ผู้จัดการรายวัน - คตง.คลอดมติเป็นเอกฉันฑ์คืนเก้าอี้ผู้ว่าฯสตง.ให้ "คุณหญิงจารุวรรณ"หลังนายกฯ ทำหนังสือเกี่ยวกับกระแสพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. เป็นเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาผู้ว่าฯสตง. เจ้าตัว ปลื้มถึงน้ำตาคลอในพระมหากรุณาธิคุณ ด้าน"เสรี"แนะ คตง.ไม่ควรนับเวลาสูญญากาศช่วง "คุณหญิงจารุวรรณ"ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่มารวมในวาระ 5 ปี ส.ว.สงสัย "ทักษิณ" สั่ง คตง.หวังลดกระแส ม็อบ 4 กุมภาฯ ขณะที่ "วิษณุ" ระบุใครวิจารณ์มติ คตง.ถือว่าไม่ใช่คนไทย
นายนรชัย ศรีพิมล ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ร่วมกับ คณะกรรมการแถลงผลการประชุมเพื่อแก้ปัญปัญหาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือลงวันที่ 23 ม.ค.และส่งมาถึง คตง.ในวันที่ 26 ม.ค. ถึงการได้เข้าเฝ้าฯ และได้รับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ตลอดจนได้รับหนังสือของสำนักราชเลขาธิการ ส่งถึง คตง.ลงวันที่ 27 ม.ค. ที่ประชุมคตง.จึงได้น้อมรับแนวทางดังกล่าว
โดยที่ประชุม คตง.มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า ประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้ง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯสตง.ยังมีผลอยู่ ไม่มีการยกเลิกเพิกถอน หรือมีเหตุ ตามกฎหมายใดมาลบล้าง จึงให้ยุติการสรรหาผู้ว่า สตง.คนใหม่ และให้แจ้งมติดังกล่าว ให้คุณหญิงจารุวรรณ และนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภาทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง คตง.จะพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้ว่าฯสตง.โดยเร็ว
**นำพระราชดำรัสเป็นแนวทางพิจารณา
ส่วนก่อนหน้านี้ นายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา ได้เคยทำหนังสือเสนอแนะให้ คตง.คืนตำแหน่งให้คุณหญิงจารุวรรณ แต่ คตง.ไม่ดำเนินการ จนกระทั่งมารับหนังสือจากนายกฯ จึงเร่งดำเนินการถือเป็นใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ นายนรชัย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีความต่างกัน เนื่องจากนายสุชนได้ทำหนังสือเป็นความเห็นส่วนตัวจากการหารือกับฝ่ายกฎหมาย แต่หนังสือของนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการบอกให้ คตง.ทำอย่างใด แต่นายกรัฐมนตรีได้อ้างกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเราต้องน้อมใส่เกล้าฯ ประเด็นนี้ทำให้ คตง.ต้องพิจารณาโดยเคร่งครัด
"นายกฯได้นำพระราชปรารภมาแจ้งให้ คตง.ทราบ เป็นเรื่องพระราชปรารภทั้งสิ้น โดยเป็นผลมาจากการที่นายกฯได้เข้าเฝ้าฯ และรับพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา"
ด้าน พล.ท.สมชาย วิรุฬหผล คตง. เสริมว่า คตง.มีความเห็นว่าพระบรมราชโองการยังคงอยู่ หนังสือจากฝ่ายบริหารจึงไม่มีความเกี่ยวข้องในเมื่อมีพระราชปรารภจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราต้องเทิดทูน มติจึงออกมาเป็นเอกฉันท์ อย่าเข้าใจว่ามีฝ่ายบริหารหรือใบสั่งทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง
"ในครั้งนี้ไม่ว่าจะถูกกล่าวหาจากสังคมอย่างไรก็ตาม คตง.ต้องแสดงความรับผิดชอบ จะว่าจะด่า เรายอมรับ แต่ที่ทำไปก็เพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมือง และประเด็นสำคัญคือไม่ให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ที่ผ่านมากรรมการ คตง.หลายคนเกรงในข้อกฎหมาย ซึ่งผมก็เข้าใจการวินิจฉัยตีความแตกต่างกันไป เสียงข้างมากเสียงข้างน้อยจึงเกิดขึ้น แต่วันนี้ทุกคนมีมติเอกฉันท์ว่าต้องทำ ไม่สามารถพึ่งพาองค์กรใด ๆ ได้ทั้งสิ้น และเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำ เราจึงต้องยืนด้วยตัวเอง แม้จะถูกสังคมประณาม เราก็ต้องยอมรับว่าเรามีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหา เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวว่าเป็นฝ่ายไหน แต่เรามาร่วมกันแก้ปัญหาของบ้านเมือง และ คตง.ไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซง"
นายเกรียงศักดิ์ วัฒนวรางกูร คตง. กล่าวว่า คตง.ได้คุยกับหลายองค์กร ที่มีส่วนทำให้เกิดเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการทำให้เกิดหนังสือจากหลายองค์กร ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัญหาผู้ว่า สตง.ในทางกฎหมายมี 2 มุมมองทั้งการเห็นว่ากระบวนการใดที่เสียไปตั้งแต่ต้น ผลที่ออกมาถือว่าเสียไปทั้งหมด ซึ่งประเด็นนี้มีนักกฎหมายมหาชนที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากพระบรมราชโองการ หากจะเปลี่ยนแปลง ต้องมีคำวินิจฉัยของศาลให้ชัด หรือมีการเปลี่ยนแปลงพระบรมราชโองการ ดังนั้น เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่นักกฎหมายองค์กรอิสระก็ใหม่ ฉะนั้นวิธีคิดการตีความ จึงเป็นเรื่องของแต่ละคน ซึ่ง คตง.ได้คุยกับหลายองค์กรมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่เกิดกรณีไม่โปรดเกล้าฯ นายวิสุทธิ์ มนตริวัต มาเป็นเวลากว่า 100 วัน ว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันได้อย่างไร แต่มักเกิดการเกี่ยงกันว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายใด กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2548 จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องมาคุยกันมากขึ้น
พล.ท.สมชาย กล่าวว่า สำหรับมติของ คตง.กรณีคุณหญิงจารุวรรณจะมีการแจ้ง ต่อคุณหญิงจารุวรรณ และวุฒิสภาภายใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้วุฒิสภาจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยในการประชุมและมีมติที่ชัดเจน เนื่องจากปัญหาทั้งหลายเป็นที่ทราบดีว่า เกิดจากวุฒิสภา ขณะที่ คตง.ชุดปัจจุบันต้องมารับลูกต่อ ซึ่งการแก้ปัญหา เราได้พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว และไม่มีเสียงข้างมากข้างน้อยอีกต่อไป มีแต่มติเอกฉันท์ในการรับรองสถานภาพของคุณหญิงจารุวรรณ ตราบใดที่มีพระบรมราชโองการอยู่ ตราบนั้นคุณหญิงจารุวรรณยังเป็นผู้ว่าฯสตง. ทั้งนี้ วุฒิสภา ควรพิจารณาเรื่องผู้ว่าฯสตง.ในช่วงเปิดสภาสมัยวิสามัญนอกเหนือจากเรื่อง การสรรหากรรมการ ป.ป.ช. โดยมีมติให้ชัดเจนว่าจะรับรอง สถานภาพคุณหญิงหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยกับเราก็รับรองมา ถ้าไม่เห็นด้วยจะมีการกราบบังคมทูลฯ ให้โปรดเกล้าฯ ให้พ้น ก็ทำไป ถ้ามีความขัดแย้งทางองค์กรจะได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเห็นด้วยกับเรา ก็จบ
**"จารุวรรณ"ปลื้นในพระมหากรุณาธิคุณ
ด้านคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา หลังจากทราบมติ คตง.ที่ให้คืนตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของเบื้องบนทั้งสิ้น ซึ่งจะต้องถวายความจงรักภักดีจนถึงที่สุด ในสิ่งที่พระองค์ให้ความเมตตาเป็นอย่างสูง ซึ่งพระองค์ท่านคงจะรู้ว่าข้าแผ่นดินของท่านจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไรต่อไป
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่า จะต้องออกมาแนวนี้ เพราะดิฉันยึดมั่นในพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ถ้าจะยกย่องก็คงต้องยกย่องเทิดทูลพระบรมราชโองการ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมุ่งหวังแสวงหาอะไร แต่คิดว่าเมื่อพระองค์ท่านมอบความไว้วางพระราชหฤทับให้เข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ต้น ก็ยึดมั่นตรงนี้ตลอด ไมว้าใครจะพูดอะไร หรือให้ความคิดเห็นอะไรก็ตาม ก็รับไว้ด้วยความขอบพระคุณ แต่ทุกอย่างมาจากพระองค์ท่านทั้งสิ้น"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นใครควรจะรับผิดชอบ คุณหญิงจารุวรรณ หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า ผู้สื่อข่าวคิดว่าอย่างไร เพราะท่านเป็นคนของประเทศไทยไม่ใช่หรือ และเป็นพสกนิกรด้วย
คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาที่จะทำงานร่วมกับ คตง. เพราะไม่ใช่คนมีปัญหา มีแต่คนอื่นที่มีปัญหากับตนทั้งสิ้น ซึ่งข้าราชการคตง.ก็ดีใจและโทรศัพท์มาจำนวนมาก บางคนบอกว่าจะไปแก้บน ถ้าไปดูไข่แถวราชวัตร แถว สตง.คงขายกันเกลี้ยง เพราะคนเหล่านี้ต้องไปแก้บนด้วยไข่ วันนี้รับโทรศัพท์ตั้งแต่ 04.00 น. มีคนไทยในอเมริกาโทรมาแสดงความยินดี
ส่วนจะตรวจสอบการทุจริตอย่างเข้มข้นเหมือนเดิมหรือไม่ คุณหญิงจารุวรรณ หัวเราะ ก่อนจะกล่างว่า ทำตามหน้าที่ไป ส่วนที่มี ส.ว.เสนอว่าไม่ต้องคืนเงินช่วงที่ผู้ว่า สตง.สูญญากาส แต่ให้นับช่วงระยะเวลาการทำงานจริงยืดออกไปนั้น คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ต้องไปถาม ส.ว.ที่พูด
**งานแรกสร้างขวัญกำลังใจคนสตง.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีอำนาจผู้ว่าสตง.กลับคืนมาเต็มที่แล้ว จะเริ่มตรวจสอบ โครงการไหนก้อน คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด อย่างแรกที่กลับเข้าไปจะดูแลเจ้าหน้าที่สตง.ให้มีขวัญกำลังใจดีขึ้น ให้เขารู้ว่าหน้าที่ของเขาคือ พิทักษ์สมบัติของแผ่นดิน และพระเจ้าอยู่หัว ส่วนที่มีข่าวว่าจะลงสมัครส.ว.นั้น ยืนยันว่าพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นที่จะให้อยู่หรือไป ตราบใดที่มีพระบรมราชโองการอยู่ก็จะอยู่ เรื่อง ส.ว.ไม่ต้องพูดเลย จะอยู่ตรงนี้แน่นอน สำหรับช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำงานนั้น จะมีการต่อเวลาออกไปหรือไม่ก็แล้วแต่พระองค์ท่านจะบอกให้อยู่หรือไม่อยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาที่คุณหญิงจารุวรรณให้สัมภาษณ์ มีใบหน้า ที่เต็มไปด้วยความปราบปลื้มและมีน้ำตาคลอตลอด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ คตง.มีมติให้ คุณหญิงจารุวรรณกลับสู่ตำแหน่ง ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการผู้ถือกุญแจห้องของคุณหญิงจารุวรรณใหม่ยกชุด โดยให้เจ้าหน้าที่ ที่มีความคุ้นเคยและสนิทสนมกับคุณหญิงจารุวรรณเดิมมาถือกุญแจแทน เนื่องจาก เกรงว่าเอกสาร หรือสิ่งของบางส่วนอาจสูญหาย จึงหาทางป้องกันไม่ให้ ุณหญิงจารุวรรณเอาเรื่อง อย่างไรก็ตาม คุณหญิงจารุวรรณได้กำชับเจ้าหน้าที่ ที่คุ้นเคยเหล่านี้ว่าอย่ารับเป็นเจ้าหน้าที่ถือกุญแจ
**วิษณุขู่ใครตั้งคำถามไม่ใช่คนไทย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้คตง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คืนเก้าอี้ ผู้ว่าฯสตง. ให้คุณหญิงจารุวรรณ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญ เคยวินิจฉัยว่า กระบวนการสรรหาผู้ว่าฯ สตง. มิชอบ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาในการตีความกฎหมาย ซึ่งข้อเสนอแนะที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการปรึกษาหารือระหว่างรัฐบาลกับราชเลขาธิการ สาเหตุที่รัฐบาลทำหนังสือถึง คตง. เพราะต้องการให้เรื่องยุติ และเป็นวิธีเดียว ไม่มีวิธีอื่น ถ้าวิธีนี้ยังไม่ยุติอีกก็ลำบากแล้ว
"ทั้งหมดมันชัดอยู่ในหนังสือฉบับนี้ ถ้าเห็นหนังสือแล้วมันไม่มีอะไรต้องถามอีกแล้ว ถ้าถามก็ไม่ใช่คนไทย"
ส่วนการเยียวยาความเสียหายที่ผ่านมานั้น นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่มีใครพูดถึงหรอกในเวลานี้ และเราก็ไม่ควรไปถามหาความรับผิดชอบว่า ใครควรจะรับผิดชอบ เพราะจะเป็นการหาเรื่อง จึงไม่ควรที่จะมีใครตั้งคำถามอะไรอีกแล้ว เมื่อ คตง.จบ เราก็ควรจบ เรื่องอย่างนี้สนุกซะเมื่อไหร่ รัฐบาลจะทำไปให้คนมาด่าว่าไม่ใช่เรื่องของตัวทำไม
"เรื่องการเปิดเผยหนังสืออยู่ที่ คตง. แต่ผมคิดเชื่อว่า วันหนึ่งจะต้องมีการเปิดเผยหนังสือนี้ออกมา แต่ คตง.ควรจะเป็นผู้เปิดเผยเอง จากนี้ไป คตง.ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วทั้งสิ้น และไม่ควรไปแหย่ เพราะถ้า คตง.มีมติว่าไม่ให้กลับเข้าไปรับตำแหน่ง ก็จะมีคนบอกว่า คตง.อย่างนั้นอย่างนี้ เลวทราม ต่ำช้า พอวันนี้ คตง.มีมติให้กลับเข้าไปกลับบอกว่าไม่ถูก เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาว่าอย่างนี้ แล้วจะเอาอย่างไรกันแน่ ใจคอจะไม่มีธงอะไรอยู่เลยเหรอ ถ้ามีธงอยู่แล้วมาเหมือนธงที่ตั้งไว้ก็ควรที่จะพอใจ แล้วก็จบ"
นายวิษณุ ปฏิเสธว่าการที่นายกฯมีหนังสือไปถึง คตง.ไม่ใช่เป็นการบังคับ แต่ไม่มีทางเลือก ถ้าไม่มีหนังสือไป คตง.ก็มีทางเลือกอย่างเก่าคือคาราคาซังอยู่อย่างนี้ ผู้ว่าฯสตง.คนใหม่ก็ไม่มี ผู้ว่าฯสตง.คนเก่าก็ไม่มี จึงบอกว่าคำตอบทั้งหมดอยู่ในจดหมายที่นายกฯเขียนไป ซึ่งจดหมายนั้นไม่ได้เขียนโดยส่งเดช เขียนด้วยความคิดรอบคอบทุกคำ มีความหมาย ตัดไปคำหนึ่งก็เสียความ เติมไปคำนึงก็เกินไป ไม่สำคัญที่ใครยกร่าง แต่ไม่อยากให้ไปวิจารณ์อะไรเรื่องนี้ก่อน
**"เสรี"แนะเพิ่มเวลาทำงานช่วงสูญญากาศ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กทม.กล่าว ว่า ประเด็นสำคัญที่ คตง. ให้ คุณหญิงจารุวรรณ พ้นจากตำแหน่งไปประมาณ 2-3 ปี ทำให้ไม่ได้ทำงาน แม้ว่า ในข้อกฎหมายจะระบุวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. ไว้ 5 ปี ก็ตาม แต่จากกรณีที่ คตง.ให้คุณหญิงจารุวรรณ หยุดการทำงานด้วยการวินิจฉัยตีความข้อกฎหมาย ซึ่งระยะเวลาสุญญากาศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ คตง. ให้พ้นจากตำแหน่งถึงเวลาที่คืนตำแหน่งให้นั้น คิดว่าในหลักกฎหมายไม่ควรนำมานับเป็นเวลาที่ดำรงตำแหน่งของคุณหญิงจารุวรรณ ตรงนี้ต้องตีความให้ดี ซึ่งเมื่อคุณหญิงจารุวรรณ กลับมาทำหน้าที่แล้ว คตง. ไม่ควรคืนเงินเดือนให้คุณหญิงจารุวรรณ แต่ควรนับวาระการทำงานตั้งแต่วันที่กลับเข้าทำงานให้ครบ 5 ปี ซึ่งถือว่าเหมาะสมและถูกต้องที่สุด
"ในเมื่อ คตง. เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในเรื่องนี้ จึงต้องเป็นผู้พิจารณา หาทางออกในการแก้ไขปัญหา ส่วนการตีความเป็นหน้าที่ของ คตง. เอง ที่ควรตีความ ให้ถูกต้อง โดยให้คุณหญิงจารุวรรณ ทำงานให้ครบ 5 ปี กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้ว่าฯ สตง. ต้องมีวาระการทำงาน 5 ปี เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วไปนับรวมเวลา ที่คุณหญิงจารุวรรณ หยุดทำงานเข้าไปในวาระการดำรงตำแหน่ง เท่ากับว่ากรณีที่ คตง. เคยมีคำสั่งให้หยุดการทำงานจะเป็นความผิด ดังนั้น เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่รวมกันได้ และไม่มีใครถูก ใครผิด ควรคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ดังนั้น ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งควรนับตามความเป็นจริง ส่วน คตง.จะยืนยันนับเวลาที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นวาระการดำรงตำแหน่งด้วย คงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อไป หาก คตง.จะมีความเห็นเช่นนั้น"
**"แก้วสรร"กังขานายกฯสั่งคตง.ได้
นายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กทม. กล่าวว่า ในความเห็นทางด้านกฏหมายที่ได้ เสนอมาก่อนหน้านี้แล้วว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ และหมายความว่าต้องมีการอนุวัตรการคือวุฒิสภาต้องประชุม ถ้าเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ถูกต้องวุฒิสภาก็ต้องยืนในแดนอำนาจของตนและยืนยันว่า คุณหญิงจารุวรรณ ยังอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. และหากเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถูกต้องวุฒิสภาก็ต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการปลดคุณหญิงจารุวรรณ ออกจากตำแหน่ง ซึ่งในกระบวนการเหล่านี้ คตง.ต้องไม่ทำอะไรต้องอยู่เฉย ๆ เพราะตราบใดที่พระบรมราชโองการ ยังอยู่ คตง.ก็ทำอะไรไม่ได้
นายแก้วสรร กล่าวว่า เรื่องนี้มันเกิดบานปลายขึ้นก็เมื่อนายสุชนนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเขี่ยลูกไปให้ คตง. แต่ไม่ยอมนำเข้าหารือในวุฒิสภาจ นถึงเวลาปีกว่า คตง.ถึงรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาด แต่ก็ยังดีที่รู้ว่าตัวเองผิดพลาดแล้ว ก็แก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดนั้น ซึ่งเท่ากับเป็นจุดพลิกผันที่ไปในแนวทางที่ดี แต่สิ่งที่รู้สึกแปลกใจก็คือตอนที่นายสุชนทำหนังสือถึง คตง. ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับเพราะถือว่าทำมาในนามส่วนตัว แต่พอนายกรัฐมนตรีทำหนังสือถึง คตง.ให้คืนตำแหน่งให้คุณหญิงจารุวรรณวันถัดมาคำสั่งของหนังสือก็เป็นผลทันทีก็เป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน
**ส.ว.สงสัยทักษิณหวังลดกระแส 4 ก.พ.
นายวิญญู อุฬารกูล ส.ว.สกลนคร กล่าวว่าต้องขอขอบคุณ คตง. ที่แก้ไข ปลดล็อกตรงนี้ได้ เพราะเท่ากับว่าค.ต.ง.เสียสละในการรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องยินดีกับประชาชนชาวไทยที่ผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรงดำเนินการตามพระราชอำนาจ และแสดงให้เห็นว่าการกระทำของส.ว.บางคนและกลุ่มคนบางกลุ่ม ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคคลบาทได้ ยิ่งกว่านั้นเรื่องก็กลับมาที่คุณหญิง จารุวรรณ ก็ได้กลับเข้าดำรงตำแหน่งตามเดิม
นายวิญญู ตั้งข้อสังเกตุว่า ดูเหมือนว่าในช่วงสัปดาห์นี้จะมีความพยายามที่จะปลดล็อก ทั้งกรณีปัญหา ป.ป.ช.และ กรณีปัญหาผู้ว่าสตง. ซึ่งทั้งสององค์กร เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการตรวจสอบเรื่องการทุจริตของประเทศ และในเรื่องนี้จะเกี่ยวโยงกับการนัดชุมนุมของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการในวันที่ 4 ก.พ. แต่อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงกระแสพระราชดำรัสในวันที่ 4 ธ.ค.48 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มาก
ด้านนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ คตง.มีมติ คืนตำแหน่งผู้ว่า สตง.ให้ กับคุณหญิงจารุวรรณ
"การคืนตำแหน่งครั้งนี้ อาจ ทำให้คิดได้ว่า เพื่อลดกระแสการนัดชุมนุมของ นายสนธิ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ก.พ. จะได้ไม่นำปัญหาเรื่องนี้ไปหยิบยกในการปราศรัย "
**วุฒิฯ คนเริ่มปัญหาไม่ติดใจคตง.
พ.ต.ท.สุรพงศ์ ไผ่นวล ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความปัญหาผู้ว่า สตง. จนนำไปสู่ความวุ่นวายกล่าวว่า ไม่ได้ขัดข้องอะไรที่ คตง.มีมติรับคุณหญิงจารุวรรณ กลับเป็นผู้ว่าฯสตง. เพราะเปรียบเหมือนว่ามีการตัดสินว่า มีความผิดฐานฆ่าคนตาย แต่ไม่ได้สั่งจำคุกหรือประหารชีวิตหรือไม่ ก็ไม่ได้มีการวินิจฉัย ผลคือ มีความผิด แต่ไม่ได้ลงโทษ ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นที่ 3 ซึ่งตนไม่ขัดข้อง และเห็นด้วยที่ตำแหน่งนี้ยังอยู่ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต่อไปนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอะไร ถือว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่ พ.ต.ท.สุรพงศ์ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ครอบคลุม เพราะไม่ได้ก้าวล่วงในประเด็นที่ว่าพ้นหรือไม่พ้นจากตำแหน่ง
นายนรชัย ศรีพิมล ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ร่วมกับ คณะกรรมการแถลงผลการประชุมเพื่อแก้ปัญปัญหาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือลงวันที่ 23 ม.ค.และส่งมาถึง คตง.ในวันที่ 26 ม.ค. ถึงการได้เข้าเฝ้าฯ และได้รับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ตลอดจนได้รับหนังสือของสำนักราชเลขาธิการ ส่งถึง คตง.ลงวันที่ 27 ม.ค. ที่ประชุมคตง.จึงได้น้อมรับแนวทางดังกล่าว
โดยที่ประชุม คตง.มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า ประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้ง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯสตง.ยังมีผลอยู่ ไม่มีการยกเลิกเพิกถอน หรือมีเหตุ ตามกฎหมายใดมาลบล้าง จึงให้ยุติการสรรหาผู้ว่า สตง.คนใหม่ และให้แจ้งมติดังกล่าว ให้คุณหญิงจารุวรรณ และนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภาทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง คตง.จะพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้ว่าฯสตง.โดยเร็ว
**นำพระราชดำรัสเป็นแนวทางพิจารณา
ส่วนก่อนหน้านี้ นายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา ได้เคยทำหนังสือเสนอแนะให้ คตง.คืนตำแหน่งให้คุณหญิงจารุวรรณ แต่ คตง.ไม่ดำเนินการ จนกระทั่งมารับหนังสือจากนายกฯ จึงเร่งดำเนินการถือเป็นใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ นายนรชัย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีความต่างกัน เนื่องจากนายสุชนได้ทำหนังสือเป็นความเห็นส่วนตัวจากการหารือกับฝ่ายกฎหมาย แต่หนังสือของนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการบอกให้ คตง.ทำอย่างใด แต่นายกรัฐมนตรีได้อ้างกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเราต้องน้อมใส่เกล้าฯ ประเด็นนี้ทำให้ คตง.ต้องพิจารณาโดยเคร่งครัด
"นายกฯได้นำพระราชปรารภมาแจ้งให้ คตง.ทราบ เป็นเรื่องพระราชปรารภทั้งสิ้น โดยเป็นผลมาจากการที่นายกฯได้เข้าเฝ้าฯ และรับพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา"
ด้าน พล.ท.สมชาย วิรุฬหผล คตง. เสริมว่า คตง.มีความเห็นว่าพระบรมราชโองการยังคงอยู่ หนังสือจากฝ่ายบริหารจึงไม่มีความเกี่ยวข้องในเมื่อมีพระราชปรารภจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราต้องเทิดทูน มติจึงออกมาเป็นเอกฉันท์ อย่าเข้าใจว่ามีฝ่ายบริหารหรือใบสั่งทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง
"ในครั้งนี้ไม่ว่าจะถูกกล่าวหาจากสังคมอย่างไรก็ตาม คตง.ต้องแสดงความรับผิดชอบ จะว่าจะด่า เรายอมรับ แต่ที่ทำไปก็เพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมือง และประเด็นสำคัญคือไม่ให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ที่ผ่านมากรรมการ คตง.หลายคนเกรงในข้อกฎหมาย ซึ่งผมก็เข้าใจการวินิจฉัยตีความแตกต่างกันไป เสียงข้างมากเสียงข้างน้อยจึงเกิดขึ้น แต่วันนี้ทุกคนมีมติเอกฉันท์ว่าต้องทำ ไม่สามารถพึ่งพาองค์กรใด ๆ ได้ทั้งสิ้น และเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำ เราจึงต้องยืนด้วยตัวเอง แม้จะถูกสังคมประณาม เราก็ต้องยอมรับว่าเรามีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหา เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวว่าเป็นฝ่ายไหน แต่เรามาร่วมกันแก้ปัญหาของบ้านเมือง และ คตง.ไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซง"
นายเกรียงศักดิ์ วัฒนวรางกูร คตง. กล่าวว่า คตง.ได้คุยกับหลายองค์กร ที่มีส่วนทำให้เกิดเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการทำให้เกิดหนังสือจากหลายองค์กร ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัญหาผู้ว่า สตง.ในทางกฎหมายมี 2 มุมมองทั้งการเห็นว่ากระบวนการใดที่เสียไปตั้งแต่ต้น ผลที่ออกมาถือว่าเสียไปทั้งหมด ซึ่งประเด็นนี้มีนักกฎหมายมหาชนที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากพระบรมราชโองการ หากจะเปลี่ยนแปลง ต้องมีคำวินิจฉัยของศาลให้ชัด หรือมีการเปลี่ยนแปลงพระบรมราชโองการ ดังนั้น เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่นักกฎหมายองค์กรอิสระก็ใหม่ ฉะนั้นวิธีคิดการตีความ จึงเป็นเรื่องของแต่ละคน ซึ่ง คตง.ได้คุยกับหลายองค์กรมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่เกิดกรณีไม่โปรดเกล้าฯ นายวิสุทธิ์ มนตริวัต มาเป็นเวลากว่า 100 วัน ว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันได้อย่างไร แต่มักเกิดการเกี่ยงกันว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายใด กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2548 จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องมาคุยกันมากขึ้น
พล.ท.สมชาย กล่าวว่า สำหรับมติของ คตง.กรณีคุณหญิงจารุวรรณจะมีการแจ้ง ต่อคุณหญิงจารุวรรณ และวุฒิสภาภายใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้วุฒิสภาจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยในการประชุมและมีมติที่ชัดเจน เนื่องจากปัญหาทั้งหลายเป็นที่ทราบดีว่า เกิดจากวุฒิสภา ขณะที่ คตง.ชุดปัจจุบันต้องมารับลูกต่อ ซึ่งการแก้ปัญหา เราได้พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว และไม่มีเสียงข้างมากข้างน้อยอีกต่อไป มีแต่มติเอกฉันท์ในการรับรองสถานภาพของคุณหญิงจารุวรรณ ตราบใดที่มีพระบรมราชโองการอยู่ ตราบนั้นคุณหญิงจารุวรรณยังเป็นผู้ว่าฯสตง. ทั้งนี้ วุฒิสภา ควรพิจารณาเรื่องผู้ว่าฯสตง.ในช่วงเปิดสภาสมัยวิสามัญนอกเหนือจากเรื่อง การสรรหากรรมการ ป.ป.ช. โดยมีมติให้ชัดเจนว่าจะรับรอง สถานภาพคุณหญิงหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยกับเราก็รับรองมา ถ้าไม่เห็นด้วยจะมีการกราบบังคมทูลฯ ให้โปรดเกล้าฯ ให้พ้น ก็ทำไป ถ้ามีความขัดแย้งทางองค์กรจะได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเห็นด้วยกับเรา ก็จบ
**"จารุวรรณ"ปลื้นในพระมหากรุณาธิคุณ
ด้านคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา หลังจากทราบมติ คตง.ที่ให้คืนตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของเบื้องบนทั้งสิ้น ซึ่งจะต้องถวายความจงรักภักดีจนถึงที่สุด ในสิ่งที่พระองค์ให้ความเมตตาเป็นอย่างสูง ซึ่งพระองค์ท่านคงจะรู้ว่าข้าแผ่นดินของท่านจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไรต่อไป
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่า จะต้องออกมาแนวนี้ เพราะดิฉันยึดมั่นในพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ถ้าจะยกย่องก็คงต้องยกย่องเทิดทูลพระบรมราชโองการ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมุ่งหวังแสวงหาอะไร แต่คิดว่าเมื่อพระองค์ท่านมอบความไว้วางพระราชหฤทับให้เข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ต้น ก็ยึดมั่นตรงนี้ตลอด ไมว้าใครจะพูดอะไร หรือให้ความคิดเห็นอะไรก็ตาม ก็รับไว้ด้วยความขอบพระคุณ แต่ทุกอย่างมาจากพระองค์ท่านทั้งสิ้น"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นใครควรจะรับผิดชอบ คุณหญิงจารุวรรณ หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า ผู้สื่อข่าวคิดว่าอย่างไร เพราะท่านเป็นคนของประเทศไทยไม่ใช่หรือ และเป็นพสกนิกรด้วย
คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาที่จะทำงานร่วมกับ คตง. เพราะไม่ใช่คนมีปัญหา มีแต่คนอื่นที่มีปัญหากับตนทั้งสิ้น ซึ่งข้าราชการคตง.ก็ดีใจและโทรศัพท์มาจำนวนมาก บางคนบอกว่าจะไปแก้บน ถ้าไปดูไข่แถวราชวัตร แถว สตง.คงขายกันเกลี้ยง เพราะคนเหล่านี้ต้องไปแก้บนด้วยไข่ วันนี้รับโทรศัพท์ตั้งแต่ 04.00 น. มีคนไทยในอเมริกาโทรมาแสดงความยินดี
ส่วนจะตรวจสอบการทุจริตอย่างเข้มข้นเหมือนเดิมหรือไม่ คุณหญิงจารุวรรณ หัวเราะ ก่อนจะกล่างว่า ทำตามหน้าที่ไป ส่วนที่มี ส.ว.เสนอว่าไม่ต้องคืนเงินช่วงที่ผู้ว่า สตง.สูญญากาส แต่ให้นับช่วงระยะเวลาการทำงานจริงยืดออกไปนั้น คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ต้องไปถาม ส.ว.ที่พูด
**งานแรกสร้างขวัญกำลังใจคนสตง.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีอำนาจผู้ว่าสตง.กลับคืนมาเต็มที่แล้ว จะเริ่มตรวจสอบ โครงการไหนก้อน คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด อย่างแรกที่กลับเข้าไปจะดูแลเจ้าหน้าที่สตง.ให้มีขวัญกำลังใจดีขึ้น ให้เขารู้ว่าหน้าที่ของเขาคือ พิทักษ์สมบัติของแผ่นดิน และพระเจ้าอยู่หัว ส่วนที่มีข่าวว่าจะลงสมัครส.ว.นั้น ยืนยันว่าพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นที่จะให้อยู่หรือไป ตราบใดที่มีพระบรมราชโองการอยู่ก็จะอยู่ เรื่อง ส.ว.ไม่ต้องพูดเลย จะอยู่ตรงนี้แน่นอน สำหรับช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำงานนั้น จะมีการต่อเวลาออกไปหรือไม่ก็แล้วแต่พระองค์ท่านจะบอกให้อยู่หรือไม่อยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาที่คุณหญิงจารุวรรณให้สัมภาษณ์ มีใบหน้า ที่เต็มไปด้วยความปราบปลื้มและมีน้ำตาคลอตลอด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ คตง.มีมติให้ คุณหญิงจารุวรรณกลับสู่ตำแหน่ง ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการผู้ถือกุญแจห้องของคุณหญิงจารุวรรณใหม่ยกชุด โดยให้เจ้าหน้าที่ ที่มีความคุ้นเคยและสนิทสนมกับคุณหญิงจารุวรรณเดิมมาถือกุญแจแทน เนื่องจาก เกรงว่าเอกสาร หรือสิ่งของบางส่วนอาจสูญหาย จึงหาทางป้องกันไม่ให้ ุณหญิงจารุวรรณเอาเรื่อง อย่างไรก็ตาม คุณหญิงจารุวรรณได้กำชับเจ้าหน้าที่ ที่คุ้นเคยเหล่านี้ว่าอย่ารับเป็นเจ้าหน้าที่ถือกุญแจ
**วิษณุขู่ใครตั้งคำถามไม่ใช่คนไทย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้คตง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คืนเก้าอี้ ผู้ว่าฯสตง. ให้คุณหญิงจารุวรรณ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญ เคยวินิจฉัยว่า กระบวนการสรรหาผู้ว่าฯ สตง. มิชอบ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาในการตีความกฎหมาย ซึ่งข้อเสนอแนะที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการปรึกษาหารือระหว่างรัฐบาลกับราชเลขาธิการ สาเหตุที่รัฐบาลทำหนังสือถึง คตง. เพราะต้องการให้เรื่องยุติ และเป็นวิธีเดียว ไม่มีวิธีอื่น ถ้าวิธีนี้ยังไม่ยุติอีกก็ลำบากแล้ว
"ทั้งหมดมันชัดอยู่ในหนังสือฉบับนี้ ถ้าเห็นหนังสือแล้วมันไม่มีอะไรต้องถามอีกแล้ว ถ้าถามก็ไม่ใช่คนไทย"
ส่วนการเยียวยาความเสียหายที่ผ่านมานั้น นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่มีใครพูดถึงหรอกในเวลานี้ และเราก็ไม่ควรไปถามหาความรับผิดชอบว่า ใครควรจะรับผิดชอบ เพราะจะเป็นการหาเรื่อง จึงไม่ควรที่จะมีใครตั้งคำถามอะไรอีกแล้ว เมื่อ คตง.จบ เราก็ควรจบ เรื่องอย่างนี้สนุกซะเมื่อไหร่ รัฐบาลจะทำไปให้คนมาด่าว่าไม่ใช่เรื่องของตัวทำไม
"เรื่องการเปิดเผยหนังสืออยู่ที่ คตง. แต่ผมคิดเชื่อว่า วันหนึ่งจะต้องมีการเปิดเผยหนังสือนี้ออกมา แต่ คตง.ควรจะเป็นผู้เปิดเผยเอง จากนี้ไป คตง.ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วทั้งสิ้น และไม่ควรไปแหย่ เพราะถ้า คตง.มีมติว่าไม่ให้กลับเข้าไปรับตำแหน่ง ก็จะมีคนบอกว่า คตง.อย่างนั้นอย่างนี้ เลวทราม ต่ำช้า พอวันนี้ คตง.มีมติให้กลับเข้าไปกลับบอกว่าไม่ถูก เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาว่าอย่างนี้ แล้วจะเอาอย่างไรกันแน่ ใจคอจะไม่มีธงอะไรอยู่เลยเหรอ ถ้ามีธงอยู่แล้วมาเหมือนธงที่ตั้งไว้ก็ควรที่จะพอใจ แล้วก็จบ"
นายวิษณุ ปฏิเสธว่าการที่นายกฯมีหนังสือไปถึง คตง.ไม่ใช่เป็นการบังคับ แต่ไม่มีทางเลือก ถ้าไม่มีหนังสือไป คตง.ก็มีทางเลือกอย่างเก่าคือคาราคาซังอยู่อย่างนี้ ผู้ว่าฯสตง.คนใหม่ก็ไม่มี ผู้ว่าฯสตง.คนเก่าก็ไม่มี จึงบอกว่าคำตอบทั้งหมดอยู่ในจดหมายที่นายกฯเขียนไป ซึ่งจดหมายนั้นไม่ได้เขียนโดยส่งเดช เขียนด้วยความคิดรอบคอบทุกคำ มีความหมาย ตัดไปคำหนึ่งก็เสียความ เติมไปคำนึงก็เกินไป ไม่สำคัญที่ใครยกร่าง แต่ไม่อยากให้ไปวิจารณ์อะไรเรื่องนี้ก่อน
**"เสรี"แนะเพิ่มเวลาทำงานช่วงสูญญากาศ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กทม.กล่าว ว่า ประเด็นสำคัญที่ คตง. ให้ คุณหญิงจารุวรรณ พ้นจากตำแหน่งไปประมาณ 2-3 ปี ทำให้ไม่ได้ทำงาน แม้ว่า ในข้อกฎหมายจะระบุวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. ไว้ 5 ปี ก็ตาม แต่จากกรณีที่ คตง.ให้คุณหญิงจารุวรรณ หยุดการทำงานด้วยการวินิจฉัยตีความข้อกฎหมาย ซึ่งระยะเวลาสุญญากาศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ คตง. ให้พ้นจากตำแหน่งถึงเวลาที่คืนตำแหน่งให้นั้น คิดว่าในหลักกฎหมายไม่ควรนำมานับเป็นเวลาที่ดำรงตำแหน่งของคุณหญิงจารุวรรณ ตรงนี้ต้องตีความให้ดี ซึ่งเมื่อคุณหญิงจารุวรรณ กลับมาทำหน้าที่แล้ว คตง. ไม่ควรคืนเงินเดือนให้คุณหญิงจารุวรรณ แต่ควรนับวาระการทำงานตั้งแต่วันที่กลับเข้าทำงานให้ครบ 5 ปี ซึ่งถือว่าเหมาะสมและถูกต้องที่สุด
"ในเมื่อ คตง. เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในเรื่องนี้ จึงต้องเป็นผู้พิจารณา หาทางออกในการแก้ไขปัญหา ส่วนการตีความเป็นหน้าที่ของ คตง. เอง ที่ควรตีความ ให้ถูกต้อง โดยให้คุณหญิงจารุวรรณ ทำงานให้ครบ 5 ปี กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้ว่าฯ สตง. ต้องมีวาระการทำงาน 5 ปี เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วไปนับรวมเวลา ที่คุณหญิงจารุวรรณ หยุดทำงานเข้าไปในวาระการดำรงตำแหน่ง เท่ากับว่ากรณีที่ คตง. เคยมีคำสั่งให้หยุดการทำงานจะเป็นความผิด ดังนั้น เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่รวมกันได้ และไม่มีใครถูก ใครผิด ควรคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ดังนั้น ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งควรนับตามความเป็นจริง ส่วน คตง.จะยืนยันนับเวลาที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นวาระการดำรงตำแหน่งด้วย คงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อไป หาก คตง.จะมีความเห็นเช่นนั้น"
**"แก้วสรร"กังขานายกฯสั่งคตง.ได้
นายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กทม. กล่าวว่า ในความเห็นทางด้านกฏหมายที่ได้ เสนอมาก่อนหน้านี้แล้วว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ และหมายความว่าต้องมีการอนุวัตรการคือวุฒิสภาต้องประชุม ถ้าเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ถูกต้องวุฒิสภาก็ต้องยืนในแดนอำนาจของตนและยืนยันว่า คุณหญิงจารุวรรณ ยังอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. และหากเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถูกต้องวุฒิสภาก็ต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการปลดคุณหญิงจารุวรรณ ออกจากตำแหน่ง ซึ่งในกระบวนการเหล่านี้ คตง.ต้องไม่ทำอะไรต้องอยู่เฉย ๆ เพราะตราบใดที่พระบรมราชโองการ ยังอยู่ คตง.ก็ทำอะไรไม่ได้
นายแก้วสรร กล่าวว่า เรื่องนี้มันเกิดบานปลายขึ้นก็เมื่อนายสุชนนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเขี่ยลูกไปให้ คตง. แต่ไม่ยอมนำเข้าหารือในวุฒิสภาจ นถึงเวลาปีกว่า คตง.ถึงรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาด แต่ก็ยังดีที่รู้ว่าตัวเองผิดพลาดแล้ว ก็แก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดนั้น ซึ่งเท่ากับเป็นจุดพลิกผันที่ไปในแนวทางที่ดี แต่สิ่งที่รู้สึกแปลกใจก็คือตอนที่นายสุชนทำหนังสือถึง คตง. ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับเพราะถือว่าทำมาในนามส่วนตัว แต่พอนายกรัฐมนตรีทำหนังสือถึง คตง.ให้คืนตำแหน่งให้คุณหญิงจารุวรรณวันถัดมาคำสั่งของหนังสือก็เป็นผลทันทีก็เป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน
**ส.ว.สงสัยทักษิณหวังลดกระแส 4 ก.พ.
นายวิญญู อุฬารกูล ส.ว.สกลนคร กล่าวว่าต้องขอขอบคุณ คตง. ที่แก้ไข ปลดล็อกตรงนี้ได้ เพราะเท่ากับว่าค.ต.ง.เสียสละในการรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องยินดีกับประชาชนชาวไทยที่ผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรงดำเนินการตามพระราชอำนาจ และแสดงให้เห็นว่าการกระทำของส.ว.บางคนและกลุ่มคนบางกลุ่ม ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคคลบาทได้ ยิ่งกว่านั้นเรื่องก็กลับมาที่คุณหญิง จารุวรรณ ก็ได้กลับเข้าดำรงตำแหน่งตามเดิม
นายวิญญู ตั้งข้อสังเกตุว่า ดูเหมือนว่าในช่วงสัปดาห์นี้จะมีความพยายามที่จะปลดล็อก ทั้งกรณีปัญหา ป.ป.ช.และ กรณีปัญหาผู้ว่าสตง. ซึ่งทั้งสององค์กร เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการตรวจสอบเรื่องการทุจริตของประเทศ และในเรื่องนี้จะเกี่ยวโยงกับการนัดชุมนุมของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการในวันที่ 4 ก.พ. แต่อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงกระแสพระราชดำรัสในวันที่ 4 ธ.ค.48 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มาก
ด้านนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ คตง.มีมติ คืนตำแหน่งผู้ว่า สตง.ให้ กับคุณหญิงจารุวรรณ
"การคืนตำแหน่งครั้งนี้ อาจ ทำให้คิดได้ว่า เพื่อลดกระแสการนัดชุมนุมของ นายสนธิ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ก.พ. จะได้ไม่นำปัญหาเรื่องนี้ไปหยิบยกในการปราศรัย "
**วุฒิฯ คนเริ่มปัญหาไม่ติดใจคตง.
พ.ต.ท.สุรพงศ์ ไผ่นวล ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความปัญหาผู้ว่า สตง. จนนำไปสู่ความวุ่นวายกล่าวว่า ไม่ได้ขัดข้องอะไรที่ คตง.มีมติรับคุณหญิงจารุวรรณ กลับเป็นผู้ว่าฯสตง. เพราะเปรียบเหมือนว่ามีการตัดสินว่า มีความผิดฐานฆ่าคนตาย แต่ไม่ได้สั่งจำคุกหรือประหารชีวิตหรือไม่ ก็ไม่ได้มีการวินิจฉัย ผลคือ มีความผิด แต่ไม่ได้ลงโทษ ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นที่ 3 ซึ่งตนไม่ขัดข้อง และเห็นด้วยที่ตำแหน่งนี้ยังอยู่ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต่อไปนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอะไร ถือว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่ พ.ต.ท.สุรพงศ์ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ครอบคลุม เพราะไม่ได้ก้าวล่วงในประเด็นที่ว่าพ้นหรือไม่พ้นจากตำแหน่ง