xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพบก-ททบ.5 : ต้องแยกแยะ!

เผยแพร่:   โดย: แสงแดด

เผลอแพลบเดียวปี 2548 กำลังจะจางผ่านไปอีกเพียงไม่กี่วัน สัปดาห์หน้าปี 2549 "ปีจอ" กำลังส่งเสียงกรรโชกว่า "ใกล้ถึงแล้ว!" หลายๆ ฝ่ายยังคงเผลออยู่เลยว่า ปีใหม่คงอีกหลายเดือน

เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ถ้าจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ตลอดปี 2548 ทั้งการเมือง สังคม เศรษฐกิจ เรียกว่า ปี 2548 เป็นปีแห่ง "ความผันผวน-แกว่ง" ตลอด โดยเฉพาะสถานะทางการเมืองของรัฐบาล "ทักษิณ 2" ที่บัลลังก์ถูกเขย่า ชนิดที่เรียกว่า "เซ-คลอน" ไปพอสมควร ในกรณีของ "คะแนนนิยม" ที่ทุกฝ่าย "ถาโถมโจมตี!" เพื่อให้มะม่วงสุก "หล่น!"

ส่วนด้านเศรษฐกิจนั้น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ทะยานตัวราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปที่ต่างต้อง "เฝ้าระวัง" ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และบ้านเราได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งต่อปัญหาการขาดดุลบัญชีการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เงินเฟ้อ ราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีปัญหากระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุนเช่นเดียวกัน

อุตสาหกรรมการส่งออกก็ไม่เป็นไปตามเป้า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถดถอยลง เนื่องด้วยปัญหาสถานการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่คงไม่สำคัญเท่ากับ "คลื่นยักษ์สึนามิ!" ที่ถล่มจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญฝั่งทะเลอันดามัน

บ้านเมือง "ผันผวน" อย่างมากตลอดปี 2548

พอเอ่ยถึง "ความผันผวน" แล้ว "แสงแดด" ต้องขอมากล่าวถึงสถาบันแห่งหนึ่งกับหน่วยงานของสถาบันแห่งนี้คือ "กองทัพบก กับ ททบ.5" ซึ่งช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวคราวเชิงลบเกิดขึ้นกับ "ช่อง 5-ททบ.5" อย่างมากจนอาจส่งผลกระทบถึงสถาบันกองทัพบก

เราต้องแยก "กองทัพบก" ออกจาก "ช่อง 5" ประชาชนโดยทั่วไปถ้าขาดความรู้ความเข้าใจ และ/หรือ ขาดความสนใจจริงเกี่ยวกับกรณีนี้ อาจคิด "เหมารวม" ไปว่า "ช่อง 5" กับ "กองทัพบก" ก็คือองค์กรเดียวกัน ทั้งนี้จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่

"กองทัพบก" เป็นสถาบันทหารที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมายาวนานนับร้อยๆ ปี มีบทบาทภารกิจสำคัญในการเป็น "รั้วของชาติ" และที่สำคัญในยุคปัจจุบันที่สโลแกนของ "กองทัพบก" คือ "ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน" ซึ่งหมายความว่า "ทหารมีหน้าที่ปกปักรักษาให้ความคุ้มครองชาติบ้านเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน"

"กองทัพบก" ทำหน้าที่เช่นนั้นมาโดยตลอด ว่าไปแล้ว ทหารทุกเหล่าทัพที่ "แสงแดด" ได้มีโอกาสสัมผัสมาต่าง "รักษาศักดิ์ศรี-เกียรติยศ" ของความเป็น "ชายชาติทหาร" ทุกคน

โดยเฉพาะ "กองทัพบก" นั้น เท่าที่ได้สัมผัส เสวนาพูดคุยมานั้น ทหารแทบทุกท่าน มีความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารปัจจุบันมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น รู้เรื่องราวชาติบ้านเมือง สถานการณ์ต่างประเทศ พูดง่ายๆ ก็คือว่าทหารยุคใหม่ มิใช่ "คิดสี่เหลี่ยม!" แต่ "รอบรู้" มีดีกรีถึงระดับปริญญาเอกก็หลายคน

และที่สำคัญ "เขตทหารห้ามเข้า!" แทบจะไม่ต้องพูดถึงในปัจจุบันที่ประชาชนสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวหรือใช้พื้นที่ทหารในการสัญจร "ทางลัด" แบ่งเบาสภาวะจราจรติดขัดได้มาก

ความเป็น "สถาบันทหาร" ของกองทัพบกในปัจจุบันหรือช่วงระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาต่างยอมรับว่ามีความเป็น "ทหารอาชีพ" อย่างแท้จริง กอปรกับพัฒนาทั้งองค์กรและบุคลากรให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ พูดง่ายๆ ก็คือว่า ทหารปัจจุบันทันสมัย มีการพัฒนาขึ้นมาก กอปรกับรู้จักบทบาทหน้าที่ ภารกิจสำคัญในการเป็น "รั้วของชาติ" พร้อมเปิดกว้างสู่สังคมภายนอกที่เข้าใจในหลัก "ประชาธิปไตย" มากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก แต่ที่มีความชัดเจนมากที่สุดคือ การพัฒนาในการเป็น "องค์กร-หน่วยงานรัฐ" ที่มุ่งสู่ "ความเป็นธรรมาภิบาล"

นอกเหนือจากนั้น "กองทัพบก" บรรดาบุคลากรทุกระดับชั้นถือว่าเป็น "ข้าราชการ" ทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น การปฏิบัติหน้าที่จึงมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญในการ "บริการประชาชน" โดยสำคัญที่สุด "ไม่มุ่งเน้นผลกำไร" หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า "Non-Profit Organization"

เท่าที่ "แสงแดด" ได้มีลูกศิษย์ลูกหาระดับนายทหารทุกระดับชั้น พร้อมกับได้เคยร่วมงานกับกลุ่มทหารบางหน่วย โดยเฉพาะด้านการศึกษา ต้องยอมรับว่าทหารปัจจุบันเปลี่ยนไปเยอะมาก มีความเป็นอาชีพ ทันสมัย รอบรู้มากกว่าเดิมเยอะมาก และไม่เคยคิดถึงผลประโยชน์ใดๆ เลย นอกเหนือจากอาจมีบ้างใน "การจัดซื้อจัดจ้าง" อาวุธยุทโธปกรณ์ตามที่มีการครหากัน แต่ "แสงแดด" ไม่เคยได้ร่วมรับรู้เห็นแต่ประการใด

โดยสรุปแล้วเมื่อกล่าวถึง "กองทัพบก" ต้องยอมรับว่ามีความเป็น "ราชการ" และยึดถือ "ธรรมาภิบาล" โดยเคารพ "สิทธิเสรีภาพ-ประชาธิปไตย" ของสังคมมากกว่าในอดีตที่มีส่วนสำคัญในทางการเมือง เมื่อสถานการณ์ชาติบ้านเมือง "ไร้ธรรมาภิบาล"

ขอย้ำอีกครั้งว่า เราต้อง "แยกแยะ-สังเคราะห์" ให้ออกว่า "กองทัพบก" กับ "ช่อง 5" นั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

"ช่อง 5-ททบ.5" เป็นองค์กรที่ขึ้นตรงต่อ "กองทัพบก" โดยในอดีต "กรมทหารสื่อสาร" เป็นองค์กรหลักหรือองค์กรเดียวที่ดูแล "ททบ.5" เนื่องด้วยเป็นกรมที่ต้องทำหน้าที่ด้านการสื่อสาร โดยวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งช่อง 5 นั้นเพื่อทำการเผยแพร่ "กิจกรรมทหาร" สู่สายตาประชาชนทางสื่อโทรทัศน์เมื่อประมาณ 48 ปีที่ผ่านมา

"กรมทหารสื่อสาร" จะเป็นหน่วยงานหลักที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีด้านเครื่องมือสื่อสาร ส่งสัญญาณ "กรมทหารสื่อสาร" จึงเปรียบเสมือน "ผู้ก่อตั้ง" ช่อง 5 ทั้งนี้นายทหารสื่อสารตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่คิดว่า "เป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของช่อง 5!"

ด้านการผลิตรายการช่วงระยะเวลา 20-30 ปี ก็เปลี่ยนไปโดยจัดผังเวลา และขายเวลาให้กับกลุ่มธุรกิจเอกชนที่มีความชำนาญในด้านการผลิตข้อมูลข่าวสาร สารคดี หรือที่เรียกกันว่า "ซอฟต์แวร์ (Software)" ไปจัดการดำเนินธุรกิจแก่ทางช่อง 5 แต่งานด้านข่าวยังคงเป็นภารกิจหลักของ "ฝ่ายข่าว" ที่ฝ่ายทหารดูแลรับผิดชอบกันเอง

สภาวการณ์สังคมยุคข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว "กลุ่มผู้จัดรายการ" เริ่มมีการแข่งขันมากขึ้นที่จะได้เวลาจากช่อง 5 มานำเสนอ "รายการสาระบันเทิง" จนเลยไปถึง "เกมโชว์-ละคร" ต่างๆ และในที่สุด "การแก่งแย่ง-การแข่งขัน" กันนี้ก็ก่อให้เกิด "ธุรกิจ" ขึ้นโดยเวลาไหนที่เป็นเวลา "ไพรม์ไทม์ (Prime Time)" หรือ "เวลาดี" ราคาต่อนาทีต่อชั่วโมงก็จะแพงขึ้นเป็นไปตามลำดับของฝ่ายโฆษณาและเวลาที่ถูกจัดสรรไป

จนมีการกล่าวกันว่า "เวลานาทีสื่อโทรทัศน์" เป็นเงินเป็นทอง แต่ก็ยังมีการแก่งแย่ง แข่งขันกันจนคล้ายๆ กับว่าเป็น "สัมปทาน" เวลาเงินเวลาทองของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5)

เมื่อเกิดเป็น "ธุรกิจ" ขึ้น ถามว่าจะมีการกำหนดและคำนึงถึง "กำไร-ขาดทุน" หรือไม่อย่างไร ก็ต้องตอบว่ามีแน่นอน เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการคำนวณเชิงผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งต่อองค์กรและผู้บริหาร

ดังนั้น "ททบ.5" จึงสมควรแยกออกมาจาก "กองทัพบก" เพราะเป็นองค์กรที่แสวงประโยชน์และกำไรอย่างแน่นอน จึงเป็น "องค์กรธุรกิจ-องค์กรเอกชน" ที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็น "Profit Organization"

ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว "ททบ.5" ปัจจุบันถือว่าเป็น "หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ" ของกองทัพบกที่ทำรายได้มหาศาลให้แก่ กองทัพบก โดยมีการบริหารจัดการเป็น "กึ่งธุรกิจ-กึ่งรัฐ" แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็น "องค์กรธุรกิจ" เต็มตัว ทั้งต่อ "องค์กร ททบ.5" เองและต่อ "กองทัพบก"

นอกเหนือจากนั้น ผู้บริหารเองส่วนใหญ่เกือบ 95 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็นนายทหารทั้งสิ้น ซึ่งในอดีตเป็นนายทหารทั้งหมดจากกรมทหารสื่อสาร แต่เพิ่งมาเปลี่ยนจากหน่วยอื่นช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ "ก้อนน้ำแข็งส่วนล่าง (Iceberg)" หรือ "รากเหง้า" ยังเป็นทหารสื่อสารที่เป็น "กลไก" เกือบทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ททบ.5 ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา เพียรพยายามปรับปรุงพัฒนาให้อยู่ในระดับแนวหน้า "เทียมหน้าเทียมตา" สถานีฯ อื่นๆ ช่อง 3 ช่อง 7 ช่องไอทีวี ทั้งนี้ในอดีต ช่อง 9 ยังอยู่ระดับหลังหรือใกล้เคียงช่อง 5 ด้วยซ้ำ แต่ปัจจุบันต้องขอบอกตรงๆ เลยว่า ช่อง 9 เขาโมเดิร์นทิ้งช่อง 5 ห่างไปไกลหลายลี้แล้ว ปัจจุบันบัดดี้หรือเพื่อนรักอยู่ในระดับชั้นเดียวกันคือช่อง 11

นโยบายเปลี่ยนทุกปี เพราะเปลี่ยนผู้บริหารทุกปี แถมบางท่านไม่มีความรู้ ประสบการณ์ทางด้าน "สื่อสารมวลชน" มาก่อนเลย แม้กระทั่งความรู้ทางธุรกิจ เจ้าหน้าที่ทหารที่ "เกาะติด" อยู่ช่อง 5 มายาวนานจะก่อเป็น "ขบวนการ" รู้ทุกเรื่องทุกกรณี เป็น "ผู้จัดให้!" มาโดยตลอด จนบ่อยครั้งใครที่มาจากที่อื่นแล้วรู้จริง มีอันต้องระเห็จพ้นสถานีทุกทีไป เพราะว่า "รู้เยอะ!" แต่ไม่เท่า "ขัดขา!"

สโลแกนช่อง 5 "นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ได้ยินมาหลายสิบปี ขอเสียมารยาทอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า สโลแกน "เพี้ยน" และ "ไม่เคย" นำคุณค่าสู่สังคมไทยเลย

ล่าสุดมีนโยบายชัดเจนจากผู้ใหญ่ว่า ข่าว 30 เปอร์เซ็นต์ บันเทิง 30 เปอร์เซ็นต์ และสารคดี 40 เปอร์เซ็นต์ แต่พอปรับผังรายการ 2549 รายการ "นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ที่ดีๆ ถูก "ถีบ" ออกจากผังช่อง 5 โดยไม่มีใครรู้ตัว!

เขาซุบซิบมาว่า ใครที่มุดใต้โต๊ะไม่เป็น ก็ต้องโบกมือลา มือปาดน้ำตา ชอกช้ำไป แถมแรงงานอีก 400 กว่าชีวิต ถูกลอยแพ!

มิน่า! ช่อง 5 ถึง "ย่ำต๊อก!" อยู่กับที่ แถม "ถอยหลัง!" อีกต่างหาก!...และขอลาทีปี 2548!
กำลังโหลดความคิดเห็น