“เบนมอร์ “ยึดฐานเชียงใหม่ เปิดสนามรบคู่แข่ง “ฮันเดรท ไพเพอร์ส” หลังพบยอดขาย 8 เดือนโตเกินเป้า 40% เขย่าฐานลูกค้าคู่แข่งได้สำเร็จ เดินหน้าขยายช่อทางจำหน่ายเพิ่มตามร้าน ผับ บาร์ หลังพบร้านเหล้าที่เชียงใหม่แข่งดุ จึงไม่คิดค่าบริการเปิดขวด ส่งผลดีเหล้าใหม่รับอานิสงส์แทรกตลาดได้ง่าย หากราคาและคุณภาพเป็นที่พอใจของลูกค้า
นางสาวศนิตา คาจิจิ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ริชมอนเด้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าวิสกี้ตราเบนมอร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัว เบนมอร์ เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีการเติบโตของยอดขายที่รวดเร็วเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 40% ซึ่งเป็นผลมาจาก กลุ่มผู้บริโภค และผู้แทนจำหน่าย ทางภาคเหนือ ที่สามารถกระจายสินค้าได้ถึง 90%
โดยการเติบโตของเบนมอร์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นการแย่งส่วนแบ่งตลาดมาจากฮันเดรท ไพเพอร์ส ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในเหล้ากลุ่มนี้ ประกอบกับเบนมอร์ เป็นเหล้าที่มีคุณภาพสมราคา และมีภาพพจน์ที่ดีในสายตาของผู้บริโภคประกอบกับผู้แทนจำหน่ายก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้สภาพตลาดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จังหวัดเชียงใหม่ มีสัดส่วนยอดขาย 80% ของยอดขายเบนมอร์ในภาคเหนือ แต่หากนับรวมยอดขาย เบนมอร์ทั้งประเทศ ภาคเหนือจะเป็นลำดับสองในสัดส่วน 25% หรือคิดเป็นตัวเลข 680, 000 ลัง ดังนั้นจึงถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญในการทำธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สำคัญไม่แพ้กับตลาดภาคกลางที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพ เป็นหลัก
ดังนั้นบริษัท จึงได้วางแผนการตลาดเพิ่มเติม ด้วยการขยายช่องทางจัดจำหน่ายในร้านค้ากลางคืน เช่น ผับ บาร์ และร้านอาหาร เป็นต้น โดยเพิ่มจาก 31 แห่ง ในปี 2547 เป็น 64 แห่ง ในปี 2548 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในที่นี้เป็นร้านเอ็กซ์คูซีพจำนวน 20 แห่ง สาเหตุสำคัญที่ต้องเน้นการขยายจุดขายในช่องทางจำหน่ายดังกล่าว เพราะพฤติกรรมการดื่มของคนเชียงใหม่ส่วนใหญ่ จะซื้อเข้าไปดื่มในร้านค้า เพราะร้านค้าที่เชียงใหม่ไม่มีการบังคับขายเหล้าเหมือนกับร้านในกรุงเทพ จึงเป็นสาเหตุให้สินค้าใหม่มีโอกาสเข้ามาในตลาดอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่พร้อมจะทดลองสินค้าใหม่อยู่ตลาดเวลา จึงทำให้เบนมอร์สามารถโตเติบได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของตลาดเชียงใหม่ ที่บริษัทมองเห็นในขณะนี้ คือ เป็นเมืองท่องเที่ยว และเมืองเศรษฐกิจที่ดี ผู้คนนิยมเที่ยวผับบาร์ โดยมีตัวเลขเฉลี่ยคนในพื้นที่อื่นอาทิตย์ละครั้งคิดเป็นตัวเลข 20% แต่เมื่อเทียบกับคนในจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉลี่ย 40% ส่งผลให้ การแข่งขันของธุรกิจกลางคืนในจังหวัดเชียงใหม่มีความคึกคัก และรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าจึงไม่กล้าที่จะคิดค่าเปิดขวดหากลูกค้านำเข้ามาดื่ม และแนวโน้มการเป็นร้านค้าที่ขายเฉพาะสินค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง นั้นยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพราะเกรงว่าจะมีสินค้าให้ลูกค้าเลือกได้น้อยเกินไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดเชียงใหม่ เหล้าในเซกเมนต์เซกกันดารี่ หรือเหล้าสแตนดาร์ ที่มีระดับราคา 200-300บาทมีอัตราการเติบโตสูง ทั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภค ต้องการสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ครอบคลุมทุกด้านทั้งเรื่องราคา ภาพพจน์ คุณภาพ ดังนั้นเบนมอร์ จึงกลายสินค้าทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค นอกเหนือจากแบรนด์คู่แข่งคือฮันเดรทไพเพอร์ ที่เป็นผู้นำตลาดอยู่ในปัจจุบัน
นางสาวศนิตา คาจิจิ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ริชมอนเด้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าวิสกี้ตราเบนมอร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัว เบนมอร์ เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีการเติบโตของยอดขายที่รวดเร็วเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 40% ซึ่งเป็นผลมาจาก กลุ่มผู้บริโภค และผู้แทนจำหน่าย ทางภาคเหนือ ที่สามารถกระจายสินค้าได้ถึง 90%
โดยการเติบโตของเบนมอร์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นการแย่งส่วนแบ่งตลาดมาจากฮันเดรท ไพเพอร์ส ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในเหล้ากลุ่มนี้ ประกอบกับเบนมอร์ เป็นเหล้าที่มีคุณภาพสมราคา และมีภาพพจน์ที่ดีในสายตาของผู้บริโภคประกอบกับผู้แทนจำหน่ายก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้สภาพตลาดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จังหวัดเชียงใหม่ มีสัดส่วนยอดขาย 80% ของยอดขายเบนมอร์ในภาคเหนือ แต่หากนับรวมยอดขาย เบนมอร์ทั้งประเทศ ภาคเหนือจะเป็นลำดับสองในสัดส่วน 25% หรือคิดเป็นตัวเลข 680, 000 ลัง ดังนั้นจึงถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญในการทำธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สำคัญไม่แพ้กับตลาดภาคกลางที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพ เป็นหลัก
ดังนั้นบริษัท จึงได้วางแผนการตลาดเพิ่มเติม ด้วยการขยายช่องทางจัดจำหน่ายในร้านค้ากลางคืน เช่น ผับ บาร์ และร้านอาหาร เป็นต้น โดยเพิ่มจาก 31 แห่ง ในปี 2547 เป็น 64 แห่ง ในปี 2548 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในที่นี้เป็นร้านเอ็กซ์คูซีพจำนวน 20 แห่ง สาเหตุสำคัญที่ต้องเน้นการขยายจุดขายในช่องทางจำหน่ายดังกล่าว เพราะพฤติกรรมการดื่มของคนเชียงใหม่ส่วนใหญ่ จะซื้อเข้าไปดื่มในร้านค้า เพราะร้านค้าที่เชียงใหม่ไม่มีการบังคับขายเหล้าเหมือนกับร้านในกรุงเทพ จึงเป็นสาเหตุให้สินค้าใหม่มีโอกาสเข้ามาในตลาดอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่พร้อมจะทดลองสินค้าใหม่อยู่ตลาดเวลา จึงทำให้เบนมอร์สามารถโตเติบได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของตลาดเชียงใหม่ ที่บริษัทมองเห็นในขณะนี้ คือ เป็นเมืองท่องเที่ยว และเมืองเศรษฐกิจที่ดี ผู้คนนิยมเที่ยวผับบาร์ โดยมีตัวเลขเฉลี่ยคนในพื้นที่อื่นอาทิตย์ละครั้งคิดเป็นตัวเลข 20% แต่เมื่อเทียบกับคนในจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉลี่ย 40% ส่งผลให้ การแข่งขันของธุรกิจกลางคืนในจังหวัดเชียงใหม่มีความคึกคัก และรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าจึงไม่กล้าที่จะคิดค่าเปิดขวดหากลูกค้านำเข้ามาดื่ม และแนวโน้มการเป็นร้านค้าที่ขายเฉพาะสินค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง นั้นยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพราะเกรงว่าจะมีสินค้าให้ลูกค้าเลือกได้น้อยเกินไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดเชียงใหม่ เหล้าในเซกเมนต์เซกกันดารี่ หรือเหล้าสแตนดาร์ ที่มีระดับราคา 200-300บาทมีอัตราการเติบโตสูง ทั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภค ต้องการสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ครอบคลุมทุกด้านทั้งเรื่องราคา ภาพพจน์ คุณภาพ ดังนั้นเบนมอร์ จึงกลายสินค้าทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค นอกเหนือจากแบรนด์คู่แข่งคือฮันเดรทไพเพอร์ ที่เป็นผู้นำตลาดอยู่ในปัจจุบัน