xs
xsm
sm
md
lg

"ช้าง"มุ่งตลาดหุ้นสิงคโปร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยเบฟฯ ตบเท้าลุยเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แน่ หลังซีอีโอ กลต.สิงคโปร์เดินทางเจรจาในไทยวานนี้ ปลายสัปดาห์นี้จะยื่นให้บอร์ดพิจารณาก่อนชงเรื่องกลต.ไทยอนุมัติ เจ้าสัวน้ำเมา"เจริญ สิริวัฒนภักดี"ระบุเล็งจดทะเบียนทั้งตลาดไทย และสิงคโปร์พร้อมกัน ย้ำปณิธานรุกตลาดต่างประเทศ

นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธาน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)เจ้าสัวน้ำเมาในไทย หรือผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม่โขง แสงโสม และ เบียร์ช้าง ฯลฯ เปิดเผยภายหลังจากที่นายเซียะ  ฟูหัว ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) จากประเทศสิงคโปร์ พร้อมทีมงานดูแลด้านกฎระเบียบเดินทางมาเจรจาเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) อย่างเป็นทางการครั้งแรก เกี่ยวกับการแสดงความสนใจอยากให้บริษัทไทยเบฟฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ในสิงคโปร์

โดยสรุปผลการเจรจาว่า บริษัทฯ จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์อย่างแน่นอน เหลือเพียงแต่รอให้บอร์ดไทยเบฟฯ พิจารณาเกี่ยวกับการเข้าตลาดหลักทรัพย์ในสิงคโปร์ในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งหากบอร์ดลงมติเห็นชอบ ก็จะทำเรื่องยื่นให้กลต.ไทยอนุมัติทันที โดยเหตุผลที่ต้องให้กลต.ไทยอนุมัตินั้น เนื่องจากเป็นกฎระเบียบที่กลต.ไทยวางไว้ โดยกลต.จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติก็ได้ แต่มั่นใจว่า เรื่องกลต.ไทยน่าจะไม่มีปัญหาอะไร

จากนั้นบริษัทฯจะเดินหน้าทำเรื่องเข้าตลาดหลักทรัพย์ในสิงคโปร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ ยังได้แสดงความจำนงและยืนยันที่นำบริษัทไทยเบฟฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ในไทย เพราะเป็นตลาดที่ได้วางเป้าหมายจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นอันดับหนึ่ง และแม้ว่าจะมีกระแสต่อต้านในไทยหรือช้าแค่ไหนก็จะรอ โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายนำไทยเบฟฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองประเทศ ขณะที่กฎกลต.สิงคโปร์ไม่ได้จำกัดสิทธิ์ในการยื่นเข้าตลาดหลักทรัพย์ในไทย

"ถ้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ในไทยได้ก่อนก็จะเข้า หรือถ้าเข้าสิงคโปร์ได้ก่อนก็เข้าทางสิงคโปร์ แต่เรามีความมั่นใจว่าไทยเบฟฯ จะเข้าได้ อย่างไรก็ตามปณิธานและทิศทางของการทำตลาดของไทยเบฟฯจากนี้ ต้องการนำเงินตราเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งการเข้าตลาดหลักทรัพย์ในสิงคโปร์ ก็เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ”นายเจริญ กล่าว  

นายเกษมสันต์  วีรกุล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้ กลต.สิงคโปร์ได้แสดงความสนใจและชักชวนบริษัทไทยเบฟมาแล้วถึง 2 ครั้ง อย่างไม่เป็นทางการ แต่ครั้งนี้เป็นการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งเหตุผลที่ กลต.สิงคโปร์อยากให้บริษัทไทยเบฟฯเข้าตลาดฯเป็นเพราะสิงคโปร์วางเป้าหมายจะเป็นศูนย์การเงินในภูมิภาคเอเชีย หากบริษัทไทยเบฟฯ เข้าตลาดฯก็จะส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นมาก จากปัจจุบันมีมูลค่าถึง 45 ล้านล้านบาท

สำหรับเนื้อหาสาระการมาประเทศไทยครั้งนี้ มาพูดถึงกฎระเบียบต่างๆที่บริษัทต้องทำ โดยเนื้อหาสาระและกฎระเบียบก็ไม่ได้แตกต่างจากของกลต.ของไทย นอกจากนี้ยังได้ยืนยันถึงการเข้าตลาดหลักทรัพย์ในสิงคโปร์ว่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากในตลาดฯมีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นนำด้วยกัน 4 บริษัท

อย่างไรก็ตาม นายเกษมสันต์ ยืนยันว่า ตามกฎหมายระบุชัดเจนว่า หากไทยเบฟฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศ กลต.ไทยก็ต้องอนุญาต โดยทีมกลต.สิงคโปร์มีความมั่นใจว่า เรื่องดังกล่าวจะไม่มีปัญหา

เป้าหมายของการเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในครั้งนี้ เป็นเพราะบริษัทฯต้องการสร้างความน่าเชื่อถือรวมทั้งภาพลักษณ์ของบริษัทไทยเบฟฯในต่างประเทศ เพื่อรองรับแผนการทำตลาดในต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มรุกตลาดทันทีในภูมิภาคเอเชียภายหลังจากที่บริษัทไทยเบฟฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากปัจจุบันรายได้หลักส่วนใหญ่มาจากภายในประเทศ ส่วนในตลาดต่างประเทศยังมีน้อยมาก  

"ไทยเบฟฯ ยังยืนยันที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยอยู่ แต่เราไม่อยากไปเร่งภาครัฐ ส่วนเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองแห่ง มองว่าไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย โดยบริษัทสามารถเทรดได้ทั้งสองตลาดฯทั้งในไทยและสิงคโปร์ ปัจจุบันเราก็ไม่ได้เดือดร้อนในด้านการเงิน  แต่การเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือ และมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้" พร้อมกันนี้ นายเกษมสันต์ ยังได้กล่าวปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องการซื้อหุ้นโออิชิด้วยว่า ไม่เป็นความจริง  
กำลังโหลดความคิดเห็น