ผู้จัดการรายวัน - ทรท.ได้ทีฟัด “อภิรักษ์” จี้รับผิดชอบทุจริต 16 โครงการ กทม.มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ระบุปีหมา หมากินจุ มีออเดิร์ฟเป็น รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู แถมหมาภาพดีได้ด้วย 1 คัน ด้าน ปชป.ฉะรัฐบาลเลือกปฎิบัติทั้งที่ไม่เคยสนใจทุจริต แต่พอ กทม.มีปัญหากลับเร่งทำ
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กรรมการบริหาร พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงข่าวการทุจริตในกทม.โดยมีการสั่งระงับโครงการประมูลผ่านระบบอี-อ๊อกชั่นของกทม. 16 รายการมูลค่า 2 หมื่นกว่าล้านบาทว่า ทางภาคกทม.ของพรรค ได้ประชุมหารือพบว่าน่าจะมีการทุจริตคอรัปชั่นในกทม.เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคไทยรักไทย ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะตัวหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคและนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่ากทม.เร่งตรวจสอบให้ชัดเจน อย่าตรวจสอบเพื่อแก้เกี้ยว หรือตัดตอน เพราะมีถึง 16 โครงการมูลค่าง 2 หมื่นล้านบาท โดยเรื่องนี้ มีการ ร้องเรียนมาตั้งแต่เดือนต.ค.2548 นายอภิรักษ์ จะบอกว่าเป็นเรื่องของข้าราชการประจำอย่างเดียวไม่ได้ หรือจะบอกว่าเป็นเรื่องของนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่ากทม.ก็ไม่ได้ เพราะนายอภิรักษ์กับนายสามารถก็เหมือนคอหอยกับลูกกระเดือก เรื่องนี้ต้องมาจัดการให้โปร่งใสเคลียร์ให้ชัดเจน
นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ดูแลพื้นที่ กทม. จะขอข้อมูลต่างๆ มาดู และจะตรวจสอบว่ามีการร้องเรียนมาที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ หากมีการร้องเรียนมาเราก็จะเข้าไปดำเนินการอย่างเต็มที่
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษกพรรค ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้บริหาร กทม.คนหนึ่งก่อนหน้านี้ใช้รถยนต์เรโนด์มือ 2 พอถึงปี 2541-2548 เปลี่ยนเป็น รถเชฟโรเล็ตมือ 3 ผ่อนเดือนละหมื่นกว่าบาทแต่พอมา ปี 2549 ถอยรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรีย์ 7 ป้ายแดง ด้วยเงินสดมาใช้ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้ผู้ว่าฯกทม. ตรวจสอบด้วยว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ และได้ข่าวว่ารถคันดังกล่าวได้ถูกนำไปซ่อนแล้วด้วย
น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์พูดเองว่า ปีจอหมาอ้วนกินจุ ก็ยอมรับว่าใช่เพราะตอนนี้มันมีรถ บี เอ็มดับเบิ้ลยู เป็นออเดิร์ฟ แต่ไม่รู้ว่ามีหมากี่ตัวที่กินรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู เพราะตอนนี้มีข่าวสะพัดว่ายังมีรถบี เอ็มดับเบิ้ลยู ให้กับหมา ภาพดีอีก 1 ตัว เรื่องนี้ก็รู้กันอยู่ว่า กทม. เป็นน้ำบ่อเดียว ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่แค่คนเดียวที่ลงไปกินแต่มีหลายตัว ดังนั้นเจออะไรหมา ก็ต้องกินรองท้องไปก่อน แต่ความจริงไม่ต้องกินตอนนี้ก็ได้ แต่ที่กินตอนนี้แสดงว่า หมากำลังหิวโซ ดังนั้นจึงอยากให้กลุ่มคอร์รัปชั่น วอตช์ ซึ่งมีคนของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ร่วมได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย”
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตั้งข้อสังเกตุว่า เหตุใดนายกฯ จึงประกาศเอาจริงเอาจังกับการปราบคอร์รัปชั่นในข่วงนี้ทั้งที่ 5 ปี ที่ผ่านมา หรือว่าที่ผ่านมา ปล่อยให้มีการหากินแสวงหาผลประโยชน์จนอิ่มหนำสำราญ แล้ว ขณะเดียวกันหลายฝ่ายก็ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตุเรื่องการทุจริตในหลายหน่วยงาน แต่นายกฯกลับออกมาการันตีความบริสุทธิ์ในโครงการทุจริตแทบทุกครั้ง แต่ในทาง ตรงกันข้ามรัฐบาลกับเพิ่งเอาจริงเอาจังและมายัดเยียดการทุจริต โครงการก่อสร้าง อุโมงค์ทางลอดทางข้าม16 โครงการของกทม.วงเงิน 20,00 ล้านบาท หรือเป็นเพาะว่าผู้บริหารกทม.โดยนายอภิรักษ์ เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์
นายองอาจกล่าวว่า การที่บริษัทที่คิดว่าตัวเองเสียหายจากโครงการประมูลไปร้องหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป.ป.ช. , สตง. หรือดีเอสไอ ถือเป็นเรื่องปกติ และนายอภิรักษ์ก็พร้อมที่จะให้เข้ามาตรวจสอบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเพราะเหตุใด ดีเอสไอ จึงรีบเข้ามาสอบ ซึ่งผิดกับ 4-5 ปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็ออกมารับลูกว่า มีการทุจริตฮั้วประมูล เป็นการแสดงและสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของนายกฯ และดีเอสไอใช้อำนาจทางการเมืองเข้ามาสร้างความเสื่อมเสียทางการเมืองให้กับนายอภิรักษ์
“ที่นายอภิรักษ์สั่งระงับโครงการไม่ได้เป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ต้องการให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป หากมีการพบทุจริตจริงก็พร้อมที่จะให้ดำเนินการและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเรียกร้องให้ปลดนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯ กทม.ฝ่ายโยธาธิการ เพราะขณะนี้การสอบสวนยังไม่สิ้นสุด อยากเรียกร้องให้นายกฯ สอบสวนเรื่องนี้ ด้วยความเป็นยกลางอย่าเลือกแฎิบัติ”
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กรรมการบริหาร พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงข่าวการทุจริตในกทม.โดยมีการสั่งระงับโครงการประมูลผ่านระบบอี-อ๊อกชั่นของกทม. 16 รายการมูลค่า 2 หมื่นกว่าล้านบาทว่า ทางภาคกทม.ของพรรค ได้ประชุมหารือพบว่าน่าจะมีการทุจริตคอรัปชั่นในกทม.เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคไทยรักไทย ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะตัวหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคและนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่ากทม.เร่งตรวจสอบให้ชัดเจน อย่าตรวจสอบเพื่อแก้เกี้ยว หรือตัดตอน เพราะมีถึง 16 โครงการมูลค่าง 2 หมื่นล้านบาท โดยเรื่องนี้ มีการ ร้องเรียนมาตั้งแต่เดือนต.ค.2548 นายอภิรักษ์ จะบอกว่าเป็นเรื่องของข้าราชการประจำอย่างเดียวไม่ได้ หรือจะบอกว่าเป็นเรื่องของนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่ากทม.ก็ไม่ได้ เพราะนายอภิรักษ์กับนายสามารถก็เหมือนคอหอยกับลูกกระเดือก เรื่องนี้ต้องมาจัดการให้โปร่งใสเคลียร์ให้ชัดเจน
นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ดูแลพื้นที่ กทม. จะขอข้อมูลต่างๆ มาดู และจะตรวจสอบว่ามีการร้องเรียนมาที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ หากมีการร้องเรียนมาเราก็จะเข้าไปดำเนินการอย่างเต็มที่
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษกพรรค ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้บริหาร กทม.คนหนึ่งก่อนหน้านี้ใช้รถยนต์เรโนด์มือ 2 พอถึงปี 2541-2548 เปลี่ยนเป็น รถเชฟโรเล็ตมือ 3 ผ่อนเดือนละหมื่นกว่าบาทแต่พอมา ปี 2549 ถอยรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรีย์ 7 ป้ายแดง ด้วยเงินสดมาใช้ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้ผู้ว่าฯกทม. ตรวจสอบด้วยว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ และได้ข่าวว่ารถคันดังกล่าวได้ถูกนำไปซ่อนแล้วด้วย
น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์พูดเองว่า ปีจอหมาอ้วนกินจุ ก็ยอมรับว่าใช่เพราะตอนนี้มันมีรถ บี เอ็มดับเบิ้ลยู เป็นออเดิร์ฟ แต่ไม่รู้ว่ามีหมากี่ตัวที่กินรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู เพราะตอนนี้มีข่าวสะพัดว่ายังมีรถบี เอ็มดับเบิ้ลยู ให้กับหมา ภาพดีอีก 1 ตัว เรื่องนี้ก็รู้กันอยู่ว่า กทม. เป็นน้ำบ่อเดียว ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่แค่คนเดียวที่ลงไปกินแต่มีหลายตัว ดังนั้นเจออะไรหมา ก็ต้องกินรองท้องไปก่อน แต่ความจริงไม่ต้องกินตอนนี้ก็ได้ แต่ที่กินตอนนี้แสดงว่า หมากำลังหิวโซ ดังนั้นจึงอยากให้กลุ่มคอร์รัปชั่น วอตช์ ซึ่งมีคนของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ร่วมได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย”
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตั้งข้อสังเกตุว่า เหตุใดนายกฯ จึงประกาศเอาจริงเอาจังกับการปราบคอร์รัปชั่นในข่วงนี้ทั้งที่ 5 ปี ที่ผ่านมา หรือว่าที่ผ่านมา ปล่อยให้มีการหากินแสวงหาผลประโยชน์จนอิ่มหนำสำราญ แล้ว ขณะเดียวกันหลายฝ่ายก็ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตุเรื่องการทุจริตในหลายหน่วยงาน แต่นายกฯกลับออกมาการันตีความบริสุทธิ์ในโครงการทุจริตแทบทุกครั้ง แต่ในทาง ตรงกันข้ามรัฐบาลกับเพิ่งเอาจริงเอาจังและมายัดเยียดการทุจริต โครงการก่อสร้าง อุโมงค์ทางลอดทางข้าม16 โครงการของกทม.วงเงิน 20,00 ล้านบาท หรือเป็นเพาะว่าผู้บริหารกทม.โดยนายอภิรักษ์ เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์
นายองอาจกล่าวว่า การที่บริษัทที่คิดว่าตัวเองเสียหายจากโครงการประมูลไปร้องหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป.ป.ช. , สตง. หรือดีเอสไอ ถือเป็นเรื่องปกติ และนายอภิรักษ์ก็พร้อมที่จะให้เข้ามาตรวจสอบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเพราะเหตุใด ดีเอสไอ จึงรีบเข้ามาสอบ ซึ่งผิดกับ 4-5 ปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็ออกมารับลูกว่า มีการทุจริตฮั้วประมูล เป็นการแสดงและสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของนายกฯ และดีเอสไอใช้อำนาจทางการเมืองเข้ามาสร้างความเสื่อมเสียทางการเมืองให้กับนายอภิรักษ์
“ที่นายอภิรักษ์สั่งระงับโครงการไม่ได้เป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ต้องการให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป หากมีการพบทุจริตจริงก็พร้อมที่จะให้ดำเนินการและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเรียกร้องให้ปลดนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯ กทม.ฝ่ายโยธาธิการ เพราะขณะนี้การสอบสวนยังไม่สิ้นสุด อยากเรียกร้องให้นายกฯ สอบสวนเรื่องนี้ ด้วยความเป็นยกลางอย่าเลือกแฎิบัติ”