บวรศักดิ์ชงเรื่องผ่านวิษณุเสนอครม.ปรับมติ"อวยพรปีใหม่"รวบ 9 ฉบับไว้ด้วยกัน กำหนดให้ ขรก.–รัฐวิสาหกิจ–ประชาชน งดจัดงานรื่นเริง เลิกสินค้าฟุ่มเฟือย ห้ามยกขบวนอวยพรเจ้านาย แนะส่ง ส.ค.ส.แทน เพื่อการประหยัด
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เสนอเรื่องการอวยพรวันขึ้นปีใหม่ ต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ (13 ธ.ค.)โดยขออนุมัติให้ยกเลิกมติครม.เกี่ยวกับการอวยพร การจัดงานรื่นเริง และการให้ของขวัญ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ จำนวน 9 ฉบับประกอบด้วย มติครม.วันที่ 23 ธ.ค.19, วันที่ 26 ธ.ค.21,วันที่ 13 พ.ย.22 ,วันที่ 23 ธ.ค.29, วันที่ 27 ธ.ค.33,วันที่ 29 ธ.ค.35, วันที่ 23 ธ.ค.40, วันที่ 22 ธ.ค.41 และวันที่ 29 ธ.ค. 41 ซึ่งมติ ครม.ทั้ง 9 ฉบับนี้ ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการอวยพร การจัดงานรื่นเริง และการให้ของขวัญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ สำหรับกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป เพื่อถือปฏิบัติ
สาระสำคัญของการยกเลิกมติครม.ดังกล่าว ทางสำนักเลขาธิการครม.อ้างว่าได้ตรวจสอบและรวบรวมมติ ครม.เกี่ยวกับเรื่องการอวยพร การจัดงานรื่นเริง และการให้ของขวัญเนื่องในวันปีใหม่ โดยพิจารณาเห็นสมควรให้ปรับปรุงมติครม.ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายฉบับที่มีผลบังคับใช้มาเป็นเวลานานแล้ว บางฉบับมีความซ้ำซ้อน ทางสำนักเลขาธิการครม.จึงได้นำแนวทางปฏิบัติของครม.ทั้ง 9 ฉบับ มารวมไว้ในฉบับเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการถือปฏิบัติ โดยกำหนดใหม่ดังนี้
เรื่องการลงนามถวายพระพร ให้คงถือปฏิบัติตามประเพณีที่เคยถือปฏิบัติมา และกำหนดแนวทางให้กระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน และข้าราชการการเมืองทุกตำแหน่ง ถือเป็นแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งขอความร่วมมือให้ประชาชนงดใช้สินค้าฟุ่มเฟือย และให้ใช้สินค้าไทย เช่น สินค้าจากโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ อาหารไทย หรือ ผลไม้ไทย เป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมค่านิยมการอวยพรอย่างประหยัด นิยมไทย และเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของไทยสืบต่อไป
นอกจากนี้ ในสาระสำคัญยังระบุด้วยว่าไม่ควรที่หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และเอกชนทั้งในกทม.และต่างจังหวัด เดินทางไปอวยพรนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้บังคับบัญชาของส่วนราชการต่างๆ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากเป็นการสิ้นเปลืองและไม่ประหยัด แต่เพื่อเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ถ้าประสงค์จะอวยพรในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ก็ขอให้ส่งเป็นบัตรอวยพร หรือ บัตร ส.ค.ส.ไปแทน
ทั้งนี้ การส่งบัตรอวยพรหรือบัตร ส.ค.ส.ให้คำนึงถึงการประหยัด และควรสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เช่น การใช้บัตรอวยพรที่ทำขึ้นเองจากวัสดุที่มีจากธรรมชาติ หรือซื้อจากองค์การกุศลต่างๆ เป็นต้น ที่สำคัญเพื่อให้สอดรับกับมาตรการประหยัด จึงควรงดการจัดงานรื่นเริง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักเลขาธิการ ครม.ได้อาศัยมติ ครม.เมื่อวันที่ 8 มี.ค.48 ที่กำหนดให้สำนักเลขาธิการ ครม. ดำเนินการตรวจสอบเพื่อประมวล ปรับปรุง และขอยกเลิกมติครม.ที่ไม่จำเป็น และขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย แล้วนำเสนอ ครม.ดังนั้นจึงได้เสนอขอปรับปรุงมติครม.เรื่องการอวยพรวันขึ้นปีใหม่ทั้ง 9 ฉบับ
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า การเสนอตรงนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงการตั้งกระทู้ถามครม.เพื่อให้พิจารณาถึงมติครม.เก่าๆ ว่ายังคงให้มีหรือไม่ หรือควรยกเลิก ส่วนการจัดงานรื่นเริงก็ไม่ได้หมายความว่า จะให้งดเสียทีเดียว เป็นเพียงการสอบถามความคิดเห็นของ ครม.เท่านั้น ซึ่งรวมถึงการจัดงานเคาต์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่จะจัดขึ้นที่สนามศุภชลาศัย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ด้วย เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อประชาชน อีกทั้งรัฐบาลไม่ได้เป็นเจ้าภาพ แต่เจ้าภาพคือ อสมท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่าหลายหน่วยงานได้มีการจัดเตรียมการจัดงานรื่นเริงไว้บ้างแล้ว ซึ่งเราคงจะไปห้ามอะไรไม่ได้ ถือเป็นช่วงเทศกาลที่ทั่วโลกก็จัดกัน เพียงแต่เราเน้นย้ำในส่วนของข้าราชการที่ไม่ให้นำกระเช้าของขวัญเข้าอวยพรนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งนี้ยอมรับว่า แม้จะมีการออกเป็นมติ ครม.แล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไร
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เสนอเรื่องการอวยพรวันขึ้นปีใหม่ ต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ (13 ธ.ค.)โดยขออนุมัติให้ยกเลิกมติครม.เกี่ยวกับการอวยพร การจัดงานรื่นเริง และการให้ของขวัญ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ จำนวน 9 ฉบับประกอบด้วย มติครม.วันที่ 23 ธ.ค.19, วันที่ 26 ธ.ค.21,วันที่ 13 พ.ย.22 ,วันที่ 23 ธ.ค.29, วันที่ 27 ธ.ค.33,วันที่ 29 ธ.ค.35, วันที่ 23 ธ.ค.40, วันที่ 22 ธ.ค.41 และวันที่ 29 ธ.ค. 41 ซึ่งมติ ครม.ทั้ง 9 ฉบับนี้ ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการอวยพร การจัดงานรื่นเริง และการให้ของขวัญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ สำหรับกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป เพื่อถือปฏิบัติ
สาระสำคัญของการยกเลิกมติครม.ดังกล่าว ทางสำนักเลขาธิการครม.อ้างว่าได้ตรวจสอบและรวบรวมมติ ครม.เกี่ยวกับเรื่องการอวยพร การจัดงานรื่นเริง และการให้ของขวัญเนื่องในวันปีใหม่ โดยพิจารณาเห็นสมควรให้ปรับปรุงมติครม.ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายฉบับที่มีผลบังคับใช้มาเป็นเวลานานแล้ว บางฉบับมีความซ้ำซ้อน ทางสำนักเลขาธิการครม.จึงได้นำแนวทางปฏิบัติของครม.ทั้ง 9 ฉบับ มารวมไว้ในฉบับเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการถือปฏิบัติ โดยกำหนดใหม่ดังนี้
เรื่องการลงนามถวายพระพร ให้คงถือปฏิบัติตามประเพณีที่เคยถือปฏิบัติมา และกำหนดแนวทางให้กระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน และข้าราชการการเมืองทุกตำแหน่ง ถือเป็นแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งขอความร่วมมือให้ประชาชนงดใช้สินค้าฟุ่มเฟือย และให้ใช้สินค้าไทย เช่น สินค้าจากโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ อาหารไทย หรือ ผลไม้ไทย เป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมค่านิยมการอวยพรอย่างประหยัด นิยมไทย และเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของไทยสืบต่อไป
นอกจากนี้ ในสาระสำคัญยังระบุด้วยว่าไม่ควรที่หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และเอกชนทั้งในกทม.และต่างจังหวัด เดินทางไปอวยพรนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้บังคับบัญชาของส่วนราชการต่างๆ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ เนื่องจากเป็นการสิ้นเปลืองและไม่ประหยัด แต่เพื่อเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ถ้าประสงค์จะอวยพรในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ก็ขอให้ส่งเป็นบัตรอวยพร หรือ บัตร ส.ค.ส.ไปแทน
ทั้งนี้ การส่งบัตรอวยพรหรือบัตร ส.ค.ส.ให้คำนึงถึงการประหยัด และควรสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เช่น การใช้บัตรอวยพรที่ทำขึ้นเองจากวัสดุที่มีจากธรรมชาติ หรือซื้อจากองค์การกุศลต่างๆ เป็นต้น ที่สำคัญเพื่อให้สอดรับกับมาตรการประหยัด จึงควรงดการจัดงานรื่นเริง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักเลขาธิการ ครม.ได้อาศัยมติ ครม.เมื่อวันที่ 8 มี.ค.48 ที่กำหนดให้สำนักเลขาธิการ ครม. ดำเนินการตรวจสอบเพื่อประมวล ปรับปรุง และขอยกเลิกมติครม.ที่ไม่จำเป็น และขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย แล้วนำเสนอ ครม.ดังนั้นจึงได้เสนอขอปรับปรุงมติครม.เรื่องการอวยพรวันขึ้นปีใหม่ทั้ง 9 ฉบับ
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า การเสนอตรงนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงการตั้งกระทู้ถามครม.เพื่อให้พิจารณาถึงมติครม.เก่าๆ ว่ายังคงให้มีหรือไม่ หรือควรยกเลิก ส่วนการจัดงานรื่นเริงก็ไม่ได้หมายความว่า จะให้งดเสียทีเดียว เป็นเพียงการสอบถามความคิดเห็นของ ครม.เท่านั้น ซึ่งรวมถึงการจัดงานเคาต์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่จะจัดขึ้นที่สนามศุภชลาศัย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ด้วย เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อประชาชน อีกทั้งรัฐบาลไม่ได้เป็นเจ้าภาพ แต่เจ้าภาพคือ อสมท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่าหลายหน่วยงานได้มีการจัดเตรียมการจัดงานรื่นเริงไว้บ้างแล้ว ซึ่งเราคงจะไปห้ามอะไรไม่ได้ ถือเป็นช่วงเทศกาลที่ทั่วโลกก็จัดกัน เพียงแต่เราเน้นย้ำในส่วนของข้าราชการที่ไม่ให้นำกระเช้าของขวัญเข้าอวยพรนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งนี้ยอมรับว่า แม้จะมีการออกเป็นมติ ครม.แล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไร