด้วยวัสดุชั้นดีขึ้นจากปีที่แล้ว จึงทำให้ต้องปรับราคาขายเล็กน้อย ซึ่งดอกกุหลาบที่จำหน่ายจะมีทั้งปลูกในไทยและนำเข้าจากต่างประเทศในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
สำหรับรูปแบบหลักๆของดอกกุหลาบในปีนี้ที่จำหน่ายประกอบด้วย 1.ดอกกุหลาบที่จัดเป็นช่อหลักจำนวน 99 ดอกต่อ 1 ช่อ ราคา 35,000 บาทต่อช่อ เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีราคา 31,999 บาทต่อช่อ โดยจัดเตรียมไว้จำหน่ายประมาณ 20 ชุด 2.ดอกกุหลาบก้านยาว 125 เซนติเมตร ราคาดอกละ 1,600 บาท เตรียมไว้ประมาณ 1,000 ดอก เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีราคา 1,200 บาท 3.ดอกกุหลาบก้านยาว 90 เซ็นติเมตร ราคา 400 บาทต่อดอก เพิ่มจากปีที่แล้วที่ขายดอกละ 300 บาท
4.ดอกกุหลาบสีดำนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นสายพันธ์ฮอลแลนด์ นำเข้ามาประมาณ 300 ดอก เป็นครั้งแรก จำหน่ายดอกละ 600 บาท โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงซื้อเพื่อส่งให้ผู้ชาย และถือเป็นไฮไลท์ในปีนี้ด้วย
โดยบริษัทฯจะมีช่องทางจำหน่ายเพียง 2 ช่องทางเท่านั้นในปีนี้คือ คอล์เซ็นเตอร์ เบอร์ 0-2970-8000 และเว็บไซต์ ww.misslily.com โดยที่ปีนี้ไม่มีวางจำหน่ายตามหน้าร้านในห้างสรรพสินค้าแต่อย่างใด โดยเงื่อนไขการรับออร์เดอร์และจัดส่งนั้น จะต้องสั่งซื้ออย่างต่ำ 4 ดอก หรือ 1,600 บาทขึ้นไปต่อออร์เดอร์
สำหรับแผนการรุกตลาดปีนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะสร้างเครือข่ายขยายไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในเอเซีย เพื่อเป็นแขนขาในการรับออร์เดอร์ให้กับบริษัทฯ จากเดิมที่มีเครือข่ายในไทยประมาณ 100 กว่าราย และมีในสิงคโปร์บ้างแล้ว อีกทั้งได้ลงทุนปรับปรุงระบบไอทีต่างๆ โดยยอดขายของบริษัทฯทั้งปีเมื่อที่แล้วมีประมาณ 36 ล้านบาท