ชายฉกรรจ์ บุกป่วนกลุ่มผู้ชุมนุมกฟผ. ทั้งทำลายป้ายต่อต้านการแปรรูปและยิงปืนเข้าใส่ แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แกนนำยันสู้ไม่ถอย เตรียมร้องเรียนผบ.ตร.วันนี้ ขณะที่สน.ลุมพินีเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่น ที่เคยก่อเหตุมาแล้ว
วานนี้ (4 ม.ค.) นายโพธิพงศ์ บรรลือวงศ์ อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และแกนนำกลุ่มม็อบ กฟผ.ที่ปักหลักชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าสวนลุมพินี ฝั่งลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สี่แยกศาลาแดง ถนนราชดำริ กทม. เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.เกรียงศักดิ์ มูลตา ร้อยเวรสอบสวน สน.ลุมพินีว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน มีอาวุธปืนและมีด ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาก่อกวน โดยทำลายป้ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อต้านการแปรรูป กฟผ.และยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 1 นัด โดยก่อนเกิดเหตุ สังเกตเหตุชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน และรถยนต์โตโยต้า คราวน์ ทะเบียน 3 ฉ 1918 กทม. มาจอดซุ่มอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ 2 คน อายุประมาณ 30-45 ปี ลงมาจากรถ ลักษณะแต่งชุดสีดำลายขาว และเสื้อยีนส์แขนยาว เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นและพยายามเดินเข้าไปหา ชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็ได้ขับหนีไปทางถนนพระราม 4
กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.หลังจากที่ตนและอาจารย์สมาน ศรีงาม เลขาธิการขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ กลับจากพูดคุยใน "รายการสู่ชัยชนะ" คลื่นวิทยุชุมชนเอฟเอ็ม 92.25 เมกะเฮิรตซ์ กำลังจะพักผ่อนไม่ถึง 10 นาที ขณะนั้นมีชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 10 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้าย แต่งชุดดำ และสวมหมวกกันน็อก โดยมีอาวุธปืนพกสั้น และมีดดาบ เข้ามาทำลายป้ายผ้าที่เขียนว่า "หยุดขายการไฟฟ้าฝ่ายผลิต" พร้อมกับเอาป้ายไปด้วย จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์พยายามใช้มีดฟันทำลายป้ายอื่นๆ ที่เหลือ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าที่ชุมนุม
นายโพธิพงศ์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนและกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นเหตุการณ์ ต่างวิ่งกรูกันออกไปเพื่อจะล้อมจับกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว แต่หนึ่งในคนร้ายได้ชักปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 1 นัด ได้ยินเสียงปืนดังสนั่น แต่กระสุนพลาดเป้า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายพยายามจะยิงซ้ำอีก 1 นัด แต่คาดว่าปืนจะขัดลำกล้อง ขณะเดียวกัน กลุ่มคนร้ายได้เลี้ยวรถจักรยานยนต์ หนีออกไปทางถนนพระราม 4 คลองเตย หลังเกิดเหตุตำรวจสายตรวจ สน.ลุมพินีได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสียขวัญกำลังใจแต่อย่างใด ซึ่งตนและผู้ร่วมชุมนุมยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมต่อไป และในวันนี้จะไปยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เพื่อร้องเรียนให้ติดตามความคืบหน้าคดีต่อไป
ด้านพ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้เรียกพยานและผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำ เพื่อประมวลข้อเท็จจริง หาข้อมูลการถูกทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายเป็นกลุ่มวัยรุ่นใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ได้บุกเข้ามาทำลายป้ายผ้า และพยายามทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนในทุกประเด็น ทั้งความขัดแย้งส่วนตัวของตัวผู้ชุมนุมเอง และประเด็นอื่นๆ
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทางสน.ลุมพินี ได้มีการจัดกำลังสายตรวจ เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณสวนลุมพินี อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งนี้ จะได้สั่งการให้สายสืบตั้งจุดตรวจค้นและรักษาความปลอดภัย ในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม และประชาชนที่มาใช้บริการสวนลุมพินีอีกทางหนึ่งด้วย
วานนี้ (4 ม.ค.) นายโพธิพงศ์ บรรลือวงศ์ อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และแกนนำกลุ่มม็อบ กฟผ.ที่ปักหลักชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าสวนลุมพินี ฝั่งลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สี่แยกศาลาแดง ถนนราชดำริ กทม. เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.เกรียงศักดิ์ มูลตา ร้อยเวรสอบสวน สน.ลุมพินีว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน มีอาวุธปืนและมีด ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาก่อกวน โดยทำลายป้ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อต้านการแปรรูป กฟผ.และยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 1 นัด โดยก่อนเกิดเหตุ สังเกตเหตุชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน และรถยนต์โตโยต้า คราวน์ ทะเบียน 3 ฉ 1918 กทม. มาจอดซุ่มอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ 2 คน อายุประมาณ 30-45 ปี ลงมาจากรถ ลักษณะแต่งชุดสีดำลายขาว และเสื้อยีนส์แขนยาว เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นและพยายามเดินเข้าไปหา ชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็ได้ขับหนีไปทางถนนพระราม 4
กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.หลังจากที่ตนและอาจารย์สมาน ศรีงาม เลขาธิการขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ กลับจากพูดคุยใน "รายการสู่ชัยชนะ" คลื่นวิทยุชุมชนเอฟเอ็ม 92.25 เมกะเฮิรตซ์ กำลังจะพักผ่อนไม่ถึง 10 นาที ขณะนั้นมีชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 10 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้าย แต่งชุดดำ และสวมหมวกกันน็อก โดยมีอาวุธปืนพกสั้น และมีดดาบ เข้ามาทำลายป้ายผ้าที่เขียนว่า "หยุดขายการไฟฟ้าฝ่ายผลิต" พร้อมกับเอาป้ายไปด้วย จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์พยายามใช้มีดฟันทำลายป้ายอื่นๆ ที่เหลือ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าที่ชุมนุม
นายโพธิพงศ์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนและกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นเหตุการณ์ ต่างวิ่งกรูกันออกไปเพื่อจะล้อมจับกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว แต่หนึ่งในคนร้ายได้ชักปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 1 นัด ได้ยินเสียงปืนดังสนั่น แต่กระสุนพลาดเป้า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายพยายามจะยิงซ้ำอีก 1 นัด แต่คาดว่าปืนจะขัดลำกล้อง ขณะเดียวกัน กลุ่มคนร้ายได้เลี้ยวรถจักรยานยนต์ หนีออกไปทางถนนพระราม 4 คลองเตย หลังเกิดเหตุตำรวจสายตรวจ สน.ลุมพินีได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสียขวัญกำลังใจแต่อย่างใด ซึ่งตนและผู้ร่วมชุมนุมยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมต่อไป และในวันนี้จะไปยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เพื่อร้องเรียนให้ติดตามความคืบหน้าคดีต่อไป
ด้านพ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้เรียกพยานและผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำ เพื่อประมวลข้อเท็จจริง หาข้อมูลการถูกทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายเป็นกลุ่มวัยรุ่นใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ได้บุกเข้ามาทำลายป้ายผ้า และพยายามทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนในทุกประเด็น ทั้งความขัดแย้งส่วนตัวของตัวผู้ชุมนุมเอง และประเด็นอื่นๆ
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทางสน.ลุมพินี ได้มีการจัดกำลังสายตรวจ เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณสวนลุมพินี อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งนี้ จะได้สั่งการให้สายสืบตั้งจุดตรวจค้นและรักษาความปลอดภัย ในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม และประชาชนที่มาใช้บริการสวนลุมพินีอีกทางหนึ่งด้วย


