ผู้จัดการรายวัน - เปิดตัวนายทุนบริษัท คุณนที ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หลังปฏิบัติภารกิจฮุบบทด.สำเร็จ ที่แท้เป็นกลุ่มคนเดียวกัน มีสายสัมพันธ์โยงใย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจไขว่กันไปมาใน 23 บริษัทที่เป็นผู้ร่วมทุนเริ่มแรก ไม่สนหน้าอิฐหน้าพรหม เดินหน้าชำแหละธุรกรรมและสิทธิประโยชน์บทด.ต่อ อ้างความชอบธรรม รัฐเชิญให้เข้ามาเอง แล้วจะมาค้านอะไรกัน
กรณี “ผู้จัดการรายวัน”เปิดเผยความไม่ชอบมาพากลของนโยบายการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด(บทด.)และกลุ่มทุนเอกชนตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รมช.คมนาคมนั้น
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด (บทด.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากกลุ่มเจ้าของเรือไทย 23 ราย ที่เป็นผู้ถือหุ้น 70% ในบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นร่วมกับบทด. โดยบทด.มีจำนวนหุ้น 30% ว่าจะมีการเดินหน้าถ่ายโอนธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ของบทด.มายังบริษัทร่วมทุนต่อไป และไม่สนใจว่าจะมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รองรับหรือไม่ โดยอ้างว่าในเมื่อรัฐบาลเชิญให้กลุ่มเจ้าของเรือไทยมาร่วมในการพัฒนากองเรือพาณิชย์ของไทย ก็ต้องดำเนินการด้วยวิธีการดังกล่าว
“วานนี้ (7 ธ.ค.) คณะทำงานศึกษารายละเอียดการโอนธุรกรรม กรณีบทด.จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย ยังมีการประชุมกันอยู่ และมติที่ประชุมก็ขอให้เดินหน้าการโอนธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ของบทด.ไปยังบริษัทร่วมทุนต่อไป”แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ มติครม.เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 1.อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบทด.กับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย 23 บริษัท โดยบทด.ถือหุ้น 30% กลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย 70% 2.อนุมัติให้บทด.ลงทุนในบริษัทร่วมทุน 200 ล้านบาท โดยใช้เงินของบทด.ที่มีอยู่ภายหลังหักค่าใช้จ่ายและภาระผูกพันที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่มีข้อใดที่ระบุว่าให้โอนธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ของบทด.ไปยังบริษัทร่วมทุน
แหล่งข่าวกล่าวว่า กลุ่มเจ้าของเรือไทยยังยืนยันอีกว่า เมื่อผ่านขั้นตอนที่ 1 แล้ว จะดำเนินการต่อในขั้นตอนที่ 2 ทันที โดยจะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 666 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินลงทุนเบื้องต้นของบทด. 200 ล้านบาท จาก 23 ราย 444 ล้านบาท (เบื้องต้นใส่เงินมาแล้ว 95 ล้านบาท) โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2,096 ล้านบาท
โดยในการเพิ่มทุนนั้น บริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด (TOM) จะลงทุนเป็นเรือ 5 ลำ มูลค่า 570 ล้านบาท จะถือหุ้นสัดส่วน 27.19% บริษัท คุณนที จำกัด ลงทุนด้วยเรือ 2 ลำ มูลค่า 860 ล้านบาท จะถือหุ้นสัดส่วน 41.03% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที ทั้งๆ ที่ลงทุนด้วยเรือเก่าปลดระวางแล้ว ส่วนบทด. และ 23 รายเบื้องต้น จะถือหุ้นเหลือ 31.77%
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อทำการตรวจสอบดูว่า ทำไมถึงต้องกลายมาเป็นบริษัท คุณนที ที่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งๆ ที่บริษัทอื่นในจำนวน 23 ราย ก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีผลประกอบการที่ดี ก็เพราะว่าบริษัทนี้เป็นตัวแทนของบริษัท 23 ราย เนื่องด้วยเป็นบริษัทที่เป็นศูนย์รวมของกรรมการผู้มีอำนาจจากบริษัทต่างๆ มารวมกันอยู่
กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท คุณนที มีจำนวน 7 คน ได้แก่ นายสุรพล มีเสถียร นายพร้อมพงษ์ ชัยศรีสวัสด์สุข นายชัยยะ ไผ่สุวัฒน์ นายเชิดชู ปานบุญห้อม นายไกรสีห์ หุตะสิงห์ และนายภูมินทร์ หะรินสุต
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบต่อไปพบว่า นายสุรพล ยังเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท นทลิน จำกัด นายพร้อมพงษ์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท เอเซียซีทรานส์ จำกัด นายชัยยะ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ขี พี พี ซัพพลาย จำกัด และบริษัท บี เอส วี ซัพพลาย จำกัด นายไกรสีห์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท ซีแอนด์ พี จำกัด และนายภูมินทร์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท หะรินสุตขนส่ง จำกัด บริษัท หะรินพาณิชย์ จำกัด และบริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด ส่วนนายเชิดชู มีคนนามสกุลเดียวกันเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ในบริษัท เอ็ม ที แอล มารีน จำกัด คือนางวิไลศรี ปานบุญห้อม
“บริษัทที่กล่าวถึง เป็น 1 ใน 23 รายที่เป็นผู้ร่วมลงทุนในเบื้องต้น ซึ่งเท่ากับว่า การเลือกให้บริษัท คุณนทีมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ก็เท่ากับว่าบริษัทนี้เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนทั้งหมดที่เข้ามา”แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนในบริษัทที่เหลือ เมื่อตรวจสอบไปก็พบว่า มีหลายคนที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในหลายบริษัท แต่ไม่ได้เป็นกรรมการในบริษัท คุณนที เช่น นายสมศักดิ์ รัศมีวิรยะนนทก์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท กาญจนามารีน จำกัด บริษัท ถาวรมารีน จำกัด บริษัท นทลิน จำกัด บริษัท เอ็ม ที แอน มารีน จำกัด บริษัท ยูไนเต็ดแทงเกอร์ จำกัด นายวิรัช แจ่มกระจ่าง เป็นกรรมการในบริษัท ยูไนเต็ดแทงเกอร์ จำกัด บริษัท ทรานส์โอเซี่ยน ซัพพลาย จำกัด บริษัท วี ซี ซี อินเตอร์มารีนเซอร์วิส จำกัด บริษัท บี พี พี ซัพพลาย จำกัด
นายชเนศร์ เพ็ญชาติ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท จุฑานาวี จำกัด และบริษัท ซีแอนด์ พี จำกัด นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด บริษัท โหงวฮก เอเยนซี่ จำกัด และบริษัท สยามเภตรา อินเตอร์ จำกัด นายสินธ์ วิเศษฐกิจการ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เดินเรือแสงไทย จำกัด และบริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด พลเรือตรี ชาโณ เพ็ญชาติ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีแอนด์ พี จำกัด และบริษัท ภูรีมาศ จำกัด นายประทีป เตียวรานนท์ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด และบริษัท สยามเภตรา อินเตอร์ จำกัด
สำหรับกลุ่มเจ้าของเรือไทย 23 ราย ได้แก่ 1.บริษัท โหงวฮก เอเยนซี่ จำกัด 2.บริษัท เดินเรือแสงไทย 1977 จำกัด 3.บริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท นทลิน จำกัด 5.บริษัท หะรินสุตขนส่ง จำกัด 6.บริษัท ซี แอนด์ พี จำกัด 7.บริษัท พรีเซียสซิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) 8.บริษัท สยามเภตราอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 9.บริษัท คุณนที จำกัด 10.บริษัท บี พี พี ซัพพลาย จำกัด 11.บริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด 12.บริษัท ทรานส์โอเซี่ยน ซัพพลาย (1992) จำกัด 13.บริษัท ถาวรมารีน จำกัด 14.บริษัท วาย.เค.น้ำใส จำกัด 15.บริษัท พี.เอส.วี ซัพพลาย จำกัด 16.บริษัท เอ็น.ที.แอล มารีน จำกัด 17.บริษัท ยูนิออยล์ บัลค ทรานสปอร์ต จำกัด 18.บริษัท ยูไนเต็ด แทงเกอร์ จำกัด 19.บริษัท วี.ซี.ซี.อินเตอร์มารีนเซอร์วิส แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด 20.บริษัท กาญจนามารีน จำกัด 21.บริษัท เอเซียซีทรานส์ จำกัด 22.บริษัท หะรินพาณิชย์ จำกัด และ 23.บริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด
กรณี “ผู้จัดการรายวัน”เปิดเผยความไม่ชอบมาพากลของนโยบายการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด(บทด.)และกลุ่มทุนเอกชนตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รมช.คมนาคมนั้น
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด (บทด.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากกลุ่มเจ้าของเรือไทย 23 ราย ที่เป็นผู้ถือหุ้น 70% ในบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นร่วมกับบทด. โดยบทด.มีจำนวนหุ้น 30% ว่าจะมีการเดินหน้าถ่ายโอนธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ของบทด.มายังบริษัทร่วมทุนต่อไป และไม่สนใจว่าจะมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รองรับหรือไม่ โดยอ้างว่าในเมื่อรัฐบาลเชิญให้กลุ่มเจ้าของเรือไทยมาร่วมในการพัฒนากองเรือพาณิชย์ของไทย ก็ต้องดำเนินการด้วยวิธีการดังกล่าว
“วานนี้ (7 ธ.ค.) คณะทำงานศึกษารายละเอียดการโอนธุรกรรม กรณีบทด.จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย ยังมีการประชุมกันอยู่ และมติที่ประชุมก็ขอให้เดินหน้าการโอนธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ของบทด.ไปยังบริษัทร่วมทุนต่อไป”แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ มติครม.เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 1.อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบทด.กับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย 23 บริษัท โดยบทด.ถือหุ้น 30% กลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย 70% 2.อนุมัติให้บทด.ลงทุนในบริษัทร่วมทุน 200 ล้านบาท โดยใช้เงินของบทด.ที่มีอยู่ภายหลังหักค่าใช้จ่ายและภาระผูกพันที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่มีข้อใดที่ระบุว่าให้โอนธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ของบทด.ไปยังบริษัทร่วมทุน
แหล่งข่าวกล่าวว่า กลุ่มเจ้าของเรือไทยยังยืนยันอีกว่า เมื่อผ่านขั้นตอนที่ 1 แล้ว จะดำเนินการต่อในขั้นตอนที่ 2 ทันที โดยจะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 666 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินลงทุนเบื้องต้นของบทด. 200 ล้านบาท จาก 23 ราย 444 ล้านบาท (เบื้องต้นใส่เงินมาแล้ว 95 ล้านบาท) โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2,096 ล้านบาท
โดยในการเพิ่มทุนนั้น บริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด (TOM) จะลงทุนเป็นเรือ 5 ลำ มูลค่า 570 ล้านบาท จะถือหุ้นสัดส่วน 27.19% บริษัท คุณนที จำกัด ลงทุนด้วยเรือ 2 ลำ มูลค่า 860 ล้านบาท จะถือหุ้นสัดส่วน 41.03% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที ทั้งๆ ที่ลงทุนด้วยเรือเก่าปลดระวางแล้ว ส่วนบทด. และ 23 รายเบื้องต้น จะถือหุ้นเหลือ 31.77%
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อทำการตรวจสอบดูว่า ทำไมถึงต้องกลายมาเป็นบริษัท คุณนที ที่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งๆ ที่บริษัทอื่นในจำนวน 23 ราย ก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีผลประกอบการที่ดี ก็เพราะว่าบริษัทนี้เป็นตัวแทนของบริษัท 23 ราย เนื่องด้วยเป็นบริษัทที่เป็นศูนย์รวมของกรรมการผู้มีอำนาจจากบริษัทต่างๆ มารวมกันอยู่
กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท คุณนที มีจำนวน 7 คน ได้แก่ นายสุรพล มีเสถียร นายพร้อมพงษ์ ชัยศรีสวัสด์สุข นายชัยยะ ไผ่สุวัฒน์ นายเชิดชู ปานบุญห้อม นายไกรสีห์ หุตะสิงห์ และนายภูมินทร์ หะรินสุต
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบต่อไปพบว่า นายสุรพล ยังเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท นทลิน จำกัด นายพร้อมพงษ์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท เอเซียซีทรานส์ จำกัด นายชัยยะ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ขี พี พี ซัพพลาย จำกัด และบริษัท บี เอส วี ซัพพลาย จำกัด นายไกรสีห์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท ซีแอนด์ พี จำกัด และนายภูมินทร์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท หะรินสุตขนส่ง จำกัด บริษัท หะรินพาณิชย์ จำกัด และบริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด ส่วนนายเชิดชู มีคนนามสกุลเดียวกันเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ในบริษัท เอ็ม ที แอล มารีน จำกัด คือนางวิไลศรี ปานบุญห้อม
“บริษัทที่กล่าวถึง เป็น 1 ใน 23 รายที่เป็นผู้ร่วมลงทุนในเบื้องต้น ซึ่งเท่ากับว่า การเลือกให้บริษัท คุณนทีมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ก็เท่ากับว่าบริษัทนี้เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนทั้งหมดที่เข้ามา”แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนในบริษัทที่เหลือ เมื่อตรวจสอบไปก็พบว่า มีหลายคนที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในหลายบริษัท แต่ไม่ได้เป็นกรรมการในบริษัท คุณนที เช่น นายสมศักดิ์ รัศมีวิรยะนนทก์ เป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัท กาญจนามารีน จำกัด บริษัท ถาวรมารีน จำกัด บริษัท นทลิน จำกัด บริษัท เอ็ม ที แอน มารีน จำกัด บริษัท ยูไนเต็ดแทงเกอร์ จำกัด นายวิรัช แจ่มกระจ่าง เป็นกรรมการในบริษัท ยูไนเต็ดแทงเกอร์ จำกัด บริษัท ทรานส์โอเซี่ยน ซัพพลาย จำกัด บริษัท วี ซี ซี อินเตอร์มารีนเซอร์วิส จำกัด บริษัท บี พี พี ซัพพลาย จำกัด
นายชเนศร์ เพ็ญชาติ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท จุฑานาวี จำกัด และบริษัท ซีแอนด์ พี จำกัด นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด บริษัท โหงวฮก เอเยนซี่ จำกัด และบริษัท สยามเภตรา อินเตอร์ จำกัด นายสินธ์ วิเศษฐกิจการ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เดินเรือแสงไทย จำกัด และบริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด พลเรือตรี ชาโณ เพ็ญชาติ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีแอนด์ พี จำกัด และบริษัท ภูรีมาศ จำกัด นายประทีป เตียวรานนท์ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด และบริษัท สยามเภตรา อินเตอร์ จำกัด
สำหรับกลุ่มเจ้าของเรือไทย 23 ราย ได้แก่ 1.บริษัท โหงวฮก เอเยนซี่ จำกัด 2.บริษัท เดินเรือแสงไทย 1977 จำกัด 3.บริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท นทลิน จำกัด 5.บริษัท หะรินสุตขนส่ง จำกัด 6.บริษัท ซี แอนด์ พี จำกัด 7.บริษัท พรีเซียสซิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) 8.บริษัท สยามเภตราอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 9.บริษัท คุณนที จำกัด 10.บริษัท บี พี พี ซัพพลาย จำกัด 11.บริษัท ภูรีมาศ นาวี จำกัด 12.บริษัท ทรานส์โอเซี่ยน ซัพพลาย (1992) จำกัด 13.บริษัท ถาวรมารีน จำกัด 14.บริษัท วาย.เค.น้ำใส จำกัด 15.บริษัท พี.เอส.วี ซัพพลาย จำกัด 16.บริษัท เอ็น.ที.แอล มารีน จำกัด 17.บริษัท ยูนิออยล์ บัลค ทรานสปอร์ต จำกัด 18.บริษัท ยูไนเต็ด แทงเกอร์ จำกัด 19.บริษัท วี.ซี.ซี.อินเตอร์มารีนเซอร์วิส แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด 20.บริษัท กาญจนามารีน จำกัด 21.บริษัท เอเซียซีทรานส์ จำกัด 22.บริษัท หะรินพาณิชย์ จำกัด และ 23.บริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด