xs
xsm
sm
md
lg

เทียนไล่สิ่งชั่วร้ายสว่างไสว

เผยแพร่:   โดย: สุวัฒน์ ทองธนากุล

ขณะนี้สืื่อมวลชนประเภทต่างๆ คงอยู่ในภาวะการกดดันกันทั่วหน้าในสถานการณ์ที่รัฐบาล “ขาลง”

สื่อหนังสือพิมพ์นั้นเป็นธุรกิจเอกชนซึ่งดูเหมือนจะมีอิสระ หลายฉบับจึงมีจุดยืนที่เจาะลึกกล้าเปิดโปงความจริงให้สังคมได้รับรู้พฤติการณ์ฉ้อฉลและวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีพลัง

แต่บางฉบับก็มีท่่าทีเอาใจผู้นำรัฐบาล จนไม่ค่อยสนใจรายงานความเคลื่อนไหวชี้ประเด็นความไม่ชอบธรรมที่ทำเพื่อพวกพ้องและเครือญาติของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

แต่เมื่อ “ปรากฏการณ์สนธิ ลิ้มทองกุล” ได้พัฒนากลายเป็น “ขบวนการกู้ชาติ” ที่มีเครือข่ายสนับสนุนหลากหลายและกว้างขวางทั้งวงการภาคประชาชนนักการเมืองและนักวิชาการผู้รักความเป็นธรรม

ภาพการชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่แน่นบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จนล้นออกไปบนถนนราชดำเนินนอกจนใกล้สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 จนถึงตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 วานนี้

สื่อวิทยุและโทรทัศน์ซึ่งหน่วยงานของรัฐยังควบคุมได้ก็ดูจะระมัดระวังการเสนอข่าวด้วยความเกรงใจรัฐบาล

ประเด็นสาระที่ถูกวิจารณ์ดูจะไม่ได้รับความสนใจที่จะนำเป็นจุดสำคัญในการทำความจริงให้กระจ่าง

ความเคลื่อนไหวขับไล่ผู้นำรัฐบาลคราวนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่ นักข่าวทั้งไทยและเทศนับร้อยต่างไปรายงานข่าวที่ประชาชนได้รับรู้และเปรียบเทียบความถูกต้องรวดเร็ว มีสงสัยว่าเมื่อคืนนี้เคเบิ้ลทีวี TTV ขึ้นภาพนิ่งเป็นหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมเปิดเพลง “รักกันไว้เถิด” และอีกเพลงที่สื่อความหมายทำนองว่าทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน

การที่ผู้คนจำนวนนับแสนที่ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง เป็นคนที่ติดตามข่าวสารมีความรู้ มีความคิด อุตส่าห์ พากันมาตากแดดตากลมข้ามคืน และแสดงออกในการไม่ยอมรับ พ.ต.ท.ทักษิณ

มันไม่ใช่เรื่องของความไม่พอใจส่วนตัวแน่นอน

การพยายามสาดโคลนว่าคุณสนธินำขบวนขับไล่นายกฯ เพราะไม่พอใจเพราะขัดผลประโยชน์ จึงไม่มีใครสนใจเมื่อเทียบกับแผลแตกที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกชำแหละ

ยิ่งหาว่าเป็นขบวนการของพรรคประชาธิปัตย์ยิ่งเลอะเทอะไปใหญ่

เพราะคนที่ไปชุมนุมต่อเนื่องจนมาถึงครั้งใหญ่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้านั้น เป็นคนที่มีความคิดพื้นฐานหลากหลาย แม้แต่คนที่เคยลงคะแนนเลือกพรรคไทยรักไทยมาก่อนก็ตาม

แนวร่วมและแรงสนับสนุนมากมายจากทุกภาค เกิดจากข้อมูลความไม่โปร่งใสของผู้นำรัฐบาลที่ขาดจริยธรรมในการบริหาร ซึ่งส่งผลให้มีการกอบโกยผลประโยชน์ให้คนในตระกูลและพวกพ้องอย่างมหาศาลตามที่มีการกล่าวพากัน

จุดที่ทำให้ผู้รักความเป็นธรรมที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ เห็นว่าไม่ถูกต้องและยอมรับไม่ได้ ก็คือ กระบวนการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของคนในตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ของสิงคโปร์เป็นมูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท โดยไม่ต้องเสียภาษีเลย

ขนาด ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร มือกฎหมายธุรกิจที่ชำนาญในการแนะนำการประหยัดภาษีให้กับธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้ว แต่การชี้แจงไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น เพราะเป็นการอ้างอิงกฎระเบียบการยกเว้นภาษีสำหรับบุคคลที่ซื้อขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ซึ่งรู้กันอยู่แล้ว

การรวมกลุ่มลงชื่อของคณาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายคณะหลายมหาวิทยาลัย ที่ล้วนเน้นประเด็นจริยธรรมผู้นำรัฐบาลและเรียกร้องระบุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็กลับเป็นการเสริมกระแสการถูกเปิดโปงความไม่ชอบธรรมอย่างมีพลังยิ่งขึ้น

เพราะที่สังคมข้องใจก็คือ มีการแก้กฎหมายเพิ่มสัดส่วนให้ต่างชาติถือหุ้นในธุรกิจโทรคมนาคมได้ถึง 49% เพื่อรองรับการขายหุ้นครั้งนี้ และความน่าสงสัยในการถือหุ้นทางอ้อมและนิติกรรมอำพรางจนทำให้สามารถมาใช้สิทธิยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้นเป็นเงินมหาศาลนี่ต่างหากล่ะ

กรณีที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงนับเป็น“ตัวอย่างที่ดีของความไม่ดี” ที่ชัดเจนในการใช้ความฉลาดและอำนาจบารมีโดยขาดจริยธรรมของผู้บริหาร

เพราะหากมีความฉลาด มียุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่ดีแวดล้อมด้วยขุนพลนักคิดนักทำงานฝีมือดี

ถ้ามีจริยธรรมก็จะมีจุดมุ่งหมายทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ดำเนินการด้วยหลัก “ธรรมาภิบาล” ที่สุจริต โปร่งใสและเป็นธรรม

ไม่มีการสร้างนโยบายที่เอื้อประโยชน์เพื่อคนในครอบครัวและพวกพ้อง

ผลงานก็จะเกิดอย่างมีประสิทธิภาพ การตัดสินใจใช้เงินงบประมาณของส่วนรวมก็จะเป็นไปด้วยเหตุผลอย่างถูกต้องและคุ้มค่าต่อสังคม

คำถามข้อสงสัยเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นและความไม่ถูกต้องที่คุณสนธิยกประเด็นที่มีถึง 40 ข้อ ก็จะไม่เกิดขึ้น

หรือเมื่อมีคำถามข้อแรกๆ เกิดขึ้น ก็จะกล้าตอบได้อย่างจะแจ้ง รายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ก็๕งจะจืดลงเรื่อยๆ เพราะประเด็นฝืด

แต่นี่กลับตรงกันข้าม นอกจากไม่มีการตอบคำถามแล้ว ประเด็นข้อสงสัยยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มันก็เลยเหมือนการช่วยเชียร์คนไปฟังข้อมูลทุจริตที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สังคมได้เห็นว่าจำเป้นต้องมีกลไกตรวจสอบความถูกต้องของฝ่ายบริหารประเทศที่มี่ความอิสระเที่ยงธรรม เช่น สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และสื่อมวลชน

แล้วเราหวังอะไรบ้าง

เทียนไขที่คุณสนธิกล้าจุดขึ้นด้วยความทรหด ตอนนี้มีคนเป็นแสนเป็นล้านทั่วประเทศร่วมกันจุดเทียนจนสว่างไสวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายและจะนำไปสู่การปฏิรูประบบการเมืองที่ดีขึ้นและให้เกิดเสรีภาพของสื่อต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น