คลื่นมหาชนนับแสนคนหลั่งไหลเข้าชมรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรครั้งที่ 10 แน่นสวนลุมพินี ท่ามกลาง ตร.-เทศกิจ กว่าพันคน ตรึงกำลังรอบสวน เผยอำนาจรัฐงัดวิชามารสารพัดสกัดฝูงชนเข้าร่วมรายการ ทั้งแจกเงินจ้างคนป่วนงาน ป่วนเวบไซด์ ขู่นองเลือด แถมยัดเยียดวีซีดีวิษณุบังคับให้รถทัวร์เปิดผู้โดยสารดู ด้านทีมโฆษกทรท.เปิดแถลงโต้"สนธิ"ด่วนวันนี้
บรรยากาศการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 10 ที่เวทีลีลาศ สวนลุมพินี วานนี้(25พ.ย.) เนืองแน่นไปด้วยคลื่นมหาชนนับแสนแม้รูปแบบของรายการจะแตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อผู้ดำเนินรายการนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และน.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ มีเหตุถูกคุกคามได้ย้ายไปจัดสดที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดรายการนอกสถานที่แล้วถ่ายทอดสัญญาณสดผ่านดาวเทียมมาที่สวนลุมพินี
รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 13.30 น.เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางมารอที่สวนลุมพินี และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 18.00 น.ก็มีประชาชนแน่นสวนลุมพินีกว่า 100,000 คนจนล้นออกไปถึงนอกรั้ว โดยส่วนใหญ่ สวมเสื้อเหลือ ที่สกรีนตัวหนังสือ "เราจะสู้เพื่อในหลวง"มาร่วมงาน แม้จะมาทราบในภายหลังว่า นายสนธิ และน.ส.สโรชา ไม่ได้จัดสดที่สวนลุมพินีก็ตามแต่ประชาชนก็ไม่ถอยหนี ยังคงนั่งรอชมผ่านจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ จนกระทั่งจบรายการ
** ตร.-เทศกิจ ตรึงกำลังรอบสวนลุมฯ
ด้านการรักษาความปลอดภัย พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บก.น.5 และ บก.น.6 วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่จะเดินทางมารับชมรายการ พร้อมยอมรับว่า บช.น.รู้สึกเป็นกังวลต่อความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะมีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีสร้างความไม่สงบ จึงได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองร้อยควบคุมฝูงชน 6 กองร้อย จำนวน 900 นาย และยังมีฝ่ายสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบจาก บก.น.1-9 อีกประมาณ 300 นาย กระจายกำลังทั่วบริเวณ เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหว และป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการดำเนินรายการ พร้อมกับได้ประสานไปยัง กทม.ในการขอติดตั้งไฟส่องสว่าง และตั้งศูนย์อำนวยการด้านการพยาบาล หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น
ผบช.น.กล่าวว่า ได้กำชับให้ตำรวจตั้งจุดตรวจค้นบริเวณทางเข้า-ออกอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะการตรวจอาวุธ และการสุ่มตรวจบุคคลต้องสงสัยในการรวมตัวในจุดล่อแหลมที่อยู่ในบริเวณ งานตลอดเวลา อีกทั้งยังวางกำลังอีกส่วนหนึ่งในการดูแลป้องกันสถานทูตสำคัญทุกแห่งที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณสวมลุมพินีด้วย โดยยืนยันว่าตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง หากเกิดความจำเป็นจริงๆ ก็คงต้องดำเนินการตามขอบเขต และหน้าที่ของผู้รักษาความสงบเรียบร้อย
นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าเคลียร์พื้นที่ก่อน จากนั้นชุดปฏิบัติการกองร้อยควบคุมฝูงชนเข้าประจำการ ณ ที่ตั้งทันที หากพบว่ามีเหตุความไม่เรียบร้อย ขณะที่เขตปทุมวัน ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจกว่า 300 นาย จากในพื้นที่สำนักเทศกิจและเขตใกล้เคียงมาสมทบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและแผนการ เคลื่อนย้ายประชาชน หากเกิดเหตุจลาจลสู่ประตูทางออกให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กทม.ได้ปิดประตูใหญ่ และห้ามรถทุกชนิดที่ไม่มีบัตรอนุญาตผ่าน ห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด และ มีเจ้าหน้าที่ของกทม.คอยตรวจค้นผู้ที่เข้ามาร่วมงาน ซึ่งต่างได้รับความร่วมมือด้วยดีกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่เนื่องจากประตูสำหรับช่องทางเข้าออกถูกเปิดใช้ได้ด้าน ถ.พระราม 4 เพียงประตูเดียว ส่งผลให้การเข้าและออกเป็นไปด้วยความลำบาก และจากการสังเกตุพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ได้แอบบันทึกเทปวีดีโอ ผู้ที่เดินทางมาร่วมด้วย
**ชิดชัย โต้ข่าว สวนลุมฯพื้นที่ล่อแหลม
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ร ที่อาจจะมีมือที่ 3 ไปปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และเป็นอันตรายต่อประชาชนที่มาฟังรายการว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะข้อเท็จจริงประชาชนรู้ว่าอะไรคืออะไร ต้องใช้ดุลพินิจดีๆ เพราะคนเดี๋ยวนี้ฉลาด แต่จะพูดหรือไม่พูดเท่านั้นเอง มีบางคนคิดไปเองว่าสวนลุมพินีเป็นพื้นที่ล่อแหลม ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไร ใครพูดจะพูดอย่างนั้นพูดได้อย่างไรง ส่วนกรณีศาลจังหวัดยโยธร สั่งไม่ฟ้อง นายสนธิ กรณีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั้น ต้องไปอ่านคำพิพากษาให้ดี ให้ละเอียด ถ้าเอาเป็นตอนๆบางเรื่องมาพูด มันไม่ดี
** ไอ้โม่งแจกเงินจ้างป่วนงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันก่อนรายการจะเริ่มขึ้น แฟนรายการ"เมืองไทยรายสัปดาห์" โทรศัพท์เข้ามาแจ้งข่าว ยังสถานีวิทยุคลื่นสามัญประจำบ้าน FM.97.75 เมกะเฮิร์ตซ์ บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ว่าขณะนี้ได้มีบุคคลลึกลับ โทรศัพท์หาชาวบ้านในย่านต่างๆ ของกรุงเทพฯว่า ให้ไปรับเงินที่ย่านสะพานควาย โดยจะแบ่งเป็น 2 ราคา หากใครรับเงิน 500 บาท จะได้รับผ้าโพกหัวด้วย เมื่อรับเงินแล้วให้ไปที่สวนลุมพินี แต่หากใครรับเงิน 300 บาทจะไม่ได้รับผ้าโพกหัว อย่างไรก็ตาม แฟนรายการฯผู้นี้ กล่าวว่า ตนเองและเพื่อนๆ รับโทรศัพท์แล้วไม่สนใจ จึงไม่ได้ถามกลับไปว่า ให้รับเงินจากจุดไหนของย่านสะพานควาย และไม่ได้ถามรายละเอียดใดๆมากกว่านั้น
ส่วนบรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต ประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ระหว่างเดินทางฯ คนขับรถโดยสาร จะเปิดวีซีดีที่นายวิษณุ เครืองาม แถลงถึงการทำบุญประเทศ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวัดพระแก้วทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อสอบถามคนขับรถ ได้ความว่า มีคนนำวีซีดีดังกล่าวมาแจกให้กับรถทุกคันที่สถานีขนส่งหมดชิต คันละประมาณ 10 แผ่น พร้อมบังคับให้เปิดให้ผู้โดยสารบนรถดูระหว่างเดินทาง
**ป่วนเว็บ-ขู่นองเลือดสวนลุมฯ
ขณะที่เวบไซต์พันทิปดอทคอม(http://www.pantip.com/) อันเป็นสังคมเว็บบอร์ด ที่มีชื่อเสียงมาช้านาน และเป็นพื้นที่ไซเบอร์ที่เปิดกว้างรองรับความคิดเห็นจากชาวเน็ตอย่างเป็นกลาง ได้มีนักเล่นกระทู้บางคนได้โพสต์ข้อความในห้องราชดำเนิน เป็นเชิงข่มขู่เป็นเชิงทำนองที่ว่า จะมีการนองเลือดในการรวมพลังบริสุทธิ์ การแสดงออกทางการเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่สวนลุมพินี โดยข้อความเหล่านั้นเป็นการข่มขู่ และอาจส่งผลให้ประชาชนชาวเน็ตไม่กล้าไปร่วมฟังการบรรยาย และมีข้อความการไว้อาลัยคนที่ไปร่วมงาน ข้อความเรียกร้องให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้รับผิดชอบหากว่าเกิดเหตุนองเลือดขึ้น รวมทั้งข้อความที่บ่งบอกว่าอาจเกิดเหตุล้มตายเป็นใบไม้ร่วง
** วัดป่าบ้านตาดคึกคัก
สำหรับบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี สถานที่จัดรายการสด พ.ต.อ.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ รอง ผบก.ภ. อุดรธานี พร้อมด้วยพ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย ผู้กำกับสภอ.เมืองอุดรธานี เดินทางมา ดูแลความเรียบร้อยบริเวณสถานที่ถ่ายทอดสดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่ด้านในวัดป่าบ้านตาด ขณะ ที่ด้านนอกมีประชาชนเริ่มทยอยเข้ามาที่ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด ไม่น้อยกว่า 500 คน เตรียมเข้าร่วมรับฟังโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 200 นาย จาก 4 สภต. คือ สภต.หนองไผ่ ,โนนสูง, บ้านจันทร์และ บ้านตาด ดูแลความสงบเรียบร้อยพร้อมประสานกับเครื่องตรวจระเบิดมาตรวจ
หลังจากเริ่มมีการถ่ายทอดเสียงวัดป่าบ้านตาด ได้มีการปิดล็อคประตูทางเข้าวัด อนุญาตให้เข้าออกได้เฉพาะ พนักงานเอเอสทีวี และลูกศิษย์ ของหลวงตามหาบัวเข้าออกเท่านั้น เนื่องจากเก้าอี้ที่จัดไว้มีจำนวนจำกัด และเพื่อความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
** ทรท.ปอดแหก กลัว”สนธิ”ล่วงหน้า
ก่อนรายการจะเปิดฉากขึ้น กองงานโฆษกพรรคไทยรักไทย ได้ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือถึงผู้สื่อข่าวโดยมีข้อความว่า ในวันเสาร์ที่ 26 พ.ย.เวลา 11.00 น. กองงานโฆษกจะแถลงข่าวที่พรรคไทยรักไทย ถนนเพชรบุรี ทั้งๆที่ปกติ กองงานโฆษกจะแถลงข่าวทุกวันอาทิตย์ โดยให้เหตุผลแต่แรกว่า ในวันเสาร์มีการกระจายเสียงรายการ “นายกฯทักษิณ พบประชาชน"อยู่แล้ว จึงไม่อยากจะแย่งพื้นที่ข่าว
แต่การที่กองงานโฆษก เร่งมาแถลงในวันเสาร์ สาเหตุเพื่อต้องการชี้แจงตอบโต้ รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร อย่างทันท่วงที โดยไม่สามารถรอถึงวันอาทิตย์ได้ และยังไม่ทราบว่ามีนายสนธิ จะพูดมีเนื้อหาอะไร ในตอนเย็นวันศุกร์ ที่สวนลุมพีนี
**สุดารัตน์ ยันฐานเสียงกทม.ยังปึก
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวปฏิเสธกรณีพรรคไทยรักไทยในพื้นที่กทม.มีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองกับเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมที่สวนลุมพินี ว่า ไม่กระทบต่อฐานเสียงพรรคไทยรักไทย แม้จะมีข่าวลือข่าวปล่อยออกมาแต่เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนรู้สึกไข้วเขวระยะสั้นเท่านั้น แต่พอชี้แจงประชาชนก็จะเข้าใจ เช่น กรณีวัดพระแก้ว ที่ช่วงแรกประชาชนรู้สึกสับสนว่านายกรัฐมนตรีทำอย่างนั้น ไม่เหมาะสมหรือไม่ แต่พอนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯได้ทำการชี้แจงประชาชนก็เข้าใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ย้ำให้รัฐมนตรีทุกคนให้ชี้แจงหากเป็นเรื่องที่ตนเกี่ยวข้องกับประชาชน
“คนกล่าวหาก็กล่าวหาไปก่อน แต่คนชี้แจงก็ต้องวิ่งตามชี้แจงที่หลัง ช่วงที่มีคนกล่าวหาช่วงแรกประชาชนก็งงตกใจบ้างระยะสั้นเท่านั้น ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อรัฐบาลได้ชี้แจงให้ทราบ” รมว.เกษตรฯ กล่าว และว่าส่วนที่ภาคธุรกิจรู้สึกกังวลว่าขณะนี้สถานการณ์การเมืองอึมครึมโดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งระหว่างนายกฯกับนายสนธินั้น กระทบต่อเศรษฐกิจ แล้วก็มีข่าวเรื่องจะมีการปฏิวัติตามทำให้หุ้นตกก็เป็นธรรมดา แต่ขณะนี้ทางทหารเองก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีปฏิวัติ" สุดารัตน์ กล่าว
**"เสนาะ"เชียร์สนธิยุเร่งปราบโจร
นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวถึงการดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ว่า เท่าที่ติดตามชมรายการมาตลอด และไม่เห็นว่ามีการพูดจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เราคนไทยทุกคนก็จงรักภักดีอยู่แล้ว ยิ่งเกิดเหตุการณ์ที่โจรมาทำลายบ้านเมือง เมื่อปราบโจรไม่ได้ เราก็ต้องเกาะต้นไม้ใหญ่ เกาะฟ้าไม่ให้บ้านเมืองทรุดกว่านี้ ถ้าไม่ยึดตรงนี้ไว้ เราจะไปยึดอะไรที่ไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราดึงเบื้องสูงลงมา แต่ภาพวันนี้กลายเป็นว่า เรื่องบานปลายกลายเป็นการเมืองไปหมดแล้ว
** ปชป. เย้ย รัฐบาลถนัดข่มขู่ -แก้เกี้ยว
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับนายสนธิ ที่มีหลายคนกังวลว่าจะมีขบวนการสารพัดวิธีข่มขู่นายสนธิว่า เป็นวิธีการที่รัฐบาลชุดนี้ถนัดอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ค่อยปรากฎเป็นข่าว เช่น กรณีของตนที่ถูกบริษัทของนายกฯฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินหมื่นล้านบาท แต่ในข้อเท็จจริงเป็นเพียงการฟ้องแก้เกี้ยว ไม่ได้หวังผลทางคดี เพราะ 3 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการเรียกสืบพยานแม้แต่ปากเดียว เพราะฝ่ายโจทก์พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด และ ใน 4 คดีที่ตนถูกฟ้องก็ชนะ 1 คดีจากการที่ศาลสั่งยกฟ้อง ซึ่งกรณีของนายสนธิ และนักวิชาการอื่นๆ ก็คงเหมือนกัน จึงอยากขอให้นายสนธิ ตั้งจิตให้แน่วแน่ หากสมาธิไม่ดีอาจจะแกว่งได้ ทั้งนี้ในสังคมประชาธิปไตยควรจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์และมีเสรีภาพในการแสดงความเห็น ไม่ควรปิดกั้นโดยการใช้ศาลเป็นเครื่องมือ แต่เมื่อศาลพิจารณาออกมาแบบนี้ประชาชนก็ยังมีโอกาสรับรู้ข่าวสารได้อยู่
บรรยากาศการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 10 ที่เวทีลีลาศ สวนลุมพินี วานนี้(25พ.ย.) เนืองแน่นไปด้วยคลื่นมหาชนนับแสนแม้รูปแบบของรายการจะแตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อผู้ดำเนินรายการนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และน.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ มีเหตุถูกคุกคามได้ย้ายไปจัดสดที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดรายการนอกสถานที่แล้วถ่ายทอดสัญญาณสดผ่านดาวเทียมมาที่สวนลุมพินี
รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 13.30 น.เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางมารอที่สวนลุมพินี และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 18.00 น.ก็มีประชาชนแน่นสวนลุมพินีกว่า 100,000 คนจนล้นออกไปถึงนอกรั้ว โดยส่วนใหญ่ สวมเสื้อเหลือ ที่สกรีนตัวหนังสือ "เราจะสู้เพื่อในหลวง"มาร่วมงาน แม้จะมาทราบในภายหลังว่า นายสนธิ และน.ส.สโรชา ไม่ได้จัดสดที่สวนลุมพินีก็ตามแต่ประชาชนก็ไม่ถอยหนี ยังคงนั่งรอชมผ่านจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ จนกระทั่งจบรายการ
** ตร.-เทศกิจ ตรึงกำลังรอบสวนลุมฯ
ด้านการรักษาความปลอดภัย พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บก.น.5 และ บก.น.6 วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่จะเดินทางมารับชมรายการ พร้อมยอมรับว่า บช.น.รู้สึกเป็นกังวลต่อความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะมีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีสร้างความไม่สงบ จึงได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองร้อยควบคุมฝูงชน 6 กองร้อย จำนวน 900 นาย และยังมีฝ่ายสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบจาก บก.น.1-9 อีกประมาณ 300 นาย กระจายกำลังทั่วบริเวณ เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหว และป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการดำเนินรายการ พร้อมกับได้ประสานไปยัง กทม.ในการขอติดตั้งไฟส่องสว่าง และตั้งศูนย์อำนวยการด้านการพยาบาล หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น
ผบช.น.กล่าวว่า ได้กำชับให้ตำรวจตั้งจุดตรวจค้นบริเวณทางเข้า-ออกอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะการตรวจอาวุธ และการสุ่มตรวจบุคคลต้องสงสัยในการรวมตัวในจุดล่อแหลมที่อยู่ในบริเวณ งานตลอดเวลา อีกทั้งยังวางกำลังอีกส่วนหนึ่งในการดูแลป้องกันสถานทูตสำคัญทุกแห่งที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณสวมลุมพินีด้วย โดยยืนยันว่าตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง หากเกิดความจำเป็นจริงๆ ก็คงต้องดำเนินการตามขอบเขต และหน้าที่ของผู้รักษาความสงบเรียบร้อย
นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าเคลียร์พื้นที่ก่อน จากนั้นชุดปฏิบัติการกองร้อยควบคุมฝูงชนเข้าประจำการ ณ ที่ตั้งทันที หากพบว่ามีเหตุความไม่เรียบร้อย ขณะที่เขตปทุมวัน ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจกว่า 300 นาย จากในพื้นที่สำนักเทศกิจและเขตใกล้เคียงมาสมทบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและแผนการ เคลื่อนย้ายประชาชน หากเกิดเหตุจลาจลสู่ประตูทางออกให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กทม.ได้ปิดประตูใหญ่ และห้ามรถทุกชนิดที่ไม่มีบัตรอนุญาตผ่าน ห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด และ มีเจ้าหน้าที่ของกทม.คอยตรวจค้นผู้ที่เข้ามาร่วมงาน ซึ่งต่างได้รับความร่วมมือด้วยดีกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่เนื่องจากประตูสำหรับช่องทางเข้าออกถูกเปิดใช้ได้ด้าน ถ.พระราม 4 เพียงประตูเดียว ส่งผลให้การเข้าและออกเป็นไปด้วยความลำบาก และจากการสังเกตุพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ได้แอบบันทึกเทปวีดีโอ ผู้ที่เดินทางมาร่วมด้วย
**ชิดชัย โต้ข่าว สวนลุมฯพื้นที่ล่อแหลม
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ร ที่อาจจะมีมือที่ 3 ไปปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และเป็นอันตรายต่อประชาชนที่มาฟังรายการว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะข้อเท็จจริงประชาชนรู้ว่าอะไรคืออะไร ต้องใช้ดุลพินิจดีๆ เพราะคนเดี๋ยวนี้ฉลาด แต่จะพูดหรือไม่พูดเท่านั้นเอง มีบางคนคิดไปเองว่าสวนลุมพินีเป็นพื้นที่ล่อแหลม ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไร ใครพูดจะพูดอย่างนั้นพูดได้อย่างไรง ส่วนกรณีศาลจังหวัดยโยธร สั่งไม่ฟ้อง นายสนธิ กรณีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั้น ต้องไปอ่านคำพิพากษาให้ดี ให้ละเอียด ถ้าเอาเป็นตอนๆบางเรื่องมาพูด มันไม่ดี
** ไอ้โม่งแจกเงินจ้างป่วนงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันก่อนรายการจะเริ่มขึ้น แฟนรายการ"เมืองไทยรายสัปดาห์" โทรศัพท์เข้ามาแจ้งข่าว ยังสถานีวิทยุคลื่นสามัญประจำบ้าน FM.97.75 เมกะเฮิร์ตซ์ บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ว่าขณะนี้ได้มีบุคคลลึกลับ โทรศัพท์หาชาวบ้านในย่านต่างๆ ของกรุงเทพฯว่า ให้ไปรับเงินที่ย่านสะพานควาย โดยจะแบ่งเป็น 2 ราคา หากใครรับเงิน 500 บาท จะได้รับผ้าโพกหัวด้วย เมื่อรับเงินแล้วให้ไปที่สวนลุมพินี แต่หากใครรับเงิน 300 บาทจะไม่ได้รับผ้าโพกหัว อย่างไรก็ตาม แฟนรายการฯผู้นี้ กล่าวว่า ตนเองและเพื่อนๆ รับโทรศัพท์แล้วไม่สนใจ จึงไม่ได้ถามกลับไปว่า ให้รับเงินจากจุดไหนของย่านสะพานควาย และไม่ได้ถามรายละเอียดใดๆมากกว่านั้น
ส่วนบรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต ประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ระหว่างเดินทางฯ คนขับรถโดยสาร จะเปิดวีซีดีที่นายวิษณุ เครืองาม แถลงถึงการทำบุญประเทศ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวัดพระแก้วทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อสอบถามคนขับรถ ได้ความว่า มีคนนำวีซีดีดังกล่าวมาแจกให้กับรถทุกคันที่สถานีขนส่งหมดชิต คันละประมาณ 10 แผ่น พร้อมบังคับให้เปิดให้ผู้โดยสารบนรถดูระหว่างเดินทาง
**ป่วนเว็บ-ขู่นองเลือดสวนลุมฯ
ขณะที่เวบไซต์พันทิปดอทคอม(http://www.pantip.com/) อันเป็นสังคมเว็บบอร์ด ที่มีชื่อเสียงมาช้านาน และเป็นพื้นที่ไซเบอร์ที่เปิดกว้างรองรับความคิดเห็นจากชาวเน็ตอย่างเป็นกลาง ได้มีนักเล่นกระทู้บางคนได้โพสต์ข้อความในห้องราชดำเนิน เป็นเชิงข่มขู่เป็นเชิงทำนองที่ว่า จะมีการนองเลือดในการรวมพลังบริสุทธิ์ การแสดงออกทางการเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่สวนลุมพินี โดยข้อความเหล่านั้นเป็นการข่มขู่ และอาจส่งผลให้ประชาชนชาวเน็ตไม่กล้าไปร่วมฟังการบรรยาย และมีข้อความการไว้อาลัยคนที่ไปร่วมงาน ข้อความเรียกร้องให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้รับผิดชอบหากว่าเกิดเหตุนองเลือดขึ้น รวมทั้งข้อความที่บ่งบอกว่าอาจเกิดเหตุล้มตายเป็นใบไม้ร่วง
** วัดป่าบ้านตาดคึกคัก
สำหรับบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี สถานที่จัดรายการสด พ.ต.อ.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ รอง ผบก.ภ. อุดรธานี พร้อมด้วยพ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย ผู้กำกับสภอ.เมืองอุดรธานี เดินทางมา ดูแลความเรียบร้อยบริเวณสถานที่ถ่ายทอดสดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่ด้านในวัดป่าบ้านตาด ขณะ ที่ด้านนอกมีประชาชนเริ่มทยอยเข้ามาที่ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด ไม่น้อยกว่า 500 คน เตรียมเข้าร่วมรับฟังโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 200 นาย จาก 4 สภต. คือ สภต.หนองไผ่ ,โนนสูง, บ้านจันทร์และ บ้านตาด ดูแลความสงบเรียบร้อยพร้อมประสานกับเครื่องตรวจระเบิดมาตรวจ
หลังจากเริ่มมีการถ่ายทอดเสียงวัดป่าบ้านตาด ได้มีการปิดล็อคประตูทางเข้าวัด อนุญาตให้เข้าออกได้เฉพาะ พนักงานเอเอสทีวี และลูกศิษย์ ของหลวงตามหาบัวเข้าออกเท่านั้น เนื่องจากเก้าอี้ที่จัดไว้มีจำนวนจำกัด และเพื่อความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
** ทรท.ปอดแหก กลัว”สนธิ”ล่วงหน้า
ก่อนรายการจะเปิดฉากขึ้น กองงานโฆษกพรรคไทยรักไทย ได้ส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือถึงผู้สื่อข่าวโดยมีข้อความว่า ในวันเสาร์ที่ 26 พ.ย.เวลา 11.00 น. กองงานโฆษกจะแถลงข่าวที่พรรคไทยรักไทย ถนนเพชรบุรี ทั้งๆที่ปกติ กองงานโฆษกจะแถลงข่าวทุกวันอาทิตย์ โดยให้เหตุผลแต่แรกว่า ในวันเสาร์มีการกระจายเสียงรายการ “นายกฯทักษิณ พบประชาชน"อยู่แล้ว จึงไม่อยากจะแย่งพื้นที่ข่าว
แต่การที่กองงานโฆษก เร่งมาแถลงในวันเสาร์ สาเหตุเพื่อต้องการชี้แจงตอบโต้ รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร อย่างทันท่วงที โดยไม่สามารถรอถึงวันอาทิตย์ได้ และยังไม่ทราบว่ามีนายสนธิ จะพูดมีเนื้อหาอะไร ในตอนเย็นวันศุกร์ ที่สวนลุมพีนี
**สุดารัตน์ ยันฐานเสียงกทม.ยังปึก
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวปฏิเสธกรณีพรรคไทยรักไทยในพื้นที่กทม.มีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองกับเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมที่สวนลุมพินี ว่า ไม่กระทบต่อฐานเสียงพรรคไทยรักไทย แม้จะมีข่าวลือข่าวปล่อยออกมาแต่เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนรู้สึกไข้วเขวระยะสั้นเท่านั้น แต่พอชี้แจงประชาชนก็จะเข้าใจ เช่น กรณีวัดพระแก้ว ที่ช่วงแรกประชาชนรู้สึกสับสนว่านายกรัฐมนตรีทำอย่างนั้น ไม่เหมาะสมหรือไม่ แต่พอนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯได้ทำการชี้แจงประชาชนก็เข้าใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ย้ำให้รัฐมนตรีทุกคนให้ชี้แจงหากเป็นเรื่องที่ตนเกี่ยวข้องกับประชาชน
“คนกล่าวหาก็กล่าวหาไปก่อน แต่คนชี้แจงก็ต้องวิ่งตามชี้แจงที่หลัง ช่วงที่มีคนกล่าวหาช่วงแรกประชาชนก็งงตกใจบ้างระยะสั้นเท่านั้น ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อรัฐบาลได้ชี้แจงให้ทราบ” รมว.เกษตรฯ กล่าว และว่าส่วนที่ภาคธุรกิจรู้สึกกังวลว่าขณะนี้สถานการณ์การเมืองอึมครึมโดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งระหว่างนายกฯกับนายสนธินั้น กระทบต่อเศรษฐกิจ แล้วก็มีข่าวเรื่องจะมีการปฏิวัติตามทำให้หุ้นตกก็เป็นธรรมดา แต่ขณะนี้ทางทหารเองก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีปฏิวัติ" สุดารัตน์ กล่าว
**"เสนาะ"เชียร์สนธิยุเร่งปราบโจร
นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวถึงการดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ว่า เท่าที่ติดตามชมรายการมาตลอด และไม่เห็นว่ามีการพูดจาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เราคนไทยทุกคนก็จงรักภักดีอยู่แล้ว ยิ่งเกิดเหตุการณ์ที่โจรมาทำลายบ้านเมือง เมื่อปราบโจรไม่ได้ เราก็ต้องเกาะต้นไม้ใหญ่ เกาะฟ้าไม่ให้บ้านเมืองทรุดกว่านี้ ถ้าไม่ยึดตรงนี้ไว้ เราจะไปยึดอะไรที่ไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราดึงเบื้องสูงลงมา แต่ภาพวันนี้กลายเป็นว่า เรื่องบานปลายกลายเป็นการเมืองไปหมดแล้ว
** ปชป. เย้ย รัฐบาลถนัดข่มขู่ -แก้เกี้ยว
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับนายสนธิ ที่มีหลายคนกังวลว่าจะมีขบวนการสารพัดวิธีข่มขู่นายสนธิว่า เป็นวิธีการที่รัฐบาลชุดนี้ถนัดอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ค่อยปรากฎเป็นข่าว เช่น กรณีของตนที่ถูกบริษัทของนายกฯฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินหมื่นล้านบาท แต่ในข้อเท็จจริงเป็นเพียงการฟ้องแก้เกี้ยว ไม่ได้หวังผลทางคดี เพราะ 3 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการเรียกสืบพยานแม้แต่ปากเดียว เพราะฝ่ายโจทก์พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด และ ใน 4 คดีที่ตนถูกฟ้องก็ชนะ 1 คดีจากการที่ศาลสั่งยกฟ้อง ซึ่งกรณีของนายสนธิ และนักวิชาการอื่นๆ ก็คงเหมือนกัน จึงอยากขอให้นายสนธิ ตั้งจิตให้แน่วแน่ หากสมาธิไม่ดีอาจจะแกว่งได้ ทั้งนี้ในสังคมประชาธิปไตยควรจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์และมีเสรีภาพในการแสดงความเห็น ไม่ควรปิดกั้นโดยการใช้ศาลเป็นเครื่องมือ แต่เมื่อศาลพิจารณาออกมาแบบนี้ประชาชนก็ยังมีโอกาสรับรู้ข่าวสารได้อยู่