เมืองไทยในตอนนี้รู้สึกว่าอึกทึกครึกโครมไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งในวงการชนชั้นผู้ดีมีเงินและคนยากคนจนทั่วประเทศ ไม่ค่อยจะมีใครว่างมากนักหรืออาจจะไม่ได้ทำมาหากินกันเท่าที่ควร เพราะปัญหาเฉพาะหน้าที่อัดแน่นอยู่ต่อหน้าคนไทยและสังคมไทยทุกวันนี้
ทางด้านคนบ้านนอกหรือพวกรากหญ้า พวกที่ไม่มีบุญวาสนาหรือไม่ได้เป็นนักการเมืองขนาดใหญ่ ก็จะพากันเดินขบวนไปประท้วง ไม่ว่าใครจะพาไปที่ไหนก็ไป ไม่ว่าจะไปอดอยากที่ไหนก็จะไปร่วมกับพรรคพวก ได้อะไรหรือไม่ได้อะไรจะขึ้นอยู่กับหัวหน้าหรือผู้นำในการเดินขบวนประท้วงนั้น ซึ่งมักจะเป็นพวกที่มีความเห็นแตกต่างกัน และมีผลประโยชน์ไม่ตรงกัน แต่ส่วนมากไม่ได้อะไรเลย นอกจากเหนื่อยเปล่าซึ่งจะเห็นได้จากการชุมนุมของประชาชนหลายพวกหลายกลุ่มในขณะนี้
แต่ก็ต้องยอมเหนื่อยยาก เพราะอยู่บ้านว่างๆ มันก็ไม่มีจะกินหรือจะต้องอดตาย ถ้าจะไปกับเขาพรรคพวกเพื่อนฝูงที่มีชะตากรรมอันเดียวกันก็ทำให้กระปรี้กระเปร่าหรือมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง ดีกว่าเป็นคนสามัญ
จนกระทั่งบัดนี้ บรรดาเจ้ากรรมนายเวรผู้มีบุญมีอำนาจที่บริหารประเทศชาติอยู่ ยังไม่เคยสำนึกถึงเวรกรรมที่ตนเองได้ทอดทิ้งผู้คนที่เป็นรากหญ้าของแผ่นดินที่ทำให้ทุกคนเกิดมาเพื่อแสวงหาทางเดินของชีวิตตัวเองที่แสบที่สุด นั่นคือสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พยายามออกข่าวเอาดี และอวดอ้างความสามารถของรัฐบาลและชนชั้นปกครองของบ้านเมืองว่าสถานการณ์ในภาคใต้ดีขึ้นมาแล้วเพราะมีพวกที่ไม่หวังดี และพวกที่หลงผิดจำนวนหนึ่งที่ได้ร่วมมือกับผู้ก่อการร้ายได้เข้ามามอบตัวกัน ทำให้เชื่อว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พยายามแก้มาสองปีแล้วจะยุติลง
คำอวดอ้างเหล่านี้ ถ้าหากเป็นชาวบ้านชาวช่องที่ภาคใต้พูดกัน ก็อาจจะต้อง “ถุย!” น้ำลายหลายครั้งหลายหนว่าที่พูดนั้นโกหก และไม่มียางอายเอาเลย!!
การที่อ้างว่าคนเหล่านั้นเป็น ผู้หลงผิด หรือ ไม่หวังดี ต่อบ้านเมืองนั้น เป็นการพูดที่เอาดีเข้าตัวเองของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และเป็นการพูดที่โง่เขลาที่สุด
เพราะคนเหล่านั้นก็คือ คนไทย หรือไม่มีอะไรแตกต่างไปจากคนไทย คนเหล่านี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนไม่เคยบอกใครได้เต็มปากเลยว่าเป็นคนมลายู เขามีความแตกต่างจากคนไทยที่เป็นไทยกะล่อนจำนวนมากก็ตรงที่เขานับถือศาสนาอิสลามตามบรรพบุรุษของเขา แต่อย่างอื่นเขาเป็นไม่ได้ เพราะที่เขาเกิดนั้นเขาเกิดในเมืองไทย ภายใต้วัฒนธรรมประเพณีไทยที่ล้อมอยู่ เขาจะไม่มีวันเป็นคนชาติอื่นไปได้ เช่นเดียวกับคนจีนที่เกิดในเมืองไทยที่เป็นใหญ่เป็นโตกินบ้านกินเมืองอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเขาเป็นคนชาติอื่นไปไม่ได้เพราะตัวเขา พ่อแม่ของเขาเกิดในเมืองไทย
เขาไม่มีอะไรแตกต่างไปจากชาวมอญ กะเหรี่ยง หรือพวกชาวเขาชาวดอยทั้งหมดในภาคเหนือของไทย
คนเหล่านั้น ผมรับรองว่าไม่มีใครเคยหลงผิดในเรื่องใดๆ
คนเหล่านั้นไม่เป็นคนที่มีความไม่หวังดีใดๆ
แต่เขาเอาในสิ่งที่เขาได้รู้ได้เห็นและได้เล่าเรียนศึกษามาว่า เขาคือประชาชนที่ถูกทอดทิ้ง ประชาชนมีแผ่นดินเกิด แต่รัฐบาลไทยไม่ยอมรับการเกิดของเขา ดูถูกเหยียดหยามและดูแคลนพวกเขาตั้งแต่หัวจดตีน
เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมเขาจะต้องมาปรารถนาดีต่อแผ่นดินไทย และคนไทยที่เหยียบย่ำทำลายเขา?
ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นพ่อคนแม่คนอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ในอำเภอจะนะ เทพา เรื่อยไป ผมเคยถามถึงเรื่องลูกเต้าของเขาที่ผมเคยเห็นมาแต่อ้อนแต่ออก แต่บัดนี้มันไปไหนเสีย เขาพากันตอบสั้นๆ ว่า ปากีสถาน หรือไม่งั้นก็ ซาอุดีอาระเบีย
คนเหล่านี้ส่งลูกไปเรียนโรงเรียนศาสนาในประเทศเหล่านั้น
แน่นอนทีเดียว เขาเป็นแขกก็ต้องไปเรียนกับแขก เขาเป็นมุสลิมเขาก็ต้องไปเรียนโรงเรียนมุสลิม ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นโรงเรียนอะไร จนกระทั่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในอัฟกานิสถาน เป็นต้นมา ผมก็รู้ว่าโรงเรียนสอนศาสนาในประเทศมุสลิมจำนวนหมื่นๆ แห่งได้เปลี่ยนหลักสูตรจากการสอนเฉพาะคัมภีร์อัลกุรอานแล้วยังมีบทเรียนเพิ่มเติมขึ้นมาอีกบทหนึ่งคือคำสอนของมาร์กซ์-เลนิน ซึ่งดำเนินการโดยซีไอเอจากอเมริกาที่การก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรามีซีไอเอดูแลควบคุมอยู่แล้ว ทั้งยุทธศาสตร์ยุทธวิธี และอุดมการณ์ของขบวนการก่อการร้ายพวกนี้จะเหมือนกันทั่วโลก พวกเขาไม่ได้โง่อย่างที่เราคิดกัน
คอยดูกันต่อไปนานๆ แล้วอาจจะรู้สึก
การมอบตัวของผู้ไม่หวังดีที่ทำกันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น วันหนึ่งจะรับไม่ไหว
มันเป็นยุทธวิธีที่เราอาจจะเรียกได้ว่าอัฐยายซื้อขนมยาย
คนเหล่านั้นไม่มีใครที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมืองซึ่งเขาได้อาศัยมันเกิดมา
ผมเคยอยู่เคยกินที่ภาคใต้ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็นสิบๆ ปี ผมไม่เห็นคนไทยที่นั่นแปลกแยกแตกต่างไปกว่าคนไทยในภาคอีสานหรือเขมรในบุรีรัมย์
ทุกคนทุกชีวิตเป็นไทยทั้งสิ้น
แต่ตลอดเวลาที่เขาเกิดมา และอยู่แผ่นดินเดียวกันกับคนไทยทุกคนที่เกิดมา เราไม่เคยเอาใจใส่ดูแลอะไรเขา เฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา ไม่มีใครเคยบอกกล่าวถึงภาระหน้าที่เขาจะต้องทำต่อประเทศชาติ
คนเหล่านี้เมื่อเติบโตขึ้นมา เขาไม่เคยรู้ว่าจะต้องไปทำมาหากินอะไร และต้องอยู่อย่างไร นอกจากคนที่ยอมโง่ที่สุดที่รู้แต่เพียงว่าตัวเองจะต้องไปรับจ้างกรีดยางเท่านั้น
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยเป็นแผ่นดินที่คนไทยจำนวนมากยอมเป็นคอมมิวนิสต์และสู้รบกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาแล้วอย่างไม่เคยแคร์ว่าจะต้องหวังดีหรือไม่หวังดี แต่ที่คนไทยมันต้องเป็นคอมมิวนิสต์ที่ทำให้เมืองไทยฉิบหายไปไม่รู้เท่าไรก็เพราะผู้ปกครองบ้านเมืองเรามันโง่เท่านั้นเอง
คิดอย่างที่คิดกันอยู่ทุกวันนี้ คือทอดทิ้ง ไม่เอาใจดูหูใส่ ปล่อยให้รากหญ้าที่จะแทรกไปตรงไหนก็ตามที่มันจะไปได้ก็ไม่ทำกัน ก็มัวแต่ตั้งทฤษฎีโง่ๆ เอาไว้ว่าไม่รักชาติ ไม่หวังดี
โดยบทความนี้ ผมขอบอกกันอย่างตรงไปตรงมาว่า จากความคิดที่คับแคบเพียงเท่านี้ การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะแก้ไม่มีวันสำเร็จได้อีกหลายร้อยปีข้างหน้า
ยกเว้นแต่ว่านักแก้ปัญหาเหล่านี้จะลืมตาดูโลกให้กว้างขึ้น พยายามทำความเข้าใจต่อปัญหาพื้นฐานที่มันทำให้การก่อการร้ายเกิดขึ้น พยายามรู้จักคนมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยใจที่กว้างกว่าธรรมดาสักเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าได้ยินข่าวจิ้งหรีดตุ๊กแกร้องก็จับมาเข้าคุกฟ้องศาลเล่นสองปีสามปีแล้วก็ปล่อยไปอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งผมขอยืนยันได้ว่าผลลัพธ์จะมีเพียงอย่างเดียวคือ ความฉิบหาย!
และที่ไปคิดว่าคนมุสลิมนั้นโง่กว่านายพลเมืองไทยหรือด็อกเตอร์เมืองไทยนั้นลืมได้แล้ว ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้เกิดมาจากคนมุสลิมหรือ แขก ที่มีความคิดความรู้พอที่จะนำปรัชญามาร์กซ์-เลนินมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้กับพวกนอกศาสนาของเขา แต่คนที่พ่อแม่มีการศึกษา มีฐานะ และรู้จักโลกและชีวิตมาก ก็ส่งลูกหลานออกไปยังประเทศมุสลิมทุกประเทศเท่าที่มีอยู่ในโลกไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ซาอุดีอาระเบีย แม้แต่โรงเรียนสอนวิชาการก่อการร้ายหรือขบวนการมูจาฮีดีนที่มีอยู่เป็นหมื่นๆ แห่งในประเทศมุสลิม เด็กหนุ่มไทยเหล่านี้ได้ไปศึกษาเล่าเรียนมาอย่างถึงรากถึงโคน
คนเหล่านี้มีสติปัญญา และไม่มีอะไรที่เขาจะต้องหลงผิด
แต่เขาจะตัดสินใจและทำด้วยความตั้งใจที่จะทำ และทำชนิดที่พร้อมจะตายเพื่อให้ได้พบพระผู้เป็นเจ้าที่รอเขาอยู่
คนที่หลงผิดโดยเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกนั้นไม่เคยมี
การมีผู้ก่อการร้ายและเราต้องสู้กับผู้ก่อการร้ายนั้นไม่ได้มีสาเหตุอะไร แต่มันเกิดจากความโง่เขลาของชนชั้นปกครองของเราเอง
เราพยายามอยู่อย่างสุขสบาย ใครมีอำนาจก็ใช้อำนาจแสวงสุขกันไปตามลำพัง และอาจจะกล่าวได้ว่า ประเทศไทยหรือชนชั้นปกครองของไทยนั้นเป็นพวกมนุษย์ที่สร้างความผิดพลาดให้แก่ชาติบ้านเมืองติดต่อกันมาเป็นเวลาร้อยๆ ปี ด้วยความผิดพลาด 3 ประการคือ (1) ทอดทิ้งประชาชน (2) คอร์รัปชันและกอบโกยทุกอย่าง (3) อยู่ด้วยความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับชนชั้นปกครอง
ในขณะเดียวกัน เจ้านายหรือผู้มีอำนาจบารมีที่ทำหน้าที่รับมอบในความขัดแย้งจนมีการประท้วงนั้น ก็จะเรียกตำรวจมาคอยห้ามปรามดูแล ตัวเองก็คงจะต้องนั่งกินนอนกินเงินเดือนเป็นหมื่นเป็นแสนกันอย่างสบายๆ หรือดำเนินกิจการคอร์รัปชันและวางโครงการคอร์รัปชันอันอึกทึกครึกโครมต่อไป
หรือไม่หาทางทำให้นักการเมืองท้องต่อไป หลังจากทำให้ดารารายหนึ่งอื้อฉาวมาแล้ว
เมืองไทยโดยสรุปแล้ว จะเห็นว่าคนยากคนจนหรือพวกรากหญ้า ไม่ควรจะเกิดมาเป็นคนไทย เพราะประเทศชาติที่เป็นแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลแต่คนยากคนจนเป็นล้านๆ คนไม่มีใครเคยมีสติปัญญาที่จะสร้างให้คนเหล่านี้มีความรู้ความสามารถพอที่จะพัฒนาประเทศชาติ และตัวเองให้สามารถทำมาหากินและแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าปัจจุบันนี้ได้
เพราะฉะนั้น คนไทยที่เกิดมาในแผ่นดินนี้ส่วนมากจะเป็นคนรากหญ้าหรือบ้านนอกที่เพียงแต่รู้สึกเกิดมาและมีพ่อแม่ทำให้เกิดมาเท่านั้น แต่เมื่อเกิดมาแล้วจะไปทำมาหากินอะไรและอยู่อย่างไร ชนชั้นปกครองไทยไม่เคยสนใจที่จะสร้างให้เป็นคนที่มีคุณค่าหรือทำประโยชน์อะไรในการมีชีวิตอยู่ หรือทำให้ประเทศชาติมั่งคั่งร่ำรวยขึ้น
นั่นเป็นความบกพร่อง ความโง่เขลาของชั้นปกครองในชาติที่มีมาหลายร้อยปี
ทุกวันนี้ จึงปรากฏว่าเรามีประชากร 60 กว่าล้านคน แต่ทุกคนจะไม่มีที่ทำมาหากินอย่างเพียงพอหรือไม่มีที่ทำกินกันเลย
ทุกวันนี้ คนไทยพอลืมตาเกิดขึ้นมา หลังจากกินนมแม่จนหมดนมแล้วจะโตขึ้น พออายุได้เกณฑ์เข้าโรงเรียนก็ไปเรียนหนังสือให้จบชั้นประถม 4 พออ่านออกเขียนได้ ซึ่งการอ่านออกเขียนได้ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร นอกจากพยายามดิ้นรนเข้าไปเรียนต่อในเมืองใหญ่ๆ ถ้ามีเงินพอหรือเข้าไปกรุงเทพฯ เพื่อหางานทำที่จะมีโอกาสได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันไปวันๆ ทางด้านคนที่เกิดมาเป็นลูกผู้หญิงก็เข้ามาเป็นคนรับใช้ เป็นหมอนวด บางส่วนที่เป็น คนชอบสนุกสนานก็ไปเที่ยวยืนขายตัวตามสถานที่ที่มีผู้ชายเที่ยวตามดมกลิ่นอยู่ อาจจะมีท้องแล้วไปทำแท้งหรือไปคลอดลูกในส้วมหรือไม่ก็เป็นโรคเอดส์ไปเลย
และไม่มีใครสนใจแต่อย่างใด แม้แต่ตัวเจ้าทุกข์เอง ก็ตัวใครตัวมัน
นั่นเป็นผลจากความยากจน
ไม่มีการเรียนรู้หรือการเตรียมตัวที่จะช่วยให้มีชีวิตอยู่อย่างมีประโยชน์
ทางด้านพ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ส่วนมากก็จะเล่นหวยที่ทางรัฐบาลสนับสนุนและเปิดโอกาสให้เล่นเพราะรัฐบาลเป็นเจ้ามือเองซื้อขายเอง เพื่อเอากำไรไปจัดตั้งหวังคะแนนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป อีกฝ่ายหนึ่งได้แก่พ่อค้า และนักธุรกิจที่เที่ยววิ่งติดสินบนในการประมูลงานของรัฐบาลอยู่ ในขณะที่นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชนเราโกหกหลอกลวงว่าจะเป็นตัวแทนของประชาชนในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขที่มีมากกว่า 300 คนในพรรครัฐบาลต่างก็พากันก้มหน้าสามัคคีร่วมใจมอบอำนาจหน้าที่ให้แก่หัวหน้าและคนสำคัญของพรรคเอาชื่อไปทำมาหากินกันอยู่ หรือบางคนก็อาจจะไปทำข่าวในทางด้านเพศสัมพันธ์ที่ทำให้สมาชิกพรรคบางคนหรือนักการเมืองสามารถมีท้องได้โดยไม่มีใคร ขัดขวาง
จากนั้นคนไทยทุกคนก็จะเผชิญทุกข์ภัยกับความทุกข์ยาก และความอดอยากยากแค้นไปตามเวรตามกรรมของแต่ละคน
หน้าที่ของคนไทยและชาติไทยคือการทอดทิ้งประชาชน และการคอร์รัปชัน
ทางด้านคนบ้านนอกหรือพวกรากหญ้า พวกที่ไม่มีบุญวาสนาหรือไม่ได้เป็นนักการเมืองขนาดใหญ่ ก็จะพากันเดินขบวนไปประท้วง ไม่ว่าใครจะพาไปที่ไหนก็ไป ไม่ว่าจะไปอดอยากที่ไหนก็จะไปร่วมกับพรรคพวก ได้อะไรหรือไม่ได้อะไรจะขึ้นอยู่กับหัวหน้าหรือผู้นำในการเดินขบวนประท้วงนั้น ซึ่งมักจะเป็นพวกที่มีความเห็นแตกต่างกัน และมีผลประโยชน์ไม่ตรงกัน แต่ส่วนมากไม่ได้อะไรเลย นอกจากเหนื่อยเปล่าซึ่งจะเห็นได้จากการชุมนุมของประชาชนหลายพวกหลายกลุ่มในขณะนี้
แต่ก็ต้องยอมเหนื่อยยาก เพราะอยู่บ้านว่างๆ มันก็ไม่มีจะกินหรือจะต้องอดตาย ถ้าจะไปกับเขาพรรคพวกเพื่อนฝูงที่มีชะตากรรมอันเดียวกันก็ทำให้กระปรี้กระเปร่าหรือมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง ดีกว่าเป็นคนสามัญ
จนกระทั่งบัดนี้ บรรดาเจ้ากรรมนายเวรผู้มีบุญมีอำนาจที่บริหารประเทศชาติอยู่ ยังไม่เคยสำนึกถึงเวรกรรมที่ตนเองได้ทอดทิ้งผู้คนที่เป็นรากหญ้าของแผ่นดินที่ทำให้ทุกคนเกิดมาเพื่อแสวงหาทางเดินของชีวิตตัวเองที่แสบที่สุด นั่นคือสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พยายามออกข่าวเอาดี และอวดอ้างความสามารถของรัฐบาลและชนชั้นปกครองของบ้านเมืองว่าสถานการณ์ในภาคใต้ดีขึ้นมาแล้วเพราะมีพวกที่ไม่หวังดี และพวกที่หลงผิดจำนวนหนึ่งที่ได้ร่วมมือกับผู้ก่อการร้ายได้เข้ามามอบตัวกัน ทำให้เชื่อว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พยายามแก้มาสองปีแล้วจะยุติลง
คำอวดอ้างเหล่านี้ ถ้าหากเป็นชาวบ้านชาวช่องที่ภาคใต้พูดกัน ก็อาจจะต้อง “ถุย!” น้ำลายหลายครั้งหลายหนว่าที่พูดนั้นโกหก และไม่มียางอายเอาเลย!!
การที่อ้างว่าคนเหล่านั้นเป็น ผู้หลงผิด หรือ ไม่หวังดี ต่อบ้านเมืองนั้น เป็นการพูดที่เอาดีเข้าตัวเองของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และเป็นการพูดที่โง่เขลาที่สุด
เพราะคนเหล่านั้นก็คือ คนไทย หรือไม่มีอะไรแตกต่างไปจากคนไทย คนเหล่านี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนไม่เคยบอกใครได้เต็มปากเลยว่าเป็นคนมลายู เขามีความแตกต่างจากคนไทยที่เป็นไทยกะล่อนจำนวนมากก็ตรงที่เขานับถือศาสนาอิสลามตามบรรพบุรุษของเขา แต่อย่างอื่นเขาเป็นไม่ได้ เพราะที่เขาเกิดนั้นเขาเกิดในเมืองไทย ภายใต้วัฒนธรรมประเพณีไทยที่ล้อมอยู่ เขาจะไม่มีวันเป็นคนชาติอื่นไปได้ เช่นเดียวกับคนจีนที่เกิดในเมืองไทยที่เป็นใหญ่เป็นโตกินบ้านกินเมืองอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเขาเป็นคนชาติอื่นไปไม่ได้เพราะตัวเขา พ่อแม่ของเขาเกิดในเมืองไทย
เขาไม่มีอะไรแตกต่างไปจากชาวมอญ กะเหรี่ยง หรือพวกชาวเขาชาวดอยทั้งหมดในภาคเหนือของไทย
คนเหล่านั้น ผมรับรองว่าไม่มีใครเคยหลงผิดในเรื่องใดๆ
คนเหล่านั้นไม่เป็นคนที่มีความไม่หวังดีใดๆ
แต่เขาเอาในสิ่งที่เขาได้รู้ได้เห็นและได้เล่าเรียนศึกษามาว่า เขาคือประชาชนที่ถูกทอดทิ้ง ประชาชนมีแผ่นดินเกิด แต่รัฐบาลไทยไม่ยอมรับการเกิดของเขา ดูถูกเหยียดหยามและดูแคลนพวกเขาตั้งแต่หัวจดตีน
เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมเขาจะต้องมาปรารถนาดีต่อแผ่นดินไทย และคนไทยที่เหยียบย่ำทำลายเขา?
ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นพ่อคนแม่คนอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ในอำเภอจะนะ เทพา เรื่อยไป ผมเคยถามถึงเรื่องลูกเต้าของเขาที่ผมเคยเห็นมาแต่อ้อนแต่ออก แต่บัดนี้มันไปไหนเสีย เขาพากันตอบสั้นๆ ว่า ปากีสถาน หรือไม่งั้นก็ ซาอุดีอาระเบีย
คนเหล่านี้ส่งลูกไปเรียนโรงเรียนศาสนาในประเทศเหล่านั้น
แน่นอนทีเดียว เขาเป็นแขกก็ต้องไปเรียนกับแขก เขาเป็นมุสลิมเขาก็ต้องไปเรียนโรงเรียนมุสลิม ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นโรงเรียนอะไร จนกระทั่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในอัฟกานิสถาน เป็นต้นมา ผมก็รู้ว่าโรงเรียนสอนศาสนาในประเทศมุสลิมจำนวนหมื่นๆ แห่งได้เปลี่ยนหลักสูตรจากการสอนเฉพาะคัมภีร์อัลกุรอานแล้วยังมีบทเรียนเพิ่มเติมขึ้นมาอีกบทหนึ่งคือคำสอนของมาร์กซ์-เลนิน ซึ่งดำเนินการโดยซีไอเอจากอเมริกาที่การก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรามีซีไอเอดูแลควบคุมอยู่แล้ว ทั้งยุทธศาสตร์ยุทธวิธี และอุดมการณ์ของขบวนการก่อการร้ายพวกนี้จะเหมือนกันทั่วโลก พวกเขาไม่ได้โง่อย่างที่เราคิดกัน
คอยดูกันต่อไปนานๆ แล้วอาจจะรู้สึก
การมอบตัวของผู้ไม่หวังดีที่ทำกันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น วันหนึ่งจะรับไม่ไหว
มันเป็นยุทธวิธีที่เราอาจจะเรียกได้ว่าอัฐยายซื้อขนมยาย
คนเหล่านั้นไม่มีใครที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมืองซึ่งเขาได้อาศัยมันเกิดมา
ผมเคยอยู่เคยกินที่ภาคใต้ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็นสิบๆ ปี ผมไม่เห็นคนไทยที่นั่นแปลกแยกแตกต่างไปกว่าคนไทยในภาคอีสานหรือเขมรในบุรีรัมย์
ทุกคนทุกชีวิตเป็นไทยทั้งสิ้น
แต่ตลอดเวลาที่เขาเกิดมา และอยู่แผ่นดินเดียวกันกับคนไทยทุกคนที่เกิดมา เราไม่เคยเอาใจใส่ดูแลอะไรเขา เฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา ไม่มีใครเคยบอกกล่าวถึงภาระหน้าที่เขาจะต้องทำต่อประเทศชาติ
คนเหล่านี้เมื่อเติบโตขึ้นมา เขาไม่เคยรู้ว่าจะต้องไปทำมาหากินอะไร และต้องอยู่อย่างไร นอกจากคนที่ยอมโง่ที่สุดที่รู้แต่เพียงว่าตัวเองจะต้องไปรับจ้างกรีดยางเท่านั้น
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยเป็นแผ่นดินที่คนไทยจำนวนมากยอมเป็นคอมมิวนิสต์และสู้รบกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาแล้วอย่างไม่เคยแคร์ว่าจะต้องหวังดีหรือไม่หวังดี แต่ที่คนไทยมันต้องเป็นคอมมิวนิสต์ที่ทำให้เมืองไทยฉิบหายไปไม่รู้เท่าไรก็เพราะผู้ปกครองบ้านเมืองเรามันโง่เท่านั้นเอง
คิดอย่างที่คิดกันอยู่ทุกวันนี้ คือทอดทิ้ง ไม่เอาใจดูหูใส่ ปล่อยให้รากหญ้าที่จะแทรกไปตรงไหนก็ตามที่มันจะไปได้ก็ไม่ทำกัน ก็มัวแต่ตั้งทฤษฎีโง่ๆ เอาไว้ว่าไม่รักชาติ ไม่หวังดี
โดยบทความนี้ ผมขอบอกกันอย่างตรงไปตรงมาว่า จากความคิดที่คับแคบเพียงเท่านี้ การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะแก้ไม่มีวันสำเร็จได้อีกหลายร้อยปีข้างหน้า
ยกเว้นแต่ว่านักแก้ปัญหาเหล่านี้จะลืมตาดูโลกให้กว้างขึ้น พยายามทำความเข้าใจต่อปัญหาพื้นฐานที่มันทำให้การก่อการร้ายเกิดขึ้น พยายามรู้จักคนมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยใจที่กว้างกว่าธรรมดาสักเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าได้ยินข่าวจิ้งหรีดตุ๊กแกร้องก็จับมาเข้าคุกฟ้องศาลเล่นสองปีสามปีแล้วก็ปล่อยไปอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งผมขอยืนยันได้ว่าผลลัพธ์จะมีเพียงอย่างเดียวคือ ความฉิบหาย!
และที่ไปคิดว่าคนมุสลิมนั้นโง่กว่านายพลเมืองไทยหรือด็อกเตอร์เมืองไทยนั้นลืมได้แล้ว ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้เกิดมาจากคนมุสลิมหรือ แขก ที่มีความคิดความรู้พอที่จะนำปรัชญามาร์กซ์-เลนินมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้กับพวกนอกศาสนาของเขา แต่คนที่พ่อแม่มีการศึกษา มีฐานะ และรู้จักโลกและชีวิตมาก ก็ส่งลูกหลานออกไปยังประเทศมุสลิมทุกประเทศเท่าที่มีอยู่ในโลกไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ซาอุดีอาระเบีย แม้แต่โรงเรียนสอนวิชาการก่อการร้ายหรือขบวนการมูจาฮีดีนที่มีอยู่เป็นหมื่นๆ แห่งในประเทศมุสลิม เด็กหนุ่มไทยเหล่านี้ได้ไปศึกษาเล่าเรียนมาอย่างถึงรากถึงโคน
คนเหล่านี้มีสติปัญญา และไม่มีอะไรที่เขาจะต้องหลงผิด
แต่เขาจะตัดสินใจและทำด้วยความตั้งใจที่จะทำ และทำชนิดที่พร้อมจะตายเพื่อให้ได้พบพระผู้เป็นเจ้าที่รอเขาอยู่
คนที่หลงผิดโดยเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกนั้นไม่เคยมี
การมีผู้ก่อการร้ายและเราต้องสู้กับผู้ก่อการร้ายนั้นไม่ได้มีสาเหตุอะไร แต่มันเกิดจากความโง่เขลาของชนชั้นปกครองของเราเอง
เราพยายามอยู่อย่างสุขสบาย ใครมีอำนาจก็ใช้อำนาจแสวงสุขกันไปตามลำพัง และอาจจะกล่าวได้ว่า ประเทศไทยหรือชนชั้นปกครองของไทยนั้นเป็นพวกมนุษย์ที่สร้างความผิดพลาดให้แก่ชาติบ้านเมืองติดต่อกันมาเป็นเวลาร้อยๆ ปี ด้วยความผิดพลาด 3 ประการคือ (1) ทอดทิ้งประชาชน (2) คอร์รัปชันและกอบโกยทุกอย่าง (3) อยู่ด้วยความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับชนชั้นปกครอง
ในขณะเดียวกัน เจ้านายหรือผู้มีอำนาจบารมีที่ทำหน้าที่รับมอบในความขัดแย้งจนมีการประท้วงนั้น ก็จะเรียกตำรวจมาคอยห้ามปรามดูแล ตัวเองก็คงจะต้องนั่งกินนอนกินเงินเดือนเป็นหมื่นเป็นแสนกันอย่างสบายๆ หรือดำเนินกิจการคอร์รัปชันและวางโครงการคอร์รัปชันอันอึกทึกครึกโครมต่อไป
หรือไม่หาทางทำให้นักการเมืองท้องต่อไป หลังจากทำให้ดารารายหนึ่งอื้อฉาวมาแล้ว
เมืองไทยโดยสรุปแล้ว จะเห็นว่าคนยากคนจนหรือพวกรากหญ้า ไม่ควรจะเกิดมาเป็นคนไทย เพราะประเทศชาติที่เป็นแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลแต่คนยากคนจนเป็นล้านๆ คนไม่มีใครเคยมีสติปัญญาที่จะสร้างให้คนเหล่านี้มีความรู้ความสามารถพอที่จะพัฒนาประเทศชาติ และตัวเองให้สามารถทำมาหากินและแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าปัจจุบันนี้ได้
เพราะฉะนั้น คนไทยที่เกิดมาในแผ่นดินนี้ส่วนมากจะเป็นคนรากหญ้าหรือบ้านนอกที่เพียงแต่รู้สึกเกิดมาและมีพ่อแม่ทำให้เกิดมาเท่านั้น แต่เมื่อเกิดมาแล้วจะไปทำมาหากินอะไรและอยู่อย่างไร ชนชั้นปกครองไทยไม่เคยสนใจที่จะสร้างให้เป็นคนที่มีคุณค่าหรือทำประโยชน์อะไรในการมีชีวิตอยู่ หรือทำให้ประเทศชาติมั่งคั่งร่ำรวยขึ้น
นั่นเป็นความบกพร่อง ความโง่เขลาของชั้นปกครองในชาติที่มีมาหลายร้อยปี
ทุกวันนี้ จึงปรากฏว่าเรามีประชากร 60 กว่าล้านคน แต่ทุกคนจะไม่มีที่ทำมาหากินอย่างเพียงพอหรือไม่มีที่ทำกินกันเลย
ทุกวันนี้ คนไทยพอลืมตาเกิดขึ้นมา หลังจากกินนมแม่จนหมดนมแล้วจะโตขึ้น พออายุได้เกณฑ์เข้าโรงเรียนก็ไปเรียนหนังสือให้จบชั้นประถม 4 พออ่านออกเขียนได้ ซึ่งการอ่านออกเขียนได้ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร นอกจากพยายามดิ้นรนเข้าไปเรียนต่อในเมืองใหญ่ๆ ถ้ามีเงินพอหรือเข้าไปกรุงเทพฯ เพื่อหางานทำที่จะมีโอกาสได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันไปวันๆ ทางด้านคนที่เกิดมาเป็นลูกผู้หญิงก็เข้ามาเป็นคนรับใช้ เป็นหมอนวด บางส่วนที่เป็น คนชอบสนุกสนานก็ไปเที่ยวยืนขายตัวตามสถานที่ที่มีผู้ชายเที่ยวตามดมกลิ่นอยู่ อาจจะมีท้องแล้วไปทำแท้งหรือไปคลอดลูกในส้วมหรือไม่ก็เป็นโรคเอดส์ไปเลย
และไม่มีใครสนใจแต่อย่างใด แม้แต่ตัวเจ้าทุกข์เอง ก็ตัวใครตัวมัน
นั่นเป็นผลจากความยากจน
ไม่มีการเรียนรู้หรือการเตรียมตัวที่จะช่วยให้มีชีวิตอยู่อย่างมีประโยชน์
ทางด้านพ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ส่วนมากก็จะเล่นหวยที่ทางรัฐบาลสนับสนุนและเปิดโอกาสให้เล่นเพราะรัฐบาลเป็นเจ้ามือเองซื้อขายเอง เพื่อเอากำไรไปจัดตั้งหวังคะแนนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป อีกฝ่ายหนึ่งได้แก่พ่อค้า และนักธุรกิจที่เที่ยววิ่งติดสินบนในการประมูลงานของรัฐบาลอยู่ ในขณะที่นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชนเราโกหกหลอกลวงว่าจะเป็นตัวแทนของประชาชนในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขที่มีมากกว่า 300 คนในพรรครัฐบาลต่างก็พากันก้มหน้าสามัคคีร่วมใจมอบอำนาจหน้าที่ให้แก่หัวหน้าและคนสำคัญของพรรคเอาชื่อไปทำมาหากินกันอยู่ หรือบางคนก็อาจจะไปทำข่าวในทางด้านเพศสัมพันธ์ที่ทำให้สมาชิกพรรคบางคนหรือนักการเมืองสามารถมีท้องได้โดยไม่มีใคร ขัดขวาง
จากนั้นคนไทยทุกคนก็จะเผชิญทุกข์ภัยกับความทุกข์ยาก และความอดอยากยากแค้นไปตามเวรตามกรรมของแต่ละคน
หน้าที่ของคนไทยและชาติไทยคือการทอดทิ้งประชาชน และการคอร์รัปชัน