ศูนย์ข่าวศรีราชา - “โลกใต้ทะเลบางแสน” เลือกพื้นที่ราชพัสดุริมทะเลบางแสน ข้าง สภ.ต.แสนสุข พร้อมเตรียมขอให้พื้นที่ เพื่อเนรมิตโลกใต้ทะเล (World Beneath the Sea) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชลบุรี
นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและได้มีการกำหนดแผนปฎิบัติการเชิงบูรณาการด้านการท่องเที่ยว พ.ศ.2548-2549 เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ฟื้นฟูวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
รวมถึงการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ ภาพลักษณ์ พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน และ มีคุณภาพระดับสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับเวทีโลก อันเป็นหนทางสำคัญของการนำมาซึ่งรายได้เข้าประเทศ
จากนโยบายทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ได้เห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้มีความหลากหลาย ประกอบกับพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทย ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง จึงมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (Unseen Chonburi) ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยร่วมกับจังหวัดชลบุรีจัดทำ โครงการโลกใต้ทะเล (World Beneath the Sea) ขึ้น บริเวณ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ใช้เงินงบประมาณ 500 ล้านบาท
โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ทางทะเล ส่งเสริมให้เกิดความรู้ในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และให้มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (Unseen Chonburi) ที่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ที่มีคุณภาพสูง และได้มาตรฐานสากล ซึ่งจะส่งผลในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สร้างสรรค์กิจกรรมแปลกใหม่ เพื่อเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีเพิ่มขึ้นเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ในระดับชุมชนในท้องถิ่น
นายภิญโญ กล่าวต่อว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีการขอใช้พื้นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ 314 ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ประมาณ 24–3–45 ไร่ดำเนินการก่อสร้างอาคารโลกใต้ทะเลด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 500,000,000 บาท ซึ่งเป็นงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ ปีงบประมาณ 2549 จำนวน 200 ล้านบาทและงบประมาณปี 2550 จำนวน 200 ล้านบาท รวม 400 ล้านบาท รวมกับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี 100 ล้านบาทเพื่อให้โครงการเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับรูปแบบของโครงการ คือ เป็นอาคารรูปทรงคล้ายปลากระเบน บนพื้นที่ 25 ไร่ แบ่งเป็น ตัวอาคารโลกใต้ทะเล 10,000 ตารางเมตรและพื้นที่ลานจอดรถโดยรอบอาคารซึ่งสามารถจอดรถได้ 1,000 คัน ตัวอาคารมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นที่ 1 และ 2 จะเป็นส่วนการจัดแสดงพันธุ์ปลาต่างๆ ส่วนพื้นที่ชั้นที่ 3 หรือดาดฟ้าไว้สำหรับอนุบาลปลา
สำหรับส่วนของการจัดแสดงปลาจะแบ่งเป็นทั้งหมด 7 โซน คือ โซนที่ 1 ป่าชายเลน เป็นส่วนที่จัดแสดงระบบนิเวศของป่าชายเลนทั้งน้ำตื้น น้ำลึก โซนที่ 2 Touch Pool จะเป็นส่วนที่แสดงสัตว์น้ำทะเลที่สามารถจับต้องได้ โซน 3 และ 4 จะเป็นการจัดแสดงระบบนิเวศทะเลและแนวปะการังตามภูมิศาสตร์โลก โดยจะจัดแสดงระบบนิเวศแบบต่อเนื่อง ปะการังน้ำตื้น ปะการังน้ำลึก ปะการังตามแนวน้ำขึ้นน้ำลง
โซนที่ 5 ชีวิตสัตว์ลึกลับจะเป็นการแสดงสัตว์หายาก สัตว์มีพิษต่างๆ เช่น Blue ring octopus Nortilus ปลาไหลมอร์เลย์ แมงกะพรุน ม้าน้ำ โซนที่ 6 Cylinder จะเป็นส่วนของแท็งก์ที่จัดแสดงปลาฝูง เช่น ปลาทู และโซนที่ 7 Big Tank จะเป็นส่วนที่จัดแสดงปลาใหญ่ อาทิ ปลาฉลาม ปลาหมอทะเล ปลากระเบนราหู อยู่ในแท็งก์ขนาด 5 พันตันในแนวตั้ง ถือว่าเป็นไฮไลต์ของอาคารเพราะเป็นแท็งก์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาคารและถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งแท็งก์ดังกล่าวจะมีทางเดินอุโมงค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์น้ำต่างๆ
ทั้งนี้ อาคารโลกใต้ทะเลยังมีจุดความแตกต่างของโครงสร้างแท้งค์ขนาดใหญ่จะไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ที่จะเป็นแท็งก์ลักษณะแนวนอนน้ำตื้นทำให้สามารถจัดแสดงได้แต่ปลาขนาดกลางและขนาดเล็กเท่านั้น ส่วนที่อาคารโลกใต้ทะเลจะเป็นแท็งก์ในลักษณะแนวตั้งซึ่งจะมีความลึกและใหญ่ทำให้สามารถจัดแสดงปลาขนาดใหญ่ได้
นอกจากนั้นในเรื่องของการจัดแสดงระบบนิเวศทางทะเลต่างๆ ก็ถือว่ามีความสมบูรณ์มากในเชิงวิชาการด้วยเช่นกัน ส่วนพื้นที่ภายนอกทางออกจะมีการจัดศูนย์จำหน่ายสินค้าโอทอปควบคู่ไปกับการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของโครงการด้วย