ผู้จัดการรายวัน- รูดม่านปิดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2005 ยอดขายรถทะลุเป้า 17,138 คัน ปิกอัพแรงเขี่ยรถเก๋งตกกระป๋อง โตโยต้ายังรักษาแชมป์ยอดขายสูงสุด 5,464 คันทิ้งห่างอันดับ 2 อีซูซุกว่าเท่าตัว คาดการณ์ปีหน้ายังคงเป็นศึกรถปิกอัพ ส่วนตลาดเก๋งรถเล็กจะทำตลาดคึกคัก
นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 22” หรือ Motor Expo 2005 เปิดเผยถึง ตัวเลขยอดขายรถยนต์ในงาน ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า มีจำนวน 17,138 คัน สูงกว่าที่คาดไว้ 15,000 คัน ถึง 14.3 % และลดลงจากปีก่อนที่มียอด 18,181 คัน เพียง 5.7 % โดยวันสุดท้ายของงาน มีการขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2,925 คัน รองลงไปได้แก่วันที่ 11 และ 10 ธันวาคม ที่มียอดขาย 2,653 คัน และ 1,799 คัน ตามลำดับ
สำหรับรถที่มียอดขายติดท็อปเท็นได้แก่ อันดับ 1 แชมป์เก่าโตโยต้า 5,464 คัน มีส่วนแบ่ง 31.9 % อันดับ 2 อีซูซุ ด้วยยอดขาย 2,529 คัน ตามด้วย ฮอนด้ามาอยู่ที่ 3 ขายได้ 2,019 คัน อันดับ 4 เชฟโรเลต ยังรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้ ด้วยยอดขาย 1,868 คัน ส่วน มิตซูบิชิ ยังครองอันดับ 5 ด้วยยอดขาย 1,653 คัน โดย มาสด้า ตามมาเป็นอันดับ 6 ยอดขาย 923 คัน ส่วนอันดับ 7 เป็น ฟอร์ด ด้วยยอดขาย 919 คัน สลับกับ นิสสัน อันดับที่ 8 แม้ปีนี้จะมีโปรดักท์ใหม่แต่เป็นเอสยูวี ราคาสูง ส่วนรถปิกอัพก็ยังไม่ได้ใช้เครื่องยนต์คอมมอนเรล ยอดขายอยู่ที่ 629 คัน อันดับ 9 เป็นของแกรนด์แครี่บอย ยอดขาย 162 คัน อันดับ 10 ซังยอง ที่ขึ้นมาจากอันดับ 13 ในปีก่อน ด้วยยอดขาย 122 คันทั้งนี้ยืนยันว่ายอดดังกล่าว เป็นยอดขายจริงที่ผ่านการตรวจสอบกับข้อมูลของ ผู้ซื้อ ที่ส่งให้ผู้จัดเพื่อชิงรางวัลในรายการ “ซื้อรถ ชิงรถ” เรียบร้อยแล้ว
นายขวัญชัยกล่าวเสริมว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ปีนี้รถประเภทที่ขายดีที่สุดกลายเป็นรถปิกอัพ ขณะที่รถเก๋งไม่แรงเท่าที่ควร รวมทั้ง ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เนื่องจากเพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน ผู้บริโภคชาวไทย จึงต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลอีกสักระยะ การที่ตลาดปิกอัพเติบโตขึ้นมาก เนื่องจากปีนี้มีปัจจัยลบหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมัน เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทำให้สภาพเศรษฐกิจไม่มีความแน่นอน สิ่งเหล่านี้มีผลให้คนชะลอการตัดสินใจออกไป ประกอบกับพฤติกรรมการใช้รถของคนไทยเริ่มเปลี่ยนไป สังเกตจาก อีซูซุ ที่มียอดขายขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ขณะที่ โตโยต้า ปีนี้มี พรีรันเนอร์ รถปิกอัพขับ 2 ล้อยกสูง และตกแต่งเหมือนรถขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นรถธง ทำให้รถประเภทนี้กลายมาเป็นโปรดักท์แชมเปี้ยน ขณะที่ตลาดรถเก๋งลดลง”
ส่วนผู้เข้าชมงานปีนี้ เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 1,582,207 คน ลดลงจากปีก่อนเพียง 3.7% เพราะ แม้ในวันธรรมดาคนเข้าชมงานจะลดลงบ้าง แต่ในวันหยุดจำนวนผู้เข้าชมกลับมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงมาทดแทนกันพอดี โดยวันที่มีผู้เข้าชมงานมากที่สุด คือวันที่ 11 ธันวาคม จำนวน 228,000 คน
นายขวัญชัยยังกล่าวถึงทิศทางตลาดรถยนต์ในปี 2549 ว่าการแข่งขันจะเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะบริษัทรถยนต์ทุกแห่งจะหันมาเล่นสงคราม รถปิคอัพเครื่องยนต์คอมมอนเรล ซึ่งตอนนี้ยังมีอยู่ 3-4 รายที่ยังไม่ได้เปิดรถรุ่นใหม่และมีแผนที่จะเปิดตัวในปีหน้า โดยเฉพาะ นิสสัน ที่จะย้ายฐานผลิตมาเมืองไทยรถปิกอัพมาที่ไทย เพราะฉะนั้นปีหน้ายอดผลิตรถของไทยจะเพิ่มสูงขึ้น ส่วนที่ส่งออกก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนตลาดรถเก๋งขนาดเล็กโดยโตโยต้า เตรียมเปิดตัวรุ่น ยาริส ประมาณ มกราคม 2549 นี้ จึงคิดว่าในปีหน้าการแข่งขันในตลาดรถยนต์น่าจะคึกคักมากกว่าในปีนี้ นายขวัญชัยกล่าวทิ้งทาย
นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 22” หรือ Motor Expo 2005 เปิดเผยถึง ตัวเลขยอดขายรถยนต์ในงาน ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า มีจำนวน 17,138 คัน สูงกว่าที่คาดไว้ 15,000 คัน ถึง 14.3 % และลดลงจากปีก่อนที่มียอด 18,181 คัน เพียง 5.7 % โดยวันสุดท้ายของงาน มีการขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2,925 คัน รองลงไปได้แก่วันที่ 11 และ 10 ธันวาคม ที่มียอดขาย 2,653 คัน และ 1,799 คัน ตามลำดับ
สำหรับรถที่มียอดขายติดท็อปเท็นได้แก่ อันดับ 1 แชมป์เก่าโตโยต้า 5,464 คัน มีส่วนแบ่ง 31.9 % อันดับ 2 อีซูซุ ด้วยยอดขาย 2,529 คัน ตามด้วย ฮอนด้ามาอยู่ที่ 3 ขายได้ 2,019 คัน อันดับ 4 เชฟโรเลต ยังรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้ ด้วยยอดขาย 1,868 คัน ส่วน มิตซูบิชิ ยังครองอันดับ 5 ด้วยยอดขาย 1,653 คัน โดย มาสด้า ตามมาเป็นอันดับ 6 ยอดขาย 923 คัน ส่วนอันดับ 7 เป็น ฟอร์ด ด้วยยอดขาย 919 คัน สลับกับ นิสสัน อันดับที่ 8 แม้ปีนี้จะมีโปรดักท์ใหม่แต่เป็นเอสยูวี ราคาสูง ส่วนรถปิกอัพก็ยังไม่ได้ใช้เครื่องยนต์คอมมอนเรล ยอดขายอยู่ที่ 629 คัน อันดับ 9 เป็นของแกรนด์แครี่บอย ยอดขาย 162 คัน อันดับ 10 ซังยอง ที่ขึ้นมาจากอันดับ 13 ในปีก่อน ด้วยยอดขาย 122 คันทั้งนี้ยืนยันว่ายอดดังกล่าว เป็นยอดขายจริงที่ผ่านการตรวจสอบกับข้อมูลของ ผู้ซื้อ ที่ส่งให้ผู้จัดเพื่อชิงรางวัลในรายการ “ซื้อรถ ชิงรถ” เรียบร้อยแล้ว
นายขวัญชัยกล่าวเสริมว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ปีนี้รถประเภทที่ขายดีที่สุดกลายเป็นรถปิกอัพ ขณะที่รถเก๋งไม่แรงเท่าที่ควร รวมทั้ง ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เนื่องจากเพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน ผู้บริโภคชาวไทย จึงต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลอีกสักระยะ การที่ตลาดปิกอัพเติบโตขึ้นมาก เนื่องจากปีนี้มีปัจจัยลบหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมัน เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทำให้สภาพเศรษฐกิจไม่มีความแน่นอน สิ่งเหล่านี้มีผลให้คนชะลอการตัดสินใจออกไป ประกอบกับพฤติกรรมการใช้รถของคนไทยเริ่มเปลี่ยนไป สังเกตจาก อีซูซุ ที่มียอดขายขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ขณะที่ โตโยต้า ปีนี้มี พรีรันเนอร์ รถปิกอัพขับ 2 ล้อยกสูง และตกแต่งเหมือนรถขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นรถธง ทำให้รถประเภทนี้กลายมาเป็นโปรดักท์แชมเปี้ยน ขณะที่ตลาดรถเก๋งลดลง”
ส่วนผู้เข้าชมงานปีนี้ เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 1,582,207 คน ลดลงจากปีก่อนเพียง 3.7% เพราะ แม้ในวันธรรมดาคนเข้าชมงานจะลดลงบ้าง แต่ในวันหยุดจำนวนผู้เข้าชมกลับมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงมาทดแทนกันพอดี โดยวันที่มีผู้เข้าชมงานมากที่สุด คือวันที่ 11 ธันวาคม จำนวน 228,000 คน
นายขวัญชัยยังกล่าวถึงทิศทางตลาดรถยนต์ในปี 2549 ว่าการแข่งขันจะเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะบริษัทรถยนต์ทุกแห่งจะหันมาเล่นสงคราม รถปิคอัพเครื่องยนต์คอมมอนเรล ซึ่งตอนนี้ยังมีอยู่ 3-4 รายที่ยังไม่ได้เปิดรถรุ่นใหม่และมีแผนที่จะเปิดตัวในปีหน้า โดยเฉพาะ นิสสัน ที่จะย้ายฐานผลิตมาเมืองไทยรถปิกอัพมาที่ไทย เพราะฉะนั้นปีหน้ายอดผลิตรถของไทยจะเพิ่มสูงขึ้น ส่วนที่ส่งออกก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนตลาดรถเก๋งขนาดเล็กโดยโตโยต้า เตรียมเปิดตัวรุ่น ยาริส ประมาณ มกราคม 2549 นี้ จึงคิดว่าในปีหน้าการแข่งขันในตลาดรถยนต์น่าจะคึกคักมากกว่าในปีนี้ นายขวัญชัยกล่าวทิ้งทาย