xs
xsm
sm
md
lg

MFCตั้งเป้าดันNAV2.6หมื่นล้านบาทเปิดตัวกองทุนใหม่ขย่มตลาด12กอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - เอ็มเอฟซี เปิดแผนปีจอ ตั้งเป้าระดมทุนเพิ่มอีก 24,000-26,000 ล้านบาท จากกองทุนใหม่ 12 กองทุน ทั้งตราสารหนี้-กองทุนหุ้น-พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์-FIF "พิชิต" เผยการปรับสัดส่วนการถือหุ้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เชื่อในที่สุดแล้วจะส่งผลดีธุรกิจ กับธนาคารออมสินเองและธนาคารทหารไทยด้วย

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดกองทุนใหม่อีกประมาณ 12 กองทุน โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยกองทุนตราสารหนี้ประมาณ 6 กองทุน กองทุนหุ้น 1-2 กองทุน กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ประมาณ 2 กองทุน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีกประมาณ 1-2 กองทุนเช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าระดมทุนให้ได้ประมาณ 24,000-26,000 ล้านบาท จากจำนวนกองทุนที่จะเปิดใหม่ทั้ง 12 กองทุน

สำหรับกองทุนตราสารหนี้ เชื่อว่ายังเป็นกองทุนที่ความต้องการ เนื่องจากเป็นลักษณะการลงทุนที่ใกล้เคียงกับเงินฝากธนาคารพาณิชย์ และให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่า ซึ่งถือเป็นโอกาสในการลงทุนผู้นักลงทุนในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยลักษณะกองทุนที่ผ่านมามีการคุ้มครองเงินต้น ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจในเรื่องของความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุนได้

ทั้งนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก รวมถึงการขึ้นลงของราคาตราสารนั้นๆด้วย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา จากการลงทุนของบลจ.เอ็มเอฟซี พันธบัตรอายุ 6 เดือนให้ผลตอบแทนสูงกว่า 3% เกือบ 4% ส่วนพันธบัตรอายุ 1 ปีให้ผลตอบแทนประมาณ 4% กว่าๆ

สำหรับกองทุนหุ้นในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจะเปิดขายกองทุนใหม่ประมาณ 1-2 กองทุน โดยจะเน้นกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ที่กำหนดผลตอบแทนแน่นอน ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกองทุนรวมเอ็มเอฟซี ฟิฟทีน คิวบ์ ที่เปิดขายในปี 2548 ที่ผ่านมา และกำลังจะครบกำหนดอายุโครงการ โดยกองทุนกองใหม่ที่จะจัดตั้งนั้น ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 16% คือ หากผลตอบแทนจากการลงทุนถึง 16% ก็จะจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยและปิดโครงการได้ นอกจากนั้น ก็จะเป็นกองทุนที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการศึกษา

ส่วนกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ก็มีแผนที่จะจัดตั้งอีกประมาณ 1-2 กองทุนเช่นกัน ซึ่งกองทุน FIF ในปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ โดยกองทุนเปิด โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ ที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกให้ผลตอบแทนประมาณ 14% ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในระดับ 6% เท่านั้น ขณะที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) อยู่ในแผนการจัดตั้งกองทุนประมาณ 2 กองทุน ซึ่งในปีที่ผ่านมาการจัดตั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์นั้นค่อนข้างทำได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับการเจราจาระหว่างเจ้าของทรัพย์สินเป็นสำคัญ

นายพิชิต กล่าวต่อถึงการที่ธนาคารทหารไทย ขายหุ้นของเอ็มเอฟซีให้กับธนาคารออมสินว่า การขายหุ้นดังกล่าวไม่มีการเปลี่ยนแปลงถึงนโยบายของบริษัท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นเป็นเรื่องปลายเหตุเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นนโยบายที่บริษัทจะหาพันธมิตรมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันด้วย

ทั้งนี้ การปรับสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าว ในที่สุดแล้วเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท จากทั้งกับธนาคารออมสินเองและธนาคารทหารไทยด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น