เฟดเอ็กซ์รุกตลาดเอสเอ็มอีในไทย ล่าสุดเปิดสาขาใหม่ที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ รองรับผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว เผยการเปิดตัวสนามบินสุวรรณภูมิจะดันให้ไทยเป็นฮับของธุรกิจขนส่งได้ เพราะมีศักยภาพและทำเลที่ดี ชี้แนวโน้มธุรกิจนี้ขึ้นกับ 4 ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น อินเทอร์เน็ต
นายคลิฟตัน ฉั่ว กรรมการผู้จัดการ เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) ประจำประเทศไทย อินโดจีน และฟิลิปปินส์ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในตลาดไทยปีนี้ บริษัทฯจะเน้นทำตลาดกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจขนาดกลางและเล็กหรือกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งมีมากถึง 99% และในจำนวนนี้มีกว่า 45%ที่มีการดำเนินธุรกิจหรือทำการค้าด้วยการนำเข้าและส่งออกสินค้า
ดังนั้นบริษัทฯจึงมาเปิดศูนย์บริการหรือเวิลด์ เซอร์วิสเซ็นเตอร์ที่สาขาประตูน้ำเซ็นเตอร์เป็นสาขาล่าสุด บนขนาดพื้นที่ 10 ตารางเมตร เพื่อรองรับกับลูกค้าในกลุ่มผู้ประกอบการในประตูน้ำเซ็นเตอร์และบริเวณย่านนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาชอปปิ้งในบริเวณนี้ด้วย
ปัจจุบันเฟดเอ็กซ์มีศูนย์บริการในไทยประมาณ 14 แห่ง ปีนี้บริษัทฯมีแผนเปิดศูนย์บริการเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งการเปิดศูนย์บริการเพิ่มนั้นจะต้องดูถึงความต้องการของลูกค้า ทำเล และโอกาสด้วยอีกทั้งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานั้นบริษัทฯได้ลงทุนเปิดศูนย์บริการเพิ่มในไทยไป 4-5แห่ง เช่น ที่ถนนข้าวสาร นานา สแควร์ และบางนา เป็นต้นส่วนด้านการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของเฟดเอ็กซ์ในปีนี้จะเน้นการทำตลาดไปที่ทีมเวิร์คหรือทีมงานที่คอยให้บริการแก่ลูกค้าเป็นหลัก
ที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาที่มีธีมเน้นการทำงานของทีมเวิร์คซึ่งได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าและแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นปัจจุบันตลาดไทยเป็นตลาดสำคัญของเฟดเอ็กซ์และมีอัตราการเติบโตเร็วสุดในเอเชีย ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม ยังต้องขึ้นกับการเปิดกว้างในเรื่องการค้าเสรีว่าจะทำได้เร็วแค่ไหน
ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ ขณะนี้บริษัทฯมีความพร้อมในการลงทุนแล้ว โดยได้มีการเจรจาและประสานงานกับท่าอากาศยานแล้ว และรอเพียงแค่สนามบินเปิดก็ดำเนินการได้ทันที ซึ่งหากสนามบินใหม่แห่งนี้เปิดทำงานได้ก็จะส่งผลให้ไทยเป็นฮับหรือศูนย์กลางการขนส่งสินค้าได้ในย่านนี้ เนื่องจากมีศักยภาพทำเลดี และพื้นที่ของสนามบินใหญ่สามารถรองรับเครื่องบิน และผู้โดยสารได้มากขึ้นกว่าประเทศอื่นในย่านนี้
ทั้งนี้ในส่วนแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจหรือการค้าของธุรกิจขนส่งของเฟดเอ็กซ์ทั่วโลกขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย ได้แก่การที่อุตสาหกรรมมีเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น เช่น ไอพ็อต ,การใช้อินเตอร์เน็ตในการติดต่อซื้อขายสินค้าได้ทั่วโลก ซึ่งตรงนี้จะช่วยในด้านการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงมากขึ้น , ด้านโลกาภิวัฒน์ และซับพลายเชนที่ทำให้การขนส่งถึงมือลูกค้าได้สะดวกและเร็วขึ้นสำหรับยอดรายได้รวมของบริษัทเฟดเอ็กซ์ทั่วโลกมีประมาณ 32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราการเติบโตในแง่สินค้าและยอดรายได้ 10%
นายคลิฟตัน ฉั่ว กรรมการผู้จัดการ เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) ประจำประเทศไทย อินโดจีน และฟิลิปปินส์ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในตลาดไทยปีนี้ บริษัทฯจะเน้นทำตลาดกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจขนาดกลางและเล็กหรือกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งมีมากถึง 99% และในจำนวนนี้มีกว่า 45%ที่มีการดำเนินธุรกิจหรือทำการค้าด้วยการนำเข้าและส่งออกสินค้า
ดังนั้นบริษัทฯจึงมาเปิดศูนย์บริการหรือเวิลด์ เซอร์วิสเซ็นเตอร์ที่สาขาประตูน้ำเซ็นเตอร์เป็นสาขาล่าสุด บนขนาดพื้นที่ 10 ตารางเมตร เพื่อรองรับกับลูกค้าในกลุ่มผู้ประกอบการในประตูน้ำเซ็นเตอร์และบริเวณย่านนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาชอปปิ้งในบริเวณนี้ด้วย
ปัจจุบันเฟดเอ็กซ์มีศูนย์บริการในไทยประมาณ 14 แห่ง ปีนี้บริษัทฯมีแผนเปิดศูนย์บริการเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งการเปิดศูนย์บริการเพิ่มนั้นจะต้องดูถึงความต้องการของลูกค้า ทำเล และโอกาสด้วยอีกทั้งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานั้นบริษัทฯได้ลงทุนเปิดศูนย์บริการเพิ่มในไทยไป 4-5แห่ง เช่น ที่ถนนข้าวสาร นานา สแควร์ และบางนา เป็นต้นส่วนด้านการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของเฟดเอ็กซ์ในปีนี้จะเน้นการทำตลาดไปที่ทีมเวิร์คหรือทีมงานที่คอยให้บริการแก่ลูกค้าเป็นหลัก
ที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาที่มีธีมเน้นการทำงานของทีมเวิร์คซึ่งได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าและแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นปัจจุบันตลาดไทยเป็นตลาดสำคัญของเฟดเอ็กซ์และมีอัตราการเติบโตเร็วสุดในเอเชีย ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม ยังต้องขึ้นกับการเปิดกว้างในเรื่องการค้าเสรีว่าจะทำได้เร็วแค่ไหน
ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ ขณะนี้บริษัทฯมีความพร้อมในการลงทุนแล้ว โดยได้มีการเจรจาและประสานงานกับท่าอากาศยานแล้ว และรอเพียงแค่สนามบินเปิดก็ดำเนินการได้ทันที ซึ่งหากสนามบินใหม่แห่งนี้เปิดทำงานได้ก็จะส่งผลให้ไทยเป็นฮับหรือศูนย์กลางการขนส่งสินค้าได้ในย่านนี้ เนื่องจากมีศักยภาพทำเลดี และพื้นที่ของสนามบินใหญ่สามารถรองรับเครื่องบิน และผู้โดยสารได้มากขึ้นกว่าประเทศอื่นในย่านนี้
ทั้งนี้ในส่วนแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจหรือการค้าของธุรกิจขนส่งของเฟดเอ็กซ์ทั่วโลกขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย ได้แก่การที่อุตสาหกรรมมีเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น เช่น ไอพ็อต ,การใช้อินเตอร์เน็ตในการติดต่อซื้อขายสินค้าได้ทั่วโลก ซึ่งตรงนี้จะช่วยในด้านการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงมากขึ้น , ด้านโลกาภิวัฒน์ และซับพลายเชนที่ทำให้การขนส่งถึงมือลูกค้าได้สะดวกและเร็วขึ้นสำหรับยอดรายได้รวมของบริษัทเฟดเอ็กซ์ทั่วโลกมีประมาณ 32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราการเติบโตในแง่สินค้าและยอดรายได้ 10%