ศูนย์ข่าวศรีราชา – “อีสท์วอเตอร์” ยืนยันน้ำดิบเต็มอ่าง เพียงพอใช้ทั่วภาคตะวันออกตลอดทั้งปี 2549 ด้านทริสเรทติ้งประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรในระดับ A+ ต่อเนื่องจากปี 2547
นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำจากการสำรวจข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกรายมีปริมาณกักเก็บประมาณ 63 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลมีปริมาณกักเก็บอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านลบ.ม.และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ซึ่งแต่เดิมมีไม่มีปริมาณน้ำกักเก็บ
แต่ปัจจุบันมีน้ำเต็มอ่างอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านลบ.ม. รวมปริมาณกักเก็บทั้งสิ้น 205 ล้านลบ.ม.โดยประมาณ ทั้งนี้ ยังไม่รวมปริมาณน้ำจากโครงการวางท่อเชื่อมโยงแหล่งน้ำในพื้นที่บางปะกง ดังนั้น ใน 2549 นี้ทางอีสท์วอเตอร์ มีความมั่นใจว่าในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน
“นอกจากนี้ในปี 2548 ที่กำลังจะหมดไป ทางอีสท์วอเตอร์ ได้รับการประกาศจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งสำรวจผลด้านความเชื่อมั่นต่อการลงทุน ได้ประกาศผลยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของอีสท์วอเตอร์ที่ระดับ A+ ต่อเนื่องจากปี 2547 ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นสถานะที่แข็งแกร่งของอีสท์วอเตอร์ ถึงแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก แต่ก็ได้มีการแก้ไขและเร่งวางท่อส่งน้ำจากแหล่งอื่นจนสามารถผ่านวิกฤตไปได้”
อีกทั้งยังได้รับการประกาศจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ให้เป็น 1 ใน 93 บริษัทจดทะเบียนไทยที่มีผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการดีเด่นตามหลักธรรมาภิบาล ใน Quartile ที่ 1 ประจำปี 2548 (List of 2005 top quartile companies) ด้วยเช่นกัน และในส่วนของโครงการก่อสร้างการวางท่อเชื่อมโยงกับแหล่งน้ำบางปะกง เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำบางปะกงมาเสริมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประมาณปีละ 50 ล้านลบ.ม.ต่อปี
ขณะนี้โครงการดังกล่าวมีก้าวหน้าไปมากกว่า 95% และสามารถจ่ายน้ำได้ภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งทางอีสท์วอเตอร์มีความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้ระบบสูบน้ำและระบบส่งน้ำมีเสถียรภาพเพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการใช้น้ำของผู้บริโภค ทั้งในส่วนของของภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคประชาชน ทั้งในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา
นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำจากการสำรวจข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกรายมีปริมาณกักเก็บประมาณ 63 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลมีปริมาณกักเก็บอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านลบ.ม.และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ซึ่งแต่เดิมมีไม่มีปริมาณน้ำกักเก็บ
แต่ปัจจุบันมีน้ำเต็มอ่างอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านลบ.ม. รวมปริมาณกักเก็บทั้งสิ้น 205 ล้านลบ.ม.โดยประมาณ ทั้งนี้ ยังไม่รวมปริมาณน้ำจากโครงการวางท่อเชื่อมโยงแหล่งน้ำในพื้นที่บางปะกง ดังนั้น ใน 2549 นี้ทางอีสท์วอเตอร์ มีความมั่นใจว่าในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน
“นอกจากนี้ในปี 2548 ที่กำลังจะหมดไป ทางอีสท์วอเตอร์ ได้รับการประกาศจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งสำรวจผลด้านความเชื่อมั่นต่อการลงทุน ได้ประกาศผลยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของอีสท์วอเตอร์ที่ระดับ A+ ต่อเนื่องจากปี 2547 ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นสถานะที่แข็งแกร่งของอีสท์วอเตอร์ ถึงแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก แต่ก็ได้มีการแก้ไขและเร่งวางท่อส่งน้ำจากแหล่งอื่นจนสามารถผ่านวิกฤตไปได้”
อีกทั้งยังได้รับการประกาศจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ให้เป็น 1 ใน 93 บริษัทจดทะเบียนไทยที่มีผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการดีเด่นตามหลักธรรมาภิบาล ใน Quartile ที่ 1 ประจำปี 2548 (List of 2005 top quartile companies) ด้วยเช่นกัน และในส่วนของโครงการก่อสร้างการวางท่อเชื่อมโยงกับแหล่งน้ำบางปะกง เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำบางปะกงมาเสริมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประมาณปีละ 50 ล้านลบ.ม.ต่อปี
ขณะนี้โครงการดังกล่าวมีก้าวหน้าไปมากกว่า 95% และสามารถจ่ายน้ำได้ภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งทางอีสท์วอเตอร์มีความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้ระบบสูบน้ำและระบบส่งน้ำมีเสถียรภาพเพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการใช้น้ำของผู้บริโภค ทั้งในส่วนของของภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคประชาชน ทั้งในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา