xs
xsm
sm
md
lg

การประชุมสุดยอด SAARC ครั้งที่ 13

เผยแพร่:   โดย: มาโนชญ์ อารีย์

จากการประชุมสุดยอดครั้งที่ 13 ที่ผ่านไปของสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้ (South Asian Association Regional Cooperation: SAARC) ในระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 ณ กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ แสดงให้เห็นว่า Saarc และประเทศสมาชิกมีความมุ่งมั่นสูงที่จะผลักดันให้ภูมิภาคเอเชียใต้ก้าวไปสู่ความสำเร็จและการปฏิรูปครั้งใหญ่ในทศวรรษหน้า (2006-2015)

ที่ประชุมได้ตกลงกันในเรื่องต่างๆ หลายประการ ที่สำคัญที่จะกล่าวในที่นี้คือ การต่อต้านการก่อการร้าย และการมอบสถานภาพสมาชิกให้อัฟกานิสถาน และผู้สังเกตการณ์ในจีน และญี่ปุ่น

การต่อต้านการก่อการร้าย

ปัญหาการก่อการร้ายเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญมากในภูมิภาคเอเชียใต้ ซึ่งคุกคามความมั่นคงของประเทศสมาชิกหลายๆประเทศ โดยเฉพาะอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา บังกลาเทศ และเนปาล

แถลงการณ์ธากา เรียกร้องให้สมาชิกดำเนินนโยบายแก้ไขและปราบปรามปัญหาการก่อการร้ายให้เป็นไปในบรรทัดฐานเดียวกัน และไม่ควรเป็นไปในลักษณะสองมาตรฐาน (double standard) ซึ่ง Saarc ได้วางนโยบายร่วมกันไว้แล้วเมื่อปี ค.ศ. 1987 ณ กรุงกาฐมาณฑุ (Kathmandu) นโยบายนี้จะเป็นไปในลักษณะการเพิ่มความร่วมมือด้านการเมืองของประเทศสมาชิกในการปราบปรามการก่อการร้ายร่วมกัน โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสานงานกันของสำนักงานข่าวกรองของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังได้ตกลงกันที่จะไม่สนับสนุนด้านการเงินให้กับกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ

เบกุม คอลิดะอ์ เซีย นายกรัฐมนตรีแห่งบังกลาเทศได้ชี้ให้เห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัจจุบันความร่วมมือในหลายๆด้านระหว่างประเทศสมาชิกถูกตัดขาด เนื่องจากปัญหาทางการเมือง ความร่วมมือทางการเมืองถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อภูมิภาคนี้ เพราะที่ผ่านมาปัญหาทางการเมืองเป็นกำแพงกีดขวางความร่วมมือและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตามการส่งเสริมความร่วมมือทางการเมืองของสมาชิก Saarc เพื่อการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายในภูมิภาคในทศวรรษใหม่ยิ่งน่าสนใจและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น เมื่อจะมีน้องใหม่ “อัฟกานิสถาน” เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกประเทศที่ 8 ของ Saarc เพราะจะยิ่งทำให้ยุทธศาสตร์ในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในเอเชียใต้สมบูรณ์และครบวงจรมากยิ่งขึ้นหากได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลอัฟกานิสถาน

การมอบสถานภาพสมาชิกให้อัฟกานิสถาน และผู้สังเกตการณ์ให้ จีน และญี่ปุ่น

พัฒนาการล่าสุดที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของ Saarc คือ ข้อตกลงให้สถานะภาพสมาชิกใหม่แก่อัฟกานิสถานและสถานะผู้สังเกตการณ์ให้กับสองยักษ์ใหญ่ด้านเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น การเพิ่มจำนวนสมาชิกและผู้สังเกตการณ์ในครั้งนี้นับเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ของ Saarc และแสดงนัยสำคัญต่อแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคเอเชียใต้ในอนาคตอีกด้วยเช่นกัน

ในระยะยาวแล้ว การเข้ามาของอัฟกานิสถาน นอกจากจะยังประโยชน์ในกระบวนการปราบปรามและการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายในเอเชียใต้ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว อัฟกานิสถานยังมีแนวโน้มที่จะเป็นประตูเชื่อมความสัมพันธ์และการขยายความร่วมมือระหว่างภูมิภาคเอเชียใต้ไปยังเอเชียกลาง หรือระหว่าง Saarc กับ ECO องค์กรภูมิภาคที่ประกอบไปด้วย ตุรกี อิหร่าน ปากีสถาน และประเทศในแถบเอเชียกลางไม่ว่าจะเป็น Azerbaijan, Kirghizistan, Kazakhstan, Uzbekistan, Tajikestan, and Turkmenistan, และ Afghanistan ทั้งนี้เพราะ Saarc มีปากีสถานและจะมีอัฟกานิสถานที่ร่วมเป็นสมาชิกอยู่ใน ECO ด้วย

อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของอัฟกานิสถานก็ยังคงมีประเด็นที่น่าวิตกอยู่บาง เพราะเท่ากับว่าปัญหากรณีความขัดแย้งระหว่างประเทศในกลุ่ม Saarc ก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นดินพอกหางหมู ทั้งนี้อัฟกานิสถานและปากีสถานยังมีกรณีพิพาทระหว่างกันเหนือดินแดนที่ติดกันยาวกว่า 2,500 กิโลเมตร ที่เรียกว่าเส้นแบ่งเขตดูราน (Durand Line) นอกจากนี้ในปัจจุบันอัฟกานิสถานยังคงระแวงและไม่ไว้ใจปากีสถานว่า จะกลับมาให้การสนับสนุนกลุ่มฏอลีบันอีกครั้งหนึ่ง อัฟกานิสถานมองว่าปากีสถานอาจลุกขึ้นมาสนับสนุนฏอลีบันเมื่อไรก็ได้ที่ปากีสถานคิดว่าจำเป็น การล้มล้างรัฐบาลฏอลีบันที่ผ่านมาของสหรัฐฯด้วยกับความร่วมมือของปากีสถานนั้น อัฟกานิสถานมองว่าปากีสถานทำไปเพียงเพราะไม่มีทางเลือก

อีกประการหนึ่งในสถานภาพที่อินเดียไม่ค่อยมีพันธมิตรที่จริงใจเท่าไหร่นักในภูมิภาคเอเชียใต้ เนื่องจากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอินเดียมักมีปัญหาขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการเข้ามาของอัฟกานิสถานโดยเฉพาะอัฟกานิสถานภายใต้การครอบงำของสหรัฐฯ ก็จะทำให้อินเดียมีพันธมิตรใหม่โผล่ขึ้นมาใน Saarc ทั้งนี้เพราะนอกจากอินเดียและอัฟกานิสถานจะมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นต่อกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อินเดียยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูอัฟกานิสถานอีกต่างหาก

ในส่วนของการมอบสถานะผู้สังเกตการณ์ให้จีนและญี่ปุ่นนั้น นักวิเคราะห์บางท่านเชื่อว่าเป็นการสร้างเงื่อนไขในการรับอัฟกานิสถานเป็นสมาชิก ซึ่งมีกษัตริย์แห่งเนปาลเป็นผู้ตั้งเงื่อนไขนี้ขึ้นมา (ในการให้สถานภาพผู้สังเกตการณ์ต่อจีน) ทั้งนี้เชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่กษัตริย์กเยนทราทรงไม่พอพระทัยกับท่าทีในเชิงลบของรัฐบาลอินเดียต่อการยุบรัฐบาลและยึดอำนาจทั้งหมดในเนปาลโดยพระองค์เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 ส่วนอินเดียเชื่อว่าปากีสถานมีส่วนในการโน้มน้าวให้เนปาลตั้งเงื่อนไขนี้เพื่อที่สมาชิก Saarc จะยินดีต้อนรับจีนเข้าร่วมกับองค์กร เพื่อถ่วงดุลอิทธิพลหรือน้ำหนักของอินเดียใน Saarc

เช่นเดียวกับกรณีอัฟกานิสถาน หากจีนเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ก็จะมีผลดีต่อSaarcด้วยเช่นกัน จีนจะเป็นประตูเชื่อมระหว่าง Saarc และองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization: SCO) ซึ่งอินเดีย ปากีสถาน และอิหร่าน ได้รับมอบสถานภาพผู้สังเกตการณ์แห่งองค์กรนี้ และถึงแม้ว่าอินเดียจะไม่มีพรมแดนติดกับสมาชิก SCO หรือแม้กระทั่งปากีสถานเอง ก็อาจเข้าเป็นสมาชิกองค์กรนี้ได้เช่นกันในอนาคตหากอัฟกานิสถานเข้าเป็นสมาชิก SCO แต่เชื่อว่าตราบใดที่อัฟกานิสถานยังถูกครอบงำจากสหรัฐอเมริกา อัฟกานิสถานก็จะไม่เข้าเป็นสมาชิก SCO เด็ดขาด เพราะจริงๆ แล้ว SCO ก่อตั้งขึ้นมาก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ บทบาท ตลอดจนอิทธิของรัสเซียและจีนในภูมิภาคเอเชียกลาง ซึ่งสหรัฐฯกำลังจะพยายามเข้ามาช่วงชิงอิทธิพลในภูมิภาคนี้ กล่าวคือ ในปัจจุบันกำลังมีการเผชิญหน้ากันระหว่างมหาอำนาจโลกอย่างเงียบๆในภูมิภาคนี้หรือระหว่างสหรัฐฯกับจีนและรัสเซีย

สรุป

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Saarc และภูมิภาคเอเชียใต้ซึ่งน่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะความสำเร็จจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา ชี้ชัดว่า Saarc กำลังเริ่มทศวรรษใหม่ของตัวเองด้วยการปฏิรูปครั้งใหญ่ ทั้งโครงสร้างหรือนโยบายภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเพิ่มความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจ การค้าในกลุ่มสมาชิก ตลอดจนความร่วมมือด้านอื่นๆ หรือไม่ว่าจะเป็นการมอบสถานภาพสมาชิกใหม่ให้อัฟกานิสถานและสถานภาพผู้สังเกตการณ์ให้จีนและญี่ปุ่นซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภูมิภาคเอเชียใต้ทั้งในด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ พัฒนาการเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่า Saarc กำลังจะเติบโตขึ้นในอนาคต(ค่อนข้างแน่นอน) หาก Saarc และประเทศสมาชิกไม่นำความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกันมาเป็นอุปสรรคกีดขวางความสำเร็จข้างหน้า

หมายเหตุ ฉบับละเอียดและยาวกว่านี้ ดูได้ในเว็บไซต์ www.thaiwac.ias.chula.ac.th
กำลังโหลดความคิดเห็น