ผู้จัดการรายวัน - "พรีมาเวสท์" คลอดกองทุนพันธบัตรเอาใจลูกค้าสถาบัน เตรียมส่ง "กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผล" บุกตลาดเดือนกุมภาพันธ์นี้ ระบุเน้นลงทุนตราสารภาครัฐอายุ 1-2 ปี พร้อมจ่ายผลตอบแทนในรูปเงินปันผล ด้าน "กองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์คุ้มครองเงินต้น 5" หลังปิดไอพีโอ ยอดจองเต็มมูลค่าแถมล้นกรีนชู เผยระดมทุนได้กว่า 1,100 ล้านบาท
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติให้บริษัทจัดตั้งกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผล ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ โดยมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท และไม่กำหนดอายุโครงการ
สำหรับกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผล เน้นลงทุนทั้งหมดในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรืออาจจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์อื่น ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนดเพื่อบริหารจัดการสภาพคล่องให้กับกองทุน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนที่ต้องการได้รับความมั่นคงสูงจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์
นายเพิ่มพลกล่าวว่า กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผลมีลักษณะการลงทุนที่คล้ายกับกองทุนตราสารหนี้ที่เปิดขายในช่วงก่อนหน้านี้ คือเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ โดยจะเน้นลงทุนในตราสารที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี แต่จะแตกต่างตรงที่การจ่ายผลตอบแทน คือจ่ายคืนในรูปเงินปันผล ไม่ใช่การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติหรือลงทุนจนครบอายุตราสารแล้วถึงจะได้ผลตอบแทน
ทั้งนี้ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผลจะเน้นลูกค้าสถาบันเป็นหลัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลเหล่านี้ต้องการผลตอบแทนใรรูปของเงินปันผลมากกว่ากำไรจากการลงทุน (Capital gain) ซึ่งผลตอบแทนที่ได้มานั้นไม่ต้องเสียภาษีด้วย อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวจะเปิดขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้
"กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผล คล้ายกับกองทุนตราสารหนี้ภาครัฐที่เราเปิดขายก่อนหน้านี้ แต่จะจ่ายผลตอบแทนคือในรูปเงินปันผล เนื่องจากกองทุนนี้จะเน้นนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการผลตอบแทนที่รูปเงินปันผลมากกว่ากำไรที่เกิดจากการลงทุน ส่วนจะมีกองทุนในลักษณะดังกล่าวออกมาอีกหรือไม่นั้น คงต้องดูหลังจากปิดขายหน่วยลงทุนแล้ว ว่านักลงทุนสถาบันจะให้ความสนใจมากน้อยแค่ไหน" นายเพิ่มพลกล่าว
นายเพิ่มพลกล่าวต่อว่า สำหรับกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์คุ้มครองเงินต้น 5 (KPC5) ซึ่งปิดขายหน่วยลงทุนเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยสามารถระดมทุนได้เต็มมูลค่าโครงการและล้นกรีนชูประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี โดยจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 18 มกราคม 2550 ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 4%
สำหรับกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์คุ้มครองเงินต้น 5 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ทั้งตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสากิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เป็นต้น ที่มีวันครบกำหนดอายุของตราสารใกล้เคียงกับวันครบกำหนดอายุกองทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เงินต้นครบ 100% โดยส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในเงินฝาก
ก่อนหน้านี้ นายเพิ่มพล กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้จะเน้นกองทุนที่อายุยาวขึ้นจากอายุสั้นๆ ประมาณ 6 เดือนที่เปิดขายในปีที่แล้วเป็นอายุ 1 ปี เนื่องจากเห็นว่าผลตอบแทนของตราสารอายุ 1 ปีให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนอายุ 6 เดือนนั้นก็ยังอยู่ในแผน แต่อาจจะน้อยลง แต่ก็จะต้องพิจารณาดูแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยด้วย
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติให้บริษัทจัดตั้งกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผล ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ โดยมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท และไม่กำหนดอายุโครงการ
สำหรับกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผล เน้นลงทุนทั้งหมดในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรืออาจจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์อื่น ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนดเพื่อบริหารจัดการสภาพคล่องให้กับกองทุน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนที่ต้องการได้รับความมั่นคงสูงจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์
นายเพิ่มพลกล่าวว่า กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผลมีลักษณะการลงทุนที่คล้ายกับกองทุนตราสารหนี้ที่เปิดขายในช่วงก่อนหน้านี้ คือเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ โดยจะเน้นลงทุนในตราสารที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี แต่จะแตกต่างตรงที่การจ่ายผลตอบแทน คือจ่ายคืนในรูปเงินปันผล ไม่ใช่การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติหรือลงทุนจนครบอายุตราสารแล้วถึงจะได้ผลตอบแทน
ทั้งนี้ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผลจะเน้นลูกค้าสถาบันเป็นหลัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นนิติบุคคลเหล่านี้ต้องการผลตอบแทนใรรูปของเงินปันผลมากกว่ากำไรจากการลงทุน (Capital gain) ซึ่งผลตอบแทนที่ได้มานั้นไม่ต้องเสียภาษีด้วย อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวจะเปิดขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้
"กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารภาครัฐปันผล คล้ายกับกองทุนตราสารหนี้ภาครัฐที่เราเปิดขายก่อนหน้านี้ แต่จะจ่ายผลตอบแทนคือในรูปเงินปันผล เนื่องจากกองทุนนี้จะเน้นนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการผลตอบแทนที่รูปเงินปันผลมากกว่ากำไรที่เกิดจากการลงทุน ส่วนจะมีกองทุนในลักษณะดังกล่าวออกมาอีกหรือไม่นั้น คงต้องดูหลังจากปิดขายหน่วยลงทุนแล้ว ว่านักลงทุนสถาบันจะให้ความสนใจมากน้อยแค่ไหน" นายเพิ่มพลกล่าว
นายเพิ่มพลกล่าวต่อว่า สำหรับกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์คุ้มครองเงินต้น 5 (KPC5) ซึ่งปิดขายหน่วยลงทุนเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยสามารถระดมทุนได้เต็มมูลค่าโครงการและล้นกรีนชูประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี โดยจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 18 มกราคม 2550 ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 4%
สำหรับกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์คุ้มครองเงินต้น 5 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ทั้งตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสากิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เป็นต้น ที่มีวันครบกำหนดอายุของตราสารใกล้เคียงกับวันครบกำหนดอายุกองทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เงินต้นครบ 100% โดยส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในเงินฝาก
ก่อนหน้านี้ นายเพิ่มพล กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้จะเน้นกองทุนที่อายุยาวขึ้นจากอายุสั้นๆ ประมาณ 6 เดือนที่เปิดขายในปีที่แล้วเป็นอายุ 1 ปี เนื่องจากเห็นว่าผลตอบแทนของตราสารอายุ 1 ปีให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนอายุ 6 เดือนนั้นก็ยังอยู่ในแผน แต่อาจจะน้อยลง แต่ก็จะต้องพิจารณาดูแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยด้วย