ผู้จัดการรายวัน - “ทักษิณ” เรียกแท๊กซี่ยาหอมแก้จน ปลดแอกทาสยุคใหม่ สั่งนครบาลจัดการมาเฟียเรียกเก็บหัวคิว พร้อมให้เงินสินเชื่อติดถังแก๊สเอ็นจีวี ควักกระเป๋าส่วนตัวแจกรถแท๊กซี่ 3 คน บ้านน็อคดาวน์ 10 หลัง แลกกับการให้ดำเนินการโครงการ“ถนนยิ้ม” จัดระเบียบแท๊กซี่ และเป็นสายตรวจประชาชน มอบเงิน 5 ล้านบาทให้ตำรวจนครบาล ตั้งเป็นรางวัลนำจับโจร
ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก วานนี้ (25 ธ.ค.) รัฐบาลได้จัดงาน “นายกฯพบแท็กซี่” มีแท๊กซี่กว่า 5 พันคันเข้าร่วม เพื่อรับฟังการชี้แจงทำความเข้าใจ เรื่องการจัดระเบียบรถแท็กซี่ตามโครงการ “ถนนยิ้ม” ในการแก้ไขปัญหาจราจร และยังได้ร่วมลุ้นของขวัญปีใหม่จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นรถยนต์แท็กซี่ 1 คัน มูลค่า 680,000 บาท และบ้านน็อกดาวน์เอื้ออาทร จำนวน 10 หลัง มูลค่าหลังละ 150,000 บาท โดยมีพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.อุตสาหกรรม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รมว.เกษตรฯ ร่วมงานด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวมอบนโยบายว่าอยากแจ้งให้ทราบว่าที่มาเป็นนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน วันนี้ได้มอบงานให้รัฐมนตรีบ้านนอกมาดู เพราะจะเข้าใจคนจน ตนจะแก้ปัญหาความยากจนให้กับทุกท่านทั้งในกทม.และต่างจังหวัด โดยเฉพาะในกทม.จะเข้าไปตรวจสอบว่า ครอบครัวไหนมีทรัพย์สินเท่าไร มีหนี้สินเท่าไร มีที่ดินทำกิน หรือประกอบอาชีพหรือไม่ เพื่อให้ทุกคนได้ทำงาน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำรัสในหลวงฯ
“ผมจะทำให้ทุกคนมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ซึ่งก็คือทำแท๊กซี่เอื้ออาทร แต่ที่ผ่านมามีคนแอบไปเพิ่มค่าใช้จ่ายให้ท่านเสียค่าโน้นค่านี้ ผู้จัดการธนาคารที่ทำเรื่องนี้ถูกปลดไปแล้ว ต่อไปค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจะต้องลดลง แท๊กซี่เอื้ออาทรต้องเอื้ออาทรจริงๆ”
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าเรื่องที่จะพยายามทำต่อไปคือ 1. ให้ธนาคารวิสาหกิจจนาดกลางและขนาดย่อย ขยายโครงการแท๊กซี่เอื้ออาทร โดยไม่บังคับซื้อ บังคับขาย ไม่มีหักหัวคิด 2.ลดรายจ่ายโดยใช้แก๊สเอ็นจีวี ซึ่งจะประหยัดเกิดเดิม ให้ ปตท.และธนาคารวิสาหกิจฯ ร่วมกันให้สินเชื่อเปลี่ยนถังเอ็นจีจี จะทำให้ท่านลดค่าใช้จ่ายได้ 3. มีที่จอดรถแท๊กซี่ให้ โดยจัดทำป้าย “แท๊กซี่สแตนด์” และให้ตำรวจนครบาล ตั้งศูนย์วิทยุเพื่อบริการแท๊กซี่ จะได้ลดค่าใช้จ่ายไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา เมื่อลดค่าใช้จ่ายก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น
“บรรดาเสือนอนกินทั้งหลายที่นอนกินคนจนมานานแล้ว ต้องเลิก มาเฟียเก็บหัวคิวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ บขส. หมอชิต ที่สแตนด์ต้องมีไม่ได้ ผบช.น. ได้ยินชัดๆ จัดการได้ ต้องไม่มีใครมีอิทธิพลเด็ดขาด เพราะเราต้องลดค่าใช้จ่ายคนจน ไม่เช่นนั้นคนจนเหล่านี้คือทาสยุคใหม่เรารับไม่ได้”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเมื่อรัฐบาลจัดการให้ท่านหมดแล้ว ท่านต้อง 1.เคารพกติกาให้เกียรติซึ่งกันและกัน คิวใคร คิวมัน ไม่ให้แย่งกัน 2.อยากจะขอท่านทำหน้าที่เป็นรถสายตรวจให้กับกรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย เพราะตำรวจก็คือปุถุชนธรรมดา ฉะนั้นสาธารณชนทั้งหลายก็ทำหน้าที่เป็นตำรวจได้ ถ้าจิตใจเป็นพลเมืองดี รักและห่วงใยเพื่อร่วมชาติด้วยกัน โดยมีศูนย์วิทยุ เมื่อท่านมีวิทยุก็วิทยุเข้าศูนย์ การมีศูนย์วิทยุนครบาลประชาชนจะรู้สึกอุ่นใจว่า ทุกครั้งที่เรียกแท็กซี่จะรู้แท็กซี่คันไหนจะไปรับ มีหลักฐานอยู่ที่ศูนย์วิทยุตำรวจ นอกจากนั้นตัวท่านเองก็ปลอดภัย ถ้ามีผู้โดยสารประเภทโจรมาจี้รถของท่าน อย่างน้อยๆ ตำรวจก็รู้และติดตามได้ นี้คือสิ่งที่เราขอให้ท่านพยายามทำหน้าที่หน่อย
“วันนี้จะมอบเงินให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 500 ล้านบาท เพื่อคอยจัดเป็นรางวัลเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ชี้เบาะแสแล้วทำให้จับกุมคนร้ายได้มีรางวัลไม่ได้ให้แจ้งจับฟรี นอกจากขอจิตใจงามๆ ของท่านแล้วจะตอบแทนท่าน เช่น พบเบาะแสเห็นคนรังแกคน คนร้ายวิ่งออกจากร้านมา เงินก้อนนี้จะไปเป็นกองทุนไว้เพื่อการนี้ เพราะต่อไปนี้ตำรวจต้องอาศัยประชาชนทำหน้าที่ตำรวจช่วยด้วย แต่ประชาชนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนได้ดีที่สุดคือแท็กซี่ วิ่งอยู่บนท้องถนนเห็นอยู่ตลอดเวลา”
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นานๆ เจอกันที ปีละ 2 ครั้งแต่ครั้งนี้พิเศษเป็นช่วงปีใหม่ จึงมาร่วมจับสลากกันมีบ้านเอื้ออาทรสำเร็จรูป แต่ต้องมีที่ดินเพื่อปลูกสร้าง โดยจะไปประกอบให้ 4 วันก็เสร็จ ซึ่งมีทั้งหมด 10 หลัง รถแท๊กซี่เอื้ออาทร 1 คัน “หมดเป็นเงินส่วนตัว เดี๋ยวไอ้พวกนั้น มาบอกว่าเอาเงินหลวงมาแจกอีก เงินส่วนตัว ฉะนั้นไม่มีปัญหา”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถนนยิ้มให้มันยิ้มได้จริงๆ เข้าจอดในที่จอด มีการรวมมือกันกับทางภาคราชการอย่างดี เป็นประโยชน์กับตัวท่าน เป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
“เดี๋ยวจะจับรถ 3 คัน เดี๋ยวขอโทษ พูดผิดไปแล้วทำไงดี เอาสามก็สาม พูดผิดไปแล้วคืนคำไม่ได้แล้วช่างมันเถอะ แท็กซี่ 3 คัน บ้าน 3 หลังผมจับ บ้านอีก 7 หลังให้ นายเนวิน ชิดชอบ รมต.ประจำสำนักนายกฯจับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขออวยพรปีใหม่ ที่ถึงแม้บางคนจะได้บ้านได้รถก็ยินดีไป แต่คนไม่ได้ก็ขอให้ยึดมั่นแต่กรรมดี และผมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ทำดีต้องย่อมได้ดี แต่บางครั้งอาจจะต้องอดทนบ้าง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายกฯ ได้ทำการจับรางวัล และได้เดินทักทายบรรดาแท็กซี่ที่มาร่วมงาน โดยมีแท็กซี่ได้เข้าร้องเรียนกับนายกฯ ซึ่งนายกฯได้สั่งให้น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ รับเรื่องไว้ จากนั้นนายกฯได้เดินกลับบ้าน และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวแต่เพียงว่า หลังจากนี้ขอเป็นหมายส่วนตัว ซึ่งวันนี้พูดส่งท้ายปีเก่าไปมากแล้ว
ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก วานนี้ (25 ธ.ค.) รัฐบาลได้จัดงาน “นายกฯพบแท็กซี่” มีแท๊กซี่กว่า 5 พันคันเข้าร่วม เพื่อรับฟังการชี้แจงทำความเข้าใจ เรื่องการจัดระเบียบรถแท็กซี่ตามโครงการ “ถนนยิ้ม” ในการแก้ไขปัญหาจราจร และยังได้ร่วมลุ้นของขวัญปีใหม่จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นรถยนต์แท็กซี่ 1 คัน มูลค่า 680,000 บาท และบ้านน็อกดาวน์เอื้ออาทร จำนวน 10 หลัง มูลค่าหลังละ 150,000 บาท โดยมีพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.อุตสาหกรรม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รมว.เกษตรฯ ร่วมงานด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวมอบนโยบายว่าอยากแจ้งให้ทราบว่าที่มาเป็นนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน วันนี้ได้มอบงานให้รัฐมนตรีบ้านนอกมาดู เพราะจะเข้าใจคนจน ตนจะแก้ปัญหาความยากจนให้กับทุกท่านทั้งในกทม.และต่างจังหวัด โดยเฉพาะในกทม.จะเข้าไปตรวจสอบว่า ครอบครัวไหนมีทรัพย์สินเท่าไร มีหนี้สินเท่าไร มีที่ดินทำกิน หรือประกอบอาชีพหรือไม่ เพื่อให้ทุกคนได้ทำงาน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำรัสในหลวงฯ
“ผมจะทำให้ทุกคนมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ซึ่งก็คือทำแท๊กซี่เอื้ออาทร แต่ที่ผ่านมามีคนแอบไปเพิ่มค่าใช้จ่ายให้ท่านเสียค่าโน้นค่านี้ ผู้จัดการธนาคารที่ทำเรื่องนี้ถูกปลดไปแล้ว ต่อไปค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจะต้องลดลง แท๊กซี่เอื้ออาทรต้องเอื้ออาทรจริงๆ”
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าเรื่องที่จะพยายามทำต่อไปคือ 1. ให้ธนาคารวิสาหกิจจนาดกลางและขนาดย่อย ขยายโครงการแท๊กซี่เอื้ออาทร โดยไม่บังคับซื้อ บังคับขาย ไม่มีหักหัวคิด 2.ลดรายจ่ายโดยใช้แก๊สเอ็นจีวี ซึ่งจะประหยัดเกิดเดิม ให้ ปตท.และธนาคารวิสาหกิจฯ ร่วมกันให้สินเชื่อเปลี่ยนถังเอ็นจีจี จะทำให้ท่านลดค่าใช้จ่ายได้ 3. มีที่จอดรถแท๊กซี่ให้ โดยจัดทำป้าย “แท๊กซี่สแตนด์” และให้ตำรวจนครบาล ตั้งศูนย์วิทยุเพื่อบริการแท๊กซี่ จะได้ลดค่าใช้จ่ายไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา เมื่อลดค่าใช้จ่ายก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น
“บรรดาเสือนอนกินทั้งหลายที่นอนกินคนจนมานานแล้ว ต้องเลิก มาเฟียเก็บหัวคิวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ บขส. หมอชิต ที่สแตนด์ต้องมีไม่ได้ ผบช.น. ได้ยินชัดๆ จัดการได้ ต้องไม่มีใครมีอิทธิพลเด็ดขาด เพราะเราต้องลดค่าใช้จ่ายคนจน ไม่เช่นนั้นคนจนเหล่านี้คือทาสยุคใหม่เรารับไม่ได้”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเมื่อรัฐบาลจัดการให้ท่านหมดแล้ว ท่านต้อง 1.เคารพกติกาให้เกียรติซึ่งกันและกัน คิวใคร คิวมัน ไม่ให้แย่งกัน 2.อยากจะขอท่านทำหน้าที่เป็นรถสายตรวจให้กับกรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย เพราะตำรวจก็คือปุถุชนธรรมดา ฉะนั้นสาธารณชนทั้งหลายก็ทำหน้าที่เป็นตำรวจได้ ถ้าจิตใจเป็นพลเมืองดี รักและห่วงใยเพื่อร่วมชาติด้วยกัน โดยมีศูนย์วิทยุ เมื่อท่านมีวิทยุก็วิทยุเข้าศูนย์ การมีศูนย์วิทยุนครบาลประชาชนจะรู้สึกอุ่นใจว่า ทุกครั้งที่เรียกแท็กซี่จะรู้แท็กซี่คันไหนจะไปรับ มีหลักฐานอยู่ที่ศูนย์วิทยุตำรวจ นอกจากนั้นตัวท่านเองก็ปลอดภัย ถ้ามีผู้โดยสารประเภทโจรมาจี้รถของท่าน อย่างน้อยๆ ตำรวจก็รู้และติดตามได้ นี้คือสิ่งที่เราขอให้ท่านพยายามทำหน้าที่หน่อย
“วันนี้จะมอบเงินให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 500 ล้านบาท เพื่อคอยจัดเป็นรางวัลเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ชี้เบาะแสแล้วทำให้จับกุมคนร้ายได้มีรางวัลไม่ได้ให้แจ้งจับฟรี นอกจากขอจิตใจงามๆ ของท่านแล้วจะตอบแทนท่าน เช่น พบเบาะแสเห็นคนรังแกคน คนร้ายวิ่งออกจากร้านมา เงินก้อนนี้จะไปเป็นกองทุนไว้เพื่อการนี้ เพราะต่อไปนี้ตำรวจต้องอาศัยประชาชนทำหน้าที่ตำรวจช่วยด้วย แต่ประชาชนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนได้ดีที่สุดคือแท็กซี่ วิ่งอยู่บนท้องถนนเห็นอยู่ตลอดเวลา”
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นานๆ เจอกันที ปีละ 2 ครั้งแต่ครั้งนี้พิเศษเป็นช่วงปีใหม่ จึงมาร่วมจับสลากกันมีบ้านเอื้ออาทรสำเร็จรูป แต่ต้องมีที่ดินเพื่อปลูกสร้าง โดยจะไปประกอบให้ 4 วันก็เสร็จ ซึ่งมีทั้งหมด 10 หลัง รถแท๊กซี่เอื้ออาทร 1 คัน “หมดเป็นเงินส่วนตัว เดี๋ยวไอ้พวกนั้น มาบอกว่าเอาเงินหลวงมาแจกอีก เงินส่วนตัว ฉะนั้นไม่มีปัญหา”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถนนยิ้มให้มันยิ้มได้จริงๆ เข้าจอดในที่จอด มีการรวมมือกันกับทางภาคราชการอย่างดี เป็นประโยชน์กับตัวท่าน เป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
“เดี๋ยวจะจับรถ 3 คัน เดี๋ยวขอโทษ พูดผิดไปแล้วทำไงดี เอาสามก็สาม พูดผิดไปแล้วคืนคำไม่ได้แล้วช่างมันเถอะ แท็กซี่ 3 คัน บ้าน 3 หลังผมจับ บ้านอีก 7 หลังให้ นายเนวิน ชิดชอบ รมต.ประจำสำนักนายกฯจับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขออวยพรปีใหม่ ที่ถึงแม้บางคนจะได้บ้านได้รถก็ยินดีไป แต่คนไม่ได้ก็ขอให้ยึดมั่นแต่กรรมดี และผมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ทำดีต้องย่อมได้ดี แต่บางครั้งอาจจะต้องอดทนบ้าง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายกฯ ได้ทำการจับรางวัล และได้เดินทักทายบรรดาแท็กซี่ที่มาร่วมงาน โดยมีแท็กซี่ได้เข้าร้องเรียนกับนายกฯ ซึ่งนายกฯได้สั่งให้น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ รับเรื่องไว้ จากนั้นนายกฯได้เดินกลับบ้าน และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวแต่เพียงว่า หลังจากนี้ขอเป็นหมายส่วนตัว ซึ่งวันนี้พูดส่งท้ายปีเก่าไปมากแล้ว